Lite

True Beauty ซีรีส์ที่ชวนตั้งคำถามว่า ความสวยคืออภิสิทธิ์หรือสิ่งที่กดทับผู้หญิง

Focus

True Beauty ซีรีส์เกาหลีของช่อง tvNเล่าถึงเรื่องราวของนักเรียนหญิงชั้นมัธยมปลายที่โดนกลุ่มเพื่อนกลั่นแกล้งเพียงเพราะว่าเธอหน้าตาไม่ตรงกับค่านิยมความงามที่สังคมมัธยมปลายนิยมจนทำให้เธอคิดฆ่าตัวตาย
ความน่าสนใจของ True Beauty คือการที่ซีรีส์กล้าที่จะหยิบเรื่องความสวยงามที่กดทับและสร้างมาตรฐานให้สาวเกาหลีมาเล่า ซึ่งในเรื่องมาตรฐานความสวยนั้นสามารถพบเจอได้ในแวดวงบันเทิงเกาหลี

True Beauty ซีรีส์เกาหลีของช่อง tvN เล่าถึงเรื่องราวของนักเรียนหญิงชั้นมัธยมปลาย “อิมจูกยอง” (รับบทโดย มุนกายอง) โดนกลุ่มนักเรียนที่มีอิทธิพลในชั้นเรียนกลั่นแกล้งเพียงเพราะว่าเธอหน้าตาไม่ตรงกับค่านิยมความงามที่สังคมมัธยมปลายนิยมจนทำให้เธอคิดฆ่าตัวตาย และวันนั้นเองที่เธอได้พบกับ “อีซูโฮ” (รับบทโดย ชาอึนอู) นักเรียนชายคนหนึ่งที่เพียบพร้อมไปทั้งหน้าตา สติปัญญา และฐานะทางครอบครัว

ช่างตรงข้ามกับครอบครัวของอิมจูกยองที่กำลังประสบปัญหาทางการเงินจนต้องย้ายบ้านกลับไปยังบ้านเกิด ส่งผลให้จูกยองต้องย้ายโรงเรียนใหม่ และที่นั่นเธอตัดสินใจเปลี่ยนแปลงตัวเองโดยการแต่งหน้าเพื่อปกปิดใบหน้าที่แท้จริง และเริ่มต้นชีวิตนักเรียนใหม่ที่โรงเรียนแห่งนี้ในฐานะ นางฟ้าของโรงเรียนมัธยมแซบม

เมื่อความสวยกลายเป็นอภิสิทธิ์

“ความสวยทำให้เปลี่ยนไปจริงๆ”

อิมจูกยองคิดในใจระหว่างที่แนะนำตัวที่โรงเรียนใหม่ เพราะที่โรงเรียนมัธยมแซบม อิมจูกยองได้รับความสนใจจากเพื่อนๆ ตั้งแต่วันแรกที่ก้าวเข้ามา เธอได้เพื่อนใหม่ตั้งแต่การเข้าเรียนวันแรก แถมยังมีกลุ่มแชตกับเพื่อนที่เธอไม่เคยมีมาก่อน เธอไม่โดนแกล้งและโดนใช้งานเหมือนตอนที่อยู่โรงเรียนเก่า

อิมจูกยองมีเพื่อนมากมายที่พร้อมจะเข้าใจ เป็นห่วง และช่วยเหลือ แต่ก็แลกมากับความหวาดระแวงที่ว่า จะมีใครเห็นหน้าสดเธอหรือไม่ แล้วถ้าเห็นแล้ว เธอจะโดนสังคมตราหน้าว่าเป็นคนหลอกลวง และพากันหัวเราะเยาะหน้าตาของเธอเหมือนตอนที่อยู่โรงเรียนเก่าหรือไม่

ไม่ใช่แค่เพียงเรื่องเพื่อนเท่านั้น แต่ในซีรีส์เรื่องนี้ยังนำเสนอสายตาของคนรอบข้าง และสิทธิพิเศษที่เธอได้รับจากความสวยของเธอ เช่นในตอนที่เธอยังเรียนอยู่ที่โรงเรียนเดิม เธอไปโรงอาหารเพื่อไปซื้อของตามที่เพื่อนในห้องสั่งมา เธอโดนแซงคิว และมองด้วยสายตาเชิงเหยียดหยามรังเกียจ แต่เมื่อเธอมาเรียนอยู่ที่โรงเรียนใหม่ เธอไม่ต้องไปซื้อข้าวมาให้เพื่อนๆ อีกต่อไป เธอได้นั่งกินข้าวพร้อมกับเพื่อน มีแต่สายตาชื่นชมมอบให้ ไม่ต้องไปเบียดเพื่อต่อแถวซื้ออาหารเหมือนแต่ก่อนอีกต่อไป

อีกหนึ่งฉากที่เห็นได้ชัดว่าความสวยกลายเป็นชนชั้นอภิสิทธิ์ก็คือตอนที่เธอขึ้นรถเมล์เพื่อไปเรียน เธอเคยต้องยืนเบียดกับคนอื่นๆ ในรถ และถูกมองด้วยสายตารังเกียจ แต่เมื่อเธอแต่งหน้าและขึ้นรถเมล์เช่นเดิม ผู้โดยสารคนอื่นๆ กลับหลีกทางให้เธอไปนั่ง และชื่นชมในความสวยของเธอตลอดทางนั่นยิ่งตอกย้ำว่าคนสวยมักจะได้รับสิทธิพิเศษเหนือกว่าคนอื่นหรือที่เรียกว่า Beauty Privilege ซึ่งไม่เฉพาะในซีรีส์แต่เคยมีหลายสถาบันทำการศึกษาเรื่องนี้อย่างจริงจัง

ในบทความของ Dario Maestripieri นักพฤติกรรมศาสตร์ และศาสตราจารย์ด้าน Comparative Human Development, Evolutionary Biology, and Neurobiology แห่งมหาวิทยาลัยชิคาโกกล่าวว่าความงามสะท้อนถึงความมั่นใจที่ทำให้ได้รับสิทธิพิเศษหลายๆ อย่างมากกว่าคนที่หน้าตาธรรมดา ไม่ว่าจะเป็นในด้านการเข้ารับบริการ หรือแม้แต่การสัมภาษณ์งาน โดยให้เหตุผลว่าหากคนสวยที่รู้ว่าตัวเองสวย ได้รับคำชมเรื่อยๆพวกเธอจะมีความมั่นใจเพิ่มขึ้น ส่งผลให้เกิดความน่าดึงดูด และโดดเด่นมากกว่าคนหน้าตาธรรมดาที่ไม่มีความมั่นใจ

แค่ไหนจึงจะเรียกว่าสวย

ความน่าสนใจอย่างหนึ่งของ True Beauty คือการที่ซีรีส์กล้าที่จะหยิบเรื่องความสวยงามที่กดทับและสร้างมาตรฐานให้สาวเกาหลีมาเล่า ซึ่งในเรื่องมาตรฐานความสวยนั้นสามารถพบเจอได้ในแวดวงบันเทิงเกาหลี มีการพูดถึงมาตรฐานความงามของศิลปินเกาหลีอยู่บ่อยครั้ง และในบ่อยครั้งก็ทำให้ศิลปินเกิดซึมเศร้าและเกิดเหตุน่าเศร้าตามมา โดยเฉพาะในกลุ่มไอดอลเกาหลีในปัจจุบัน ปฏิเสธไม่ได้ว่านอกจากตำแหน่งร้องหลัก เต้นหลักแล้ว อีกหนึ่งตำแหน่งที่เป็นที่จับตามองนั่นก็คือตำแหน่ง Visual หรือหน้าตาของวงนั่นเอง

เว็บไซต์ Cosmetic Surgery คลินิกศัลยกรรมความงามของประเทศเกาหลีใต้ได้พูดถึงค่านิยมความงามของผู้หญิงเกาหลีไว้ว่า ต้องมีหน้าเล็ก เนื่องจากโครงหน้าธรรมชาติของคนเกาหลีคือจะเห็นกรามชัด และมีตาเล็ก ซึ่งจะทำให้ใบหน้าดูใหญ่ ดังนั้นคนเกาหลีจึงนิยมเหลากรามให้เป็นทรง V-shape เพื่อปกปิดความใหญ่ของใบหน้า

ดวงตากลมโต ก็เป็นอีกหนึ่งจุดสำคัญของการมีใบหน้าที่สวยงามตามค่านิยมของคนเกาหลี เพราะทำให้หน้าดูเด็กและสดใส คนเกาหลีส่วนใหญ่จึงมักจะทำตาสองชั้น และฉีดแฟตที่ใต้ตา เพื่อให้เวลายิ้มแล้วเกิดความรู้สึกเป็นมิตรและดูอ่อนเยาว์นอกจากนี้คนเกาหลียังนิยมผิวขาว เพราะลึกๆ แล้วก็ยังมีความเชื่อกันว่าคนที่มีผิวคล้ำ คือคนที่มาจากชนชั้นกรรมมาชีพที่ต้องใช้แรงงาน ส่วนคนที่มีผิวขาวนับว่าเป็นคนที่เกิดในตระกูลที่มีฐานะ ไม่ต้องทำงานหนักอีกทั้งยังนิยมรูปร่างที่ผอมบางดูน่าทะนุถนอมอีกด้วย

แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะเกิดมาพร้อมกับรูปร่างและหน้าตาตามแบบฉบับของมาตรฐานความงามในสังคม ออมจี น้องเล็กจากวงไอดอล G-friend เคยโดนชาวเน็ตโจมตีเรื่องหน้าตาและรูปร่างถูกเรียกว่า “the ugliest idol in history”จนเธอสูญเสียความมั่นใจ ไม่กล้าเปิดเผยหน้าตาตัวเองสู่สาธารณชนไปในช่วงหนึ่งต้องเอาผมมาปิดหน้า ต้องไปลดน้ำหนัก และปรับลุคใหม่ จนในที่สุดก็ได้รับการยอมรับจากชาวเน็ตเกาหลีใต้

ฮวาซา ไอดอลหญิงแห่งวง MAMAMOO ที่เคยสร้างปรากฏการณ์กินไส้ย่างในรายการ I live alone ก็เคยเล่าถึงเหตุการณ์ที่ตนเองถูกปฏิเสธในการออดิชัน เพียงเพราะว่าเธอหน้าตาไม่ตรงกับมาตรฐานความงามของคนเกาหลี แม้ว่าเธอจะโดดเด่นและมีความสามารถมากเพียงใดก็ตาม นอกจากนี้เธอยังกล่าวในคอนเสิร์ตของวงเกี่ยวกับเรื่อง Beauty Standard ไว้อีกว่า

“ถ้าหน้าตาและรูปร่างของฉันไม่ตรงตามมาตรฐานของสังคม ฉันก็จะเป็นคนเปลี่ยนแปลงมาตรฐานนั้นเอง”

เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นเพียงแค่เศษเสี้ยวของการวิพากษ์วิจารณ์รูปร่างหน้าตาของไอดอลหญิงเท่านั้น คอมเมนต์และข่าวต่างๆ เหล่านี้ยังสามารถพบเจอได้ทั่วไปตามโลกอินเทอร์เน็ต รวมทั้งยังเป็นเรื่องที่คนส่วนหนึ่งมองว่า “ปกติ” ที่จะวิจารณ์ล้อเลียนรูปร่างหน้าตา และปล่อยให้คำพูดเหล่านี้ออกมากระทบจิตใจของผู้ฟัง

เราต่างโดนกดทับด้วยคำว่า “สวย”

เมื่อมองย้อนกลับไปในซีรีส์เรื่องนี้ ไม่ใช่เพียงอิมจูกยอง นางเอกของเรื่องเท่านั้นที่ถูกมาตรฐานความสวยกดทับเอาไว้ แต่ทุกคนล้วนถูกกรอบของสังคมบางอย่างมาลดทอนคุณค่าบางอย่างในตัวเอง แต่ตัวอย่างที่เห็นชัดที่สุดอีกหนึ่งคนจากในเรื่องนี้ก็คงหนีไม่พ้น ฮันโกอุน (รับบทโดยยอจูฮา) น้องสาวของ ฮันซอจุน (รับบทโดยฮวังอินยอบ) อดีตเพื่อนสนิทของอีซูโฮ แต่ด้วยปัญหาบางอย่างทำให้เขาทั้งสองกลายเป็นศัตรูกัน

อิมจูกยองมองว่าโกอุนเหมือนกระจกที่กำลังสะท้อนภาพในอดีตของตน โกอุนถูกแกล้งจากเพื่อนในชั้นเพราะว่าเธอมีความสามารถด้านการร้องเพลงมากกว่าคนอื่นๆ เธอได้รับการยอมรับจากครูที่สอนร้องเพลงให้แสดงเดี่ยวในงานโรงเรียน แต่กลับถูกเพื่อนในชั้นขู่ว่าให้โกอุนไปบอกครูว่าจะไม่แสดงเดี่ยว โกอุนถามนักเรียนคนนั้นว่าทำไมเธอถึงจะแสดงเดี่ยวไม่ได้ คำตอบของนักเรียนหญิงคนนั้นสั้นๆ แต่ชัดเจนว่า

“เพราะเธอมันน่าเกลียดไงละ”

มันอาจจะฟังดูไม่เป็นเหตุเป็นผลสักเท่าไร เมื่อมองว่าสาเหตุที่โกอุนไม่สมควรที่จะอยู่บนเวที เป็นเพราะว่าเธอไม่สวย แต่มันกลับสะท้อนให้เห็นในตอนถัดมาว่า หลังจากที่จูกยองช่วยโกอุนปรับลุคใหม่ และแต่งหน้าเพื่อไปแสดง เธอได้รับเสียงตอบรับด้านบวกตั้งแต่ครั้งแรกที่สปอตไลต์สาดส่องไปที่เธอ

นักเรียนมากมายที่รอชมการแสดงต่างตกตะลึงไปกับหน้าตาที่สวยงามของโกอุนเป็นอันดับแรก ถึงกับสงสัยว่าในโรงเรียนมีผู้หญิงที่สวยขนาดนี้ด้วยเหรอ แล้วจึงจะชื่นชมกับเสียงร้องของเธอที่สร้างความประทับใจให้แก่ผู้ฟัง รวมถึงนักเรียนหญิงคนนั้นที่เคยขู่เธอก็ไม่กล้ามาทำร้ายเธออีก

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าความสวยเป็นเหมือนพลังวิเศษที่ดึงดูดความสนใจของผู้คนตั้งแต่แรกพบ แต่อีกนัยหนึ่งก็หมายความว่าคุณค่าที่แท้จริงของผู้หญิงถูกคำว่า “สวย” ตีกรอบเอาไว้ หากทั้งโกอุนและจูกยองไม่ได้สร้างความประทับใจแรกให้แก่คนอื่นด้วยคำว่าสวย ในตอนนี้ชีวิตของพวกเธอจะเป็นอย่างไร

หลังจากที่อิมจูกยองช่วยแต่งหน้าให้โกอุนสถานการณ์ของโกอุนในชั้นเรียนก็ดีขึ้น เพราะไม่มีใครเข้ามาแกล้งเธอเหมือนเมื่อก่อน พวกเขาทำได้เพียงพูดถึงเธอลับหลังเกี่ยวกับการแต่งหน้าของเธอในวันแสดงเท่านั้น หลังจากวันแสดงโกอุนกลับไปโรงเรียนโดยไม่ได้แต่งหน้าเหมือนเดิม โดยเธอบอกกับจูกยองในระหว่างที่คุยกันว่า

“ถ้าฉันเกลียดหน้าตัวเองแค่เพราะพวกเขาพูดแบบนั้น ก็แปลว่าฉันยอมรับในความห่วยแตกน่ะสิ ฉันก็เลยคิดว่าจะเมินพวกเขา และใช้ชีวิตด้วยหน้าตาของตัวเองนี่แหละ”

Fact file

True Beauty ซีรีส์แนวโรแมนติก-คอมเมดี้เรื่องล่าสุดของช่อง tvN กำกับโดยคิมซังฮยอบ ผู้กำกับซีรีส์เรื่อง Extraordinary You สามารถรับชมอย่างถูกลิขสิทธิ์ได้ทาง VIU เฉพาะสมาชิก VIU Premium

อ้างอิง

#ผู้หญิง#เกาหลี

Author

วิวิศนา อับดุลราฮิม

Introvert ผู้เสพติดการอ่านนิยายดราม่า ใช้เวลากว่าครึ่งชีวิตไปกับการติ่ง k-pop และ c-pop