Her Name is ชื่อของเธอคือ… บันทึกความเวิ้งว้าง ใจกลางความเจ็บปวด
- Her Name is ชื่อของเธอคือ…งานรวมเรื่องสั้นของ โชนัมจู นักเขียนเจ้าของผลงานยอดนิยมอย่าง คิมจียอง เกิดปี 82 แต่สำหรับเล่มนี้ นักเขียนใช้วิธีหาข้อมูลจากการไปพูดคุยกับผู้หญิงกว่า 60 คน ครอบคลุมอายุตั้งแต่ 19-60 ปี
- งานของ โชนัมจู นักเขียนชาวเกาหลีใต้คนนี้ ยังคงโดดเด่นด้วยการสื่อสารประเด็นด้านสตรีนิยม สิทธิ สังคม และคำถามถึงความยุติธรรม
Her Name is ชื่อของเธอคือ… ผลงานรวมเรื่องสั้นของนักเขียนชาวเกาหลีใต้ที่กำลังเป็นที่น่าจับตามอง โชนัมจู เจ้าของผลงานสั่นสะเทือนความรู้สึกของการถูกกดขี่จากสังคมอย่าง คิมจียอง เกิดปี 82 นวนิยายขนาดสั้นที่ประสบความสำเร็จเป็นปรากฏการณ์หนังสือขายดีจนได้รับการต่อยอดไปสู่การสร้างภาพยนตร์และได้ดาราสุดฮ็อตอย่าง กงยู มาร่วมแสดง
สำหรับหนังสือเล่มใหม่นี้ โชนัมจู ยังคงโดดเด่นด้วยงานเขียนสะท้อนถึงปัญหาสังคมเกาหลีใต้ที่เป็นที่พูดถึงมายาวนานนั่นก็คือ บทบาทสตรี โชนัมจูกลับมาพร้อมกับ Her Name is ชื่อของเธอคือ…แตกต่างจากเล่มเก่าด้วยการใช้วิธีหาข้อมูล พูดคุยกับผู้หญิงกว่า 60 คน ตั้งแต่อายุ 19-60 ปี จากนั้นแปรเสียงเล่าของผู้คนมากมายนี้สู่อักษรด้วยชั้นเชิงวรรณกรรมออกมาเป็นเรื่องสั้น 28 เรื่องที่แม้ต่างตัวละคร ต่างสถานที่ แต่สิ่งที่ยึดโยงแต่ละเรื่องไว้คือปัญหาสังคม ความไม่เป็นธรรม การถูกกดขี่ และบาดแผลข้างในจิตใจของเหล่าตัวละครที่แม้บางครั้งไม่มีน้ำตา แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีความเศร้า
ความอยุติธรรมกลางแจ้ง
หนึ่งในความโดดเด่นที่โชนัมจูมักเน้นย้ำตั้งแต่ คิมจียอง เกิดปี 82 นั้นคือการเล่าเรื่องของตัวละครที่กำลังเผชิญหน้าจากการโดนกดขี่และได้รับปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรม ทั้งจากสังคมอาวุโส ระบบชายเป็นใหญ่ วัฒนธรรมในบ้าน องค์กรที่ทำงาน สังคม ซึ่งงานวรรณกรรมของ โชนัมจู เสมือนเป็นอักษรส่องสว่างไปฉายให้องค์ประกอบต่างๆ ของการกดขี่และปัญหาดังกล่าวชัดขึ้นมา ซึ่งในเล่มใหม่ Her Name is ชื่อของเธอคือ…ก็เช่นกัน
Her Name is ชื่อของเธอคือ…บอกเล่าชะตากรรมของผู้หญิงในสถานะต่างๆ ที่ต้องเผชิญหน้ากับปัญหา แต่เมื่อผู้หญิงเหล่านั้นใช้ความกล้าและเลือกแก้ไขปัญหาตามกติกา กลายเป็นว่าสังคมรอบข้างกลับมองว่าพวกเธอนี่แหละคือตัวปัญหาที่แท้จริง เช่น เรื่องของโซจินพนักงานสาวของบริษัทรัฐวิสาหกิจในต่างจังหวัดซึ่งมีวัฒนธรรมอาวุโสรุ่นพี่-รุ่นน้อง โดยหัวหน้าทีมซึ่งมีสถานะเป็นรุ่นพี่ได้ใช้คำพูดและการกระทำอาทิ การนำมือไปวางไว้โดยสัมผัสกับร่างกายหรือโอบเธอในที่ทำงาน จนเธอรู้สึกได้ว่ากำลังถูกคุกคาม
โซจินได้กระทำตามระบบการร้องเรียนโดยส่งอีเมลไปหาผู้จัดการฝ่ายที่รับผิดชอบแต่ผลคือความเงียบ ไม่ว่าเธอจะส่งอีเมลซ้ำ โทรศัพท์ ก็ไม่มีผลจนเธอตัดสินใจแจ้งกับผู้จัดการแผนกบุคคล แม้เรื่องได้รับการตรวจสอบแต่คำตอบที่เธอได้คือการขอให้ไกล่เกลี่ยปรับความเข้าใจหรือ “อาจเป็นเรื่องเข้าใจผิดกัน” แม้ต่อมาเธอจะร้องเรียนกับหน่วยงานที่ใหญ่ขึ้นเพื่อที่เธอต้องการกลับไปใช้ชีวิตทำงานอย่างปกติ แต่กลับถูกเจ้านายในบริษัทต่อว่าตวาดกล่าวหาว่าทำไมเธอไม่จบ จะให้เป็นเรื่องใหญ่ทำไม
โซจินถูกกล่าวถึงว่า “เป็นพวกคนเข้ากับสังคมไม่ได้ เป็นพวกบ้า โรคจิต” เพียงเพราะเธอยื่นนี้เรื่องให้กรมแรงงานเพื่อพิทักษ์ไม่ให้กรณีการคุกคามทางเพศแบบนี้เกิดขึ้นกับพนักงานหญิงคนอื่นอีก
โซจินจึงต้องร้องเรียนไปเรื่อยๆ ด้วยตัวเองท่ามกลางสังคมแวดล้อมที่ตั้งคำถามกับความขัดแย้งนี้ ประเด็นการมองความขัดแย้งและการกลบความขัดแย้งด้วยเหตุผลเชิงจารีตมากกว่าการเห็นหัวใจของคนคนหนึ่ง หรือไม่ก็ต้องการยุติฉับพลันแบบซุกไว้ใต้พรม ซึ่งนี่เป็นการแก้ปัญหาของสังคมที่ได้ถูกเล่าหลายต่อหลายเหตุการณ์ในหนังสือเล่มนี้ สะท้อนถึงความคุ้นชินในการแก้ไขปัญหาอย่างไม่เข้าใจ และชวนให้ผู้อ่านตั้งคำถามกับชีวิตประจำวันว่า ทุกวันนี้เราให้ความสำคัญกับสิทธิและการแก้ไขปัญหาสังคมพอแล้วหรือยัง? และหากมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นในสังคมของเราโซจินจะได้รับความเป็นธรรมหรือไม่ ?
เด็กสาวผู้โดดเดี่ยว
Her Name is ชื่่อของเธอคือ…เป็นชื่อหนังสือก็จริง แต่ไม่ใช่ว่าผู้หญิงในทุกเรื่องจะมีชื่อเรียกขาน ผู้หญิงบางคนก็โดดเดี่ยวเกินไปกว่าใครจะรู้จักเช่นในเรื่อง “เด็กสาวผู้โดดเดี่ยว” เล่าถึงวัยรุ่นคนหนึ่งที่จากแม่และเมืองอันห่างไกลมาใช้ชีวิตอยู่ในกรุงโซลเพียงลำพังเพื่อตามหาอนาคต เด็กสาวผู้โดดเดี่ยวโหยหาอยากพัฒนาการศึกษา อยากอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดี มีนิทรรศการ โรงภาพยนตร์ ร้านหนังสือ แต่ชีวิตในเมืองใหญ่ไม่ง่ายอย่างนั้น เธอพบว่าการย้ายที่อยู่มากรุงโซลมีค่าใช้จ่ายมหาศาล เงื่อนไขด้านการเงินจึงเป็นสิ่งรั้งฝันอันสวยงามของเธอไว้
ซ้ำร้ายเหตุการณ์เขย่าขวัญก็เกิดขึ้นเมื่อมีผู้ชายในตึกเดียวกันปีนหน้าต่างห้องเธอเข้ามา แต่ก็ไม่รู้ว่าเป็นโชคดีหรือโชคร้ายของเธอที่รู้ตัวก่อนและตะโกนร้องให้คนช่วยเสียงดัง ชายผู้นั้นจึงพลัดตกลงไปชั้นล่างบาดเจ็บหนักแต่ไม่เสียชีวิต เมื่อเธอโทร. แจ้งตำรวจ แทนที่เธอจะได้รับการคุ้มครอง เรื่องกลับตาลปัตรเป็นว่าได้คำตำหนิติเตียนจากเจ้าหน้าที่ว่าเธอเกือบทำผู้ชายคนนั้นตายเสียแล้ว
แม้เด็กสาวผู้โดดเดี่ยวจะได้ย้ายห้องและคดีนี้ก็จบที่ผู้ชายคนนั้นขอโทษเธอ แต่สุดท้ายชีวิตเธอกลับตกอยู่ในความหวาดผวาและไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ในยามที่ความโดดเดี่ยวคุกคาม หญิงสาวหวนคิดถึงแม่ คิดถึงอดีตว่าทำไมเธอตัดสินใจจากแม่และ ย้ายมาโซลเพียงลำพัง และความทรงจำหนึ่งที่เข้ามาคือบทบาทของลูกสาว ลูกสาวจะต้องมีหน้าที่ดังนั้นดังนี้แถมแม่ของเธอยังชอบพูดจาแช่งเธออยู่เรื่อย
“แม่คาดหวังให้ฉันเป็นลูกสาวที่น่ารักน่าเอ็นดูผู้คอยสนับสนุนโอกาสของครอบครัวอย่างนั้นหรือ ขอโทษนะแม่ ฉันคงทำแบบนั้นไม่ได้”
ความโดดเดี่ยวในบทนี้จึงมีความซับซ้อนหลากมิติไม่ว่าจะเป็นการไม่สามารถลงรอยในบทบาทที่จำกัดเสรีภาพส่วนบุคคลจากแม่ของตน การที่ต้องเผชิญหน้ากับความกลัวเพียงลำพังในเมืองที่ไม่มีเงินไม่มีความฝัน ชีวิตของเด็กสาวผู้โดดเดี่ยวจึงชวนพินิจความซับซ้อนของเงื่อนไขในชีวิต การตัดสินใจ และการเลือกว่าจะก้าวเดินไปอย่างไรบนถนนหนทางสุดเปลี่ยวนี้
ท้ายที่สุดผลงานรวมเรื่องสั้นเล่มนี้จึงน่าสนใจในการพาคนอ่านไปมองประสบการณ์อันหลากหลายซับซ้อนทีละเรื่องไม่เป็นหนึ่งเดียวกัน แต่ก็เกี่ยวกันด้วยชะตากรรมในโครงสร้างสังคมและจิตใจส่วนตัวในโลกที่แสนสลับซับซ้อนนี้แหละเป็นจุดเด่นที่หากต้องการหยุดนั่งพิจารณาชีวิตสักพักด้วยวรรณกรรม
Fact File
Her Name is ชื่อของเธอคือ…เขียนโดย โชนัมจู สำนักพิมพ์ Bibli ราคา 289 บาท