Lite

Youth of May ความรัก ความเศร้า และความเกลียดชังในเมืองกวางจู

Focus

Youth of May อ้างอิงเหตุการณ์สำคัญของหน้าประวัติศาสตร์เกาหลีใต้ นั่นคือการลุกฮือของนักศึกษาและผู้คนที่ออกมารวมตัวกันเพื่อต่อสู้เรียกร้องประชาธิปไตย
Youth of May ซีรีส์เมโลดรามา ออกอากาศทางช่อง KBS คือการกลับมาร่วมงานกันอีกครั้งของ อีโดฮยอน (Lee Do Hyun) และ โกมินชี (Go Min Si)

Youth of May ซีรีส์เมโลดรามา ออกอากาศทางช่อง KBS คือการกลับมาร่วมงานกันอีกครั้งของ อีโดฮยอน (Lee Do Hyun) และ โกมินชี (Go Min Si) หลังจากทั้งคู่เคยรับบทเป็นพี่น้องกันมาก่อนใน Sweet Home ซีรีส์ออริจินัลทาง Netflix ที่ออกฉายเมื่อปลายปี พ.ศ. 2563 ที่ผ่านมา สำหรับเรื่องล่าสุด ทั้งคู่มากับเคมีใหม่ นั่นคือการรับบทพระ-นาง แต่ความน่าสนใจนอกเหนือจากเส้นทางความรัก (ที่ได้กลิ่นความดรามาจาง ๆ) คือ Youth of May เล่าถึงเรื่องราวชีวิตของตัวละคร โดยอิงเวลาตามประวัติศาสตร์สำคัญของเกาหลีใต้ ในเมืองกวางจู (Gwangju) ช่วงเดือนพฤษภาคม ค.ศ.1980

“เรื่องราวในซีรีส์เป็นเรื่องราวสากลเกี่ยวกับความรัก ความโศกเศร้าและความเกลียดชังของคนหนุ่มสาว ซึ่งเนื้อหาหลักไม่ได้มุ่งเน้นไปที่เหตุการณ์ใดโดยเฉพาะ แต่เป็นเรื่องราวของผู้คนที่มีชีวิตอยู่ในช่วงเวลานั้น เป็นเรื่องราวของผู้คนที่จะต้องเลือกและกระทำเมื่อต้องเผชิญกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด” ซงมินยอบ (Song Min Yeob) ผู้กำกับกล่าวถึงเนื้อหาของซีรีส์

ย้อนกลับไป Gwangju Uprising (1980) เป็นหนึ่งเหตุการณ์สำคัญของหน้าประวัติศาสตร์เกาหลี นั่นคือการลุกฮือของนักศึกษาและผู้คนที่ออกมารวมตัวกันเพื่อต่อสู้เรียกร้องประชาธิปไตย หลังจากถูกลิดรอนความหวังและเสรีภาพจากรัฐบาลที่แม้จะเปลี่ยนผู้นำไปกี่ครั้งก็ยังคงอยู่ภายใต้รัฐบาลเผด็จการวนลูปเดิม ความคุกรุ่นถูกสะสมมาปะทุขึ้นในยุคสมัยของอดีตประธานาธิบดี ชุนดูฮวาน (Chun Doo-hwan) หลังชาวเกาหลีใต้ต้องอยู่ภายใต้รัฐบาลเผด็จการของอดีตประธานาธิบดี ปักจุงฮี (Bak Jeonghui) ยาวนานถึง 18 ปี ซึ่งหลังจากปักจุงฮีถูกลอบสังหารและนายกรัฐมนตรี ชเวกยู-ฮา (Choi Kyu-hah) ขึ้นรักษาการตำแหน่งประธานาธิบดี ก็เกิดการรัฐประหารตามมาอีกครั้งโดยชุนดูฮวาน (Chun Doo-hwan) ผู้บัญชาการความมั่นคงกลาโหม

การรวมตัวกันของนักศึกษาและประชาชนในเมืองกวางจูเพื่อต่อต้านอำนาจเผด็จการ เริ่มถูกเข้าปราบปรามอย่างรุนแรงที่มหาวิทยาลัยชอนนัม (Chonnam National University) ซึ่งทำให้การชุมนุมเคลื่อนตัวไปตามสถานที่ต่าง ๆ ใจกลางเมืองกวางจูและมีผู้คนออกมาร่วมชุมนุมมากขึ้น การใช้ความรุนแรงและอาวุธเข้าปราบปรามส่งผลให้การชุมนุมที่ยืดเยื้อกว่า 10 วันนับตั้งแต่วันที่ 18-27 พฤษภาคม ค.ศ.1980 มีผู้เสียชีวิตกว่า 160 ราย และได้รับบาดเจ็บอีกราว 5,000 คน โดยตลอดสมัยการดำรงตำแหน่งของชุนดูฮวาน เหตุการณ์ความรุนแรงนี้ไม่เคยถูกหยิบมาพูดถึงและได้รับการไต่สวนอย่างจริงจังเลย

ซีรีส์ Youth of May เปิดเรื่องมาด้วยการขุดพบโครงกระดูกปริศนาในไซต์งานก่อสร้างในเมืองกวางจู จนนำมาสู่การส่งตรวจเพื่อพิสูจน์ดีเอ็นเอโดยสถาบันนิติเวช จากโทรทัศน์มีการรายงานข่าวว่าโครงกระดูกนี้อาจเป็นของเหยื่อในเหตุการณ์เรียกร้องประชาธิปไตยในกวางจู โดยอาจต้องนำเลือดไปเปรียบเทียบกับครอบครัวของผู้ที่ยังหายสาบสูญจากเหตุการณ์ครั้งนั้น ขณะที่สถาบันนิติเวชกล่าวว่าเป็นการยากและมีโอกาสน้อยที่จะระบุสาเหตุและตัวตน เนื่องจากเสียชีวิตมาเป็นเวลานาน หลังจากได้ยินข่าวชายคนหนึ่งที่กำลังยืนอยู่ริมทางรถไฟสถานีกวางจูเกิดอาการพรั่นพรึงจนตัวสั่น แต่ก่อนจะได้รับการเฉลยว่าเขาเป็นใคร ภาพก็ได้ตัดไปสู่อีกช่วงเวลาที่กลุ่มนักศึกษาออกมารวมตัวกันเรียกร้องประชาธิปไตยในมหาวิทยาลัย ต่อต้านกฎอัยการศึกและการจับกุมนักศึกษาโดยมิชอบของรัฐบาล แล้วตัวละครหลักก็เริ่มปรากฏตัวให้เราได้รู้ภูมิหลังเป็นระยะ

ในฉากแรก ฮวังฮีแท (รับบทโดย Lee Do-Hyun) นักศึกษาแพทย์อนาคตไกลของมหาวิทยาลัยแห่งชาติโซล ผู้มีใจรักในดนตรีอยู่ลึก ๆ ขับรถฝ่ากลุ่มผู้ประท้วงของนักศึกษาด้วยอาการไม่รู้ร้อนรู้หนาว แต่เมื่อเรื่องดำเนินไปกลับฉายให้เห็นปมปัญหาบางอย่างที่เขาพยายามแก้ไข รวมถึงบาดแผลในใจที่เขาได้รับเกี่ยวกับเหตุการณ์รุนแรงซึ่งเกี่ยวข้องกับจางซอกซอน ผู้ป่วยอาการโคม่าที่เขาคอยช่วยเหลือให้ได้รับการรักษาอยู่ตลอด แม้ว่าจะต้องแลกด้วยการออกจากโซลกลับไปกวางจู และยอมทำตามคำสั่งของพ่ออย่าง ฮวังกีนัม (รับบทโดย Oh Man-Seok) นักการเมืองหัวเผด็จการ ที่แสดงอำนาจแม้ในครอบครัว ดังเช่นการลิดรอนความฝันการเป็นนักกีฬาของ ฮวังจองแท (รับบทโดย Choi Seung-Hoon) น้องชายต่างแม่ของฮีแท เพื่อหวังปลูกฝังให้เติบโตมาสืบทอดอำนาจทหารแบบตน

คิมมยองฮี (รับบทโดย Go Min-Si) พยาบาลสาวใจสู้ ผู้มีประสบการณ์ในอาชีพมาแล้วสามปี เธอยืนหยัดอยู่บนความถูกต้อง และกล้าต่อกรกับผู้บังคับบัญชาที่ไม่อยู่บนพื้นฐานความยุติธรรม เธอขยัน ตั้งใจเรียน มุ่งมั่นทำงานอย่างหนักและตั้งใจ เพื่อเก็บเงินค่าตั๋วเครื่องบินหวังจะได้ไปรับทุนเรียนต่อที่ประเทศเยอรมนีอย่างที่ฝันไว้ นอกจากนั้นเธอยังอยู่ในฐานะเสาหลักของบ้าน คอยส่งเสียเลี้ยงดู มยองซู (รับบทโดย Jo Yi-Hyun) น้องชายวัยมัธยมต้น นักกรีฑาตัวแทนโรงเรียนที่ชวดอันดับหนึ่งในการแข่งขันคัดตัวแทนจังหวัดไปอย่างหวุดหวิดเพราะรองเท้าที่สวมมานานจนเริ่มขาด ไม่เอื้ออำนวยต่อการวิ่ง

ซูรยอน (รับบทโดย Keum Sae-Rok) เป็นเพื่อนกับมยองฮีมานาน เธอคือนักศึกษากฎหมายที่เป็นแกนนำร่วมต่อสู้เพื่อเรียกร้องความยุติธรรมในสังคมอย่างสุดใจ แต่ด้วยเหตุที่เธอถูกจับพร้อมเพื่อนขณะแอบพิมพ์ใบปลิวเพื่อแจก แล้วได้รับการปล่อยตัวออกมาคนแรกเพราะพ่อที่เป็นนายทุนใหญ่ใช้เส้นสาย ทำให้ต่อมาความแคลงใจระหว่างเธอกับกลุ่มเพื่อนเริ่มก่อตัว โดยเรื่องที่เธอมีฐานะเป็นลูกสาวโรงงานอุตสาหกรรมดูจะเป็นแผลในใจของซูรยอนมานาน จากที่เธอพูดกับมยองฮีในตอนหนึ่งว่า “ไม่ว่าจะทำอะไร ฉันก็เป็นลูกพ่ออยู่ดี” ซูรยอนมีพี่ชายหนึ่งคนคือ อีซูซาน (รับบทโดย Lee Sang-Yi) นักธุรกิจที่เพิ่งกลับจากประเทศฝรั่งเศสมาเปิดบริษัทเภสัชภัณฑ์ที่บ้านเกิด และตกหลุมรักเพื่อนของน้องสาว

แม้เรื่องจะดำเนินเหตุการณ์ไปอย่างเรื่อย ๆ และค่อย ๆ เชื่อมโยงให้เห็นความสัมพันธ์ แต่การวางคาแรกเตอร์ของตัวละครที่น่าสนใจ บวกกับการทิ้งคำถาม เช่นความไม่ลงรอยกันของมยองฮีกับพ่อ ปมปัญหาที่ฮีแทพยายามแก้ไข อาการเห็นภาพหลอนกลัวว่าคนจะทำร้ายลูกชายของย่ามยองฮี หรือบาดแผลสำคัญของครอบครัวมยองฮีที่ดูจะข้องเกี่ยวกับนักการเมืองฮวังกีนัมนั้น ต่างช่วยส่งไม้ต่อความสงสัยให้อยากติดตามว่าชีวิตและความสัมพันธ์ของแต่ละตัวละครจะต้องเจอกับเหตุไม่คาดฝันใดบ้าง การฉาบสีหวานด้วยความโรแมนติก ท่ามกลางพล็อตที่อิงมาจากช่วงเวลาอันแสนหนักหน่วงจึงดูเป็นสิ่งที่คาดเดาได้ยาก ซึ่งก็ต้องคอยติดตามว่า Youth of May จะหยิบแง่มุมใดมาให้ผู้ชมได้สำรวจ เรียนรู้และไขปมปริศนากันต่อไปบ้าง

อ้างอิง