อาสา ฟาร์มสเตย์ : เช็คอินในวิถีท้องถิ่นเชียงราย ดีต่อใจ ใกล้ชิดธรรมชาติ

เพราะ ธรรมชาติ อ่อนโยนต่อใจเสมอ เราจึงอยากชวนทุกคนแพ็กกระเป๋า ออกเดินทางไปกอบเก็บความสุข สร้างเสริมประสบการณ์ชีวิตใหม่ๆ แล้วบันทึกไว้ในคลังความทรงจำที่แสนดี โดยมินิไกด์ฉบับ local calling ครั้งนี้ จะพาคุณลัดเลาะเยี่ยมชม อาสา ฟาร์มสเตย์ (AHSA FARMSTAY) ฟาร์มสเตย์อารมณ์อบอุ่นที่บรรจุเรื่องราวน่าสนใจเกี่ยวกับชุมชนเกษตรที่แม่สลอง จังหวัดเชียงราย ไว้เพียบ

เอาละ! ใครพร้อมแล้วออกไปลุยกันเลย

อาสาพาไปอุ่นหัวใจในชุมชน

“อาสา” คือ ฟาร์มสเตย์ ที่เกิดขึ้นจากความตั้งใจของกลุ่มคนเล็ก ๆ ภายใต้การดูแลของ บริษัท รุ่งรักษ์จัน จำกัด ผู้มีประสบการณ์คลุกคลีอยู่ในแวดวงธุรกิจท่องเที่ยวมายาวนาน โดยทางทีมผู้บริหารได้วางแนวทางชุบชีวิตผืนดินกว่า 85 ไร่ ณ เชิงดอยแม่สลอง อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงรายแห่งนี้ ซึ่งเดิมทีเป็นพื้นที่ทำการเกษตรเชิงเดี่ยว ปลูกข้าว ทำสวนยาง ปลูกสับปะรด ให้กลายเป็น อาสา ฟาร์มสเตย์ ที่หมายถึง ฟาร์มสเตย์ วิถีใหม่ ที่อุ่นอวลไปด้วยท่วงทำนองชีวิตผู้คน ชุมชน และธรรมชาติอันรื่นรมย์ รอต้อนรับเหล่านักเดินทางผู้มาเยือนด้วยความสุขแสนเรียบง่ายตามแบบฉบับพื้นบ้านเชียงรายอย่างแท้จริง

คุณอิม หนึ่งในทีมบริหารอาสา ฟาร์มสเตย์ ได้เล่าให้เราฟังว่า อาสา มาจากคำว่า ‘อะสะ’ เป็นภาษาลาหู่ แปลว่า ‘ชีวิต’ ซึ่งบังเอิญไปสอดคล้องกับคำว่า Casa ในภาษาอิตาลีที่แปลว่า ‘บ้าน’ อย่างพอดิบพอดี

“เราตั้งใจสร้าง อาสา ฟาร์มสเตย์ ให้เป็นสถานที่พักผ่อนของครอบครัว รวมถึงให้เหล่านักเดินทางผู้หลงใหลการท่องเที่ยวเชิงวิถีชีวิตชุมชน ได้เข้ามาสัมผัสประสบการณ์การพักผ่อนรูปแบบใหม่ เล่นสนุกเรียนรู้ผ่านกิจกรรมต่าง ๆ ในฟาร์มสเตย์ ที่มีมาตรฐานเรื่องการกินอยู่ที่สุขสบาย จดทะเบียนโรงแรมอย่างถูกต้องตามกฎหมาย

“ โดยหัวใจหลักในการสร้างสรรค์ของเราคือ เน้นการอยู่ร่วมกันพร้อมเป็นส่วนหนึ่งและช่วยซัพพอร์ตชาวบ้านในชุมชน เบียดเบียนธรรมชาติให้น้อยที่สุด ดังนั้นเราจึงพยายามคงสภาพแวดล้อมเดิมเอาไว้ ทั้งนาข้าว สวนยาง วิถีชุมชน ฯลฯ ตอนเราเริ่มต้นทำที่นี่ก็เพียงปรับ Landscape นิดหน่อย เพื่อให้เดินสะดวกและมีบรรยากาศที่สวยงามมากขึ้นเท่านั้น”

อบอุ่นในเรือนไทยล้านนา

เชื่อว่าใคร ๆ ที่ได้เข้ามาสัมผัสบรรยากาศของอาสา ฟาร์มสเตย์ เป็นต้องเทใจให้การเช็คอินในรูปแบบฟาร์มสเตย์อย่างทันที เพราะที่อาสา ฟาร์มสเตย์นี้มีการปรับโดยการนำความสะดวกสะบายแบบโรงแรมเข้ามา ด้านดีไซน์นั้นมีเอกลักษณ์อยู่ที่กลุ่มเรือนไทยล้านนายกใต้ถุนสูงที่ดูอย่างไรก็โมเดิร์นตามสมัยให้อารมณ์อบอุ่นโฮมมี่ เปิดช่องให้ลมพัดอยู่ตลอด ในห้องนอนก็โปร่งโล่งสบาย แถมยังสร้างได้กลมกลืนกับธรรมชาติบริสุทธิ์รอบด้าน

ที่นี่ได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถันโดยทีมสถาปนิกมือรางวัลจาก Creative Crews ซึ่งต้องบอกว่าละเมียดละไมเก็บหมดทุกเม็ดตามโจทย์ที่ทางทีมคุณอิมได้ตั้งไว้ ไม่ว่าจะเป็นการใช้ไม้โบราณที่ชาวบ้านรื้อถอนจากเรือนมาประกอบร่างใหม่ ข้าวของตกแต่งก็คัดสรรจากชุมชนโดยรอบ รวมถึงยังสร้างอาชีพ สร้างรายได้ โดยใช้แรงงานท้องถิ่นมามีส่วนร่วมในการก่อร่างฟาร์มสเตย์แห่งนี้ขึ้นมา

เอาละ มาถึง ห้องพัก ของอาสา ฟาร์มสเตย์กันบ้าง ทั้งหมดมีด้วยกันเพียง 4 ห้อง และพร้อมเปิดต้อนรับเพื่อนผู้มาเยือนสูงสุดวันละไม่เกิน 12 คน เรียกว่าเป็นจำนวนที่กำลังสบาย เว้นระยะห่างและรักษาความเป็นส่วนตัวได้ แถมดูไม่เงียบเหงาจนเกินไป เพราะพื้นที่ทั้งหมดนั้นกว้างขวางถึง 85 ไร่

ด้านดีไซน์ห้องพักออกแบบตามรูปแบบการสร้างเรือนขยายสมัยก่อน ที่มีเรือนประธานตั้งอยู่ตรงกลาง (ที่พักของโฮสต์) ทำใต้ถุนสูงเป็นครัวแบบเปิดและเป็นพื้นที่อเนกประสงค์ไว้นั่งเล่น ทำขนม นั่งกินข้าวได้อย่างเพลิดเพลิน ส่วนเรือนปีกซ้ายและปีกขวาคือห้องพักแขก แบ่งเป็นชั้นบนกับชั้นล่าง

แนะนำเลยว่าใครตั้งใจควงหวานใจมาสวีตที่ อาสา ฟาร์มสเตย์ ให้จับจองห้องชั้นบน บรรยากาศน่าเอนกาย มีระเบียงรอบ ๆ สามารถเปิดหน้าต่างดื่มด่ำกับวิวท้องทุ่งนาได้เต็มตาแบบส่วนตัวมาก ๆ

ส่วนกลุ่มครอบครัวที่มีเด็กเล็กและผู้สูงวัย ชั้นล่างเหมาะสุด ด้วยขนาดพื้นที่ที่ใหญ่กว่า ประตูสามารถเปิดกว้าง ไม่มีสเต็ปกั้น แถมยังเข็นวีลแชร์เข้าได้อีกด้วย นอกจากนี้ใครถามหาสิ่งอำนวยความสะดวก ที่นี่มีครบตามมาตรฐาน เตียงนอนนุ่ม ๆ ห้องน้ำสะอาด ขนม น้ำ ฯลฯ แต่ละเว้นโทรทัศน์ไว้ เพราะโฮสต์ต้องการให้คุณได้ใช้เวลาอยู่กับธรรมชาติ ปล่อยใจซึมซับจังหวะชีวิตอันสงบงาม ได้ทำความรู้จักเพื่อนใหม่ สนุกกับกิจกรรมในฟาร์มอย่างเต็มอิ่ม

เรียน เล่น รู้ ในอ้อมกอดธรรมชาติ

เช็กอินเรียบร้อยก็ถึงเวลาเปลี่ยนชุดหม้อห้อมที่ทางอาสาเตรียมไว้แล้วมาลองใช้ชีวิตแบบท้องถิ่นจริง ๆ ด้วยการออกสำรวจสรรพสิ่งในฟาร์ม โดยพื้นที่ราว 50% ของอาสาฟาร์มสเตย์ถูกยกให้เป็นสวนเกษตรทฤษฎีใหม่ ปลูกพืชผักแบบผสมผสาน ปลอดสารเคมี ทั้งผักสวนครัว ผลไม้ สับปะรด ลิ้นจี่ ฯลฯ แวดล้อมด้วยดงสวนยาง แปลงนาข้าวเขียวชอุ่มสุดสดชื่น เลี้ยงเป็ด ห่าน ไก่ ควาย ใครสนใจอยากลองดำนาก็ลงมือได้ หรือตามชาวบ้านพาพี่ควายไทยใจดีไปอาบน้ำก็เพลินไม่น้อย

บ่าย ๆ ค่อยเดินเก็บผัก เก็บไข่ เก็บเห็ด มาช่วยกันทำมื้อเย็น ลองปรุงเมนูตำรับเมืองเหนือลำขนาด (แอบกระซิบว่าเจ้าบ้านเขาทำน้ำพริกอ่องอร่อยมาก ใครติดใจเขาเปิดให้เรียนรู้สูตรลับกลับมาทำที่บ้านได้เลยแบบไม่หวง)

และที่เราชอบมากอีกอย่างคือ อาสา ฟาร์มสเตย์ แห่งนี้ใส่ใจชุมชนและคิดเรื่องการใช้สิ่งต่างๆ อย่างคุ้มค้าให้มากที่สุด เช่น หลังจากที่นำวัตถุดิบต่าง ๆ มาปรุงกับข้าวกินเองได้แล้ว ทางฟาร์มสเตย์ยังมีการหมุนเวียนไปใช้ในร้านอาหารเล็ก ๆ ที่ชื่อว่า ครัวอาสาฟาร์ม ให้ชาวบ้านในชุมชนได้อิ่มอร่อยกับอาหารที่ปรุงสดใหม่อีกด้วย

ในส่วนของกิจกรรมดี ๆ ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ เพราะยังมีคลาสเรียนทำขนมไทยแบบง่าย ๆ สอนโดยคุณย่าคุณยายในละแวกบ้าน หรือถ้าอยากบำรุงผิวพรรณไล่เลือดลมให้ไหลเวียนสะดวก ลองทำสปาสุ่มไก่อบสมุนไพร พอกหน้าด้วยขมิ้นชัน นวดไทยในศาลาริมชายทุ่งท่ามกลางบรรยากาศแสนเพลินใจ หรือจะลองผจญภัยหน่อย ๆ เขาก็มีกิจกรรมพาเดินสำรวจป่าชุมชน นำทีมโดยพี่ไกด์ท้องถิ่น (มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม) สาธิตการกรีดยาง ปิดท้ายด้วยการตื่นเช้าเตรียมอาหารรอใส่บาตรกับหลวงพี่ที่ท่านจะขี่ม้ามาจากวัดใกล้ ๆ ในชุมชน เรียกว่าเป็นการกระจายรายได้และประสบการณ์ไปสู่ชุมชนจริง ๆ ไม่ได้เปิดที่พักเพื่อรับนักท่องเที่ยวให้อยู่เพียงในรั้วที่พักเท่านั้น

อย่างไรก็ดีที่เล่ามาทั้งหมดล้วนเป็นเสี้ยวเดียวของประสบการณ์การเดินทางในครั้งนี้ เทียบไม่ได้เลยกับการที่คุณได้ออกเดินทางไปสัมผัสด้วยตัวเอง ประสบการณ์และความทรงจำคือสิ่งสำคัญเฉพาะบุคคล จะดีหรือร้ายเราสามารถเลือกบันทึกเองได้

หากมีเวลาแม้จะช่วงสั้น ๆ อย่าลืมแวะออกไปท่องโลกกว้าง (ชุมชนหรือท้องถิ่นใกล้ ๆ บ้านก็ยังดี) แค่ออกเดินทางก็เท่ากับได้ปลอบประโลมหัวใจ ปลุกความสดใสให้ชีวิตสักหน่อย เราจะได้มีแบตสำรองไว้กลับมาลุยงานกันต่อ… เนอะ

Fact File

• กิจกรรมต่าง ๆ สามารถปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์และสภาพภูมิอากาศ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและสำรองห้องพักได้ที่ facebook.com/ahsafarmstay หรือ www.ahsafarmstay.com หรือ โทร. 097-248-4674
• ตั้งอยู่ ณ บริเวณเชิงดอยแม่สลอง จ.เชียงราย