อัญมณี 12 ราศี เสริมศรี เสริมเดชด้วยอัญมณีตามราศีเกิด
- พลูหลวง นักโหราศาตร์ไทยได้นำเรื่องสี อัญมณี และดวงดาวมาผูกกัน เป็นตำราเลือกอัญมณีและสีเพื่อเสริมศรี เสริมเดช และเสริมความมั่นใจให้ผู้สวมใส่
- นึ่งในตำราความมงคลเสริมเดช เสริมศรี แบบโหราศาสตร์ไทยที่น่าสนใจคือตำรา อัญมณีกับ 12 ราศี
ปีใหม่มักมาพร้อมกับเทรนด์การอัพเดท “ความมงคลแห่งชีวิต” ไม่ว่าจะเป็นสีมงคล พระมงคลประจำวัน วัดประจำราศี อัญมณี 12 ราศี ซึ่งความมงคลเหล่านี้แม้จะพิสูจน์ไม่ได้ว่าจริง เท็จ ปัง หรือพัง แต่สิ่งหนึ่งที่รู้แน่ชัดคือการเสริมเติมกำลังใจและความมั่นใจให้พร้อมเผชิญทุกเรื่องราวที่กำลังจะเข้ามาตลอดปีใหม่นี้ และหนึ่งในตำราความมงคลเสริมเดช เสริมศรี แบบโหราศาสตร์ไทยที่น่าสนใจคือตำรา อัญมณีกับ 12 ราศี เขียนโดย พลูหลวง หรือ น. ณ ปากน้ำ ปราชญ์ด้านโบราณคดีและประวัติศาสตร์ศิลปะอันดับต้น ๆ ของเมืองไทย ทั้งยังเป็นปรมาจารย์ด้านโหราศาสตร์ไทยอีกด้วย
น. ณ ปากน้ำ เริ่มต้นเรียนโหราศาสตร์กับ พระมหาอุทัย คำคงอยู่ สมัยแรกเรียนแบบโหราศาสตร์ไทยโบราณทั้งการผูกดวงแบบมีสมผุสดาว เรียนกาลจักร-ลัคน์จรและอสีติธาตุ เมื่อเรียนกับพระครูอยู่หลายเดือนจนผูกดวงได้ ท่องกฎเกณฑ์ตำแหน่งดาวต่าง ๆ ได้หมด ก็เริ่มศึกษาเรื่องโหราศาสตร์ขั้นละเอียด จนชำนาญถึงขั้นแต่งหนังสือดูดวงลัคนาราศีไปจนกระทั่งเขียนหนังสือที่เกี่ยวข้องกับอัญมณีเสริมดวงที่สามารถนำไปปรับให้เหมาะสมตามหลักของดวงดาวและยุคสมัย นั่นก็คือตำรา อัญมณี 12 ราศี ซึ่งได้นำเรื่องสี อัญมณี และดวงดาวมาผูกกัน เสริมศรี เสริมเดช และเสริมความมั่นใจให้เจ้าของราศีตลอดปี 2023.
ราศีมังกร
อัญมณีประจำราศี : ราศีมังกรอยู่ภายใต้อำนาจของดาวเสาร์ซึ่งครองสีดำ สีหนักๆ เช่น สีม่วงคล้ำ น้ำตาลไหม้ อัญมณีประจำของคนเกิดราศีมังกรจึงได้แก่พลอยสีดำ หรือพลอยสีเข้มเกือบดำ เช่น นิล หินแก้วภูเขาไฟ รวมทั้งหินอุกกาบาตหรือสะเก็ดดาวซึ่งหลายคนมีความเชื่อเรื่องเป็นเครื่องรางคุ้มกันและให้โชค
ราศีกุมภ์
อัญมณีประจำราศี : ราศแห่งธาตุลม มีดาวยูเรนัสเป็นเจ้าของราศี ดังนั้นผู้ที่มีลัคนาอยู่ในราศีนี้จึงควรใช้ “พลอยสีม่วงคราม” เป็นหลัก โดยอัญมณีที่ให้สีโทนนี้คือกลุ่ม รัตนชาติสีม่วงคราม เช่น พลอยสีม่วงคราม หรือ ไพลิน (Sapphire) ซึ่งแหล่งที่พบอยู่ในออสเตรเลีย เมียนมา อินเดีย แคชเมียร์ ศรีลังกา ไทย และกัมพูชา โดยเฉพาะที่เมืองไพลิน ประเทศกัมพูชานั้นถือว่าเป็นไพลินที่สวยระดับโลก
ราศีมีน
อัญมณีประจำราศี : ราศีมีนคู่กับ “รัตนชาติสีแดง” เช่น ทับทิม ซึ่งเป็นสีประจำเดือนมีนาคมโดยตรง เพราะราศีมีนมีดาวพระเคราะห์คือ “ดาวเนปจูน” ครองอยู่ ซึ่งดาวเนปจูนนี้ก็เป็นดาวตัวแทนของสีแดง ถ้าจะให้ตรงสุดเลยคือสีแดงชาด ส่วนสีที่ไม่ค่อยถูกโฉลกกับราศีมีนเท่าไรคือ สีส้ม สีน้ำเงิน สีม่วงคราม (เว้นแต่ครึ่งเดือนแรกของเดือนมีนาคมสีม่วงครามจะยังให้คุณ)
นอกจากความสวยงามแล้ว ทับทิมยังมีความเชื่อต่างๆ ที่ต่างกันออกไปในแต่ละประเทศ เช่น ในศรีลังกาเชื่อว่าทับทิมคือน้ำพระเนตรของพระพุทธเจ้า ถูกจัดเป็นอัญมณีศักดิ์สิทธิ์ ทั้งยังเชื่อว่าหากผู้สวมใส่ประสบเคราะห์ ทับทิมจะมีแสงสว่าง และเมื่อพ้นเคราะห์แล้วก็จะมีสีแดงดังเดิม
ราศีเมษ
อัญมณีประจำราศี : ราศีเมษมีดาวนพเคราะห์ประจำราศีคือ “พลูโต” ให้ใช้ สีส้มแสด เพื่อเป็นมงคลแก่เจ้าราศี ส่วนอัญมณีประจำราศีเมษ คือ รัตนชาติ “สีแสด” หรือ สีเวอร์มิเลียน (Vermillion) หมายถึงสีส้มที่มีส่วนผสมของสีแดงมากสักหน่อย ตรงกับรัตนชาติประเภท “โกเมน” หรือถ้าจะเปรียบเทียบง่ายๆ ก็คือสีของดอกทองกวาว ดอกหางนกยูง ดอกพวงแสด และสีก้านดอกกรรณิการ์
ราศีพฤษภ
อัญมณีประจำราศี : ราศีพฤษภเป็นราศีที่มีปฐวีธาตุคือ ธาตุดิน ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของพืชพันธุ์ ดังนั้นให้ถือเอา สีเขียวตองอ่อน หรือ สีเขียวอ่อน เป็นสีประจำราศีและประจำเดือนพฤษภาคม ถ้าเทียบกับรัตนชาติก็จะเป็นพลอยเขียวส่องแถบจันทบุรี หรือ หยก มรกต ที่ให้สีเขียวอ่อน
มีข้อแนะนำอย่างหนึ่งสำหรับชาวราศีพฤษภ หากใส่หยก ยังสามารถผนวกเอาอัญมณีธาตุเดียวกัน คือ ธาตุดิน ได้แก่ อัญมณีสีเขียวแก่ (ราศีกันย์) และสีดำ (ราศีมังกร) มาใส่รวมกันได้ ว่ากันว่าช่วยเพิ่มคุณในแง่อำนาจให้กับผู้สวมใส่อีกด้วย
สีของหยกที่สวยที่สุดคือ สีเขียวเข้มเพียงสีเดียวที่เรียกว่า Imperial Jade ส่วนหยกที่มี 3 สีดังต่อไปนี้ แดง ขาว เหลือง ม่วง และดำ ปนกันอยู่ในเม็ดเดียว เรียกว่า หยก 3 สี หรือ “ฮกลกซิ่ว” เป็นหยกที่มีมูลค่าสูงและมีความหมายมงคลตามคติความเชื่อของชาวจีน นอกจากนี้ยังมีความเชื่อโบราณที่ว่า พลอยสีเขียวอ่อน เช่น หยกสีเขียวอ่อน เขียวส่อง มรกต นาคสวาท มีพลังงานลึกลับซ่อนอยู่และสามารถป้องกันสัตว์ที่มีพิษได้
ราศีเมถุน
อัญมณีประจำราศี : อัญมณีประจำราศีเมถุนเน้นที่สีม่วงยามสนธยา เช่น แอเมทิสต์ (Amethyst) รวมทั้งสีม่วงเม็ดมะปราง หรือจะเป็นสีม่วงแบบดอกผักบุ้งก็ได้ อีกทั้งสามารถใส่ร่วมกับอัญมณีที่เป็นสีมงคลของราศีร่วมธาตุอย่าง ราศีกุมภ์และราศีตุล์ได้ เช่น พลอยสีม่วง พลอยสีฟ้า และ ไพลิน ส่วนสีของอัญมณีและเสื้อผ้าที่ในตำรา อัญมณีกับ 12 ราศี โดย พลูหลวง แนะนำว่าอาจจะไม่ถูกกับราศีเมถุนนัก หรือจะเรียกว่าเป็นสีต้องห้ามเลยก็ได้ คือ สีชมพูหรือม่วงแกมแดง (สีอริ) เทาหรือดำ (สีมรณะ) และ เขียวอ่อนหรือสีตอง (สีวินาศนะ) อาจแก้ไขด้วยการทดแทนด้วยการสวมใส่สีที่เป็นศรีของวันเกิด
ราศีกรกฎ
อัญมณีประจำราศี : สีขาว ถือว่าเป็นสีประจำราศีกรกฎ หรือ คนที่เกิดในเดือนกรกฎาคม โดยสีขาวถูกจัดให้เป็นสีของเวลากลางวัน เป็นสีแห่งความมีชีวิตชีวา ความกระปรี้กระเปร่า ดังนั้นการแต่งกายโดยเฉพาะเครื่องประดับที่ถูกกับราศีนี้จึงควรเน้นสีขาว ทั้งสีขาวเลื่อมพราย สีขาวนวลเหมือนไข่ไก่ สีขาวงาช้าง สีขาวดอกมะลิ สีขาวประกายแบบมุกดาหาร สำหรับอัญมณีประจำราศี ได้แก่ เพชรที่ส่องประกายขาวยังใช้ได้กับชาวราศีกรกฎ รวมทั้งรัตนชาติ อัญมณีสีขาว เช่น ไข่มุก (Pearl) มุกดาหาร (Moonstone) แก้วคริสตัล รวมทั้งหินผลึกสีขาวจำพวกโป่งขามที่เรียกว่า “หินเขี้ยวหนุมาน” ซึ่งเป็นผลึกที่พบตามถ้ำหรือใต้ดิน ในโบราณนิยมนำมาจำหลักเป็นพระพุทธรูป
สำหรับสีต้องห้ามแน่นอนว่า สีดำ ที่หมายถึงยามกลางคืนย่อมเป็นสีคู่ตรงข้าม เป็นสีปรปักษ์ของชาวกรกฎที่พึงหลีกเลี่ยง รวมทั้งม่วงเข้ม และเทาหม่นด้วย แต่ในแง่ความงามสีดำย่อมช่วยขับสีขาวให้สว่างขึ้น ดังนั้นหากจะใส่สีดำอาจจะเลือกเพียงรองเท้าสีดำ เข็มขัดดำ กระเป๋าดำ ตัดกับชุดหรือเครื่องประดับสีขาวเล็กน้อย แต่ไม่แนะนำเป็นรัตนชาติสีดำอย่างต่างหูนิล เข็มขัดนิล เป็นต้น
ราศีสิงห์
อัญมณีประจำราศี : ธาตุไฟเป็นธาตุประจำราศีสิงห์ อัญมณีและรัตนชาติสีส้ม ซึ่งเป็นสีแห่งอำนาจ เช่น เพทาย หินผลึกหรือหินควอทซ์สีส้มจำพวกพลอยโป่งขาม ด้วยเหตุที่ราศีสิงห์เป็นราศีในธาตุไฟ ดังนั้นนอกจากจะใช้เพทายและหินสีส้มแล้ว ยังอนุโลมให้ใช้รัตนชาติประเภทบุษราคัมสีน้ำผึ้งเข้มออกส้มแทนกันได้ นอกจากนี้ทองคำยังเป็นเครื่องประดับที่ต้องโฉลกกับราศีนี้อย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นแหวนทอง เข็มกลัดทอง
ส่วนอัญมณีสีต้องห้าม ได้แก่ ทับทิม เพชรสีชมพู หินสีแดง นิลหรือัญมณีสีดำ เพชร ไข่มุกหรืออัญมณีสีขาว มีข้อสังเกตว่าแม้สีส้มจะเป็นอัญมณีประจำราศีสิงห์ที่เป็นการผสมระหว่างแดงและเหลือง แต่ถ้าเป็นแดงที่เป็นอัญมณีของธาตุน้ำอย่างทับทิม เพชรสีชมพู และหินสีแดงทุกประเภทไม่เหมาะกับราศีสิงห์ ด้วยว่าธาตุน้ำและธาตุไฟเป็นปรปักษ์ต่อกัน
ราศีกันย์
อัญมณีประจำราศี : รัตนชาติประจำราศีกันย์เป็นสีเขียว ได้แก่ มรกต หรือ นาคสวาท นอกจากนี้อัญมณีอื่นๆ ที่ต้องโฉลกกับราศีนี้ยังมีสีดำของนิล (ประจำราศีมังกร) และสีเขียวอ่อนของหยก (ประจำราศีพฤษภ) ซึ่งนั่นเพราะราศีกันย์ ราศีมังกร และราศีพฤษภเป็นราศีที่อยู่ในตรีโกณร่วมธาตุดิน เรียกว่า สมพงษ์กัน ส่วนสีที่เป็นปรปักษ์ ได้แก่ ม่วงคราม แดงเลือดนก แดงชาด และสีส้ม
ราศีตุลย์
อัญมณีประจำราศี : ราศีตุลย์ตกอยู่ในธาตุลม อัญมณีประจำราศีคือสีฟ้า หรือสีน้ำเงินอ่อน (เน้นว่าต้องเป็นน้ำเงินอ่อนไม่ใช่น้ำเงินแกมม่วง) เช่น พลอยไพลิน หนึ่งในนางพญาแห่งอัญมณี ส่วนในแง่มูลค่านั้นพลอยไพลินเป็นอัญมณีที่มีค่าไม่น้อยกว่าพลอย ทับทิม หรือบุษราคัมชั้นดี นอกจากนี้พลอยสีขี้นกการเวก หรือ เทอร์ควอยส์ ก็สามารถใช้ทดแทนกันได้ รวมถึงพลอยสีฟ้าชนิดอื่น เช่น อคัวมารีน ซีลอนแซฟไฟร์ วิกตอเรียสโตน บลูสปินเนล แอมาซอนสโตน และลาพิล ลาซูลี รวมทั้งโอปอลสีฟ้า เช่น บลูเม็กซิกันโอปอล และออสเตรเลียนโอปอล
ราศีพิจิก
อัญมณีประจำราศี : ดาวอังคารผู้ครองเรือนพฤศจิกายนเป็นดาวบาปเคราะห์ มีอำนาจครอบงำสีม่วงแดง สีชมพู ดังนั้นอัญมณีประจำราศีพิจิก หรือผู้เกิดในเดือนพฤศจิกายน คือ อัญมณีสีม่วงแดง หรือ สีแดงตานกกะปูด เช่น ทับทิมสีม่วงแดง เพชรสีชมพู หรือ พลอยสาแหรกสีแดง (Star Ruby) ซึ่งสีแดงโดยทั่วไปหมายถึงความหวั่นไหว ตื่นเต้นเร้าใจ มีพลังการต่อสู้ ช่วยเสริมให้เกิดความกระตือรือร้น หากชาวราศีพิจิกคนใดรู้สึกว่าตัวเองไม่มีความกระฉับกระเฉง เอื่อยเฉื่อย อัญมณีสีม่วงแดงจะช่วยเสริมพลังความกระตือรือร้น ทั้งนี้อย่าเพิ่งสับสนกับราศีมีนซึ่งอัญมณีประจำราศีเป็นทับทิมเหมือนกัน แต่ราศีมีนจะออกแดงเลือกนกหรือแดงชาดที่ให้ค่าสีแดงที่สดกว่า ส่วนสีที่เป็นปรปักษ์ ได้แก่ สีแสด สีม่วง สีน้ำเงิน สีขาว
ราศีธนู
อัญมณีประจำราศี : อัญมณีสีเหลืองประจำราศีธนูที่เป็นที่นิยม ได้แก่ “บุษราคัม” ซึ่งถ้าเป็นของแท้และน้ำดีมีกะรัตมากก็จะยิ่งมีราคาแพงกว่าเพชรเสียอีก เพราะบุษราคัมขนาดใหญ่ถือเป็นอัญมณีที่หาได้ยากยิ่ง โดยเฉพาะบุษราคัมที่มีสีเหลืองทองที่เรียกว่า “บุษย์น้ำทอง” สำหรับบุษราคัมนั้นมีความเชื่อแต่โบราณว่าเป็นสัญลักษณ์แห่งมิตรภาพ บางความเชื่อก็กล่าวว่าบุษราคัมคือพลอยแห่งอำนาจ ช่วยเรื่องสติปัญญา ความกล้าหาญ บ้างก็เชื่อว่าพลังความลึกลับของบุษราคัมนั้นผูกพันกับการเปลี่ยนแปลงของดวงจันทร์
อ้างอิง : หนังสือ “อัญมณีกับ ๑๒ ราศี” โดย พลูหลวง สำนักพิมพ์เมืองโบราณ