ปฏิบัติการกู้หวย : ว่าด้วยคนจนและเงินจรในนครแห่งเทพ
- ปฏิบัติการกู้หวย เป็นภาพยนตร์เรื่องใหม่ของ พฤกษ์ เอมะรุจิ ที่ถูกบรรจุอยู่ในลิสต์ภาพยนตร์ไทยหนึ่งในหกเรื่องจากโครงการภาพยนตร์ไทย “ทีไทยทีมันส์” ของ NETFLIX ที่ทยอยลงโปรแกรมสตรีมตั้งแต่ธันวาคม 2565 ยาวไปจนถึงปี 2566
- ปฏิบัติการกู้หวย ปล่อยตัวอย่างด้วยซีนความฮา ความขำ ทว่ากลับสะท้อนให้เห็นถึงความเหลื่อมล้ำสูงอันเป็นปัญหาหลักของประเทศไทย นำเรื่องหวยที่ไม่ว่าชนชั้นไหนก็คุ้นชินมาเล่าในคราบของภาพยนตร์ตลก (แบบร้ายๆ)
หากเอ่ยถึงภาพยนตร์ไทยแนวคอมเมดีเรียกเสียงฮา แน่นอนว่าต้องมีชื่อ พฤกษ์ เอมะรุจิ เป็นลิสต์ผู้กำกับความฮามือทองที่มีเอกลักษณ์เฉพาะในการกำกับภาพยนตร์ชนิดตลกแม่นจังหวะ พร้อมกับการหมั่นนำเรื่องราวการต่อสู้ดิ้นรนของคนหาเช้ากินค่ำในสังคมไทยมานำเสนอ เช่นเรื่อง ไบค์แมน ศักรินทร์ตูดหมึก ที่เล่าเรื่องรักระหว่างวินมอเตอร์ไซค์และพนักงานธนาคาร ซึ่งนี่ถือเป็นหนึ่งในจุดน่าสนใจสำหรับภาพยนตร์ที่มีชื่อของพฤกษ์กำกับอยู่เลยทีเดียว เพราะเขามักจะเลือกตัวละครเอกหาเช้ากินค่ำเป็นผู้ดำเนินเรื่องเพื่อฉายให้เห็นความทุกข์และการถูกกดทับจากสังคมที่เหลื่อมล้ำทั้งมิติเศรษฐกิจในครัวเรือนไปจนถึงนามธรรมอย่างความรักที่ล้วนได้รับผลกระทบจากสังคมที่เหลื่อมล้ำสูงในประเทศไทย และการฉายภาพสังคมไทยแบบตลกร้ายๆ ของพฤกษ์ได้กลับมาอีกครั้งใน ปฏิบัติการกู้หวย (The Lost Lotteries) กับเรื่องราวของขบวนการหาเช้ากินค่ำกับทัพตัวละครสุดจัดจ้านมากถึง 5 ตัวละครที่จะมาร่วมภารกิจแก้ชีวิตสู้กลับเพื่อกอบกู้ “หวยรางวัลที่ 1” ซึ่งถูกไถฉกไปให้กลับมาเป็นรางวัลใหญ่ของชีวิตในเมืองหลวงศิวิไลซ์ของพวกเขาอีกครั้ง
“หรือในเสียงหัวเราะจะมีน้ำตาซ่อนอยู่” ว่าด้วยความสมจริงระหว่างภาพยนตร์และโลกแห่งความจริง
ปฏิบัติการกู้หวย เล่าเรื่องของ 5 ตัวละครหลัก เต ลูกชายของแม่ค้าขายหวย เหวิ่น นักแสดงประกอบฉากที่มักปรากฏในภาพยนตร์เรื่องนั้นๆ เพียงฉากเดียว บีท ลูกสาวช่างซ่อมกุญแจที่พ่อถูกลูกคนรวยขับรถชนและตามธรรมเนียมอาชญากรมีท่าทีว่าจะรอดพ้นจากคดี โซ่ พริตตีสาวผู้มีความฝันอยากเก็บเงินทำหน้าอก เพราะเข้าใจว่าสิ่งนี้คือตัวแปรทำให้งานการของตนดีขึ้นจนมีเงินมาเลี้ยงปากท้องของเธอและน้องชาย และ คุ้ง ปัจจุบันเป็นนักขายของใช้ในครัวเรือน แต่อดีตคือนักมวยนวมหนักชนะ 2 ครั้งซ้อนแต่หลังจากนั้นเขาก็ไม่เคยชนะใครอีกเลย เขาจึงฝันอยากกลับไปคืนสังเวียนอย่างมีเกียรติอีกครั้งในครั้งที่ 3
ทั้งห้าตัวละครได้ยกระดับการสะท้อนวิถีชีวิตความเหลื่อมล้ำสูงในเขตเมืองหลวง “กรุงเทพมหานคร” ออกมาอย่างหลากหลายมิติทั้งคุณภาพชีวิตบนท้องถนนที่ไม่เคยมีคุณภาพในฉากที่แม่เตจากแม่ค้าหวยเดินขายทั่วเมืองจนมาเดินตกท่อระบายน้ำกลางถนนกลายเป็นอุบัติเหตุที่ทำให้ไม่สามารถเดินเหินได้คล่องจนเธอต้องนั่งเย็บผ้าขายแทน ชีวิตของเธอเปลี่ยนไปเพียงท่อที่ลืมปิดฝาให้สนิทปลอดภัยบนถนนของกรุงเทพฯ ท่อเดียวโดยไม่มีการเยียวยาชดใช้จากหน่วยงานใดทั้งสิ้น นอกจากนี้ยังมีประเด็นอาชีพการงานที่ไม่พอเลี้ยงปากท้องให้สุขสบายของโซ่ ซึ่งถูกพ่อและแม่ทิ้งไปให้เธอและน้องชายต้องใช้ชีวิตอยู่กับยายตามธรรมเนียมปฏิบัติของครัวเรือนชนชั้นล่างค่อนไปทางล่างเกือบตกขอบในยุคนี้ และหลังยายเสียชีวิตภาระค่าใช้จ่ายของน้องจึงตกอยู่กับเธอไม่ว่าจะค่าใช้จ่ายทั่วไปและค่าเล่าเรียน และตามสูตรสำเร็จของรายการวงเวียนชีวิตยอดนิยม ชีวิตวัยเรียนของน้องชายโซ่ในเมืองที่ไร้สวัสดิการแห่งนี้จะไม่มีทางเป็นไปได้เลยหากโซ่ไม่ออกไปทำงาน นั่นเป็นสิ่งที่ขีดมาแล้วว่าเธอต้องเลือก
หรือจะเรื่องของบีทที่สะท้อนให้เห็นถึงปัญหาระบบความยุติธรรมในประเทศไทยผ่านซีนตลกร้ายที่ตลกจนเกือบร้องไห้กันเลยทีเดียว เมื่อเธอไม่มีเงินค่าทนายในการต่อสู้เรียกร้องให้ลูกเศรษฐีผู้ขับรถชนพ่อเธอชดใช้การกระทำผิดครั้งนี้ จนเธอเอ่ยปากว่าต่อให้มีเงินค่าทนาย แต่ถ้าเงินนั้นน้อยกว่าลูกเศรษฐี สุดท้ายเธอก็อาจแพ้คดีอยู่ดี
หากลองคิดตามในเชิงภาพยนตร์เรื่องเล่าของ 5 คนนี้จะไม่สมจริงเลยหากประเทศไทยไม่เคยมีเรื่องจริงบางเรื่องเกิดขึ้นขนานกันไป มีอย่างที่ไหนคนขับรถชนคนจะไม่ผิด? แต่เมื่อโลกภาพยนตร์ดันทับซ้อนกับโลกเบี้ยวๆ ที่มีอยู่จริงในไทย ผู้ชมคงตระหนักได้ว่าคำพูดของตัวละครนี้ช่างดูสมเหตุสมผล ความพิลึกพิลั่นในภาพยนตร์เรื่องนี้จึงหยอกล้อกับโลกแห่งความเป็นจริงอย่างแนบเนียน ตรงกันข้ามถ้าเรื่องราวในภาพยนตร์เรื่องนี้ฉายในประเทศที่รักชีวิตคนพอที่จะทำให้คนมีคุณภาพชีวิตและชูความยุติธรรมเป็นแกนหลักสังคม เรื่องราวของตัวละครเหล่านี้คงตลกเพ้อฝันและดูเพี้ยนมาก ทว่าเมื่อผู้ชมตระหนักได้ว่าเรื่องราวเหล่านี้มันช่างสมจริง ปฏิบัติการกู้หวย ก็จะกลายเป็นตลกร้ายที่บางฉากก็แทบอยากจะร้องไห้สะอึกสะอื้น
ราคาของการเลือกเกิดไม่ได้
“ผมไม่แน่ใจว่าอันไหนทำผมเจ็บกว่ากัน ระหว่างหมัดของไอ้หมีหรือบ้านผมไม่มีของมีค่าอะไรเลย”
นี่คือความนึกคิดของ เต ขณะที่เขาถูกหมัดของ หมี นักทวงเงินมืออาชีพที่มาทวงหนี้สินของแม่ตน และเมื่อนักทวงเงินบุกค้นบ้านแล้วไม่พบของมีค่าใดๆ สักชิ้น สมบัติทั้งหมดของครอบครัวเตสำหรับหมีมีเพียงแผงสลากกินแบ่งรัฐบาลเท่านั้น เตจึงย้อนคิดถึงการครอบครองทรัพย์สินของครอบครัวตนว่าไม่มีเลยจริงๆ
หากย้อนกลับไปตอนที่เด็กน้อยเตคลอดจากท้องแม่ เขาได้ถือกำเนิดบนโลกนี้อย่างอุบัติเหตุเพราะแม่ของเขาตั้งใจแล้วว่าจะฆ่าตัวตายด้วยการกินน้ำยาสารเคมีที่มีพิษต่อร่างกาย แต่เธอไม่ตายและหนำซ้ำยังคลอดเตออกมาอีก ชีวิตของสองแม่ลูกคู่นี้จึงเป็น ชีวิตที่ไม่ได้เลือก เลือกตายแล้วไม่ได้ตาย เลือกไม่อยากให้เกิดแต่ดันเกิดมา ทุกอย่างดูผิดพลาดไปมหด ความเป็นอยู่ของครอบครัวเตจึงกระท่อนกระแท่นมาตลอดตั้งแต่เขาจำความได้ โดยในเรื่องความผิดพลาดนั้น ช่วงแรกเริ่มของภาพยนตร์ก็พูดถึงมุมนี้ด้วยการนำเสนอความผิดพลาดทางอุดมคติของสังคมในระบบเศรษฐกิจทุนนิยมเสรีนิยมใหม่ที่มีปัญหาความเหลื่อมล้ำทั้งในไทยและหลายประเทศ จากอุดมคติทำมากได้มากของกลไกตลาดเสรีที่นำสังคมลงหุบเหวแห่งการเก็บสะสมทรัพยากร โดยเฉพาะหลายประเทศที่ไม่ได้ออกแบบกฎหมายแบบรัฐสวัสดิการเช่นประเทศไทย ทั้งที่ความจริง “การเกิดผิดท้อง” หรือ “การมีชีวิตแบบไม่ได้เลือก” ไม่ควรเป็นปัจจัยหลักในการกำหนดชีวิตทั้งชีวิตของมนุษย์คนหนึ่งเลยด้วยซ้ำ การเก็บสะสมทรัพยากรทำให้ความเหลื่อมล้ำเกิดขึ้นและยิ่งขยายช่องว่างมากขึ้นจากการสะสมไว้ในเครือข่ายของนายทุนเอง ซึ่งระบบสายตระกูลยิ่งสืบทอดความมั่งมีให้กระจุกอยู่ทั้งในระดับครอบครัวและเครือข่ายต่อไปไม่จบสิ้น การที่เกิดมาไม่เท่ากันนำไปสู่คุณภาพชีวิตไม่เท่ากันซึ่งประเด็นนี้ถูกตอกย้ำอีกทีในช่วงของบีท พ่อของเธอถูกรถชนจนทำให้เธอลำบากต้องออกมาทำงานหาเงินเลี้ยงตนเองจนเสียโอกาสทางการศึกษาที่เป็นส่วนสำคัญของชีวิต แต่ลูกเศรษฐีที่มีทรัพยากรมีเงินและดำเนินการจ้างทนายเก่งดำเนินคดีกลับสุขสบายไม่ต้องเสียคุณภาพชีวิตแม้แต่เสี้ยวเดียวแต่อย่างใด ปัญหาทางเศรษฐกิจที่ถูกฉายในปฏิบัติการกู้หวยจึงไม่ใช่เพียงแค่ปากท้องของคนคนหนึ่ง แต่มันหมายถึงทั้งหมดในระบบคุณค่าของมนุษย์ในสังคมที่นำมาซึ่งการได้และการเสียโอกาสอีกมากมาย
ส่วนราคาที่ต้องจ่ายของความจนมันคือชีวิตที่ไม่มีทางเลือกในชีวิตตั้งแต่ที่อยู่จนถึงอาหารและอาชีพสะท้อนให้เห็นในช่วงของคุ้งและเหวิ่น ตัวละครวัยกลางคนที่ไม่อาจสำเร็จความฝันของตนได้จากการที่ต้องหาเลี้ยงปากท้องเป็นกิจวัตรจนทั้งคู่ไม่มีโอกาสที่จะไต่ขึ้นสู่ความฝันแห่งปัจเจกบุคคล เขาทั้งสองจึงต้องการเงินอย่างน้อยที่สุดก็เพื่อขยายเวลาว่าง เพื่อพัฒนาศักยภาพต่างๆ เพื่อบรรลุความฝันไม่ว่าจะการฝึกต่อยมวยของคุ้งและการเข้าถึงโอกาสในบทบาทมากกว่าตัวประกอบของเหวิ่น
“แผนมันบ้าบอไปแล้ว แล้วอะไรไม่บ้าบอบ้าง การที่เราเกิดมาจน แม่เดินตกท่อ พ่อทิ้งเราไป”
เหตุผลในการโต้เถียงของเตกับแม่เมื่อเตมีแผนชิงหวยรางวัลที่ 1 กลับมาจากการโดนไถโดยหมีเนื่องจากแม่ติดเงินเจ้านายของหมีไว้ การสู้หลังชนฝาของเตและอีกสี่คนใน ปฏิบัติการกู้หวย จึงเป็นเหมือนไม้สุดท้ายยอมตายฝ่ากระสุนยังจะดีเสียกว่า เพราะตอนนี้พวกเขาก็เสมือนตายทั้งเป็นอยู่ในชีวิตประจำวันที่เสมือนซวยซ้ำซากอย่างบ้าบอ แต่ความซวยเหล่านั้นเป็นชะตาจริง หรือเพียงแค่พวกเขาจนจึงต้องประสบกับราคาความซวยต่างๆ ที่พวกเขาต้องจ่าย หากครอบครัวเตมีเงิน หากแม่ไม่ต้องเดินขายหวยแม่เตจะตกท่อหรือไม่ หรือหากไม่ต้องยืมเงินนอกระบบ หน้าของเขาจะต้องปะทะหมัดของหมีหรือไม่ แน่นอนว่าความทุกข์ของเตเกิดจากราคาของความจน และตอนนี้เขาขอไม่ทนอีกต่อไป เขาจึงวางแผนครั้งใหญ่เพื่อโจรกรรมหวย…ความหวังสุดท้ายที่มันควรจะเป็นรางวัลในชีวิตจนๆ ของเขากลับมา
“เราควรใช้ชีวิตอยู่ในโลกบ้าบอนี้โดยที่มีเงิน 6 ล้านไว้ในกระเป๋า”
เตพูดกับแม่เมื่อเริ่มแผนการครั้งใหญ่อันเป็นจุดเริ่มต้นของอันตรายเสี่ยงตายทั้งหมดในภารกิจนี้ แน่นอนว่าในโลกบ้าบอที่ความยุติธรรมยังใช้เงินซื้อ “เงิน” จึงเป็นปัจจัยเดียวที่เขาจะต้องมีเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของเตและทุกคนในขบวนการ
“ไอติมหลักสิบ วิวหลักล้าน”
เตพูดกับบีทบนยอดตึกซึ่งต่ำกว่าตึกอีกมากในมหานครกรุงเทพและคุยกันว่าพวกเขาไม่มีทางรู้จักคนบนตึกสูงเหล่านั้นเลยและอยากรู้ว่า “พวกคนบนนั้นที่เขาและเธอแหงนมองจะมีชีวิตอย่างไร มีความทุกข์บ้างไหม หรือมีชีวิตพังๆ แบบพวกเขาบ้างไหม…” ฉากนี้ฉายภาพให้เห็นถึงความเหลื่อมล้ำสุดจินตนาการของหนุ่มสาวทั้งสองในสังคมที่เหลื่อมล้ำสูงจนแทบจินตนาการถึงฝั่งมั่งมีและฝั่งยากจนไม่ออกว่ามันต่างกันอย่างไร หากไม่ได้อยู่ตรงจุดนั้นของระบบเพราะการรวยหรือจนไม่ใช่เพียงเงินในกระเป๋าแต่คือทั้งชีวิต สังคม และความเป็นไปได้อื่นๆ ในชีวิตไปจนถึงเชิงนามธรรมอย่าง “ความทุกข์”
แผน ปฏิบัติการกู้หวย ดำเนินด้วยความหวังของทุกตัวละครจากทั้งความต้องการการมีอยู่ที่ดีขึ้น ความกระหายความยุติธรรม ความใฝ่ฝันในชีวิตที่ล้วนมีราคาที่พวกเขามีไม่พอจ่าย มันไม่มากเกินไปแต่คำถามสำคัญคือ คุณค่าที่พวกเขาร้องขอทำไมสังคมถึงไม่สามารถมีให้พวกเขาได้ สวัสดิการทางสังคมหรือการจัดการระบบเศรษฐกิจและการเมืองที่ล้มเหลวทำให้ภารกิจพิชิตหวยเสี่ยงตายต้องเกิดขึ้น เพียงเพราะคนที่อยากมีชีวิตขั้นพื้นฐานที่ดีอย่างความยุติธรรม เงินเลี้ยงปากท้อง ค่าเทอมน้อง ความฝันทางการกีฬาและศิลปะการแสดง ความเป็นอยู่พื้นฐานเหล่านี้มันเสมือนความฝันที่้เป็นไปไม่ได้เลยสำหรับพวกเขา ดังนั้น “โชค” จึงดูเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดแล้วเพราะมันอาจพลิกชะตากรรมจากหน้ามือเป็นหลังมือได้ โชคจึงเป็นสิ่งที่ทำให้ทุกคนไม่เท่ากันเพราะคนต้องโชคดีเท่านั้นถึงจะมีโชค หากไม่มีโชคก็ต้องทุกข์ทนต่อไป โชคจึงแสดงให้เห็นถึงความเหลื่อมล้ำในระดับความเชื่อที่ว่าแต่ละคนมีไม่เท่ากัน การถูกหวยอันแปลว่า “โชคดี” จึงเหมือนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ไม่ได้มีพลังในวัตถุเองแต่เพราะระบบที่มีราคาที่ต้องจ่ายสูงการลุ้นเสี่ยงดวงจึงสำคัญกับชีวิตที่ยากไร้อย่างมากและเป็นอีกหนึ่งขั้นบันไดที่ผู้คนจะไต่ขึ้นได้ในโลกที่การทำมากไม่ได้หมายความว่าจะมั่งมีมากขึ้น
ปฏิบัติการกู้หวย จึงมอบมุมมองแผลใหญ่ของสังคมไทยพร้อมทั้งการกระตุ้นให้คิดว่าหากจะกู้ชีวิตผู้คนทั้งหมดให้ดีขึ้นเรามีวิธีหรือไม่อย่างไร และเมื่อหลังชนฝาชีวิตเราควรค่าแก่การต่อสู้ขนาดไหนเพื่อการกอบกู้ความเป็นมนุษย์ที่เท่าเทียมในการเข้าถึงทรัพยากรเพื่อชีวิตที่มีมาตรฐานอย่างไม่ต้องพึ่งดวงทั้งจากการกำเนิดในท้องใครหรือการลุ้นหวยสักใบเพื่อเปลี่ยนชีวิต แต่ทุกคนมีชีวิตเป็นของตัวเองได้อย่างเท่าเทียมกันทั้งสังคม…อย่างน้อยก็เพื่อที่จะไม่ต้องมีใครมาเสี่ยงตายเพราะกู้หวยใบเดียว ไม่ต้องมีใครถูกรถชนและคู่กรณีไม่ต้องรับผิดชอบ ไม่ต้องมีใครมีอาญาสิทธิ์ดุจเทพสูงกว่าคนอื่น ไม่ต้องมีใครอดอยาก ไม่ต้องมีใครถูกเลือกปฏิบัติและไม่ต้องมีใครสูญเสียความปรารถนาที่จะมีชีวิตในแบบของตนเองอย่างที่เราเห็นอยู่ตลอด1 ชั่วโมง 46 นาทีในภาพยนตร์ ปฏิบัติการกู้หวย เรื่องนี้
Fact File
- สามารถรับชม ปฏิบัติการกู้หวย ได้แล้ววันนี้ทาง NETFLIX
- พฤกษ์ เอมะรุจิ เป็นหนึ่งในผู้กำกับแถวหน้าของวงการภาพยนตร์ไทย โดดเด่นจากผลงานฮิตที่สร้างรอยยิ้มและเสียงหัวเราะให้แก่ผู้ชมจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็น อีเรียมซิ่ง, ไบค์แมน ศักรินทร์ตูดหมึก และ ไบค์แมน 2 ซึ่งล้วนทำรายได้ครอง Box Office และติดอันดับ Netflix Top 10 ในประเทศไทยมาแล้ว