Thirteen Lives ภารกิจมนุษย์กู้ชีวิตพิชิตภัยธรรมชาติ ภาพยนตร์ลำดับที่ 3 ปฏิบัติการกู้ชีพทีมหมูป่า
- Thirteen Lives เป็นภาพยนตร์ที่ดัดแปลงมาจากเหตุการณ์จริงของปฏิบัติการกู้ภัยช่วยเหลือทีมฟุตบอลเยาวชนติดถ้ำที่ดอยนางนอน จังหวัดเชียงราย
- Thirteen Lives ได้ผู้กำกับดีกรีรางวัลออสการ์อย่าง รอน ฮาวเวิร์ด (Ron Howard) มาสร้างสรรค์ความระทึกตื่นตาที่แตกต่างจากฉบับก่อน ๆ โดยเกือบ 80% ถ่ายทำที่ออสเตรเลีย
Thirteen Lives ออริจินัลคอนเทนต์เรื่องแรกของ Amazon Prime และนับได้ว่าเป็นภาพยนตร์ลำดับที่ 3 (นับจากการเผยแพร่ในประเทศไทย) ที่อิงจากเหตุการณ์จริงของปฏิบัติการกู้ชีวิตทีมฟุตบอลเยาวชน “หมูป่าอะคาเดมี” ในวิกฤตติดถ้ำชั้นลึกที่มีเดิมพันชีวิตแบบนาทีต่อนาทีจากน้ำฝนที่ค่อย ๆ เอ่อล้นท่วมมิดปากถ้ำหลวง จังหวัดเชียงรายประเทศไทยปฏิบัติการกู้ชีวิตครั้งนี้เป็นที่จับตาจากผู้คนทั่วโลกและมีนักกู้ภัยจากทั่วโลกบินมาร่วมปฏิบัติการ และเหตุการณ์ดังกล่าวยังถูกดัดแปลงเป็นภาพยนตร์ในมุมมองที่แตกต่างกันไป ที่เผยแพร่แล้วก็มีทั้ง นางนอน (The Cave) ภาพยนตร์โดย ทอม วอลเลอร์ (Tom Waller) มีสารคดีของ National Geographicเรื่อง The Rescue สร้างโดยทีมงานผู้ชนะรางวัลออสการ์มาแล้วจาก Free Solo (2018) และหากจะนับฉบับที่รอเผยแพร่ก็ยังมีอีก 1 เรื่องนั่นคือ ถ้ำหลวง : ภารกิจแห่งความหวัง (Thai Cave Rescue) ฉบับซีรีส์จาก Netflix
นับว่าปรากฏการณ์ทีมฟุตบอลเยาวชนติดถ้ำนี้ได้รับความสนใจจากทีมงานสร้างภาพยนตร์มือฉมังมากมาย และในครั้งนี้ Thirteen Lives ก็แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจที่จะสร้างสรรค์ผลงานเอกอย่างไม่น้อยหน้าให้สมชื่อ Original Content เรื่องแรกของ Amazon Prime สตรีมมิงเจ้าใหญ่ที่เพิ่งเข้ามาเปิดตลาดในไทยเมื่อต้นเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2565
Thirteen Lives กำกับโดย รอน ฮาวเวิร์ด (Ron Howard) ดีกรีเจ้าของรางวัลออสการ์จาก A Beautiful Mind (2001) การันตีมาตรฐานคุณภาพด้านภาพยนตร์และความละเอียดของงานสร้างได้อย่างดีเยี่ยมซึ่งทำให้ในฉบับนี้เราจะได้ชมภาพยนตร์จาก
เหตุการณ์ดังกล่าวในขนาดงานสร้างราวกับภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ในการเนรมิตรความสมจริงของพื้นที่ถ้ำหลวงและบริเวณโดยรอบอีกทั้งยังน่าสนใจด้วยทีมนักแสดงเลื่องชื่อจากอุตสาหกรรมภาพยนตร์ฮอลลีวูดอย่าง โคลิน ฟาร์เรล (Colin Farrell) และ วิกโก มอร์เทนเซน (Viggo Mortensen) มารับบทนำของเรื่องในฐานะนักประดาน้ำระดับพระกาฬที่จะนำทีมกู้ชีพช่วยเหลือ 13 ชีวิตในมหาวิกฤตธรรมชาติที่มีชีวิตเป็นเดิมพัน
สิบสามชีวิต : เมื่อมนุษย์พยายามพิชิตอุปสรรคจากธรรมชาติ
ในแง่มุมของความเป็นภาพยนตร์ บันทึกการกู้ชีวิตที่ถ้ำหลวงนางนอนฉบับนี้ไม่เพียงอ้างอิงเหตุการณ์และรายละเอียดจากงานสร้างสุดสมจริงแต่ยังมีการตีความและสร้างสรรค์เนื้อเรื่องโดยใช้ศิลปะภาพยนตร์อย่างน่าสนใจ ที่จะไม่กล่าวถึงไม่ได้คืองานเสียงที่ออกแบบระดับและความซับซ้อนได้อย่างมีมิติลุ้นระทึกสมจริงสมจังราวกับผู้ชมกำลังตามหลังทีมประดาน้ำไปในถ้ำสุดอันตรายกันอย่างประชิดหรือในฉากธรรมดาที่มีฝนตกเกือบทั้งวันเสียงที่มีมิติในภาพยนตร์เรื่องนี้ช่วยให้ผู้ชมเสมือนกำลังมีประสบการณ์ร่วมทางภาพยนตร์ที่น่าประทับใจเลยทีเดียว
อีกหนึ่งจุดเด่นคงไม่หนีไปจากการเรียงร้อยเหตุการณ์นี้ออกมาเป็นบทภาพยนตร์ที่มีประเด็นร่วมสมัยเมื่อฉบับนี้ไม่ใช่สารคดีที่เน้นนำเสนอตามลำดับเพื่อให้เข้าใจถึงปรากฏการณ์เท่านั้น ดังนั้น Thirteen Lives จึงเลือกที่จะเสริมความโดดเด่นในการประพันธ์บทและออกแบบจังหวะกำกับให้มีลักษณะภาพยนตร์ที่เต็มไปด้วยความบันเทิงทั้งยังมีแง่มุมชวนคิดอันมีมิติ ทำให้ภาพรวมของภาพยนตร์ปฏิบัติการกู้ภัยฉบับนี้ชี้ให้เห็นถึงการดิ้นรนต่อสู้เพื่อกู้ชีวิตมนุษย์จากภัยธรรมชาติที่เอาแน่เอานอนอะไรได้ยาก การตัดต่อให้เห็นถึงภาพรวมภารกิจกู้ชีวิตนี้ นอกจากเส้นเรื่องหลักของนักประดาน้ำชาวอังกฤษทั้งสองที่ทำภารกิจหลักอยู่นั้น ภาพยนตร์จะทำให้เราเห็นบทสนทนาของภารกิจรองรอบ ๆ เหตุการณ์ที่เกิดคู่ขนานกัน เช่น การร่วมด้วยช่วยกันของคนในพื้นที่ที่มาร่วมปิดช่องทางน้ำให้น้ำฝนที่กำลังบ่าเข้าถ้ำหลวงมีปริมาณน้อยลง ชาวไร่ชาวนาที่ยอมให้เปลี่ยนทางน้ำและปล่อยน้ำที่จะไหลลงถ้ำมาท่วมที่นาของตนเพื่อรักษาระดับน้ำในถ้ำ รวมไปถึงพระสงฆ์ที่นำผู้คนทำพิธีขอพรภาวนาให้แก่ผู้ประสบภัย
เหตุการณ์ทั้งหลายมีการเชื่อมโยงกันและกันเพื่อสะท้อนถึงปลายทางคือความงดงามของการมองว่า “ทุกชีวิตล้วนสำคัญ” เช่นบทสนทนาของนักดำน้ำระหว่างริคกับจอห์นคู่หูนักดำน้ำมือดีจากอังกฤษที่พูดคุยกันถึงอุปสรรคและบางขณะพวกเขาก็ท้อแท้กับระบบที่ต้องประสานงานกับคนอื่น ๆ ในการทำภารกิจนี้ แต่ในท้ายที่สุดทั้งคู่ก็เพ่งมองสิบสามชีวิตนี้และละเลยเหตุกวนใจเพื่อกอบกู้ชีวิตที่ไม่รู้จะเป็นตายร้ายดีอย่างไรอย่างตั้งอกตั้งใจจนสำเร็จ ในระหว่างการกอบกู้ชีวิตพวกเขาจะต้องฝ่าวิกฤตน้ำท่วมถ้ำที่อันตรายอย่างกล้าหาญและมีความหวังจนแสดงให้เห็นถึงการพยายามที่จะต้านทานอุปสรรคทั้งจากมนุษย์ด้วยกันและเภทภัยจากธรรมชาติเพื่อรักษาสิบสามชีวิตให้ได้ ความงดงามของการเห็นอกเห็นใจและมองว่าทุกชีวิตสำคัญ จึงแผดออกมาจากการเล่าเรื่องของฉบับนี้อย่างเด่นชัดความพยายามดังกล่าวจึงเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ภาพยนตร์เรื่องนี้ทำออกมาได้อย่างน่าประทับใจ…ทั้งยังสามารถเล่าได้อย่างจับใจผู้ชม
สนทนาหลังปิดภารกิจกับ “วรกร ฤทัยวาณิชกุล”
นอกจากทีมสร้างและนักแสดงจากต่างชาติแล้ว ภาพยนตร์เรื่องนี้ยังมีทีมงานจากฝั่งไทยเข้าร่วมทั้งนักแสดงและฝ่ายผู้ผลิต Sarakadee Lite มีโอกาสพูดคุยกับ วรกร ฤทัยวาณิชกุล Co-producer หนึ่งในผู้อยู่เบื้องหลังภาพยนตร์ Thirteen Lives ถึงเรื่องราวเบื้องหลังงานสร้างที่น่าสนใจมากมายโดยเฉพาะเบื้องหลังการเนรมิตเหตุการณ์ระทึกสู่ภาพยนตร์ครั้งนี้
การทำงานพัฒนาบทจาก Co-producer ฝั่งไทยสำคัญอย่างไร
ตอนผมเข้ามาทีมสร้างมีสคริปต์ความสัมพันธ์ตัวละครและเรื่องราวของปฏิบัติการต่าง ๆ แล้วประมาณหนึ่งมีตอนต้น ตอนกลาง ตอนจบอยู่แล้วผมเข้ามาเสริมรายละเอียดวัฒนธรรมบริบทของประเทศไทยเช่นฉากที่ข้าราชการกับชาวบ้านเข้าฉากด้วยกันการพูดสำเนียงเฉพาะสำเนียงเหนือที่ถูกต้อง และที่ต้องละเอียดที่สุดคือความเชื่อท้องถิ่น เช่นเรื่องเจ้าแม่นางนอน ผมก็ต้องอธิบายให้ทีมงานฝรั่งเข้าใจบริบทต้องสื่อสารว่าทำไมบางทีบริบทนี้มันถึงมีและความเชื่อของไทยมีพื้นฐานมาจากศาสนาพุทธพราหมณ์และธรรมชาติผสมกันอย่างไร ต้องทำให้ทีมงานต่างชาติเข้าใจก่อนและมีอีกเรื่องคือแถวนั้นมีบุคคลไร้สัญชาติเราก็เอาส่วนนี้เข้ามาเสริมในบทภาพยนตร์ด้วย
การถ่ายทำภาพยนตร์ช่วงโควิด-19 เป็นอุปสรรคมากน้อยแค่ไหน
มีความท้าทายอยู่มากเพราะในประเทศไทยตอนนั้นการออกกองถ่ายทำแบบกองใหญ่เป็นไปไม่ได้เลย แต่ที่ออสเตรเลียกลับตรงกันข้าม ภาพยนตร์เป็นเรื่องสำคัญและทางรัฐบาลก็มีนโยบายที่ดึงดูดให้กองภาพยนตร์มาถ่ายในประเทศเขา แต่ก็มีการตรวจแบบเข้มข้นชนิดที่ใครเป็นโควิด-19 ต้องออกจากโปรดักชันเลยทันที แต่ก็โชคดีที่กองเราไม่มีใครเป็นเลย ดังนั้นสถานที่ถ่ายทำหลัก ๆ เราจึงถ่ายในควีนแลนด์ประมาณ 80% และก็มีการถ่ายสถานที่จริงในไทยเพิ่มเติม โดยในส่วนของการถ่ายทำในไทยเป็นการทำงานกับคุณรอนแบบกำกับผ่านระบบออนไลน์ ในส่วนของแลนด์สเคปแม้จะสถานที่หลักที่ถ่ายทำคือควีนแลนด์ ต้องก็ต้องมาเก็บภาพในไทยในส่วนของฉากที่เซตยาก ทำ CG ยาก เพื่อให้ภาพยนตร์สมจริงสูงสุด
อะไรคือแก่นหลักในการพัฒนาจากเรื่องจริงเป็นภาพยนตร์
นี่เป็นสิ่งที่ผมคุยกับคุณรอนตั้งแต่ต้น เขาต้องการนำเสนอความร่วมใจของผู้คนต่างสัญชาติ ต่างศาสนาต่างตัวตน ที่มาช่วยเหลือกันร่วมมือกัน เหตุผลเดียวคือเพื่อมวลมนุษยชาติ ในช่วงโรคระบาดหลายประเทศมีความชาตินิยมขึ้น เราเลยอยากให้เห็นถึงการร่วมมือระหว่างประเทศ อยากให้ทุกคนลองดูลองคิดกับมันว่าหากเราร่วมมือกันนำบุคคลที่มีความสามารถต่าง ๆ เพื่อให้เกิดเป็นความสำเร็จก็น่าจะเป็นสิ่งที่ดี
ความโดดเด่นของปฏิบัติการกู้ภัยถ้ำหลวงในฉบับ Thirteen Lives คืออะไร
พูดในเชิงภาพยนตร์ ฉบับนี้เน้นเรื่องงานสร้างเราสร้างแบบที่สุดแล้วที่เราทำได้ แม้จะฉายในระบบสตรีมมิงแต่เราสร้างในรูปแบบภาพยนตร์ซึ่งจะให้พลังแก่ผู้ชม เพราะผู้ชมจะอยู่กับตัวละครไปเลย 2 ชั่วโมงกว่า มีตัวละครหลายความเชื่อ หลายสัญชาติ มีนักแสดงทั้งชาวไทยและต่างประเทศมาร่วมกัน นอกจากนี้เรายังใช้นักแสดงที่มีฐานผู้ชมชื่นชอบอยู่แล้วอย่างคุณวิกโก มอเทนเซน คุณโคลิน ฟาร์เรล หรืออย่างในไทยก็มีคุณเจมส์ คุณพลอย คุณตุ้ย พี่เวียร์ ผมคิดว่าทำให้กลุ่มคนที่ติดตามนักแสดงได้มาชมเรื่องราวนี้กันมากขึ้น อีกทั้งในส่วนออกแบบงานสร้าง และการเล่าเรื่องทางภาพยนตร์ในสเกลใหญ่แบบนี้ ทำให้เราสามารถทดลองทางเทคนิคได้เยอะด้วย
ทำงานกับผู้กำกับ รอน ฮาวเวิร์ด เป็นอย่างไรบ้าง
เวลาที่ทำงานผมจะรายงานกับคุณรอนโดยตรงและเป็นโอกาสที่ดีมากที่ได้พัฒนาตนเอง เรียนรู้จากผู้มีประสบการณ์ สิ่งหนึ่งที่ผมเรียนรู้จากคุณรอนอย่างมากคือเรื่องความเชื่อใจทีมงานและการดูแลทีมงานในแบบที่คนที่ทำงานด้วยกันสบายใจ และสามารถก้าวออกจากคอมฟอร์ตโซนของตัวเองเพื่อเต็มที่กับภาพยนตร์เรื่องนี้
ส่วนตัวสนใจอะไรในเหตุการณ์จริงของต้นเรื่องการกู้ภัยครั้งนี้
สิ่งที่ผมสนใจในเหตุการณ์นี้คือการร่วมมือในระดับนานาขาติ ในตอนแรกเหตุการณ์นี้อาจดูไม่ได้น่าสนใจระดับโลกมากนัก ผมเชื่อว่าทีแรกน้อง ๆ จะออกมาได้ภายในหนึ่งถึงสองวัน แต่พอไม่เป็นแบบนั้นสุดท้ายก็มีการช่วยเหลือจากนานาชาติแบบสึนามิหรือวิกฤตใหญ่ที่ได้รับการช่วยเหลือจากทั่วโลก และอย่างที่เห็นว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ได้รับความสนใจจากคนทั่วโลกมาก เป็นการนำประเทศไทยขึ้นมาจากแผนที่โลกอีกครั้งหนึ่ง
แพลตฟอร์มสตรีมมิงมีบทบาทในวงการภาพยนตร์ไทยมากขึ้น คุณมีความเห็นอย่างไร
เป็นความตั้งใจของ Amazon Prime ที่กระโดดเข้ามาอยู่ในภูมิภาคนี้เพราะเห็นถึงการเติบโตของผู้ชมอย่าง Thirteen Lives เรื่องนี้ใช้ภาษาไทยเยอะมาก นี่ก็เป็นส่วนหนึ่งแล้วที่น่าสนใจ ทั้งยังมีนักแสดงฮอลลีวูดระดับ A List มาอยู่ในหนังภาษาไทยและภาษาเหนือ รวมทั้งระดับงบประมาณการลงทุนสร้างและฝีมือของผู้กำกับหรือทีมสร้างเองก็น่าสนใจ ในฐานะผู้สร้างหนังเราจึงมองเห็นอนาคตที่ค่อนข้างดีของวงการภาพยนตร์ไทย การเติบโตของสตรีมมิงเป็นโอกาสอันดีที่จะมีคอนเทนต์ใหม่ ๆ ที่เกิดจากแพลตฟอร์มสตรีมมิงแบบนี้ เป็นโอกาสอันดีที่ผู้สร้างไทยจะได้ทำงานร่วมกับแพลตฟอร์มต่าง ๆ ทำให้ผู้สร้างชาวไทยมีโอกาสจะสร้างงานไปสู่สายตาชาวโลกได้เยอะขึ้น เพราะเวลาสตรีมก็จะปล่อยฉายพร้อมกันทั่วโลก
Fact File
- ชมภาพยนตร์ Thirteen Lives ได้แล้ววันนี้ใน Amazon Prime ทางแอปพลิเคชัน หรือเว็บไซต์ www.primevideo.com
- ติดตามผลงานของ วรกร ฤทัยวาณิชกุล ได้ที่ www.facebook.com/Vorakorn, IG: vork.co, Twitter: @vorakorn