The Secret Garden เพราะเราเติบโตและก้าวข้ามความเจ็บปวดในสวนลับ
- The Secret Garden : มหัศจรรย์ในสวนลับ ภาพยนตร์ดัดแปลงจากวรรณกรรมเยาวชนคสาสสิกชื่อเดียวกันของ ฟรานเซส ฮอดจ์สัน เบอร์เนทท์ (Frances Hodgson Burnett) ปัจจุบันฉบับแปลไทยโดย เนื่องน้อย ศรัทธา ได้รับการตีพิมพ์ออกมาใหม่โดย สำนักพิมพ์แพรวเยาวชน ในชื่อ “ในสวนลับ”
- The Secret Garden : มหัศจรรย์ในสวนลับ กำกับโดย มาร์ก มันเดน (Marc Munden) ผู้กำกับชาวอังกฤษเจ้าของ 2 รางวัลจากสถาบันภาพยนตร์อังกฤษ (BAFTA)เข้าฉายในไทย 3 กันยายน 2563
จากวรรณกรรมเยาวชนคสาสสิกสุดโด่งดังของ ฟรานเซส ฮอดจ์สัน เบอร์เนทท์ (Frances Hodgson Burnett) ที่แม้ตีพิมพ์ออกมาในนิตยสาร ดิ อเมริกัน แมกกาซีน (The American Magazine) ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1911 แต่ The Secret Garden ยังคงได้รับความนิยมจนถึงปัจจุบัน
แม้แต่ในไทยเอง The Secret Garden หนังสือฉบับแปลภาษาไทยก็เป็นหนังสือคลาสสิกตลอดกาลและล่าสุดได้รับการตีพิมพ์ออกมาใหม่โดย สำนักพิมพ์แพรวเยาวชน ส่วนในฉบับภาพยนตร์นั้นได้วิสัยทัศน์ของ มาร์ก มันเดน (Marc Munden) ผู้กำกับชาวอังกฤษเจ้าของ 2 รางวัลจากสถาบันภาพยนตร์อังกฤษ (BAFTA) มาถ่ายทอด ร่วมด้วยโปรดิวเซอร์มากประสบการณ์ในการปั้นโปรเจกต์ภาพยนตร์แฟนตาซีเยาวชนอย่าง เดวิด เฮย์แมน (David Heyman) โปรดิวเซอร์ผู้เข้าชิงรางวัลออสการ์ถึง 3 ครั้งและเป็นโปรดิวเซอร์ภาพยนตร์ที่สุดของปรากฏการณ์วรรณกรรมเยาวชนอย่าง แฮร์รี่ พอตเตอร์ ทั้ง 7 ภาค มาร่วมเนรมิตสวนลับครั้งใหม่นี้ให้สุดสะพรั่งตระการตา
The Secret Garden ฉบับภาพยนตร์ปี ค.ศ. 2020 นี้มีฉากหลังเป็นความคลาสสิกของประเทศอังกฤษในปี ค.ศ.1947 ท่ามกลางปัญหาทางอาณานิคมอย่างเหตุการณ์การแบ่งเขตแดนอินเดีย (Partition of India) หลังจากอังกฤษคืนประเทศอาณานิคมในส่วนของอินเดียทำให้เกิดข้อถกเถียงและปัญหาทางเขตแดนต่อมาระหว่างอินเดียกับปากีสถาน
เนื่องด้วยสถานการณ์ที่ตึงเครียดสำหรับครอบครัวชาวอังกฤษบางส่วนที่ต้องออกจากเขตที่เคยเป็นอาณานิคมของตน พ่อและแม่ของ แมรี เด็กหญิงผู้ชื่นชอบนิทานพาฝันถูกสังหารในสถานการณ์ที่วุ่นวายในประเทศอินเดีย แมรีผู้รอดชีวิตจึงเดินทางสู่การอุปการะของลุงคาเวน ชายวัยกลางคนผู้โศกเศร้าจากการที่เพิ่งสูญเสียภรรยาไป พร้อมกับการต้องเลี้ยงดู คอลิน เครเวน ลูกชายที่คาเวนเลี้ยงดุจถูกขังในกรงทองเพราะกลัวว่าจะเสียคอลิน ไปอีกคน
เมื่อมาถึงบ้านสุดโศกชองลุงคาเวน แมรีได้พบ “สวนลับ” ที่ถูกปิดตายอยู่ซึ่งในบริเวณเดียวกัน สวนวิเศษแห่งนี้จะเปลี่ยนสภาพของธรรมชาติต่าง ๆ ไปตามสถานการณ์ ผู้ที่เข้ามาในสวนจะได้รับประสบการณ์สุดพิเศษที่แตกต่างกันไป แต่กระนั้นแม้สวนนี้จะสวยงามขนาดไหน ทว่าภายใต้ความอัศจรรย์คืออดีตที่ยากจะลบลืม อย่างการตายของภรรยาลุงคาเวน การปิดสวนนี้จึงเป็นเหมือนการขังความลับและความเจ็บปวดทั้งหมดไว้ไม่ให้ถูกเปิดออกมาสู่โลกจริงตลอดกาล
The Secret Gardenหรือ สวนลับ ถูกชุบชีวิตพร้อมการมาของแมรี เด็กน้อยผู้รักในโลกพาฝันและเชื่อในมนต์ขลังของนิทาน แมรีได้รับการเลี้ยงดูมาอย่างผู้ดีอังกฤษ ทำให้ช่วงแรกของการมาอยู่กับลุงคาเวน เธอไม่เข้าใจการใช้ชีวิตต่าง ๆ ในบ้านของลุง
ที่คฤหาสน์ของลุงคาเวนเธอไม่มีคนรับใช้ ไม่มีอาหารดี ๆ และต้องอาบน้ำแต่งตัวด้วยตัวเอง แถมฝันร้ายยิ่งไปกว่านั้นคือถ้าเธอดื้อมาก เธอจะถูกขู่ให้ไป “โรงเรียน” สถานที่ที่น่ากลัวที่สุดสำหรับแมรี เพราะโรงเรียนจะเต็มไปด้วยข้อบังคับและกฎระเบียบ ซึ่งในความคิดของเธอ “กฏมีไว้เพื่อแหก”
ภาพยนตร์เรื่องนี้น่าสนใจตรงการเปรียบเปรยระหว่าง สวนลับที่ต้นไม้ใบหญ้าสามารถกลายสภาพตามจินตนาการของเด็ก ๆ อย่างอิสระกับโรงเรียนที่เป็นสถานที่ไว้ขู่ และดูน่ากลัวสำหรับเด็ก แมรีที่กลัวกฎก็คงเหมือนมนุษย์ทั่วไป กลัวการถูกลิดรอนเสรีภาพ และสำหรับเด็กที่ชอบนิทาน ชอบที่จะจินตนาการอย่างแมรี หากขาดซึ่งช่องว่างอันอิสระแบบสวนลับที่เธอสามารถจะเล่นน้ำวิ่งเล่น หรือจะนอนเฉย ๆ ปล่อยให้มดไต่มือโดยไม่ต้องทำอะไรมันก็คงน่ากลัวสำหรับเธอเลยทีเดียว
ทั้งการถูกขู่และการที่ต้องช่วยเหลือตัวเองทำให้ในช่วงแรกของการปรับตัวกับบ้านใหม่ แมรีหงุดหงิดไม่ชอบใจ จนเมื่อแมรีได้เจอกับ เจเรมีหมาหลงทางที่ไปเหยียบกับดักสัตว์จนขามีบาดแผลใหญ่ และดิกคอนเด็กชายปริศนาที่มาช่วยรักษาแผลของเจเรมีซึ่งเด็กทั้งสองและ หมา 1 ตัวในสวนลับแห่งนี้มีภารกิจคือการไปนำตัวคอลิน ลูกชายของลุงคาเวนผู้ที่ถูกเลี้ยงกักอยู่ในห้องจนเดินไม่ได้ให้ออกมาสู่ป่าวิเศษที่ช่วยให้ขาของบิลลี่มีแรงขึ้นได้บ้างเพราะบิลลี่ไม่ใช่เด็กพิการแต่กำเนิด แต่ถูกสอนให้เชื่อว่าเขาผิดปกติและเขานอนอยู่บนเตียงในบ้านจนไม่สามารถเดินเป็นปกติได้อีก
หลังจากเหตุการณ์ที่แมรีต้องทำอะไรต่อมิอะไรมากมายเธอก็พบว่าจริง ๆ การเป็นเด็กก็ทำได้ตั้งหลายอย่างตั้งแต่ ปีนรั้ว เปิดสวน ว่ายน้ำ ช่วยงัดกับดักช่วยหมา เธอก็เริ่มเข้าใจชีวิตว่าการมีชีวิตเป็นของตนเองเป็นอย่างไร ในจุดนี้จึงชวนให้เราคิดว่าการเลี้ยงเด็กคนหนึ่งให้เข้าใจโลกอาจไม่ใช่การสวมเสื้อผ้าให้ หาอาหารให้ แต่เป็นการปล่อยให้เด็ก ๆ ไปอยู่กับสวนวิเศษ สวนในจินตนาการของตนเองจนเติบโตขึ้นมาแข็งแรงและช่วยเหลือตัวเองได้อย่างที่แมรีเรียนรู้มาจากสวนลับนี้
ไม่เพียงการปลดล็อกชีวิตบางอย่างของแมรี แมรีเองยังคลายบาดแผลในใจของลุงคาเวนด้วย ในตอนหนึ่งลุงคาเวนผู้อยู่กับชีวิตของตนในบ้านโทรม ๆ ที่ถูกปล่อยจนเกือบร้างหลังภรรยาตายไม่ได้ ลุงคาเวนทิ้งข้าวของในบ้านไปเรื่อย ๆ จนท้ายที่สุดไม่รู้ว่าด้วยฝีมือลุงคาเวนหรือไม่บ้านหลังนี้ก็เกิดเหตุไฟไหม้ แมรีต้องไปช่วยลุงคาเวนที่พร้อมจะตายไปกับบ้านหลังนี้ออกมา และพาเขาไปดูสวนเพื่อให้กล้าเผชิญหน้ากับอดีตและยอมรับมันในฐานะความทรงจำที่ผ่านไปแล้วและการที่ลุงคาเวนได้เห็นคอลิน ที่มีกำลังขามากขึ้นจนสามารถเปลี่ยนจากการนั่งรถเข็นมาใช้ไม้เท้าค้ำยันเดินได้ระยะใกล้ ๆ ลุงคาเวนจึงเข้าใจในการปลดปล่อยบางอย่างให้ต้องผ่านไป ไม่ใช่ขังเก็บไว้ทั้งความรู้สึกจากการสูญเสียของตนและการเลี้ยงคอลิน ท้ายที่สุดจากกองไฟของบ้านหลังเก่าลุงคาเวนก็สร้างบ้านหลังใหม่ไว้อยู่กับเด็ก ๆ ผู้พบสวนลับ เด็กที่ยังมีจินตนาการและคิดถึงวันนี้ วันพรุ่งนี้ มากกว่าเมื่อวาน เมื่อลุงคาเวนเข้าใจ เด็กเหล่านี้ก็มีโอกาสเติบโตได้อย่างอิสระและงดงามในสวนลับที่เคยต้องห้ามสวนนี้
Fact File
- The Secret Garden เข้าฉายจริง วันที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2563 ในโรงภาพยนตร์
- The Secret Garden วรรณกรรมเยาวชนคผลงานการประพันธ์ของ ฟรานเซส ฮอดจ์สัน เบอร์เนทท์ (Frances Hodgson Burnett) ตีพิมพ์ครั้งแรกฉบับภาษาไทยเมื่อ พ.ศ. 2539 โดยใช้ชื่อ “ในสวนศรี” ปัจจุบันฉบับแปลไทยโดย เนื่องน้อย ศรัทธา ได้รับการตีพิมพ์ออกมาใหม่โดย สำนักพิมพ์แพรวเยาวชน โดยใช้ชื่อ “ในสวนลับ”