เที่ยวไทยฉบับ Unseen New Chapter 2566 เปิดมุมมองใหม่ 25 พิกัด

หลังจากได้เห็นมิวสิควิดีโอเพลงล่าสุด “แรงดึงดูด” ที่ อิ้งค์-วรันธร ได้มาร่วมงานกับ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) โดยมีโปรดิวเซอร์คู่ใจอย่าง แทน ลิปตา มาร่วมเรียบเรียงทำนองเวอร์ชันใหม่

ก็ทำเอาหลายคนอยากออกสตาร์ทไปตามรอยเหมือนเจอแรงดึงดูดเข้าจริงๆ ต้องบอกก่อนว่าเพลงนี้คือส่วนหนึ่งของโปรเจคต์ Unseen New Chapter 2566 ที่มุ่งสร้างแรงบันดาลใจในการท่องเที่ยวประเทศไทยผ่านมุมลับๆ มุมมองใหม่ๆ ที่แม้แต่คนไทยเองก็อาจยังไม่รู้จักมาก่อน และครั้งนี้ อิ้งค์-วรันธร ได้ส่งต่อแรงดึงดูดผ่านเพลงที่ถ่ายทอดออกมาเป็น Unseen Music Vacation ซึ่งนอกจากอิ้งค์แล้ว กำลังจะตามมาด้วย Live Session จาก 5 ศิลปินไทยที่จะออกเดินทางไปร้องเพลงของตัวเองโดยมีฉากหลังเป็นเมืองไทยใน 5 ภูมิภาค ซึ่งก็เป็นอีกเช่นเคย เมื่อเราดูมิวสิควิดีโอแล้วเจอฉากสวยๆ ก็มักจะตามหากันว่าฉากนี้เขาไปถ่ายทำกันที่ไหน โอกาสนี้เราเลยรวบรวมมาให้ครบจบเลยว่ามีที่ไหนน่าไปตามรอยบ้างมาดูกัน 

น้ำตกตาดใหญ่ อ.น้ำหนาว จ.เพชรบูรณ์

ความอลังการของน้ำตกชั้นเล็กๆ ที่ไหลลดหลั่นกันมากว่า 80 เมตรคือภาพทิวทัศน์ของน้ำตกตาดใหญ่ หุบเขาน้ำตกขนาดยักษ์ที่ตั้งอยู่ในจังหวัดเพชรบูรณ์ ซึ่งยิ่งถ้าใครเป็นนักท่องเที่ยวสายผจญภัยก็น่าจะยิ่งเหมาะ เพราะจุดอันซีนคือบริเวณชั้นล่างของน้ำตกที่ต้องเดินลงไปตามชั้นหินอย่างระมัดระวังในระยะทางราว 100 เมตร แต่ภาพที่ได้เห็นก็รับรองว่าเกินคุ้ม เหมาะแก่การเดินทางในช่วงเดือนพฤษภาคม-สิงหาคม เพราะเป็นช่วงที่มีน้ำมาก

พาสาน อ.เมือง จ.นครสวรรค์

ถือเป็นหนึ่งแลนด์มาร์ค ที่หากใครได้ไปเยือนจังหวัดนครสวรรค์ในตอนนี้ต้องไม่พลาดที่จะแวะไป ด้วยตัวสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นด้านดีไซน์เส้นสายโค้งและเป็นสัญลักษณ์ของต้นแม่น้ำเจ้าพระยา ทำให้ที่นี่ไม่ได้เป็นเพียงแลนด์มาร์คที่สวยงามเท่านั้น แต่ยังเป็นแหล่งเรียนรู้ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของเมืองปากน้ำโพที่มีวิถีชีวิตผูกพันกับสายน้ำมาอย่างยาวนาน

วัดพระธาตุดอยพระฌาน อ.แม่ทะ จ.ลำปาง

ไม่ต้องบินไปไกลถึงญี่ปุ่น เราก็สามารถแวะไปสักการะพระใหญ่ไดบุตสึองค์จำลองกันได้แล้วที่วัดพระธาตุดอยพระฌาน สำหรับตัววัดโดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมสไตล์ล้านนาและด้วยความที่ตัววัดตั้งอยู่บนเขาทำให้มองออกไปเห็นทิวทัศน์ที่สวยงามไปด้วย โดยเฉพาะยามเช้าตรู่ในช่วงเวลาพระอาทิตย์ขึ้นและในฤดูฝนที่มีหมอกปกคลุม

วัดพระธาตุหริภุญชัย อ.เมือง จ.ลำพูน

วัดที่อยู่คู่เมืองลำพูนและมีตำนานมากว่าพันปี นอกจากที่นี่จะเป็นที่ประดิษฐานของพระธาตุประจำปีเกิดของคนเกิดปีระกาแล้ว ยังมีกิจกรรมให้ได้เข้าร่วมตลอดทั้งปี แต่ประเพณีใหญ่ประจำปีของภาคเหนือก็ต้องเป็นประเพณีเก่าแก่อย่างยี่เป็ง ซึ่งสำหรับวัดพระธาตุหริภุญชัยเป็นที่รู้จักกับเทศกาลโคมไฟแสนดวงที่ทางวัดจัดยาวต่อเนื่องร่วม 2 เดือน โดยที่นักท่องเที่ยวสามารถร่วมแขวนโคมเพื่อถวายองค์พระธาตุหริภุญชัย และขอพรเพื่อเป็นสิริมงคลแก่ชีวิตได้ ซึ่งมีความเชื่อกันว่าแสงไฟจะช่วยนำทางสว่างให้กับชีวิต

พุทธสถานถ้ำเชตวัน อ.นาน้อย จ.น่าน

อีกหนึ่งหมุดหมายของนักเดินทางสายบุญ พุทธสถานท่ามกลางป่าเขาที่เงียบสงบและร่มรื่น ภายในพื้นที่ของพุทธสถานถ้ำเชตวันมีหลายสปอตที่นักท่องเที่ยวสามารถแวะไปเยือนและสักการะอย่างเช่น พระธาตุอินแขวน พระพุทธไสยาสน์ ยาว 15 เมตร วิหารพระเจ้าทันใจและถ้ำเชตวันที่โดดเด่นสำหรับที่นี่

มอหินขาว อ.เมือง จ.ชัยภูมิ

ธรรมชาติคือสิ่งมหัศจรรย์แบบไม่เกินจริง สำหรับสายแคมป์ปิงไม่ควรพลาดกับที่นี่ แน่นอนว่าความยิ่งใหญ่ของประติมากรรมหินยักษ์ 5 แท่งที่ได้ชื่อว่าสโตนเฮนจ์เมืองไทยย่อมต้องเป็นจุดขายที่ทำให้หลายคนตัดสินใจออกเดินทาง แต่ในบริเวณเดียวกันเรายังสามารถชื่นชมความงามของธรรมชาติได้ตลอดเส้นทางอย่างเช่นดงหินที่กระจายอยู่บนเนินเขา และจุดชมวิว โดยที่นี่อยู่ภายใต้การดูแลของอุทยานแห่งชาติภูแลนคาที่เปิดให้นักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปกางเต๊นท์ได้ ถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่ดูดาวยอดฮิตเลยแหละ

วนอุทยานภูบ่อบิด อ.เมืองเลย จ.เลย

นักวิ่งต้องไม่พลาดเส้นทางนี้ เพราะเขาว่ากันว่าการพิชิตปลายทางยอดภูบ่อบิดนั้นคู่ควรสุดๆ เหตุผลก็เพราะว่าที่นี่เดินทางง่ายเพราะอยู่ห่างจากตัวจังหวัดเลยเพียงแค่ 1 กิโลเมตร และระยะทางที่เราต้องไต่ความสูงขึ้นไปก็อยู่ที่ราวๆ 670 เมตร ถือว่ากำลังดีกับกิจกรรมเรียกเหงื่อยามเช้าที่ปิดจบด้วยฉากสวยๆ ของดวงอาทิตย์ท่ามกลางทะเลหมอกและการได้สูดอากาศบริสุทธิ์ในช่วงเริ่มต้นวันใหม่

ผาพญากูปรี อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ 

แลนด์มาร์คที่ใครมาเยือนก็ต้องเช็คอินไม่งั้นเหมือนมาไม่ถึงคือรูปปั้นกูปรีขนาดใหญ่ ซึ่งเชื่อมโยงกับความเป็นมาเพราะเคยมีการค้นพบกูปรี สัตว์ป่าที่สูญพันธุ์ไปแล้วบริเวณนี้แบบตัวเป็นๆ แถมธรรมชาติรอบข้างก็สวยงามมากโดยเฉพาะบริเวณระเบียงริมหน้าผาที่จะฮอตฮิตเป็นพิเศษยามแสงสีทองของพระอาทิตย์ตกมาเยือน

ชุมชนบ้านปรางค์นคร อ.คง จ.นครราชสีมา

หากใครกำลังมองหาจุดหมายที่ได้สัมผัสเสน่ห์ของชุมชน ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมเก่าแก่ก็ต้องที่นี่ เพราะแค่บ้านเรือนไทยโคราชก็มีอายุกว่าร้อยปี แต่ยังคงมีชีวิตอยู่เพื่อคงเอกลักษณ์ของสถาปัตยกรรมและสะท้อนวิถีแบบดั้งเดิมให้กับแขกผู้ไปเยือน แต่สิ่งที่พลาดไม่ได้อีกเช่นกันคือสะพานข้ามบารายสวรรค์หรือบึงน้ำของชุมชน เป็นสะพานไม้ไผ่ที่ชาวบ้านร่วมใจกันสร้างขึ้นมา ไม่ใกล้ไม่ไกลยังเป็นที่ตั้งของโบราณสถานศักดิ์สิทธิ์ประจำหมู่บ้านอย่างปราสาทบ้านปรางค์ที่สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 เรียกว่าเป็นหมุดหมายที่เราสามารถไปใช้เวลาซึบซับเรื่องราวของชุมชนได้อย่างดี แถมที่นี่มีโฮมสเตย์และโปรแกรมเที่ยวที่ดูแลโดยชาวบ้านในชุมชนอีกด้วย

วัดพุทธวนาราม (วัดป่าวังน้ำเย็น) อ.เมืองสารคาม จ.สารคาม

นักท่องเที่ยวสายบุญที่มีโอกาสไปเยือนเมืองสารคามต้องไม่พลาดหมุดหมายนี้ วัดพุทธวนารามโดดเด่นด้วยสิ่งปลูกสร้างที่สวยงามและมีเอกลักษณ์โดยที่ส่วนมากทำจากไม้เกือบทั้งหมด โดยเฉพาะพระอุโบสถของที่นี่ได้ชื่อว่าเป็นพระอุโบสถที่สร้างจากไม้ตะเคียนที่ใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยความสูงกว่า 20 เมตรและสร้างจากไม้ตะเคียนทองถึง 32 ต้นในขนาด 4 คนโอบ ทั้งภายในมีองค์พระประธานปางนาคปรกแกะสลักจากไม้สักทั้งองค์ให้นักท่องเที่ยวได้ไปร่วมสักการะ

หอมนสิการ อ.แก่งคอย จ.สระบุรี

นอกจากจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติใกล้กรุงที่หลายคนนึกถึง ล่าสุดสระบุรียังมีแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ที่ยังคงรายล้อมไปด้วยสีเขียวสบายตา ที่แห่งนั้นชื่อว่าหอมนสิการ ซึ่งถ้านิยามแบบเข้าใจง่าย ที่นี่คือแกลเลอรีที่เชื่อมโยงกับพระพทุธศาสนาเพราะภายในอาคารมีส่วนจัดแสดงนิทรรศการการเดินทางของพระเจ้าที่เล่าย้อนไปเมื่อ 2,500 ปีก่อน แต่นอกจากนั้นก็ยังมีส่วนแยกย่อยออกมาอย่าง อาคาร Spiritual Life และเรือนสมาธิที่มุ่งทำความเข้าใจเกี่ยวกับหลักการฝึกสมาธิเบื้องต้นอยู่ด้วย

ถ้ำโบ้ บ้านคีรีวงศ์ อ.เขาย้อย จ.เพชรบุรี

ถ้ำโบ้ รูโบ๋กลางลำตัวของภูเขาที่กลายมาเป็นจุดอันซีนต้องไปเยือนสำหรับสายพิชิตถ้ำ แต่บอกก่อนว่าการผจญภัยนี้ไม่เหมาะกับฤดูฝนนักเพราะทางเดินขึ้นมีความลาดชันและทางเดินภายในถ้ำค่อนข้างลื่น เพราะจุดที่เราต้องไปเยือนคือการลอดโพรงถ้ำออกไปด้านหน้าที่สายถ่ายภาพต้องเตรียมสแนป และเปิดตาเปิดใจให้กับทิวทัศน์กว้างไกล หันหลังกลับไปบริเวณหลังถ้ำก็ถือเป็นอีกซิกเนเจอร์เพราะสามารถมองเห็นทิวต้นตาลของจังหวัดเพชรบุรีในมุมใหม่

อุโมงค์สามมิติ อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี 

อุโมงค์กาลเวลาที่อดีตเคยเป็นเหมืองแร่เก่าแก่อันคึกคัก เพราะจังหวัดกาญจนบุรีสามารถพบแร่ตะกั่วได้มากทำให้มีการเปิดกิจการเหมืองแต่หลังจากถูกทิ้งร้างไปที่นี่ก็ได้กลายมาเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ยังคงหลงเหลือหลักฐานจากอดีตอย่างเช่นเครื่องจักรให้ได้จินตนาการย้อนเวลา ไฮไลต์ด้านการท่องเที่ยวของที่นี่ก็คือประสบการณ์ลอดอุโมงค์มืด ความยาว 2,300 เมตรที่เปรียบเสมือนการข้ามมิติเมื่อเราเดินทางออกไปสู่อีกฝั่ง 

ภูผาแรด อ.เมืองราชบุรี จ.ราชบุรี

ภูผาแรดได้ชื่อว่าเป็นผลงานอาร์ตที่สร้างสรรค์โดยธรรมชาติ เพราะในแต่ละช่วงเวลาภาพของที่นี่ต่างมีเสน่ห์ในแบบที่แตกต่าง สาเหตุก็เพราะว่าภูผาแรดมีลักษณะเป็นหน้าผาสูงชันที่มีรอยเว้าแหว่งของหินจากแรงระเบิดที่ลึกลงไปถึงชั้นน้ำใต้ดินทำให้ระหว่างหน้าผาเกิดแอ่งน้ำขนาดใหญ่ และยิ่งเมื่อแสงแดดส่องหน้าผาแต่ละฝั่งและสะท้อนลงบนผิวน้ำที่นิ่งทำให้ภาพที่เห็นเป็นเหมือนภาพ Abstract ที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติและไม่เหมือนกันเลยในแต่ละวัน

วัดทางสาย อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์

วัดทางสายเป็นวัดที่ตั้งอยู่บนยอดเขาและอยู่ติดกับวิวทะเลหาดบ้านกรูด ทำให้ที่นี่เป็นอีกจุดเช็คอินของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ที่ควรไปเยือนสักครั้ง โดยเฉพาะช่วงเวลาพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตกที่จะสวยงามเป็นพิเศษเพราะด้านบนของเจดีย์สามารถมองเห็นชายหาดบ้านกรูดและทิวทัศน์ได้แบบสุดลูกตา ส่วนความโดดเด่นด้านสถาปัตยกรรมของที่นี่คือเจดีย์หมู่ 9 องค์ที่สื่อความหมายถึงวัดประจำรัชกาลที่ 9

เกาะสีชัง อ.เกาะสีชัง จ.ชลบุรี

เมื่อธรรมชาติสร้างสรรค์ความสวยงามและโรแมนติกมาให้แล้ว สิ่งหนึ่งท่ีนักท่องเที่ยวอย่างเราๆ ต้องไม่ลืมคือการเคารพสถานที่นั้นๆ เพื่อดูแลอนุรักษ์ทรัพยากรเหล่านี้ให้คงอยู่ เกาะสีชังก็เป็นอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวที่พยายามผลักดันเรื่องสิ่งแวดล้อมผ่านคอนเซปต์การท่องเที่ยวฉบับสาย ECO ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการจัดการขยะบนเกาะด้วยการนำไปทำปุ๋ย การปลูกปะการังและการเปิดธนาคารปูและสัตว์น้ำหายากเพื่อฟื้นฟูและอนุรักษ์ความสมบูรณ์ของท้องทะเล

วัดมณีวงศ์ อ.เมืองนครนายก จ.นครนายก

สายมูต้องห้ามพลาด ถ้ำพญานาคที่ฉายภาพความอลังการมาจากความฝันของหลวงพี่ต่อ เจ้าอาวาสวัดมณีวงศ์ที่เชื่อว่าพญานาคมาเข้าฝันพาหลวงพี่ไปชมคลังมหาสมบัติที่เมืองบาดาลเพื่อให้เกิดภาพจำนำกลับมาสร้างที่วัด ประติมากรรมพญานาคกว่า 1,000 ตน จึงเกิดขึ้น นำเสนอผ่านงานปั้นชั้นครูที่ประณีตราวกับได้เข้าไปอยู่ในเมืองบาดาลจริงๆ ท่ามกลางเหล่าพญานาคมีพระรัตนมณีมหาบาดาลประดิษฐานอยู่ สามารถเข้าไปเคารพสักการะได้ทุกวัน

วัดหงษ์ทอง อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา

วัดกลางทะเล ที่อดีตเคยตั้งอยู่ริมทะเล แต่ปัจจุบันได้ถูกน้ำทะเลกัดเซาะจนผืนดินภายในวัดหายไปเกินครึ่ง ทำให้ที่ต้ังของวัดในปัจจุบันอยู่กลางทะเลไปโดยปริยาย และทำให้วัดแห่งนี้กลายเป็นอีกหนึ่งสถานที่สุดพิเศษเพราะมีซีวอล์คหรือสะพานกระจกใสที่ทอดตัวออกไปในทะเลราวกับผู้คนกำลังเดินอยู่บนผิวน้ำ และทำให้ที่นี่เป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ตกของเมืองแปดริ้วที่ขึ้นชื่อไปในคราวเดียวกัน

วัดถ้ำเขาประทุน อ.เขาชะเมา จ.ระยอง

เป็นอีกหนึ่งถ้ำพญานาคที่ควรค่าแก่การไปเยือนไม่แพ้ที่ไหน จริงๆ ที่นี่เป็นที่ตั้งของถ้ำเล็กถ้ำน้อยแต่ด้านหน้าของวัดเราจะพบถ้ำพญานาคราชอยู่ก่อน ซึ่งไฮไลต์สำหรับนักท่องเที่ยวคือการนั่งเรือเพื่อลอดถ้ำเข้าไปยังส่วนของหุบผาสวรรค์ อันประกอบไปด้วยถ้ำอีกหลายถ้ำนี่แหละ ทั้งถ้ำนาคี ถ้ำรอยพระพุทธบาท และถ้ำหินงอกหินย้อย ฉะนั้นช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วงฤดูฝนตั้งแต่เดือนกรกฏาคมถึงพฤศจิกายน แต่หากใครอยากไปเยือนในฤดูอื่น ก็สามารถแวะไปได้ตลอดทั้งปี

ถ้ำน้ำเขาศิวะ อ.คลองหาด จ.สระแก้ว 

ไม่ต้องรอให้ถึงฤดูฝน ที่นี่ก็มีน้ำไหลตลอดทั้งปี ถ้ำน้ำเขาศิวะจึงเหมาะกับนักท่องเที่ยวสายแอดแวนเจอร์ที่พร้อมลุยเปียกน้ำเกาะห่วงยางลอยคอเข้าไป แต่ไม่ต้องห่วงเพราะมีเจ้าหน้าที่คอยนำทางและบรรยายตลอดเส้นทาง ภายในถ้ำสวยงามด้วยหินงอกหินย้อยและตำนานพ่อปู่พญานาคองค์สีแดงอันเป็นที่มาของศาลพ่อปู่นาคาบริเวณปากถ้ำ

อุทยานธรรมเขานาในหลวง อ.พนม จ.สุราษฎร์ธานี

สถานที่แห่งความศรัทธาอีกแห่งที่ตั้งอยู่บนยอดเขา อุทยานธรรมเขานาในหลวงเป็นสำนักสงฆ์ที่สร้างขึ้นด้วยพลังศรัทธาของชาวบ้าน แต่ที่เป็นไฮไลต์ชวนให้เป็นที่รู้จักคือประตูพุทธวดีหรือซุ้มประตูแห่งการเวลาที่จะสวยงามเป็นพิเศษเมื่อต้องแสงเช้า นอกจากนี้ยังเป็นที่ตั้งของเจดีย์หลายองค์นั่นคือ เจดีย์ร้อยยอดพันองค์ เจดีย์ลอยฟ้าพุทธศิลาวดี เจดีย์ลอยฟ้าพุทธราชาวดีที่ยามมีหมอกจะดูเหมือนว่าเจดีย์แต่ละองค์กำลังลอยอยู่บนก้อนเมฆ จึงได้ชื่อว่าเป็นสวรรค์บนดิน

หมู่เกาะกำ อ.กะเปอร์ จ.ระนอง

หมู่เกาะกำได้ชื่อว่าเป็นหมู่เกาะหลงยุค ที่มีความสงบเงียบโดยที่ชาวบ้านยังคงใช้ชีวิตแบบเดิมๆ ไม่หมุนไปตามกาลเวลา หากเดินทางไปที่หมู่เกาะกำ เราสามารถไปเยือนได้ถึง 3 เกาะที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวอย่าง เกาะกำตก เป็นชายหาดที่ขาวสะอาดคู่กับน้ำทะเลใส สามารถลงเล่นน้ำได้ ส่วน เกาะค้างคาว และ เกาะญี่ปุ่น เหมาะกับการดำน้ำชมปะการังและปลาสวยงาม

รอยพระพุทธบาทในทะเล สำนักสงฆ์เกาะแก้วพิสดาร อ.เมือง จ.ภูเก็ต

รอยพระพุทธบาทในทะเลนี้ เป็น 1 ใน 5 รอยพระพุทธบาทที่ได้รับความศรัทธาจากพุทธศาสนิกชนทั่วโลก สำหรับที่นี่เชื่อกันว่าเป็นรอยพระพุทธบาทริมฝั่งแม่น้ำนัมมทานที  ที่ซึ่งพระพุทธเจ้าได้เสด็จไปแสดงธรรมโปรดนาคพิภพ สำหรับรอยพระพุทธบาทนี้ตั้งอยู่ที่สำนักสงฆ์เกาะแก้วพิสดารที่จะสามารถเห็นได้ชัดเจนเมื่อน้ำทะเลลดลง สามารถเดินทางได้โดยการนั่งเรือบริเวณท่าเรือหาดราไวย์

หินพับผ้า อ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช

พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติอันเกิดจากปรากฏการณ์ทางธรณีวิทยาที่เกิดขึ้นได้น้อยกับผาหินที่มีลักษณะเป็นชั้น เหมือนกับผ้าที่พับแล้วซ้อนกันจึงเป็นที่รู้จักในชื่อหินพับผ้า ซึ่งสำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมักเรียกว่า Pancake Rock ผาหินนี้ตั้งอยู่ที่บริเวณกลางทะเลขนอม สามารถเดินทางด้วยเรือจากอ่าวเตล็ดและชุมชนแหลมประทับเพื่อเดินทางไปเยี่ยมชมได้

เกาะตะรุเตา อ.เมือง จ.สตูล

เกาะที่เต็มไปด้วยตำนานและคำบอกเล่า ที่นี่จะเปิดฤดูกาลท่องเที่ยวในเดือนตุลาคมถึงพฤษภาคมของทุกปีให้นักท่องเที่ยวได้ไปสัมผัสกับธรรมชาติในบรรยากาศเงียบสงบ ซึ่งเกาะตะลุเตาถือเป็นเกาะที่มีพืชพรรณและสัตว์ป่าหายาก รวมถึงสถานที่ทางประวัติศาตร์อย่างสถานที่กักกันตัวนักโทษที่กลายมาเป็นตำนานโจรสลัดแห่งตะรุเตา

Fact File

• อัพเดทสถานที่เที่ยวไทยฉบับ Unseen New Chapter 2566 ได้ที่ www.unseennewchapters.com

---