Wicked จุดเริ่มต้นความดีชั่วในดินแดนมหัศจรรย์แห่งพ่อมดออซ
Lite

Wicked จุดเริ่มต้นความดีชั่วในดินแดนมหัศจรรย์แห่งพ่อมดออซ

Focus
  • Wicked อ้างอิงจากละครเพลงที่โด่งดังในปี 2003 ที่แต่งเนื้อร้องและดนตรีโดยนักประพันธ์ผู้เป็นตำนานอย่าง สตีเฟ่น ชวอร์ตซ์จากนั้นมีการนำมาสร้างสร้างเป็นภาพยนตร์ครั้งแรกโดยผู้กำกับมากฝีมือ จอน เอ็ม. ชู
  • ตัวละคร โครงเรื่องใน Wicked ล้วนเชื่อมโยงไปสู่ต้นฉบับพ่อมดออซ สุดคลาสสิค The Wonderful Wizard of Oz ของ แอล. แฟรงก์ โบม (L. Frank Baum)

Wicked ภาพยนตร์มิวสิคัลที่สามารถคว้า 2 รางวัลออสการ์ครั้งที่ 97 มาครองได้ทั้งสาขาออกแบบเครื่องแต่งกายอดเยี่ยม (Best Costume Design) สำหรับ Paul Tazewell ซึ่งสร้างประวัติศาสตร์เป็นคอสตูมดีไซเนอร์ผู้ชายผิวดำคนแรกที่คว้ารางวัลออสการ์สาขานี้ในรอบ 97 ปี อีกรางวัลคือสาขาออกแบบงานสร้างยอดเยี่ยม (Best  Production Design) สำหรับ  Nathan Crowley และ Lee Sandales ในการสร้างฉากหลังดินแดนแฟนตาซีที่เป็นสถานฝึกฝนเวทย์มนตร์โดยเฉพาะฉากในห้องสมุดที่เป็นกลไกรองรับการเล่าเรื่องในแบบมิวสิคัล เมื่อตัวละครร้องเล่นเต้นรำในฉากได้อย่างตื่นตาตื่นใจ

Wicked

Wicked อ้างอิงจากละครเพลงที่โด่งดังในปี 2003 เล่าถึงที่มาของ “เอลฟาบา ”(รับบทโดย ซินเธีย เอริโว) แม่มดตะวันตกผู้ชั่วร้าย และ กลินดา (รับบทโดยอารีอานา กรานเด)  ผู้ที่เป็นที่ชื่นชอบของทุกคน เนื้อเรื่องเล่าย้อนไปก่อนที่ “โดโรธี” ตัวเอกใน The Wizard of Oz จะพลัดหลงมาจากแคนซัสซิตี้มาสู่ดินแดนมหัศจรรย์แห่งพ่อมดออซ  โดยความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนของ เอลฟาบา และ กลินดา เริ่มต้นขึ้นที่มหาวิทยาลัยชิซจากความเกลียดชังและพัฒนามาจนเกิดมิตรภาพที่สวยงาม แต่หลังจากเอลฟาบา และกลินดา ได้พบกับพ่อมดมหัศจรรย์แห่งออซ  มิตรภาพของพวกเธอก็เปลี่ยนไป Sarakadee Lite ชวนไปทำความรู้จักภาพยนตร์เรื่องนี้อย่างละเอียดกัน

Wicked

ยินดีต้อรับสู่ดินแดนมหัศจรรย์แห่งพ่อมดออซ  

Wicked อ้างอิงจากละครเพลงที่โด่งดังในปี 2003 ที่แต่งเนื้อร้องและดนตรีโดยนักประพันธ์ผู้เป็นตำนานอย่าง สตีเฟ่น ชวอร์ตซ์จากนั้นมีการนำมาสร้างสร้างเป็นภาพยนตร์ครั้งแรกโดยผู้กำกับมากฝีมือ จอน เอ็ม. ชู (Jonathan Murray Chu) ผู้เคยฝากผลงานการกำกับภาพยนตร์ชื่อดังอย่าง Crazy Rich Asians (2018) บอกเล่าเรื่องราวของเหล่าแม่มดแห่งออซ ที่ไม่เคยถูกเล่าซึ่งอิงเค้าโครงจากนิยายขายดี  Wicked: The Life and Times of the Wicked Witch of the West โดย เกรกอรี แมคไกวร์ (Gregory Maguire) นักเขียนนวนิยายชาวอเมริกันชื่อดัง ซึ่งตัวละคร โครงเรื่องใน Wicked ล้วนเชื่อมโยงไปสู่ต้นฉบับพ่อมดออซ สุดคลาสสิค The Wonderful Wizard of Oz ของ แอล. แฟรงก์ โบม (L. Frank Baum) จะเรียกว่า Wicked เป็นเวอร์ชันศูนย์ปูพื้นเบื้องลึกเบื้องหลังตัวละครใน Wizard of Oz นั่นเอง

ใน Wicked เวอร์ชั่นภาพยนตร์มีทั้งหมด 2 ภาค โดยภาคแรกเล่าถึงจุดเริ่มต้นของการผจญภัยในดินแดนมหัศจรรย์ของพ่อมดออซ ของสองสาว เอลฟาบา และกลินดา ที่มาจากพื้นเพครอบครัวที่ต่างกัน และมีรูปลักษณ์ที่ต่างกัน ด้วยความแตกต่างของทั้งสองตัวละครจึงเป็นที่มาของ แม่มดแห่งความดี และแม่มดชั่วร้ายแห่งตะวันตก ซึ่งในอดีตทั้งสองเคยเป็นเพื่อนรักกันมาก่อน  ส่วนภาคที่สองจะเล่าถึง กลินดา เพื่อนสนิทของเธอ กลายเป็นคนดีอย่างแท้จริงได้อย่างไร

Wicked

สำหรับตัวละคร เอลฟาบา หญิงสาวที่มีผิวกายสีเขียวธรรมชาติตั้งแต่เกิด พร้อมด้วยพลังอันยิ่งใหญ่ที่ซ่อนอยู่ในตัวเธอ  แสดงโดย ซินเธีย เอริโว ( Cynthia Erivo)  นักแสดงหญิงเจ้าของรางวัลเอ็มมี (รางวัลโทรทัศน์) แกรมมี (รางวัลเพลงดนตรี) และโทนี (รางวัลละครเวที) ส่วน กลินดา หญิงสาวจิตใจดีผู้เป็นที่รักของทุกคน เปี่ยมล้นด้วยความทะเยอทะยาน แสดงโดย อารีอานา กรานเด (Ariana Grande) นักร้องสาวซูเปอร์สตาร์ระดับโลก เจ้าของรางวัลแกรมมี 

Wicked

เรื่องราวทั้งหมดเริ่มต้นขึ้นในมหาวิทยาลัยชิซ ดินแดนมหัศจรรย์แห่งออซ เริ่มแรกจากความเกลียดชังและพัฒนามาจนเกิดมิตรภาพที่สวยงาม แต่หลังจากเอลฟาบา และกลินดา ได้พบกับพ่อมดมหัศจรรย์แห่งออซ มิตรภาพของพวกเธอก็มาถึงทางแยก เมื่อเอลฟาบาถูกมองว่าเป็นแม่มดที่ชั่วร้าย  ด้วยลักษณะภายนอก และคำสั่งจาก มาดามมอร์ริเบิล อาจารย์ใหญ่ผู้สง่างามของมหาวิทยาลัยชิซที่ทำให้เธอถูกเข้าใจผิด ทั้งที่เธอพยายามจะช่วยเหลือสรรพสัตว์ที่เคยมีสถานะเท่าเทียม อยู่ร่วมกับมนุษย์ในเมือง พูดจาภาษาเดียวกัน และ มีสติปัญญาถึงระดับเป็นศาสตราจารย์สอนคนในมหาวิทยาลัยได้  ให้รอดพ้นจากอำนาจมืดที่พยายามกำจัดเหล่าสรรพสัตว์ให้เป็นอีกชนชั้น โดยไม่มีใครรู้เบื้องลึกเบื้องหลังความจริงทั้งหมด

Wicked

เพราะแตกต่าง จึงไม่ยอมรับ

ประเด็นที่เด่นชัดในภาพยนตร์คืการชูตัวละคร เอลฟาบา ที่ถูกเกลียดตั้งแต่เกิด เพราะผิวสีเขียวของเธอทำให้แม้แต่พ่อแม่ผู้ให้กำเนิดต่างพากันกลัวถึงขั้นรังเกียจราวกับไม่ใช่ลูกสาวแท้ๆ ชีวิตของเธอนั้นช่างน่าสงสาร แม้แต่น้องที่เกิดมายังมีขาพิการ เพราะพ่อกลัวว่าจะมีลูกผิวสีเขียวอีก จึงให้แม่ของเธอกินสมุนไพรจำนวนมาก ทำให้คลอดก่อนกำหนด เธอจึงโทษตัวเองกับการที่เกิดมามีผิวสีเขียว ถูกมองว่าแปลกประหลาด และโดนเหยียดจากคนอื่นๆ แต่ความแตกต่างกับสายตาที่คนอื่นมอง ไม่ได้ทำให้เธอมีนิสัยดุร้าย กลับกันเธอคอยเป็นห่วงน้องสาว และช่วยเหลือผู้อื่นอยู่เสมอ

เมื่อเทียบกับตัวละคร กลินดา หญิงสาวหน้าตาสวยฐานะดีเพียบพร้อมในทุกด้าน ทุกคนต่างพากันชื่นชอบและให้ความสนใจ แต่ภายใต้ลักษณะภายนอกของทั้งสองตัวละครนั้นกลับไม่ได้บ่งบอกถึงจิตใจที่แท้จริงของพวกเธอ เพราะความดีทั้งหมดของกลินดานั้นล้วนมีที่มาที่ไป อย่างการที่เธอปฏิเสธคำชวนไปงานเต้น ด้วยการใช้คำพูดที่เห็นใจน้องสาวของเอลฟาบาที่ไม่มีใครชวนไปงานเนื่องจากขาที่พิการของเธอ หรือการที่เธอแกล้งมีน้ำใจให้หมวกกับเอลฟาบาจนสุดท้ายก็โดนทุกคนหัวเราะเยาะ แท้จริงแล้วกลินดาคือตัวละครสีเทา ที่ถูกมองว่าเป็นสีขาว

เครื่องมือกำหนดความดี และความชั่วร้าย

“Wicked” ฉบับภาพยนตร์นำเสนอความต่างระหว่างความดีกับความชั่วร้ายให้เห็นชัดโดยการใช้สี ทั้งสีเสื้อผ้าและหน้าผมของตัวละคร เป็นสัญลักษณ์  โดยสีชมพูที่เป็นสีโปรดของ กลินดา แทนความดี ส่วนผิวสีเขียวของเอลฟาบา  แทนความชั่วร้าย แต่สีภายนอกเหล่านี้กลับไม่ได้เป็นสิ่งที่กำหนดตัวตนของคนเสมอไป การจะเป็นคนดี หรือไม่ดีไม่ได้เกี่ยวกับลักษณะภายนอก เพราะแม้เอลฟาบาจะมีผิวสีเขียว และโดนเหยียดจากคนอื่นๆ แต่เธอกลับมีจิตใจที่ดี ช่วยเหลือผู้อื่นอยู่เสมอ เธอไม่หลงในพลังวิเศษที่มีอยู่ในตัว ไม่ยอมจำนนต่อพ่อมดแห่งออซผู้มีอำนาจ แต่ยืนหยัดสู้กับอำนาจเพราะสงสารเหล่าสัตว์ที่โดนกักขังทำร้าย ต่างจากกลินดาที่ทะเยอทะยานอยากได้อำนาจ ไม่ได้คิดจะต่อต้านเรื่องที่ไม่ยุติธรรมเพราะไม่เห็นประโยชน์ต่อตนเอง ภาพยนตร์เรื่องนี้จึงไม่เพียงแต่เล่าเรื่องดินแดนมหัศจรรย์ จินตนาการโลกของเวทมนตร์ของสองสาวน้อยที่กลายเป็นแม่มดเท่านั้น แต่ยังใส่ประเด็นการด่วนตัดสินคนจากรูปลักษณ์ภายนอก ที่สามารถนำมาซึ่งความเข้าใจผิดต่อคนหรือตัวละครหนึ่งไปตลอดกาล

เบื้องหลังการออกแบบเสื้อผ้าที่คว้าออสการ์ Best Costume Design

การใช้เครื่องแต่งกายเพื่อบอกเล่าเรื่องราวและสร้างตัวละครฉบับภาพยนตร์ สร้างสรรค์โดย พอล เทซเวลล์ (Paul Tazewell) ผู้สร้างประวัติศาสตร์เป็นคอสตูมดีไซเนอร์ผู้ชายผิวดำคนแรกที่คว้ารางวัลออสการ์สาขานี้ในรอบ 97 ปี โดยความสำคัญในงานออกแบบ คือ การทำให้เห็นความต่างของสองตัวละคร ให้เครื่องแต่งกายสะท้อนบุคลิก และสายสัมพันธ์อันลึกซึ้งของเอลฟาบากับกลินดา แนวทางในการออกแบบจึงใช้การจับคู่สีเพื่อแสดงความเป็นขั้วตรงข้าม ระหว่างสีแสงแห่งความมืดและแสงสว่าง อีกทั้งเนื้อผ้าและรูปทรงของการตัดเย็บยังแสดงความหยาบและความประณีตที่ซ่อนความหมายไว้เช่นกัน

สำหรับเสื้อผ้าของตัวละคร เอลฟาบา ผู้มีผิวตัวเป็นสีเขียว เป็นโทนหม่นและเรียบที่ได้แรงบันดาลใจจากธรรมชาติ เน้นย้ำประเด็นเรื่องความผูกพันระหว่างเอลฟาบากับโลก ธรรมชาติ และโยงไปถึงการที่เธอสนับสนุนชุมชนสัตว์ นอกจากนี้ชุดของเอลฟาบาที่ถูกตัดเย็บให้ดูแข็งสะท้อนให้เห็นถึงบุคลิกที่เก็บความรู้สึก ซึ่งหมวกที่กลินดาให้เป็นของขวัญอาจทำให้ทุกคนมองว่าตลก และถูกหัวเราะเยาะในงานเต้นรำ แต่สุดท้ายมันคือที่มาของความแข็งแกร่งและการตระหนักรู้ในตนเอง

ในทางตรงกันข้ามเสื้อผ้าของ กลินดา มีรูปแบบการตัดเย็บที่ดูประณีตพริ้วไหวแสดงถึงความเป็นผู้หญิงแบบเต็มร้อยผ่านสีโทนชมพู ผ้าพองฟูกระโปรงสุ่มมีเลเยอร์ที่ชวนให้นึกถึงฟองสบู่หรือแสงออโรร่า ช่วยเพิ่มความสง่างามอ่อนโยนให้กับตัวละครกลินดา ส่วนตัวละครอื่นๆ ก็ต่างโดดเด่นด้วยเครื่องแต่งกายที่สร้างขึ้นโดยเฉพาะ เพื่อแสดงถึงตัวตนของผู้สวมใส่โดยมีแรงบันดาลใจจากแฟชั่นร่วมสมัยและแฟชั่นสไตล์สตรีท สะท้อนให้เห็นวัฒนธรรมภายในดินแดนออซ และทั้งหมดก็ทำให้เสื้อผ้าเป็นองค์ประกอบสำคัญที่จะขาดไม่ได้ในการเดินเรื่องฉบับภาพยนตร์…จุดเริ่มต้นความดีชั่วในดินแดนมหัศจรรย์พ่อมดออซ

Fact File

  • Wicked ฉบับภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นเรื่องแรกที่ดำเนินงานสร้างภายใต้โครงการ GreenerLight Program ที่เพิ่งเปิดตัวของยูนิเวอร์แซล ซึ่งเป็นโครงการที่ส่งเสริมความยั่งยืนตลอดกระบวนการสร้างภาพยนตร์ทั้งหมด สร้างกองถ่ายสีเขียวรักธรรมชาติ เพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลงให้เหลือศูนย์ทั่วโลกภายในปี 2035 โดยมี SUSTAINABLE FILMS บริษัทที่ปรึกษาด้านสิ่งแวดล้อม มาสร้างแผนที่ครอบคลุมและดูแลกองถ่าย

Author

ธนัญชนก รัตนตั้งเจริญกุล
ชอบดูซีรีส์ หลงใหลในเพลงเก่าๆ อยากมีเวลาอ่านหนังสือ และใช้ชีวิตให้มากขึ้น ลองดูว่าชีวิตจะพาเราไปเจอกับอะไร