ภาพยนตร์ ตัวตนของ นนทรีย์ นิมิบุตร และจดหมายรักที่มีต่อหนังไทยใน มนต์รักนักพากย์
Faces

ภาพยนตร์ ตัวตนของ นนทรีย์ นิมิบุตร และจดหมายรักที่มีต่อหนังไทยใน มนต์รักนักพากย์

Focus
  • นนทรีย์ นิมิบุตร เป็นผู้กำกับ ที่น่าจดจำทั้งในเชิงผลงานภาพยนตร์ระดับตำนานพลิกวงการภาพยนตร์ไทยทั้ง 2499 อันธพาลครองเมือง (ค.ศ. 1997) นางนาก (ค.ศ. 1999) และ จัน ดารา (ค.ศ. 2001)
  • นนทรีย์ นิมิบุตร จัดอยู่ในประวัติศาสตร์ภาพยนตร์ไทยในฐานะผู้กำกับ ในระลอกที่เรียกได้ว่า “The Thai New Wave”
  • มนต์รักนักพากย์ ผลงานภาพยนตร์เรื่องล่าสุดของ นนทรีย์ นิมิบุตร ปลุกภาพความทรงจำของรถฉายหนังขายยาที่เลือนหายไปตามกาลเวลาให้กลับมาโลดแล่นอย่างมีสีสันบนโลกสตรีมมิง Netflix

นนทรีย์ นิมิบุตร เป็นผู้กำกับ ที่น่าจดจำทั้งในเชิงผลงานภาพยนตร์ระดับตำนานพลิกวงการภาพยนตร์ไทยทั้ง 2499 อันธพาลครองเมือง (ค.ศ. 1997) นางนาก (ค.ศ. 1999) และ จัน ดารา (ค.ศ. 2001) ที่มีจุดเด่นในแง่ของบทภาพยนตร์ที่สมจริงและงานสร้างที่ละเอียดละเมียดรวมทั้งงานกำกับภาพยนตร์ที่ใส่ใจกับทุกรายละเอียดจนทำให้เรื่องราวต่างๆ ที่ถูกเล่าเข้มขลังจนสามารถพลิกประวัติศาสตร์ภาพยนตร์ไทยจากยุคกระโปรงบาน ขาสั้นเข้าสู่ยุครุ่งเรืองโลกาภิวัตน์นำหนังไทยเข้าสู่ตลาดภาพยนตร์สากลจนมีการเรียกยุคสมัยนั้นว่า The Thai New Wave ซึ่งเป็นช่วงที่ประวัติศาสตร์ไทยและประวัติศาสตร์ภาพยนตร์ไทยกำลังก้าวสู่จุดเปลี่ยนที่ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ในวาระที่ นนทรีย์ นิมบุตร กำลังจะมีภาพยนตร์ใหม่ มนต์รักนักพากย์ ออกมาสตรีมทาง Netflix เราจึงได้ชวน นนทรีย์ นิมิบุตร มาพูดคุยทั้งในฐานะผู้กำกับชีวิต และภาพยนตร์ใหม่ของเขาที่กล่าวได้ว่าเป็นภาพยนตร์เสมือน จดหมายรักของนนทรีย์ที่มีต่อภาพยนตร์ไทย

มนต์รักนักพากย์

ในฐานที่ใช้ชีวิตกว่าครึ่งทางกับการเป็นผู้กำกับภาพยนตร์ อะไรคือเสน่ห์ของโลกภาพยนตร์

เวลาเราได้ดูหนังมันช่างจินตนาการเหลือเกิน เหมือนอะไรก็เกิดขึ้นได้ ยิ่งหนังดีเท่าไร เรายิ่งเซอร์ไพรส์เท่านั้น แบบ…คุณไปถึงตรงนั้นได้ยังไง โลกภาพยนตร์มันจะเกิดอะไรขึ้นก็ได้ เรารู้สึกว่าตรงนี้มันช่างมีมนต์ขลังเหลือเกิน นอกจากนี้หนังมันยังมีความสำคัญ มีอิทธิพลต่อผู้คน ต่อมนุษย์ จำได้ว่าเราไปดู 2499 อันธพาลครองเมือง กับคนดู หลังจากออกจากโรงมาเราจะเข้าห้องน้ำ เราเห็นวัยรุ่นเอาน้ำเสยผมแล้วบอกว่า “กูเป็นแดง” เรามีความสุขมากเลย เราเชื่อว่าภาพยนตร์มันสามารถสร้างวัฒนธรรมได้

บทเรียนจากการเป็น “ผู้กำกับภาพยนตร์ไทย”

ความที่เราทำอย่างเต็มที่ เราตั้งตู้รางวัลไว้ก่อนออกประตูบ้าน มันไม่ได้บอกว่าเราเก่ง แต่มันบอกเราว่า คุณน้อยกว่านี้ไม่ได้ คุณห้ามชุ่ย คุณต้องดีกว่านี้หรือต้องประมาณนี้ มันบอกเราว่า ถ้าเรารักอะไร เราจะตื่นมาคิดและทำและหลับไปอีกที ระยะเวลาการทำงานที่ผ่านมามันบอกเราตลอดว่า ใครจะอยู่ใครจะหายไปจากตรงนี้ การทำงานผู้กำกับ คือ ชุ่ยไม่ได้ ต้องจริงใจ และตั้งใจ

บทเรียนสำคัญของชีวิตที่ถอดมาจากการทำงานในโลกภาพยนตร์

การอยู่ให้ง่ายที่สุดกับชีวิต ความต้องการที่ลดลงเรื่อยๆ เป็นบทเรียนที่ดีมาก มันทำให้เรารู้ได้ว่า เราจมเป็น ความอยากได้โน้นนี้ลดลงเรื่อยๆ ถ้าคุณมีกิเลสคุณต้องดิ้นรนจนอาจต้องไปทำอะไรที่ผิดเพื่อมารับรองสิ่งที่อยาก เมื่อความอยากลดไปแบบทุกวันนี้ไม่ต้องการอะไรแล้ว มันต้องการแค่ปัจจัยสำคัญที่จำเป็นสำหรับเราเท่านั้นเอง เช่นปี 2538 เราจำได้ว่าเราทำโฆษณาอยู่ มีคิวจองเต็มถึงปีหน้า แต่พอปี 2540 งานหายพรึบ เราก็ไม่เป็นไรกินข้าวต้มหน้าทีวีไป มีมากใช้มาก มีน้อยใช้น้อย และลดความอยากลงเรื่อยๆ การที่เราลดความอยากของเราลงไปได้เป็นบทเรียนที่ดี

อะไรสำคัญที่สุดระหว่างขั้นตอนการพัฒนางาน

อยากดูอะไร อยากเห็นมันยังไง อยากเล่าอย่างไร หนังทุกเรื่องเกิดขึ้นจากความสงสัยและไปหาคำตอบจากการค้นคว้าและมาคิดว่ามันน่าสนใจพอจะทำรึเปล่า ถ้าน่าสนใจพอก็คิด เขียนบทออกมา และคิดต่อว่ามันควรออกมาเป็นแบบไหน หนังที่ทำมักจะเริ่มต้นจากตัวเอง เป็นเรื่องที่เราอยากทั้งหมด พอเราอยากทำมันเลยทำให้ความทะยานเยอะกว่าการทำตามโจทย์

มนต์รักนักพากย์

มองตลาดภาพยนตร์ไทยอย่างไร

ถ้าถามยุคที่หนังไทยเฟื่องฟูจะอยู่ประมาณปี 2540-2550 เหตุเกิดจากผู้สร้างเสียศูนย์ช่วงนั้นเลยเป็นช่วงที่ผู้กำกับ คิดเอง ทำเอง จนตลาดมันหลากหลายมากทั้งแนวหนังและแนวทางผู้กำกับ ถ้าวิเคราะห์ตลาดหนังไทยที่โตได้ก็เพราะความหลากหลายและแตกต่าง ไม่ใช่อะไรสำเร็จแล้วก็มีแนวนั้นออกมาเต็มเลย มันต้องมีทุกรสให้ทุกคนมีหนังดู ไม่ใช่ทำหนังให้ใครสักคน เพราะถ้าเป็นอุตสาหกรรมต้องหลากหลาย แตกต่าง และลงทุนอย่างเหมาะสม เราเชื่อว่าถ้ามีหนังสักห้าเรื่องที่แตกต่างหลากหลาย ศรัทธาจะกลับมาจากการพูดปากต่อปาก ถ้ามันดีทุกเรื่อง

นิยาม “หนังสไตล์นนทรีย์”

ถ้าคนมองหนังเราบ่อยๆ นักวิจารณ์ต่างประเทศก็พูดถึง คือ บรรยากาศ เราชอบหนังพีเรียด เราอินกับมัน เรามีความสุขที่อยู่เอาต์ดอร์มีของเก่าๆ เป็นความทรงจำที่งดงาม เราตั้งใจประดิษฐ์ให้บรรยากาศมันอยู่ในยุคนั้นที่สุด อย่างน้อยบรรยากาศดีมันทำให้คุณเชื่อเราแล้วว่าคุณกำลังดูหนังยุคนั้น เมื่อไรที่คุณเชื่อบรรยากาศทุกอย่างมันจบเลย! อย่าง นางนาก เราทำหนังรักที่น่าสะพรึงกลัว ต่อให้เราต้องไปถ่ายค้างคาวเกาะถ้ำฉากเดียวแล้วกลับเราก็จะไปเพื่อบรรยากาศ หรืออย่าง จัน ดารา ทำไมเราต้องสร้างบ้านห้าหลังขึ้นมาใหม่ อย่างหลังสุดท้ายเราสร้างตามบทภาพยนตร์ ในทีแรกมันว่าง แต่พอถึงช่วงหนึ่งมันจะมีตึกขึ้นมาตามไทม์ไลน์หนังเลย นิยามหนังสไตล์นนทรีย์ คือ เราใส่ใจบรรยากาศมากที่สุด

ผู้กำกับ ศิลปิน และนักเขียน ที่ชอบ

มาร์ติน สกอร์เซซี (Martin Scorsese) ชอบมาก เป็นคนที่ดูหนังเขาบ่อยที่สุด เมื่อใดที่ตีบตันทางความคิดเปิดหนังเขาดูเลย เรื่องอะไรก็ได้ดูได้หมด สำหรับเราเขาคือเจ้าพ่อภาพยนตร์อาชญากรรม เขากำกับ แล้วทำให้เราเห็นด้านในของคน ด้านมืดของมนุษย์ที่อยู่ข้างใน เขาเอาออกมาได้หมด ชอบวิธีการเล่าเรื่อง คนนี้ทำอะไรมาไม่ดูไม่ได้ ดูเรื่องละสองรอบขึ้นไปแน่นอน ดูหนังเขาในโรงภาพยนตร์สองรอบต่อกันเลยก็เคย รอบสองเก็บรายละเอียดว่ามันทำยังไง และเขาก็ทำบรรยากาศดีมาก

แวน โก๊ะ (Van Gogh) สำหรับเราเขาเป็นศิลปินอาภัพ เขาตายไปแล้วถึงดัง แต่งานเขาสวยมาก ประทับใจทุกครั้ง ตอนสมัยเรียนอาจารย์ให้เรารีโปรดักชันเราเลือกงานเขาเสมอ เขาให้สีตรงกันข้ามมาทับซ้อนเพื่อขับสีหลักที่ใช้ให้เด่นขึ้น เขาอัจฉริยะ

ชาติ กอบจิตติ และ วินทร์ เลียววาริณ พี่ชาตินี้อ่านจนเขียนจดหมายส่งตู้ ปณ. รู้จักกันเพราะเขียนจดหมายหากัน เราอ่าน พันธุ์หมาบ้า ตั้งแต่อยู่ใน ลลนา เราติดงอมแงมเลย ถึงขั้นเขียนจดหมายบอกว่าเราชอบมาก ตอนหลังได้ไปหาที่บ้านจนสนิทกัน ส่วนคุณวินทร์เขียนเรื่องสมจริงอวลไปด้วย sci-fi คิดสองชั้นตลอดเวลา ที่ชอบอ่านเพราะมันซับซ้อนในความธรรมดา เราอ่าน ประชาธิปไตยบนเส้นขนาน, สิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าคน เป็นเรื่องสมจริงที่มีความเป็น sci-fi ต่อมาผมเลยชวนเขามาเขียนบทหนัง ปืนใหญ่จอมสลัด ที่เราทำนี่แหละ

มนต์รักนักพากย์

สำหรับภาพยนตร์ใหม่ มนต์รักนักพากย์ โปรเจกต์นี้เกิดขึ้นได้อย่างไร

ความน่าสนใจอยู่ที่เราไม่ค่อยได้พูดถึงคนเหล่านี้ (นักพากย์) เท่าไร ทั้งที่คนดูสนุกกับการพากย์ แต่ไม่ได้สนใจตัวตนของคนที่พากย์ และผมมีความผูกพันกับ มิตร ชัยบัญชา มีการเกี่ยวข้องกันไปมาและนับถือเขามาก ถือว่าเขามีคุณูปการกับวงการภาพยนตร์ไทยจริงๆ ผมยังทันได้ดูภาพยนตร์ที่เขาเล่น เขาโด่งดังมากๆ เรียกได้ว่าในยุคหนึ่งเรื่องไหนไม่มี มิตร ชัยบัญชา แสดงเรื่องนั้นแทบไม่ประสบความสำเร็จ ผมจึงรู้สึกเองว่าตนเองผูกพันกับคุณมิตรตลอด อย่างเวลาทำหนังก็ไปขอพรเขาให้หนังเราประสบความสำเร็จ ผมจึงอยากทำหนังคุณมิตร เพราะปัจจุบันได้รับการพูดถึงในกลุ่มคนเล็กๆ คนรุ่นใหม่แทบไม่พูดถึงเลย เราเลยอยากพูดถึง หนังเรื่องนี้พูดถึงคุณมิตรอย่างเต็มปากเต็มคำ และหนังคุณมิตรก็เป็นหนังพากย์ด้วยนักพากย์ทุกเรื่องเลย

นอกจากเรื่องเกี่ยวกับ มิตร ชัยบัญชา แล้วใน มนต์รักนักพากย์ เรายังได้ไปค้นคว้าเกี่ยวกับเรื่องนักพากย์ ตั้งแต่นักพากย์หญิงจนถึงเรื่องเจอผีอะไรมากมาย เรากับเพื่อนเลยช่วยกันเขียนบท เราเขียนเรื่อง (Story) ร่วมกับ เอก เอี่ยมชื่น ที่เป็นคนเขียนบทด้วย (Screenplay) พอเขียนบทเสร็จเราพบว่าภาพยนตร์เรื่องนี้มันสเกลใหญ่มาก เคยไปคุยกับค่ายหนัง แต่ไม่มีใครออกสตางค์ เราเลยเก็บไว้และได้เสนอ Netflix จนเกิดเป็นภาพยนตร์เรื่องนี้ขึ้น เอาจริงๆ เราคิดว่าหนังเรื่องนี้ส่วนตัวถ้าเข้าโรงก็ไม่คิดว่าจะได้สตางค์เท่าไร เราเสนอ Netflix เขาก็ให้เงินเต็มจำนวนที่ทำให้มันสามารถเกิดขึ้นได้

ทำไม มนต์รักนักพากย์ ถึงเป็นจดหมายรักของคุณถึงภาพยนตร์ไทย

เราอยู่ในวงการนี้มานาน การอยู่ในวงการนี้นานขนาดนี้ได้เราต้องรักมันจริงๆ เป็นทั้งผู้เล่นและผู้ดู เป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันสมาคมผู้กำกับภาพยนตร์ไทย และเป็นนายกสมาคมฯ คนแรกเพื่อผลักดันอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทยให้เติบโตเป็นเหมือนสหภาพทำหน้าที่ดูแลและร่วมมือกันโดยที่ไม่ได้รายได้ใดๆ จากส่วนนี้ นี่ก็เป็นส่วนหนึ่งของการทำให้กับสิ่งที่เรารัก ใน มนต์รักนักพากย์ ก็เช่นกันเป็นการสร้างบรรยากาศหนังไทย ย้อนการพากย์หนังให้ได้ดู เป็นการส่งผ่านความรู้สึก ความรักของเรากับหนังไทย ทำดีที่สุดที่เราทำได้

Fact File

  • สามารถรับชมภาพยนตร์ มนต์รักนักพากย์ ได้แล้ววันนี้ที่ Netflix
  • มนต์รักนักพากย์ ผลงานภาพยนตร์เรื่องล่าสุดของ นนทรีย์ นิมิบุตร นำแสดงโดย เวียร์-ศุกลวัฒน์ คณารศ รับบท หัวหน้ามานิตย์ หนูนา-หนึ่งธิดา โสภณ รับบท เรืองแข เก้า-จิรายุ ละอองมณี รับบท ไอ้เก่า และ สามารถ พยัคฆ์อรุณ รับบท ลุงหมาน เล่าเรื่องราวการตามหาความฝันของกลุ่มนักพากย์บนรถเร่ขายยาของบริษัทขายยาโอสถเทพยดา ปลุกภาพความทรงจำของรถฉายหนังขายยาที่เลือนหายไปตามกาลเวลาให้กลับมาโลดแล่นอย่างมีสีสันบนโลกสตรีมมิง ภายใต้เรื่องราวของกลุ่มคนมีฝันที่ออกเดินทางไปด้วยกันพร้อมรถเร่ขายยาพาหนะคู่ใจ

Author

อชิตพนธิ์ เพียรสุขประเสริฐ
มนุษย์ผู้ตกหลุมรักในการสร้างสรรค์ ภาพ เสียง แสง การเคลื่อนไหว นามธรรม และ การขีดเขียน

Photographer

วรวุฒิ วิชาธร
คลุกคลีอยู่ในวงการนิตยสารมากว่า 15 ปี ทั้งงานแฟชั่น ไลฟ์สไตล์ ศิลปวัฒนธรรม ท่องเที่ยว ปัจจุบันยังคงสนุกกับการสร้างสรรค์ผลงานถ่ายภาพในฐานะ "ช่างภาพอิสระ"