ถอดรหัสความยั่งยืนของ Green Man บุคคลสำคัญผู้อยู่เบื้องหลังด้านสิ่งแวดล้อมประจำโรงแรม
Faces

ถอดรหัสความยั่งยืนของ Green Man บุคคลสำคัญผู้อยู่เบื้องหลังด้านสิ่งแวดล้อมประจำโรงแรม

Focus
  • CF-Hotels คืออีกเครื่องมือหนึ่งที่ช่วยคำนวณก๊าซเรือนกระจก ใช้ง่าย ใช้ฟรี! เหมือนมีที่ปรึกษาด้านสิ่งแวดล้อมนั่งประจำการอยู่ที่โรงแรม
  • ปฏิเสธไม่ได้ว่าปัจจัยในการตัดสินใจเลือกที่พักของนักท่องเที่ยวในปัจจุบันไม่ใช่แค่เรื่องราคา ความคุ้มค่า โลเคชัน และสิ่งอำนวยความสะดวกที่ตอบสนองต่อไลฟ์สไตล์ การใส่ใจด้านสิ่งแวดล้อมเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน

Green Man คือบุคคลที่มีส่วนสำคัญในการผลักดันนโยบายที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมของโรงแรม ไม่ว่าจะเป็นการมุ่งเน้นการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก จัดการขยะ ส่งเสริมการใช้ทรัพยากรและพลังงานอย่างคุ้มค่าและเกิดประสิทธิภาพสูงสุด เพราะหน้าที่ของพวกเขาคือหลังบ้านที่ต้องทำให้ทุกองคาพยพของโรงแรมขับเคลื่อนไปในเส้นทางสายกรีนอย่างยั่งยืนโดยที่พวกเขาเชื่อว่าไม่ใช่เฉพาะโรงแรมที่จะได้รับผลของความยั่งยืน แต่ยังรวมถึงนักเดินทาง และชุมชนรอบโรงแรมด้วย

ปฏิเสธไม่ได้ว่าปัจจัยในการตัดสินใจเลือกที่พักของนักท่องเที่ยวในปัจจุบันไม่ใช่แค่เรื่องราคา ความคุ้มค่า โลเคชัน และสิ่งอำนวยความสะดวกที่ตอบสนองต่อไลฟ์สไตล์ การใส่ใจด้านสิ่งแวดล้อมเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน เช่น ลดการใช้พลาสติก ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและคาร์บอนฟุตพรินต์ เป็นอีกเหตุผลสำคัญของการเลือกใช้บริการที่พักสำหรับนักท่องเที่ยวสายกรีนที่เพิ่มมากขึ้น

Green Man

ถึงแม้แต่ละโรงแรมจะวางนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนไว้ดีเพียงใด แต่หากขาดทรัพยากรบุคคลในการขับเคลื่อนก็ไม่อาจบรรลุเป้าหมายได้ Sarakadee Lite จึงพาไปรู้จัก Green Man หรือบุคคลที่มีส่วนสำคัญในการผลักดันนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมของ 3 โรงแรมที่เป็นสมาชิก CF-Hotels ที่มุ่งเน้นการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและส่งเสริมการใช้ทรัพยากรและพลังงานอย่างคุ้มค่าและเกิดประสิทธิภาพสูงสุด มาดูกันว่าอะไรคือแรงผลักดันให้พวกเขาเลือกที่จะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการดูแลสิ่งแวดล้อมและโลกใบนี้อย่างไม่ลังเล

Green Man

Key Person : รวิวรรณ ภู่งาม Resort Experience Manager and Sustainability Champion, โรงแรม Phuket Marriott Resort & Spa, Merlin Beach

Key Message : “หน้าที่เราเป็นทั้งตัวหลักและตัวกลางในการขับเคลื่อนและติดตามให้ทุกแผนกทำตามนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนที่ตั้งเป้าหมายไว้ เราเชื่อมั่นว่าการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมและชุมชนถือเป็นเรื่องสำคัญเทียบเท่ากับการสร้างประสบการณ์แห่งความสุขให้กับผู้เข้าพัก”

Key Success : โรงแรมติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ขนาดกำลังการผลิต 653 kWp จำนวน 1,006 แผง โดยคาดว่าจะช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 489.93 ตันต่อปี และติดตั้งอุปกรณ์ตรวจวัดอุณหภูมิในน้ำทะเลเพื่อศึกษาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิตในทะเล

Key Point : โรงแรมภูเก็ต แมริออท รีสอร์ทแอนด์สปา เมอร์ลินบีช ได้มีโครงการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ขนาดกำลังการผลิต 653 kWp จำนวนทั้งสิ้น 1,006 แผง บนดาดฟ้าของทั้ง 4 อาคารของโรงแรมหรือคิดเป็นพื้นที่ทั้งหมด 3,007 ตารางเมตร และเริ่มใช้งานเมื่อเดือนเมษายน 2567 และคาดว่าจะลดการใช้พลังงานทั้งหมดได้ไม่ต่ำกว่า 7% ภายในปี 2567 อีกทั้งจะช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 489.93 ตันต่อปี โดยทางโรงแรมประเมินว่าที่นี่เป็นโรงแรมที่ติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดภูเก็ต ณ ขณะนี้

“หน้าที่ของเราคือดูแลเรื่องนโยบายเกี่ยวกับความยั่งยืนของโรงแรมที่มุ่งเน้นการใช้พลังงานและทรัพยากรให้คุ้มค่ามากที่สุด เราต้องวางเป้าหมายและทำให้สำเร็จ หน้าที่เราเป็นทั้งตัวหลักและตัวกลางในการขับเคลื่อนและติดตามให้ทุกแผนกทำตามนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนที่ตั้งเป้าหมายไว้ การดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมและชุมชนถือเป็นเรื่องสำคัญเทียบเท่ากับการสร้างประสบการณ์ความสุขให้กับผู้เข้าพัก” รวิวรรณ ภู่งาม Resort Experience Manager and Sustainability Champion, โรงแรม Phuket Marriott Resort & Spa, Merlin Beach กล่าวถึงหน้าที่ของเธอในการทำให้นโยบายกรีนของโรงแรมเกิดขึ้นได้จริงโดยความร่วมมือจากทุกหน่วยงานของโรงแรมและพนักงานกว่า 300 ชีวิต

Green Man

โรงแรม Phuket Marriott Resort & Spa, Merlin Beach ได้ผ่านการรับรองโรงแรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Green Hotel) ระดับ Silver จากกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อมตั้งแต่ปี 2566 และระดับ Gold จาก Travellife ตั้งแต่ปี 2565 พร้อมทั้งเข้าร่วมเป็นสมาชิก CF-Hotels ในการคำนวณปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกตามแนวทางขององค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก พร้อมดำเนินกิจกรรมลดก๊าซเรือนกระจกจากกิจกรรมต่าง ๆ ภายในโรงแรมเมื่อปี 2566

“นโยบายของโรงแรมคือไม่มีการใช้พลาสติกแบบ Single Used 100% ในห้องพักมีขวดแก้วที่ผู้เข้าพักสามารถรีฟิลน้ำได้ตลอด และเรามีแจกแก้วเก็บความเย็นให้พนักงานทุกคน หากพบว่าพนักงานคนใดนำถุงหรือขวดน้ำพลาสติกเข้ามาจะต้องโดนปรับชิ้นละ 100 บาท เรามีระบบบำบัดน้ำ คัดแยกขยะ ใช้หลอดไฟ LED คอมพิวเตอร์ในสำนักงานถ้าเปิดแล้วไม่มีการใช้จะดับอัตโนมัติภายใน 15 นาที มีแปลงผักสมุนไพรสำหรับใช้ประกอบอาหารให้พนักงาน มี EV charging stations และมีรถรับส่งพนักงานจากตัวเมืองภูเก็ตมาที่โรงแรมทำให้พนักงานไม่ต้องขับรถมาเองเพื่อช่วยลดคาร์บอนฟุตพรินต์”

โรงแรมตั้งอยู่บริเวณหาดไตรตรังและทะเลที่มีแนวปะการังสวยงามโดยทางโรงแรมได้ร่วมมือกับกรมประมงในการดูแลรักษาหน้าหาดและปกป้องความสมบูรณ์ของปะการังมาตั้งแต่ปี 2561 พร้อมกับจัดตั้งศูนย์เรียนรู้ปะการัง หรือ Reef Education Center เพื่อให้ความรู้เรื่องระบบนิเวศทางทะเล

“ทางโรงแรมเพิ่งมีตำแหน่งใหม่ คือ Marine Biologist (นักชีววิทยาทางทะเล) ดูแลเรื่องทะเลและความหลากหลายของสิ่งมีชีวิตและให้ความรู้กับนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะประเด็นที่หลายคนไม่เข้าใจว่าทำไมเราถึงห้ามนักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำช่วงน้ำลงเพราะจะทำลายแนวปะการัง ในช่วงน้ำขึ้นเราจัดโปรแกรม eco-snorkeling tour เพื่อให้ได้ประสบการณ์ตรงว่ามีปะการังอะไรบ้างในบริเวณนี้และท่องเที่ยวอย่างไรให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม”

เมื่อปลายเดือนเมษายน 2567 ทางโรงแรมได้มีการติดตั้งอุปกรณ์ตรวจวัดอุณภูมิในน้ำทะเลระยะยาว (temperature/light data logger) จำนวน 3 สถานีในระดับความลึกที่ 3, 6 และ 10 เมตรจากผิวน้ำทะเลเพื่อศึกษาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิตในทะเล นอกจากนี้ภายในโรงแรมยังมีสวนผีเสื้อ หรือ Merlin Butterfly Sanctuary เป็นศูนย์เรียนรู้และอนุรักษ์ผีเสื้อโดยจะมีโปรแกรมนำชมให้ความรู้เกี่ยวกับธรรมชาติของผีเสื้อและจะได้เห็นผีเสื้อหลากหลายสายพันธุ์ เช่น Papilio polytes, Hebomia glaucippe, Troides helena, Euploea Core และ Danaus Genutia

CF-Hotels

“บริเวณใกล้ๆ โรงแรมมีผีเสื้อเยอะมากจึงได้ปลูกต้นไม้เพิ่มมากขึ้นโดยเฉพาะพืชตระกูลส้ม เช่น ต้นมะนาวเพื่อให้ผีเสื้อวางไข่ ปัจจุบันมีผีเสื้อมากมายและหลากหลายสายพันธุ์และมีศูนย์อนุบาลผีเสื้อด้วย ภายในสวนเราก็ปลูกดอกกล้วยไม้และนำมาใช้ประดับตามที่ต่างๆ ในโรงแรม นอกจากนี้เรายังจัดทำหนังสือเกี่ยวกับปะการังและผีเสื้อเพื่อให้ลูกค้าที่เข้าพักได้อ่านเป็นข้อมูลด้วย”

รวิวรรณให้ความเห็นว่านักท่องเที่ยวปัจจุบันให้ความสำคัญกับการเลือกที่พักที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและให้ความสนใจกับกิจกรรมสีเขียวเป็นอย่างมาก เช่น ในปี 2566 มีลูกค้าให้ความสนใจเข้าร่วมกิจกรรม eco-snorkeling tour ถึง 11,042 คน

“เราเชื่อมั่นว่าการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมและชุมชนถือเป็นเรื่องสำคัญเทียบเท่ากับการสร้างประสบการณ์แห่งความสุขให้กับผู้เข้าพัก” เธอกล่าวทิ้งท้าย

CF-Hotels

Key Person : กมล เสงี่ยมวงศ์ Chief Engineer, โรงแรม Veranda Resort Pattaya Na Jomtien

Key Message : “หน้าที่ของผมคือซัปพอร์ตข้อมูลและเทคนิคของการใช้ไฟฟ้าและอัตราการใช้ไฟฟ้าเพื่อให้เกิดการใช้พลังงานอย่างคุ้มค่าและมีประสิทธิภาพสูงสุดและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้ได้มากที่สุด”

Key Success : ใช้หลอด LED 100% และติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ซึ่งช่วยลดการใช้ไฟฟ้าจริงได้ถึง 7-10% ต่อเดือน สามารถลดค่าไฟฟ้าได้ถึงเดือนละประมาณ 80,000 บาท

CF-Hotels

Key Point : โรงแรม Veranda Resort Pattaya Na Jomtien มีโครงการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์เมื่อเดือนกันยายน 2567 และประเมินว่าสามารถช่วยลดการใช้ไฟฟ้าจริงได้ 7-10% ต่อเดือน สามารถลดค่าไฟฟ้าได้ถึงเดือนละประมาณ 80,000 บาท อีกทั้งมีการเปลี่ยนหลอดไฟทั้งหมดให้เป็นหลอด LED 100% โรงแรมได้ผ่านการรับรองโรงแรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Green Hotel) ระดับ Gold จากกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อมตั้งแต่ปี 2566 และเข้าร่วมเป็นสมาชิก CF-Hotels ในการคำนวณปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกตามแนวทางขององค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจกเมื่อปี 2566 และดำเนินกิจกรรมลดก๊าซเรือนกระจกจากกิจกรรมอื่นๆ ภายในโรงแรมร่วมด้วย

CF-Hotels

“ในแต่ละปีมีการตั้งเป้าไว้ว่าต้องลดการใช้พลังงานทั้งหมดให้ได้อย่างน้อย 3% แต่ละหน่วยงานต้องเก็บสถิติข้อมูลการใช้อย่างละเอียดทุกเดือนเพื่อนำมาคำนวณการใช้พลังงานทั้งน้ำมัน ไฟฟ้า น้ำประปา และก๊าซ และมีการมอนิเตอร์ว่าตัวเลขมีความสมดุลกับจำนวนผู้เข้าพักหรือไม่และเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านๆ มา หน้าที่ของผมคือซัปพอร์ตข้อมูลและเทคนิคของการใช้ไฟฟ้าและอัตราการใช้ไฟฟ้าเพื่อให้เกิดการใช้พลังงานอย่างคุ้มค่าและมีประสิทธิภาพสูงสุดและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้ได้มากที่สุด” กมล เสงี่ยมวงศ์ Chief Engineer ของ โรงแรม Veranda Resort Pattaya Na Jomtien กล่าวถึงหน้าที่ความรับผิดชอบ

รายการผลิตภัณฑ์ที่จัดซื้อเป็นหลักในโรงแรม เช่น ข้าวสาร ผัก ผลไม้ อาหารแห้ง และอาหารทะเล มีการจัดทำเป็นตารางรายการระบุแหล่งที่ซื้อและระยะทางว่าห่างจากรีสอร์ตกี่กิโลเมตรเพื่อแสดงให้เห็นว่ามีการจัดซื้อในท้องถิ่นเพื่อลดการใช้พลังงานในการขนส่งและคาร์บอนฟุตพรินต์

Green Man

“เรามีระบบ Reused grey water คือการจัดการน้ำเสียและนำน้ำเสียที่บำบัดแล้วกลับมาใช้ใหม่โดยผ่านระบบถังพักและนำกลับมาใช้รดน้ำต้นไม้ในพื้นที่บางส่วนของโครงการเพื่อลดปริมาณการใช้น้ำประปา ในแต่ละวันสามารถลดการใช้น้ำประปาลงได้ประมาณวันละ 2-3 ลูกบาศก์เมตร อีกทั้งมีการตรวจประเมินคุณภาพของน้ำเสียและความสะอาดของสภาพบ่อดักไขมัน มีการตรวจเช็กมิเตอร์น้ำ ตรวจเช็กระบบท่อจ่ายน้ำ และระบบ Booster Pumps เพื่อหาจุดรั่วและตรวจเช็กแรงดันทุกวันโดยการจดบันทึกลงรีพอร์ตวันละ 2 รอบ”

โรงแรมมีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 5 ไร่ โดยแบ่งเป็นพื้นที่อาคารและสิ่งปลูกสร้าง 39% และพื้นที่ปลูกต้นไม้หรือพื้นที่สีเขียว 32% บริเวณรอบๆ โรงแรมมีการปลูกต้นไม้เพื่อก่อให้เกิดร่มเงาและยังสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ เช่น กล้วย เตยหอม มะพร้าว ตีนเป็ดทะเล มะละกอ และพืชผักสวนครัวปลอดสารพิษที่นำมาใช้ประกอบอาหารและตกแต่งภายในโรงแรมได้

Green Man

ในส่วนของขยะมีการคัดแยกเป็น 4 ประเภท คือ ขยะรีไซเคิล ขยะอินทรีย์ ขยะอันตราย และขยะทั่วไป โดยขยะรีไซเคิลนำไปขายให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจรีไซเคิล ซึ่งในแต่ละรอบต่อสัปดาห์ที่มีการแยกขยะรีไซเคิลจะขายได้ประมาณ 2,000 บาทต่อรอบ ส่วนขยะอินทรีย์นำไปทำปุ๋ยหรือน้ำหมักชีวภาพ

“โรงแรมที่มีนโยบายเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและมีการดำเนินการอย่างจริงจังส่งผลดีทั้งต่อตัวโรงแรม ชุมชน และสังคม อีกทั้งนักท่องเที่ยวปัจจุบันให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาก เขาจะถามเลยว่าเราเข้าโครงการกรีนอะไรบ้าง เราต้องเอาใบรับรองต่างๆ วางไว้ที่เคาน์เตอร์รีเซปชันเลย เมื่อเห็นแล้วลูกค้าก็เกิดความมั่นใจว่าเขาเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนการท่องเที่ยวแบบยั่งยืน” กมลกล่าว

Green Man

Key Person : สุทัน ภิรมย์นาค Hotel Manager, โรงแรม Ibis Styles Krabi Ao Nang

Key Message : “เรายังถือเป็นน้องใหม่ในวงการ Green Hotel เราต้องดูงานให้มากขึ้น อบรม นำเสนอ วางแผนเพื่อให้พนักงานทราบถึงผลดีของนโยบายกรีนทั้งต่อธุรกิจและชีวิตประจำวันเพื่อให้เขานำไปปรับใช้กับตัวเอง ครอบครัว และชุมชนต่อไป”

Key Success : ลดการใช้พลาสติกแบบ single used และ food waste และมีการคำนวณระยะทางการขนส่งของซัปพลายเออร์ว่าใช้คาร์บอนเท่าไรเพื่อวางแผนให้เกิดคาร์บอนฟุตพรินต์น้อยที่สุด

Green Man

Key Point : โรงแรมIbis Styles Krabi Ao Nang เป็นโรงแรม 3 ดาวขนาดกลาง ด้วยจำนวนพนักงาน 45 คน และเข้าร่วมเป็นสมาชิก CF-Hotels ในการคำนวณปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกตามแนวทางขององค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจกเมื่อปี 2566 และดำเนินกิจกรรมลดก๊าซเรือนภายในโรงแรมอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับมีการจัดตั้งคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมของโรงแรม โดยมี สุทัน ภิรมย์นาค ผู้จัดการโรงแรมเป็นประธานที่ปรึกษา โดยมีเป้าหมายให้โรงแรมผ่านการรับรองเป็นโรงแรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Green Hotel) ระดับ Silver ให้ได้ภายในปี 2567

“ยอมรับว่าเรายังมีประสบการณ์น้อย ในเบื้องต้นเราต้องเชิญชวนพนักงานไปศึกษาดูงานโรงแรมใกล้เคียงที่เขาทำเรื่องนโยบายกรีนมานานและประสบความสำเร็จอย่างโรงแรม Deevana Plaza และไปดูการคัดแยกและกำจัดขยะของหน่วยงานราชการ พร้อมกับร่วมทำกิจกรรมเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนในจังหวัดกระบี่” สุทัน ภิรมย์นาค กล่าวถึงความพยายามยกระดับโรงแรมให้เป็น Green hotel

CF-Hotels

ในเบื้องต้นทางโรงแรมได้มีนโยบายลดการใช้พลาสติกแบบ single used ควบคุมปริมาณ food waste ให้เหลือน้อยที่สุด มีการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ในบางจุด ใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพิ่มพื้นที่สีเขียว ป้ายในห้องพักต่างๆ ใช้วัสดุเป็นไม้แทนพลาสติก และมีการคัดแยกขยะเป็นประเภทต่างๆ อย่างชัดเจน

“เราเริ่มมีการคำนวณระยะทางการขนส่งของซัปพลายเออร์ว่าใช้คาร์บอนเท่าไร เพื่อวางแผนให้เกิดคาร์บอนฟุตพรินต์น้อยที่สุด หรือจากที่เคยเข้ามาส่งของทุกวันอาจจะเปลี่ยนเป็นแค่วันจันทร์ พุธ ศุกร์ ในส่วนของการประหยัดน้ำและไฟฟ้านั้น เราพยายามดำเนินการ แต่แผนผังโรงแรมเรา 12 ปีแล้วอาจต้องใช้เวลาบ้าง เช่น การจะเปลี่ยนสุขภัณฑ์ทั้งหมดเป็นแบบประหยัดน้ำสำหรับห้องพักทั้ง 206 ห้อง”

CF-Hotels

สุทัน กล่าวว่า นักท่องเที่ยวปัจจุบันมองหาโรงแรมที่เป็น Green Hotel เพิ่มมากขึ้น ดังนั้น นโยบายที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและการลงมือทำอย่างจริงจังจึงเป็นสิ่งที่โรงแรมต้องนำมาปฏิบัติซึ่งไม่เพียงส่งผลดีต่อธุรกิจ แต่ยังเป็นประโยชน์ต่อชุมชนและสังคมโดยรวม

“เรายังถือเป็นน้องใหม่ในวงการ Green Hotel เราต้องดูงานให้มากขึ้น อบรม นำเสนอ วางแผนเพื่อให้พนักงานทราบถึงผลดีของนโยบายกรีนทั้งต่อธุรกิจและชีวิตประจำวันของเราเพื่อให้เขานำไปปรับใช้กับตัวเอง ครอบครัว และชุมชนต่อไป”

CF-Hotels

Fact File

สำหรับโรงแรม รีสอร์ต ไม่ว่าจะขนาดใหญ่ กลาง หรือเล็ก ที่ต้องการเข้าร่วมเป็นหนึ่งในการดูแลสิ่งแวดล้อม CF-Hotels คืออีกเครื่องมือหนึ่งที่ช่วยคำนวณก๊าซเรือนกระจก ใช้ง่าย ใช้ฟรี! เหมือนมีที่ปรึกษาด้านสิ่งแวดล้อมนั่งประจำการอยู่ที่โรงแรม

วิธีการเข้าร่วมนั้นง่ายมาก เพียงสมัครลงทะเบียนและเข้าร่วมที่ www.cf-hotels.com จากนั้นในแต่ละเดือนก็กรอกข้อมูล เช่น หน่วยไฟฟ้าที่ใช้ ปริมาณน้ำเสีย และสิ่งปฏิกูลที่ปล่อย  และตัวการอื่นๆ ซึ่งเมื่อกรอกข้อมูลต่างๆ ลงไประบบจะทำการประมวลแล้วคำนวณออกมาว่าโรงแรมนั้นๆ ได้สร้าง CF หรือ คาร์บอนฟุตพรินต์ เท่าไร พร้อมคำแนะนำและการอบรมเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม และรับสิทธิพิเศษในการส่งเสริมตลาดจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ที่มีโปรแกรมพิเศษให้แก่โรงแรม หรือรีสอร์ตที่ดำเนินธุรกิจแบบเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมโดยเฉพาะ


Author

เกษศิรินทร์ ผลธรรมปาลิต
Feature Editor ประจำ Sarakadee Lite อดีต บรรณาธิการข่าวไลฟ์สไตล์ Nation ผู้นิยมคลุกวงในแวดวงศิลปวัฒนธรรมจนได้ขุดเรื่องซีฟๆ มาเล่าสู่กันฟังเสมอ

Photographer

วรวุฒิ วิชาธร
คลุกคลีอยู่ในวงการนิตยสารมากว่า 15 ปี ทั้งงานแฟชั่น ไลฟ์สไตล์ ศิลปวัฒนธรรม ท่องเที่ยว ปัจจุบันยังคงสนุกกับการสร้างสรรค์ผลงานถ่ายภาพในฐานะ "ช่างภาพอิสระ"
อธิวัฒน์ สุขคุ้ม
ชอบในเดินทางท่องเที่ยว รักอิสระ ภูเก็ตคือบ้านเกิด เป็นช่างภาพฟรีแลนซ์ ทำเพจรีวิวชื่อ “วาดแสง”