เที่ยวไทยให้ Amazing ยิ่งกว่าเดิมกับ เทศกาลเที่ยวเมืองไทย ครั้งที่ 40
- เทศกาลเที่ยวเมืองไทย ประจำปี 2565 ซึ่งจัดขึ้นเป็นปีที่ 40 ภายใต้คอนเซ็ปต์ “เที่ยวเมืองไทย Amazing ยิ่งกว่าเดิม”
- ความโดดเด่นของปีนี้ที่เห็นได้ชัดเจนคือการคัดเลือกสินค้า ผลิตภัณฑ์ที่มีกระบวนการผลิตที่ห่วงใยสิ่งแวดล้อม สร้างความยั่งยืนให้เกิดขึ้นกับชุมชน
มางานเดียวเหมือนได้เที่ยวครบทั้ง 5 ภูมิภาคของไทยสำหรับ เทศกาลเที่ยวเมืองไทย ซึ่งจัดขึ้นเป็นปีที่ 40 พร้อมยกสถานที่ท่องเที่ยวไอโคนิกทั่วไทยเจาะลึกไปที่ด้านวัฒนธรรมและภูมิปัญญามาไว้ที่ สวนลุมพินี กรุงเทพฯ ภายใต้ธีม “เที่ยวเมืองไทย Amazing ยิ่งกว่าเดิม” ระหว่างวันที่ 18-22 กุมภาพันธ์ 2565
สำหรับเทศกาลเที่ยวเมืองไทยในปีนี้แม้จะจัดขึ้นท่ามกลางมากตรการคัดกรองโควิด-19 แต่ความสนุกและสีสันของการท่องเที่ยวไทยไม่ได้ลดลงแม้แต่น้อย แต่ละภูมิภาคยังจัดเต็มด้วยอาหารถิ่นที่ได้ชิมแล้วก็อยากบินตามไปกินที่จังหวัดนั้นๆ จากนั้นก็ไปชอปปิงกระจายรายได้สู่ชุมชนต่างๆ ผ่านสินค้าที่สะท้อนเอกลักษณ์ของพื้นที่นั้นๆ
ส่วนใครที่ชอบเวิร์คช็อปทำกิจกรรมสนุกๆ ยังมีงานเวิร์คช็อป และการสาธิตเกี่ยวกับกับมรดกทางวัฒนธรรมและภูมิปัญญา เช่น การทอเสื่อ การทำกระธูปโบราณ การตอกลายบนกระดาษ เป็นต้น และที่จะขาดไม่ได้เลยคือการแสดงพื้นถิ่นที่หมุนเวียนมาสร้างสีสันทั้งวัน ไม่ว่าจะเป็น มโนราห์ จากวิทยาลัยนาฎศิลป์พัทลุงที่จัดเต็มทั้ง 5 วัน ส่วนโซนภาคอีสานก็มาครบทั้งโปงลาง หมอลำ เปิดเวทีตั้งแต่บ่ายจนเย็นย่ำ
อย่างที่บอกไปว่า เทศกาลเที่ยวเมืองไทย ยกแลนด์มาร์คของจภาคต่างๆ มาให้ได้หายคิดถึง ไฮไลต์ ได้แก่ หอโหวด จังหวัดร้อยเอ็ด Unseen New Series ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ, ซุ้มประตูวัดเจดีย์ที่โด่งดังในความเชื่อเรื่องไอ้ไข่, บันไดพญานาคทางเข้าวัดหลวงขุนวิน จังหวัดเชียงใหม่, ไดโนเสาร์ และพันธุ์ไม้จากสวนนงนุช พัทยา และเรือนไทยสีขาวดีไซน์โมเดิร์นที่สื่อถึงภาคกลาง เป็นต้น
อีกความโดดเด่นของปีนี้ที่เห็นได้ชัดเจนคือการคัดเลือกสินค้าที่มีกระบวนการผลิตที่ห่วงใยสิ่งแวดล้อม สร้างความยั่งยืนให้เกิดขึ้น และการต่อยอดมรดกภูมิปัญญาดั้งเดิมสู่ความร่วมสมัย เช่น เครื่องจักสานจากต้นกล้วยที่สร้างรายได้ให้ผู้สูงอายุบนเกาะสมุย การต่อยอดงานลูกปัดมโนราห์สู่แฟชั่นร่วมสมัย และการใช้ลวดลายกระเบื้องที่ค้นพบในชุมชนมาเป็นแรงบันดาลใจในการทำลวดลายผ้าบาร์ติกของปัตตานี เป็นต้น
Fact File
- รายละเอียดเพิ่มเติม www.facebook.com/thaitourismnews