Parasite : ชนชั้นปรสิต ที่นำชนชั้น ความไม่เท่ากัน มาเสียดสีสังคมได้อย่างเข็ดฟัน
- ก่อนคว้ารางวัลบนเวทีออสการ์ถึง 4 รางวัลใหญ่ ชนชั้นปรสิต (Parasite) ก็ได้คว้ารางวัลภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศ บนเวทีลูกโลกทองคำ ครั้งที่ 77 ประจำปี 2020 มาครองได้ หลังจากเป็นภาพยนตร์เกาหลีเรื่องแรกที่คว้ารางวัลปาล์มทองคำ ซึ่งเป็นรางวัลที่ใหญ่ที่สุดจากเมืองคานส์มาครองได้เมื่อปี 2019
- ชนชั้นปรสิต เป็นหนึ่งในภาพยนตร์ที่กวาดคำวิจารณ์บวกอย่างท่วมท้น ผลงานการกำกับของ บง จุนโฮ ผู้ที่วิพากษ์สังคมผ่านหนังมาอย่างต่อเนื่อง
- ชนชั้นปรสิต ยังสามารถกวาดรางวัลใหญ่ในฝั่งเกาหลีอย่าง 56th Grand Bell Awards ได้ถึง 5 รางวัล คือ ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ผู้กำกับยอดเยี่ยม นักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม บทยอดเยี่ยม และดนตรียอดเยี่ยม
Parasite หรือ ชนชั้นปรสิต หนังเกาหลีและหนังภาษาต่างประเทศเรื่องแรกที่สามารถคว้ารางวัล ออสการ์ สาขา ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม (Best Picture) และอีก 3 สาขา ในงานประกาศผลรางวัลอคาเดมีอวอร์ดครั้งที่ 92 หรือ รางวัลออสการ์ ที่มอบสำหรับผลงานภาพยนตร์ในสหรัฐอเมริกา หรือ ฮอลลีวูด จัดโดยสถาบันศิลปะและวิทยาศาสตร์ภาพยนตร์ (The Academy of Motion Picture Arts and Sciences) ที่โรงภาพยนตร์ Dolby Theater ลอสแอนเจลีส สหรัฐอเมริกา เมื่อวันอาทิตย์ที่ 9 กุมภาพันธ์ (ตรงกับช่วงเช้าของวันจันทร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ ตามเวลาประเทศไทย) จากทั้งหมด 24 รางวัล
ภาพยนตร์เรื่อง Parasite ผลงานการสร้างของทีมสร้างภาพยนตร์เกาหลีใต้ นำโดยผู้กำกับและมือเขียนบท บงจุนโฮ (Bong Joon Ho) เนื้อหาสะท้อนความเหลื่อมล้ำทางชนชั้น เป็นหนังดราม่าผสมตลกร้ายชนิดแบล็คคอมเมดี้ ที่สามารถกวาดรางวัลอย่างยิ่งใหญ่ สามารถชนะใจกรรมการออสการ์กว่าห้าพันคนที่เป็นบุคลากรทุกภาคส่วนในวงการภาพยนตร์ทั้งฮอลลีวูด และบางส่วนจากนานาชาติร่วมกันโหวตให้
Parasite สร้างประวัติศาสตร์ให้กับวงการภาพยนตร์ กับการเป็นภาพยนตร์ที่ไม่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลักในการสนทนา เรื่องแรกในรอบ 92 ปีที่คว้ารางวัล รางวัลใหญ่ที่สุดของงาน รวม 4 สาขา ได้แก่
- รางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยม (Best Picture)
- รางวัลผู้กำกับภาพยนตร์ยอดเยี่ยม (Best Director)
- รางวัลภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศยอดเยี่ยม (Best International Feature Film)
- รางวัลบทภาพยนตร์ดั้งเดิมยอดเยี่ยม (Best Original Screenplay)
ผู้ชนะสดุดีคนในวงการภาพยนตร์
บงจุนโฮ ทั้งในฐานะผู้กำกับและผู้อำนวยการผลิต Parasite ได้กล่าวบนเวทีออสการ์เมื่อขึ้นรับรางวัล ผู้กำกับยอดเยี่ยม หรือ Best Director (ผ่านล่ามแปลเกาหลี-อังกฤษ) ว่า
“ตอนที่ผมยังหนุ่มเป็นนักศึกษาภาพยนตร์อยู่ มีคำพูดหนึ่งที่ผมจำไว้ฝังใจคือ ‘สิ่งที่เป็นตัวเราที่สุดคือสิ่งที่สร้างสรรค์ที่สุด’ และคำพูดนั้นมาจากปรมาจารย์ มาร์ติน สกอร์เซซี ของเรานี่ล่ะครับ”
มาร์ติน สกอร์เซซี ผู้กำกับระดับตำนานของอเมริกัน ซึ่ง บงจุนโฮ อ้างอิงถึงคือ ผู้กำกับระดับตำนานของอเมริกัน ซึ่งวันนี้ สกอร์เซซี ก็อยู่ในงานออสการ์ และเข้าชิงรางวัลพร้อมกับผลงานภาพยนตร์ล่าสุดที่หวนคืนสู่หนังเกี่ยวกับมาเฟียของเขา The Irishman สร้างโดย Netflix
ในช่วงรับรางวัลผู้กำกับยอดเยี่ยมนี้ผู้กำกับบงจุนโฮยังพูดต่ออีกว่า ตอนเขาเป็นนักเรียนภาพยนตร์เขาได้ศึกษางานของ สกอร์เซซี และได้เอ่ยถึงผู้กำกับอีก 3 ท่านที่ได้เข้าชิงสาขานี้อย่าง เควนติน ทาแรนติโน จาก Once Upon a Time in Hollywood ว่า
“เมื่อคนดูในอเมริกาไม่ค่อยคุ้นกับหนังของผมสักเท่าไร เควนตินเป็นคนที่มักพูดถึงหนังของผมเสมอ และเขาก็อยู่ที่นี่ด้วย ขอบคุณมากๆ และ (พูดอังกฤษ) เควนติน ไอเลิฟยู (ผมรักคุณ) ”
ก่อนจะทิ้งท้ายด้วยการกล่าวถึง ทอดด์ ฟิลิปป์ ผู้กำกับอีกคนที่เข้าชิงจากเรื่อง Joker และ แซม เมนเดส ผู้กำกับจากเรื่อง 1917
“สำหรับทอดด์และแซม ผู้กำกับที่ผมนับถือ ถ้าทางผู้จัดออสการ์อนุญาต ผมอยากเอาเลื่อยเท็กซัส (Texas chainsaw*) มาตัดตุ๊กตาออสการ์เป็น 5 ส่วน และแบ่งกับทุกคนเลย”
ย้อนไปก่อนที่จะสามารถคว้าชัยในเวทีออสการ์ บงจุนโฮ เป็นผู้กำกับที่สั่งสมผลงานที่เข้าตาผู้ชมและเวทีรางวัลมากว่า 20 ปี เมื่อถูกสื่อมวลชนในห้องแถลงข่าวหลังรับรางวัลออสการ์ถามถึงงานของคนทำหนังชั้นครูของเอเชียที่เขายกย่อง และสร้างอิทธิพลให้กับเขา เขาได้เอ่ยถึงชื่อของ Kim Ki-young นักทำหนังชั้นครูของเกาหลีในยุค 60-70 ซึ่งเป็นผู้กำกับ The Housemaid โดยบงจุนโฮได้ให้เครดิต Martin Scorsese Foundation มูลนิธิที่ทำงานอนุรักษ์ภาพยนตร์ของ มาร์ติน สกอร์เซซี ที่ปัดฝุ่นหนังดีของเกาหลีอย่าง The Housemaid ด้วยการรีสโตร์ใหม่ด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล และนำออกเผยแพร่สู่ชาวโลกอีกครั้ง
นอกจากนี้ยังมีผู้กำกับรุ่นครูของเอเชียที่ บงจุนโฮ ยกย่องอีกหลายคนรวมถึง ปรมาจารย์หนังญี่ปุ่น Imamura Shohei, Kiyoshi Kurosawa และกลุ่มคนทำหนังไต้หวัน Taipei New Wave ที่มีชื่อของ โหวเสี่ยวเชี่ยน ( Hou Hsiao-Hsien) และ เอ็ดเวิร์ด หยาง ( Edward Yang) รวมอยู่ในนั้น บงจุนโฮ บอกว่า “พวกเขาทำหนังออกมาสวยเสมอ ผมชื่นชมมากๆ”
บทหนังเยี่ยมที่เขียนขึ้นด้วยความภูมิใจของคนทำหนังเกาหลี
อีกหนึ่งรางวัลสำคัญสำหรับ Parasite คือ รางวัลบทภาพยนตร์ดั้งเดิมยอดเยี่ยม ซึ่ง บงจุนโฮ ร่วมกับ ฮันจินวอน (Han Jin Won) เขียนบทภาพยนตร์เรื่องนี้ที่ต่อมาได้กลายเป็นบทวิพากษ์สังคมที่มีความเหลื่อมล้ำระหว่างคนจนกับคนรวย
บงจุนโฮ กล่าวย้ำว่า เขาไม่เคยเขียนบทภาพยนตร์เพื่อเป็นภาพตัวแทนของประเทศ แต่รางวัลนี้ถือเป็นรางวัลออสการ์รางวัลแรกสำหรับเกาหลีใต้ ส่วน ฮันจินวอน ผู้ร่วมเขียนบท ได้เอ่ยถึงอุตสาหกรรมหนังของเกาหลีใต้ว่า เหมือนที่อเมริกามีฮอลลีวูด ที่เกาหลีก็มี จองมูโร (Chungmuro**) และขอแบ่งปันเกียรติยศนี้กับนักเล่าเรื่องและคนทำหนังทุกคนที่ จองมูโร
ชัยชนะของเกาหลีและเอเชีย
แน่นอนว่าชัยชนะของหนังพูดภาษาอื่นในศูนย์กลางอุตสาหกรรมภาพยนตร์โลกอย่างฮอลลีวูด ของสหรัฐอเมริกา ที่จวนเจียนจะเสียแชมป์ตัวเลขรายได้ในการเก็บเงินค่าตั๋วผู้ชมในโรงภาพยนตร์อันดับหนึ่งของโลกให้กับจีนเข้าไปทุกทีแล้วนั้น เป็นสัญญานบ่งบอกการเปิดประตูเปิดใจรับภาพยนตร์โลก ที่รอคอยกันมา 9 ทศวรรษของงานรางวัลนี้เลยทีเดียว
ทั้งนี้ CJ Entertainment จากเกาหลีใต้ได้สรุปตัวเลขรางวัลนับแต่ Parasite เปิดรอบปฐมทัศน์ที่ เทศกาลหนังนานาชาติเมืองคานส์ ประเทศฝรั่งเศส เมื่อเดือนพฤษภาคม 2019 และคว้ารางวัลปาล์มทองมาครอง หนังก็ได้รับเชิญไป 57 เทศกาล และคว้ารางวัลมาแล้ว 55 รางวัล ก่อนจะได้อีก 4 รางวัลจากเวทีออสการ์ ซึ่งในสาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม (Best Picture) Parasite ชนะคู่แข่งอย่าง Ford v Ferrari, The Irishman, Jojo Rabbit, Joker, Little Women, Marriage Story, Once Upon a Time in Hollywood และ 1917
บงจุนโฮ ทิ้งท้ายในห้องสื่อมวลชนหลังเวทีรางวัลออสการ์ ว่าชัยชนะครั้งนี้เป็นสัญญานที่ดีสำหรับวงการภาพยนตร์โลกโดยรวม
“การที่เราได้รางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยม Best Picture หมายถึง หนังเรื่องนี้ได้รับการโหวตจากสมาชิกของสถาบันศิลปะและวิทยาศาสตร์ภาพยนตร์ และผมพบว่านั่นคือสัญญานแสดงถึงการเริ่มต้นสู่การเปลี่ยนแปลงสำหรับภาพยนตร์นานาชาติ ไม่ใช่แค่ภาพยนตร์เกาหลี ด้วยเหตุนี้ผมคิดว่ามันคงเยี่ยมสุดๆ ถ้าได้ และเราก็ได้รางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมจริงๆ”
ฉลองรางวัลใหญ่
ผู้กำกับ บงจุนโฮ ได้ทิ้งท้ายค่ำคืนแห่งความสำเร็จ หลังจากที่ขึ้นรับรางวัลสุดท้าย รางวัลใหญ่ที่สุดของงาน ในสาขา ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม (Best Picture) โดยเขาได้กล่าวติดตลกให้บรรดาผู้กำกับและดาราทั่วฟ้าฮอลลีวูดที่มาร่วมงานประกาศและมอบรางวัลออสการ์ครั้งที่ 92 เป็นภาษาอังกฤษว่า “ขอบคุณครับ เป็นเกียรติอย่างสูง ..ขอบคุณครับและคืนนี้ผมพร้อมจะดื่มไปยันสว่างเลย ขอบคุณครับ”
ก่อนหน้านี้ บงจุนโฮ เคยให้สัมภาษณ์ (กับ Jen Yamato, Los Angeles Times, 16 มกราคม 2020) ว่า สิ่งแรกที่เขาทำตอนฉลองข่าวดีที่รู้ว่าได้เข้าชิงออสการ์ 6 สาขา นั้น คือไอศครีม กินไอติมแทนข้าวเกาหลี และเมื่อได้ออสการ์มา 4 ตัวแล้ว บงจุนโฮ ที่ควบทั้งตำแหน่งโปรดิวเซอร์ เขียนบทและกำกับ ของ Parasite ก็ประกาศบนเวที
“คืนนี้จะดื่มฉลอง ยันสว่างแน่นอน”
หมายเหตุ
*Texas chainsaw อ้างอิงถึงหนังคัลท์สยองขวัญอเมริกันแนวเชือดเลือดสาดคลาสสิก เรื่อง The Texas chainsaw Massacre
**Chungmuro หรือ จองมูโร ที่มือเขียนบทกล่าวถึง คือแหล่งกำเนิดอุตสาหกรรมหนังเกาหลี ที่รุ่งเรืองมากๆ ในยุค 60 เรียกว่าถ้าอเมริกามีฮอลลีวู้ด เกาหลีก็มี จองมูโร ชื่อที่ได้มาจากถนนสายหนึ่งอยู่ทางเหนือของสวน Namsan Park ในกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ อยู่ห่างจากสถานีรถไฟใต้ดิน Chungmuro Station ราว 5 นาที อยู่ไม่ไกลจากแหล่งท่องเที่ยว อย่าง Namsangol Hanok Village
แม้ว่าปัจจุบันชื่อเสียงของปูซาน เมืองริมชายฝั่ง สถานจัดเทศกาลหนังนานาชาติปูซาน จะกลายเป็นหน้าตาวงการภาพยนตร์เกาหลีใต้ และศูนย์กลางธุรกิจหนังเกาหลีใต้จะย้ายไปที่ย่านกังนัม ในกรุงโซล แล้ว แต่ จองมูโร ก็ยังเป็นชื่อที่ใช้เรียกแทนอุตสาหกรรมหนังเกาหลี เหมือน ฮอลลีวูด สำหรับหนังอเมริกัน และ จองมูโร ถือเป็นพื้นที่ทางประวัติศาสตร์ของวงการหนังเกาหลี ตั้งแต่ก่อนการแบ่งดินแดนเหนือ-ใต้ และมีแลนด์มาร์คอย่าง Dansungsa โรงภาพยนตร์แห่งแรกของเกาหลี ที่เปิดบริการครั้งแรกเมื่อปี 1907
ปัจจุบันย่านจองมูโรเป็นแหล่งเที่ยวย้อนอดีตศิลปวัฒนธรรม และแหล่งรวมตัวของสายอาร์ตที่ชอบงานภาพถ่ายและภาพเคลื่อนไหวแนววินเทจ