การเดินทางเพียงลำพังของ ปาลิตา ผลประดับเพ็ชร์ กวีหญิงซีไรต์คนที่ 2 ในรอบ 44 ปี
- จนกว่าโลกจะโอบกอดเราเอาไว้ ฉบับพิมพ์ครั้งแรกคือ มีนาคม 2565 (จำนวนจำกัด) โดยมีปาลิตาเป็นผู้ออกแบบปกและรูปเล่มด้วยตัวเอง ส่วนฉบับพิมพ์ล่าสุดโดย สำนักพิมพ์ ผจญภัย
- จนกว่าโลกจะโอบกอดเราเอาไว้ โดย ปาลิตา ผลประดับเพ็ชร์ กวีหญิงคนที่ 2 ในรอบ 44 ปี ที่สามารถคว้ารางวัลยอดเยี่ยมของการประกวด วรรณกรรมสร้างสรรค์ยอดเยี่ยมแห่งอาเซียน หรือ ซีไรต์
บทกวีที่ถ่ายทอดเรื่องราวของแม่ผู้ตั้งท้องอย่างไม่ได้ตั้งใจและภาวะสงครามที่สร้างแรงสั่นสะเทือนไปทั่วโลก เป็นสารตั้งต้นที่ทำให้เกิดการขับเคลื่อนภายในใจจนกลายมาเป็นกวีนิพนธ์เรื่อง จนกว่าโลกจะโอบกอดเราเอาไว้ โดย ปาลิตา ผลประดับเพ็ชร์ กวีหญิงคนที่ 2 ในรอบ 44 ปี ที่สามารถคว้ารางวัลยอดเยี่ยมของการประกวด วรรณกรรมสร้างสรรค์ยอดเยี่ยมแห่งอาเซียน หรือ ซีไรต์ และที่สำคัญนี่เป็นผลงานชิ้นแรกที่เธอส่งเข้าประกวดในเวทีซีไรต์และก็ได้รางวัลยอดเยี่ยมในทันที
หลังสิ้นเสียงประกาศ ปาลิตา ผลประดับเพ็ชร์ กวีผู้ประพันธ์ จนกว่าโลกจะโอบกอดเราเอาไว้ ได้ถ่ายทอดความรู้สึกว่า โดยส่วนตัวเธอมีความคิดรวมเล่มบทกวีนิพนธ์มาตั้งแต่ปี 2564 แต่เพิ่งได้เริ่มลงมือทำจริงจังเมื่อประมาณ 8-9 เดือนที่ผ่านมาหรือราวต้นปี 2565 โดยบทกวีที่รวมเล่มนั้นมีเนื้อหาที่หลายคนมองว่าเป็นงานเพื่อสังคม ทว่าปาลิตาไม่ได้คิดว่าจุดประสงค์ของงานชิ้นนี้ต้องผลิตออกมาเพื่อรับใช้สังคมหรืออุดมการณ์ แต่ทั้งหมดทุกถ้อยคำล้วนออกมาจากอารมณ์ภายใน โดยสำแดงออกมาตามแนวทางที่เธอถนัดนั่นก็คือ การเรียงร้อยความรู้สึกผ่านบทกวี
“จนกว่าโลกจะโอบกอดเราเอาไว้ บทกวีเล่มนี้เป็นการรับใช้ความรู้สึกภายใน เป็นการเยียวยาภาวะบางอย่างที่อยู่ภายในของเราจนทำให้เราต้องเขียนออกมา และที่ผ่านมาบนเวทีซีไรต์เราเป็นเพียงคนอ่านและคนเชียร์ ไม่ใช่คนที่ส่งผลงานเข้าไป การได้ซีไรต์ครั้งนี้จึงเป็นอะไรที่เกินความคาดหมายมาก เป็นอะไรที่เกิดขึ้นเร็วมากภายในระยะเวลา 1 ปี จึงขอขอบคุณทุกคนในชีวิตที่ทำให้บทกวีเล่มนี้ออกมาปรากฏต่อสายตาของผู้คน
“ส่วนตัวรู้สึกดีอย่างยิ่งที่บทกวีเล่มนี้ไปอยู่บนโต๊ะพิจารณาของคณะกรรมการร่วมกับกวีท่านอื่นๆ ที่มีชื่อเสียง เป็นเกียรติอย่างมาก เพราะเราในฐานะคนเขียนงาน การเขียนงานให้ออกมาได้ก็มีความสุขมากแล้ว แต่ครั้งนี้กลับได้รับรางวัล จึงเป็นความรู้สึกที่บรรยายไม่ถูก”
สำหรับบทกวี จนกว่าโลกจะโอบกอดเราเอาไว้ เล่มนี้ถ่ายทอดอารมณ์ ความรู้สึก เล่าถึงการแพร่ระบาดครั้งใหญ่ของโควิด19 ที่มีผู้คนแตกสลายไปแล้วนับไม่ถ้วน เป็นสิ่งที่กระทบจิตใจจนทำให้ปาลิตารู้สึกว่าตนเองต้องเขียนความรู้สึกนี้ออกมา
“ต้องขอบคุณแรงกระทบต่างๆ ที่ถาโถมเข้ามากระทบความคิด ที่มากระตุกต่อมความเชื่อต่างๆ ทำให้เกิดการค้นหาและถ่ายทอดออกมาเป็นบทกวี”
ด้าน ชมัยภร บางคมบาง (แสงกระจ่าง) ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์กล่าวถึงผลงานกวีนิพนธ์รางวัล ซีไรต์ 2565 ครั้งนี้ว่า คณะกรรมการตัดสินประจำปี 2565 พิจารณาแล้วมีความเห็นว่า กวีนิพนธ์เรื่อง จนกว่าโลกจะโอบกอดเราเอาไว้ โดย ปาลิตา นำเสนอภาพชีวิตของผู้คนในยุคสังคมพลิกผันที่เผชิญหน้ากับโรคระบาดครั้งใหญ่ ปัญหาอาชญากรรม สิ่งแวดล้อม และจริยธรรมสื่อ บทกวีแต่ละบทนำเสนอฉากชีวิตและพฤติการณ์ของคนธรรมดาสามัญ ทั้งเด็ก ผู้ใหญ่ คนชายขอบ ผู้คนในเมืองและในชนบทที่ยากจนและถูกเบียดบังกดทับ ตลอดจนตั้งคำถามกับโลกยุคเก่า พร้อมทั้งวิพากษ์โลกยุคใหม่อย่างแยบยลนอกจากนี้กวียังเล่าเรื่องชีวิตของผู้คนอย่างละคร แบ่งบทตอนอย่างสัมพันธภาพ ใช้ท่วงทำนองโรแมนติกกับสัจนิยมด้วยน้ำเสียงประชด เสียดสี เพื่อเร้าอารมณ์และกระตุ้นความนึกคิด ถ้อยคำในบทกวีน้อยแต่มาก ง่ายแต่งาม ลึกซึ้งทั้งความหมายและอารมณ์ความรู้สึก รวมทั้งยังใช้ศิลปะสองแขนง คือบทกวีกับภาพวาดมาสอดประสานกันเพื่อนำเสนอความคิดร่วมสมัยและสากล สื่อน้ำเสียงที่มีความมุ่งหวัง มุ่งยกระดับจิตใจให้ใคร่ครวญถึงความอ่อนโยนที่โลกพึงมีต่อโลก
สำหรับ ปาลิตา ผลประดับเพ็ชร์ เธอผู้นี้เป็นอดีตนักศึกษาปริญญาตรีรัฐศาสตร์ และปริญญาโทอักษรศาสตร์ ผู้กวาดรางวัลด้านกวีนิพนธ์มาหลายเวทีแต่ไม่เคยได้ส่งเข้าสู่เวทีซีไรต์ และสำหรับ จนกว่าโลกจะโอบกอดเราเอาไว้ ถือกำเนิดขึ้นหลังจากเธอลาออกจากมหาวิทยาลัยเพียง 10 เดือนโดยผู้เขียนได้สร้างสรรค์ผลงานจากแรงสั่นสะเทือนของปรากฏการณ์ในชีวิตประจำวันท่ามกลางบริบทของสังคมร่วมสมัย เจาะไปในโลกสังคมออนไลน์และสื่อสมัยใหม่ที่ผู้อ่านอาจจะคุ้นเคยกับตัวละคร ฉากหลัง และเรื่องเล่าต่างๆ ทั้งด้วยมีประสบการณ์ร่วม และด้วยความสามารถของจังหวะและภาษาจินตภาพในบทกวีที่ดึงดูดให้สัมผัสได้ถึงความหมายระหว่างบรรทัดที่มาในรูปแบบของข้อเสนอ ข้อท้วงติง ข้อตักเตือน และการสั่นคลอนความเคยชิน
จนกว่าโลกจะโอบกอดเราเอาไว้ ฉบับพิมพ์ครั้งแรกคือ มีนาคม 2565 (จำนวนจำกัด) โดยมีปาลิตาเป็นผู้ออกแบบปกและรูปเล่มด้วยตัวเอง ส่วนฉบับพิมพ์ล่าสุดโดย สำนักพิมพ์ ผจญภัย ซึ่งผู้เขียนได้สร้างสรรค์ผลงานจากแรงสั่นสะเทือนของปรากฏการณ์ในชีวิตประจำวันท่ามกลางบริบทของสังคมร่วมสมัย เจาะไปในโลกสังคมออนไลน์และสื่อสมัยใหม่ที่ผู้อ่านอาจจะคุ้นเคยกับตัวละคร ฉากหลัง และเรื่องเล่าต่างๆ ทั้งด้วยมีประสบการณ์ร่วม และด้วยความสามารถของจังหวะและภาษาจินตภาพในบทกวีที่ดึงดูดให้สัมผัสได้ถึงความหมายระหว่างบรรทัดที่มาในรูปแบบของข้อเสนอ ข้อท้วงติง ข้อตักเตือน และการสั่นคลอนความเคยชิน
สำหรับรูปแบบของบทกวีใน จนกว่าโลกจะโอบกอดเราเอาไว้ ไม่เคร่งครัดจังหวะตามแบบแผนกลอนโบราณ สอดคล้องกับเนื้อหาร่วมสมัย บทกวีแต่ละวรรคมีจังหวะเป็นของตัวเอง เหมือนตัวละครปัจเจกบุคคลในบทกวีที่ล้วนแล้วแต่มีชะตากรรมส่วนตน หากเมื่อหลอมรวมกันแล้ว จึงกลายเป็นมวลชนที่เข้มแข็ง มีคุณค่าเชิงอุดมการณ์ เหมือนบทกวีทั้งบทและทั้งเล่มที่มีความหมายโดดเด่นและมีพลัง เชื้อเชิญให้ผู้อ่านที่อาจจะไม่คุ้นเคยกับงานกวีนิพนธ์สามารถกระโดดเข้าไปในบทกวีของเธอได้ไม่ยาก
ด้านผลงานเล่มถัดไปของปาลิตานั้นจะเป็นการทำงานที่มีบรรณาธิการเข้ามาช่วยเหลือมากขึ้น เพราะบทกวีเล่มแรกด้วยความจำเป็นบางอย่างทำให้ต้องดูแลตัวเอง
“สำหรับเล่มแรกเสมือนการเดินทางเพียงลำพัง แต่หลังจากนี้เราจะไม่เดินทางเพียงลำพังอีกต่อไป จึงฝากให้นักอ่านคอยติดตามผลงานหลังจากนี้ และขอขอบคุณกำลังใจของทุกคนที่มอบให้เสมอ”