Lite

Dewa Phuket สัมผัสธรรมชาติริมหาดในยาง พร้อมเสน่ห์ครัวปักษ์ใต้ในความร่วมสมัย

Focus

เดวา ภูเก็ต รีสอร์ท แอนด์ วิลล่า วางตัวอยู่ใกล้หาดในยาง ชายฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือของจังหวัด ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับอุทยานแห่งชาติสิรินาถชนิดเดินไปถึงได้
นอกจากความสะดวกสบายในที่พัก และการเป็นจุดเชื่อมต่อของกิจกรรมทางน้ำและทางบก ยามเช้ายังมีเสน่ห์ด้วยตั้งอยู่ไม่ไกลความคึกคักของตลาดชิงปลาริมหาดในยาง ที่พ่อค้าแม่ขายพากันมาเปิดแผงทั้งปลาสด ๆ จากเรือประมงและอาหารเช้าสไตล์ภูเก็ต

เข้าสู่ฤดูร้อนอย่างเป็นทางการ นาทีนี้คงไม่มีที่ไหนดึงดูดเราไปกว่าการได้ไปสัมผัสบรรยากาศชายทะเลอีกแล้ว ซัมเมอร์นี้เราเลยขอชวนเก็บกระเป๋ามุ่งหน้าสู่จังหวัดภูเก็ต ที่นอกจากจะมีความสวยของทะเลใต้ เกาะเล็ก ๆ อย่างภูเก็ตยังเต็มไปด้วยวัฒนธรรมและเสน่ห์ของอาหารการกินที่เป็นอัตลักษณ์เฉพาะตัวและสำหรับใครที่ตั้งใจไปซึมซับบรรยากาศของเมืองภูเก็ต แต่อีกใจก็อยากชาร์จพลังแบบเต็มที่ ใช้เวลาส่วนตัวในที่พักแบบผู้คนไม่พลุกพล่านมากนัก เดวา ภูเก็ต รีสอร์ท แอนด์ วิลล่า (Dewa Phuket Resort and Villa) คือที่ที่เราอยากชวนไปเช็กอินอาบแสงแดดแห่งฤดูร้อนนี้ด้วยกัน

เดวา ภูเก็ต วางตัวอยู่ใกล้หาดในยาง ชายฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือของจังหวัด ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับอุทยานแห่งชาติสิรินาถชนิดเดินไปถึงได้ ฉะนั้นสำหรับสายกิจกรรมใครที่สนใจกิจกรรมทางน้ำอย่างการดำน้ำตื้น พายคายัค หรือการนั่งเรือหางยาวไปท่องเที่ยวเกาะต่าง ๆ ก็สามารถเดินจากรีสอร์ตไปถึงริมหาดได้แบบสะดวกเพียงข้ามฝั่งถนน หรือหากอยากเดินทางเข้าตัวเมืองจากที่นี่ก็ใช้เวลาเดินทางแค่ราว 30 นาทีเท่านั้น

เมื่อเดินเข้าไปด้านในบรรยากาศภายในรีสอร์ตต้อนรับผู้เข้าพักด้วยความร่มรื่นจากสีเขียวของต้นไม้รายล้อมสบายตา โดยเฉพาะโซนห้องพักวิลลาที่มีพื้นที่ใช้สอยแต่ละหลังอย่างกว้างขวาง เริ่มต้นจาก พูล วิลลา ขนาด 70 ตารางเมตรไปจนถึง แกรนด์ พูล วิลลา 100 ตารางเมตร ซึ่งแม้ว่าวิลลาแต่ละหลังจะอยู่ไม่ห่างกันนัก แต่แบ่งสัดส่วนกันอย่างชัดเจน รวมทั้งพื้นที่ภายในแต่ละหลังที่กว้างขวางมาพร้อมกับสระว่ายน้ำส่วนตัวและโซนอาบน้ำแบบเอาต์ดอร์ ทำให้สามารถทิ้งตัวผ่อนคลายได้อย่างเต็มที่

ความพิเศษของที่นี่เราขอยกให้ยามเช้า เพราะนอกจากจะอยู่ในจุดที่สะดวกกับการเชื่อมต่อแหล่งท่องเที่ยวทั้งทางบกและทางน้ำ เดินออกไปไม่ไกลราว 700 เมตรจะเจอกับ ตลาดชิงปลาริมหาดในยาง ที่แค่ฟังจากชื่อเรียกก็คึกคักแล้ว จุดนี้เป็นแหล่งรวมอาหารเช้ากินง่ายราคาย่อมเยาให้ฝากท้อง เริ่มคึกคักตั้งแต่ช่วง 6 โมงเช้าไปจนถึงราว 9 โมงในยามสาย ครบทั้งโจ๊ก โรตี ขนมปังปิ้งเตาถ่าน ข้าวหมก ขนมจีนน้ำยาปู ชากาแฟ อาโป๊ง จนถึงของสดอย่างผักผลไม้ และที่สำคัญคือแผงปลาที่ชาวประมงเข้าเทียบเรือส่งตรงแบบสด ๆ จากทะเล ซึ่งข้อมูลจาก เชฟถัง-ดนัย โทตระกูล Complex Executive Chef ของ มายบีช รีสอร์ท ภูเก็ต และ เดวา ภูเก็ต รีสอร์ท แอนด์ วิลล่า กล่าวว่าตลาดแห่งนี้จะมีทุกวันศุกร์ถึงวันอาทิตย์ โดยเป็นตลาดที่พ่อค้าแม่ขายเป็นชาวบ้านในละแวกนี้กันเอง ส่วนปลาสด ๆ จากเรือประมงจะมีมากโดยเฉพาะในเดือนมกราคมถึงมีนาคม เช่นช่วงที่เราเดินทางไปได้เห็น ปลาใบ หรือ ปลาโทงเทง ที่ชาวภาคใต้นิยมนำมาแปรรูปเป็นปลาเค็มหนักถึงตัวละ 20 กิโลกรัม

เชฟถังกล่าวว่าปลาแต่ละชนิดสามารถนำมาทำอาหารได้หลากหลาย เช่นปลาใบในครั้งนี้ที่เชฟเลือกซื้อกลับครัวมาปรุงอาหารสไตล์เมดิเตอร์เรเนียนออกมาเป็น ปลาย่างเครื่องเทศและเห็ดผัดเนย ที่ผสมผสานกลิ่นอายเอเชียนด้วยผงกะหรี่เพิ่มความหอม อีกเมนูมาในสไตล์อิตาเลียน สเต็กปลาทอดซอสไวน์ขาวมะเขือเทศใบโหระพา เป็นสองเมนูดินเนอร์ที่จัดเสิร์ฟในห้องอาหารเทอร์เรซ กริลล์ ซึ่งเน้นเสิร์ฟอาหารซีฟู้ดและกริลล์ด้วยวัตถุดิบท้องถิ่น ติดกันกับพูลบาร์ให้ได้คลายร้อนด้วยเครื่องดื่มสดชื่นทั้งน้ำผลไม้ สมูทตี และค็อกเทล

นอกจากวัตถุดิบท้องถิ่นที่เชฟเลือกมาครีเอตเมนูในแต่ละวัน เดวา ภูเก็ต รีสอร์ท แอนด์ วิลล่า ยังพร้อมเสิร์ฟกลิ่นอายเมืองใต้ผ่านอาหารที่ต้องบอกว่าถูกปรับรสชาติให้กินได้ง่าย หายห่วงสำหรับใครที่ไม่กินรสจัด อาหารเช้าเต็มอิ่มกับไลน์เบรกฟาสต์ที่มีให้เลือกทั้งแบบตะวันตก จนถึงแกงใต้อย่างมัสมั่นเนื้อและแกงปู แต่สำหรับใครที่ขอชิลแบบส่วนตัวให้เต็มที่ก็สามารถเลือกสั่ง Floating Breakfast ไปส่งถึงห้องพักให้ได้หยิบบิกินีตัวโปรดมาถ่ายรูปคู่อาหารเช้าชุดใหญ่กลางสระว่ายน้ำได้อย่างไม่ตกเทรนด์

**Floating Breakfast ชุด** **The Phuketian**

Floating Breakfast ของที่นี่มีให้เลือกถึง 3 สไตล์ตามความต้องการของผู้เข้าพัก ตั้งแต่เซตอเมริกันเบรกฟาสต์ชื่อว่า The Classic (1,290 บาท) หรือจะเป็น The Cosmopolitan (1,990 บาท) ที่เน้นไปทางสเต็กเสิร์ฟคู่กับเครื่องดื่มรับแดดยามเช้าอย่างสปาร์กกิงไวน์ส่วนเซตไฮไลต์ที่ควรลองคือ The Phuketian (1,590 บาท) อาหารเช้าที่จัดเต็มด้วยรสชาติท้องถิ่นภูเก็ต จัดเสิร์ฟทั้งซาลาเปาและติ่มซำ เช่น ขนมจีบที่ภาษาจีนกวางตุ้งเรียกว่า เส่วโบ้ย ฮะเก๋าหรือเกาจี๋ เปาะเปี๊ยะ กุ้งโรล กินคู่กับชากาแฟ ถัดมาเป็นโรตีจิ้มแกง อาหารมุสลิมที่นิยมอย่างแพร่หลายในภูเก็ต เมนูนี้สามารถเลือกชนิดของเนื้อได้ทั้งแกงไก่ แกงแพะและแกงเนื้อ ตามมาด้วย เจียะโก้ย หรือเรียกแบบเข้าใจง่ายว่า ปาท่องโก๋ ปิดท้ายด้วยผลไม้ตามฤดูกาล แต่ทั้งนี้ Floating Breakfast ต้องสั่งจองล่วงหน้าอย่างน้อย 1 วัน โดยสามารถเลือกเวลาที่สะดวกได้ตั้งแต่ 7.00-11.00 น.

อิ่มอาหารหนักท้องแล้วก็ต้องต่อด้วยของหวาน ยามบ่ายของที่นี่จัดเต็มด้วยเซต Afternoon Tea ที่มีให้เลือก 2 สไตล์ทั้งแบบอังกฤษและแบบไทย ซึ่งจัดเต็มขนมพื้นบ้านภาคใต้มาให้ลิ้มลอง เช่น ขนมครกภูเก็ต ขนมสอดไส้ ขนมต้ม โกสุ้ยจนถึงขนมโคไส้น้ำตาล เรียกว่ามาที่นี่ได้ชิมรสภูเก็ตกันจนเกือบครบเลยทีเดียว

Fact File