Kinky BKK เปลือยความโลดโผนวาบหวาม อีกนิยามเซ็กซ์ที่ซ่อนอยู่ในความเป็นมนุษย์
- นิทรรศการ Kinky BKK ผลงานศิลปะที่เปิดเปลือยอีกแก่นของความเป็นมนุษย์ผ่านมุมมองของเซ็กซ์แบบใหม่
- Kinky ก็คือ Kinky เป็นเรื่องรสนิยมทางเพศ ทำไมจึงต้องเปลี่ยนเป็นเรื่องอื่นที่ต้องซ่อนเร้นหรือห้ามเอ่ยถึง
เนินเนื้อและมัดกล้าม เส้นเชือกและโซ่แส้ เจ็บปวดและสุขสม เหล่านี้ปรากฏให้เห็นในสายตาเมื่อย่างเท้าผ่านประตูกระจกเข้าสู่นิทรรศการ Kinky BKK ซึ่งจัดแสดงผลงานศิลปินทั้งในไทยและต่างประเทศ เช่น โอ๊ต มณเฑียร, ปุย สุรชัย, ตะวัน วัตถุยา, DeynYaemin, Myrtille Tibayrenc มาเปิดเปลือยอีกแก่นของความเป็นมนุษย์ผ่านมุมมองของเซ็กซ์ได้อย่างเร่าร้อน โดยไม่ต้องมีคำบรรยายใดๆ เพิ่มเติม ผ่านผลงานศิลปะ ทั้งภาพถ่าย ภาพวาด และประติมากรรม ล้วนบอกเล่าภายใต้ธีมของนิทรรศการที่ใช้ชื่อว่าKinky ได้อย่างตรงไปตรงมา ราวกับจะประกาศให้รู้ว่า Kinky ก็คือ Kinky เป็นเรื่องรสนิยมทางเพศ ทำไมจึงต้องเปลี่ยนเป็นเรื่องอื่นที่ต้องซ่อนเร้นหรือห้ามเอ่ยถึง
นิทรรศการไม่ได้มีการแบ่งส่วนของเรื่องราวอย่างชัดเจน แต่สามารถแยกได้เป็น 3 ส่วนหลัก คือโถงหลักที่จัดแสดงผลงานแบบที่เห็นเครื่องเพศ และอิริยาบถแบบ คิงกี (Kinky)(เซ็กซ์แบบแปลกใหม่) อย่าง BDSM ชาย-ชาย หญิง-หญิง หรือ เฟติช (Fetish)ในขณะที่ส่วนด้านในจะเป็นโถงทางเดินที่ประดับด้วยภาพวาดภาพถ่ายแสดงรูปแบบศิลปะการมัดเชือกในเชิงปลุกเร้าและเร่าร้อนสุดท้ายคือห้องจัดแสดงเล็กๆ ที่มีเตียงรายล้อมด้วยภาพวาดที่เย้ายวน ปะปนกับภาพวาดบุคคลสะท้อนถึงความเป็นมนุษย์ที่มากกว่าแค่ความเป็นชายหรือหญิง ประหนึ่งต้องการจะตะโกนออกมาให้ได้ยินว่า ผู้ชายอยากสวย หรือ ผู้หญิงแต่งหล่อ ผิดแปลกตรงไหนกัน
หากใช้บรรทัดฐานทั่วไปทางสังคม “Kinky” คือความผิดปกติที่ค่อนไปทางวิตถาร แต่ในฐานะคุณหมอที่คลุกคลีกับคนไข้กว่า 130 ประเทศทั่วโลกมานานหลายปี นพ.ณัฐเขต แย้มอิ่ม หรือ ดร.ดีน ผู้ก่อตั้ง พัลซ์ แกลเลอรี และภัณฑารักษ์ประจำนิทรรศการ กล่าวว่า Kinky เป็นแค่อีกหนึ่งอารมณ์ความสุขสมทางเพศที่แตกต่างจากคนทั่วไปเท่านั้น
“สำหรับผมKinky ก็คือห้วงอารมณ์ที่สุขสมของมนุษย์โดยมีความใคร่เข้ามาเกี่ยวข้อง เพียงแต่ความใคร่เสพสมนั้น ต่างจากคนทั่วไป และสิ่งเร้านั้นอาจเป็นคน บางส่วนของร่างกาย วัตถุบางอย่าง หรือแม้กระทั่งพืช ตราบใดที่ Kinky นั้นเป็นความสุขความพอใจ ผ่านการยินยอมพร้อมใจ และไม่ได้เกิดขึ้นกับผู้ที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะมันก็คือรูปแบบหนึ่งในการแสวงหาความเร้าใจทางเพศของมนุษย์คนหนึ่ง”
การใช้ผลงานศิลปะในการบอกเล่าความแปลกผิดแผกจากมาตรฐานทางสังคมจึงต้องการสื่อให้เห็นว่าความ Kinky ไม่ใช่เรื่องที่ผิด และตัวนิทรรศการต้องการเป็นพื้นที่ปลอดภัย (Safe Zone) ให้คนที่มีรสนิยมดังกล่าวได้ลดทอนความทุกข์ที่ต้องแบกรับ ขณะที่ผู้เข้าชมทั่วไปได้เปิดใจเรียนรู้ความเร้าใจทางเพศในอีกรูปแบบหนึ่ง
“รสนิยมทางเพศก็เป็นอีกหนึ่งอัตลักษณ์ที่แสดงถึงความแตกต่างของคน การเปิดใจยอมรับถึงความแตกต่างนั้น ก็คือการสร้างสังคมที่เปิดกว้างและยอมรับความแตกต่างหลากหลาย” ดร.ดีนกล่าวก่อนเสริมว่า ที่ใช้งานศิลปะมาจัดแสดงความ Kinky เพราะงานศิลป์เปรียบเสมือนสื่อ ในการช่วยส่งสารให้คนหมู่มากได้ดีที่สุด
ด้าน แบรด เวลช (Brad Welch) ศิลปินนักวาดดินสอชาวอเมริกันวัย 55 ปีที่นำผลงานมาร่วมจัดแสดงในครั้งนี้กล่าวว่า ด้วยความที่งานของตนมักเกี่ยวข้องกับเนื้อหนังมังสาของคนเป็นหลักโดย 90% เป็นผู้ชายและวาดในสไตล์ที่เจ้าตัวนิยามว่าเป็น โฮโมอีโรติกแฟนตาซี (Homoerotic Fantasy)ดังนั้น Kinky ในมุมมองของตนจึงเปรียบเสมือนกับคนทั่วไปที่ชอบแต่งตัว เพียงแต่ Kinky จะมีความเพ้อฝัน ฟุ้งซ่าน โลดโผน และซุกซนมากกว่าคนทั่วไป
“ความแตกต่างไม่ใช่ความผิด และเชื่อเถอะ คนที่มักบอกว่าสิ่งที่แตกต่างเป็นสิ่งผิดล้วนเสแสร้ง ไม่ว่าใครต้องเคยทำเรื่องบ้าบอในพื้นที่ส่วนตัวด้วยกันทั้งสิ้น และด้วยวัยที่ล่วงเลยมากว่าครึ่งชีวิต ผมคร้านที่จะใส่ใจ และรู้ดีว่า คนคนหนึ่งล้วนเคยมีจินตนาการที่คึกคะนอง (Naughty Fantasy) สิ่งที่ผมอยากบอกก็คือ แค่ลองเข้ามาดูงานที่แสดงในนิทรรศการครั้งนี้ก็พอ ส่วนจะชอบหรือไม่นั้นก็เป็นสิทธิ์ของคุณ ไม่ชอบก็แค่ไปหาสิ่งที่ชอบก็แค่นั้น” แบรดกล่าวขณะพาเดินชมผลงานของตนส่วนหนึ่งที่นำมาจัดแสดง
ความสมจริงในห้วงอารมณ์แห่งปรารถนา ความเซ็กซี่ในเพศชาย ความหล่อเหลาในเพศหญิง ความพึงใจที่ถูกกระทำ และร่องรอยการเรียนรู้จากเรือนร่าง ล้วนเน้นย้ำถึงแนวทางของ Homoerotic Fantasyของแบรดเป็นอย่างดี
ทั้งนี้ เป้าหมายเบื้องลึกของการจัดงานนิทรรศการในครั้งนี้ก็คือการสร้างความตระหนักรู้ถึงความแตกต่างของรสนิยมทางเพศทั้งในระดับบุคคล ครอบครัว ไปจนถึงสังคม เพราะการที่คนคนหนึ่งมีความชอบที่แตกต่างและเก็บกดเอาไว้ จะส่งผลเสียหายและบั่นทอนสุขภาพทั้งทางร่างกายและจิตใจ
“คนมักตัดสินว่าอะไรที่แปลกเป็นเรื่องที่ไม่ดี พลอยทำให้คนที่ชอบอะไรที่ต่างต้องรู้สึกผิดและเก็บกดมันเอาไว้ ซึ่งความต้องการของคนเมื่อถูกเก็บกดไปนานวันเข้ามันย่อมระเบิดออก ผมอยากให้นิทรรศการนี้เป็นพื้นที่ที่ทุกคนได้เปิดใจ ได้มองเห็นและสัมผัส โดยไม่ต้องตัดสินใดๆ” ดร.ดีนกล่าว
สำหรับนิทรรศการ Kinky BKK จัดขึ้นที่ พัลซ์ แกลเลอรี สาขาเพลินจิต ตั้งแต่วันนี้ จนถึงวันที่ 30 กันยายนพ.ศ. 2565 โดยนอกจากจะจัดแสดงผลงานของศิลปินชั้นนำมากมายที่น่าสนใจแล้ว ยังมีการจัดเวิร์กช็อปให้ผู้เข้าชมสามารถเข้าร่วมตามความสนใจได้อีกทางหนึ่งด้วย
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม ปฏิทินอีเวนต์และตั๋วเข้างาน สามารถติดตามได้ที่ Pulse Gallery
Fact File
Kinky BKK มีแผนจัด 3 กิจกรรมหลักดังนี้
- 17 กันยายน 2565 : Kinky Photography Workshop เรียนรู้การถ่ายภาพแฟชันอีโรติกกับช่างภาพมืออาชีพ ‘James’ ตลอดทั้งวัน รวมไปถึงการจัดแสง เทคนิค และการออกแบบคอนเซ็ปต์
- 24 กันยายน 2565 : Drink and Draw Workshop ฝึกความคิดสร้างสรรค์และทดลองสิ่งใหม่ยามบ่ายไปกับศิลปินและคุณครูด้วยการใช้อุปกรณ์ทั้งแบบแห้งและเปียก เพื่อเฉลิมฉลองร่างกายมนุษย์ (รวมเครื่องดื่ม)
- 30 กันยายน : ShibariWorkshop and Closing Party เวิร์กช็อปยามเย็นเกี่ยวกับศิลปะการมัดเชือกแบบญี่ปุ่น (Japanese Decorative Bondage Art) โดย Ohm จากนั้นตามด้วยงานปาร์ตี้ปิดนิทรรศการ Kinky BKK ที่จะได้รับชมการแสดงจาก Playareaและ Redroomอีกครั้งหนึ่ง