แคทรีน อมตวิวัฒน์ จากแฟนตัวยง เจ้าชายน้อย สู่ผู้สร้าง The Little Prince Universe –  An Immersive Journey
Faces

แคทรีน อมตวิวัฒน์ จากแฟนตัวยง เจ้าชายน้อย สู่ผู้สร้าง The Little Prince Universe – An Immersive Journey

Focus
  • The Little Prince Universe – An Immersive Journey เป็นนิทรรศการที่นำวรรณกรรมคลาสสิคเรื่อง เจ้าชายน้อย (Le Petit Prince) มานำเสนอในรูปแบบดิจิทัลอิมเมอร์ซีฟเต็มรูปแบบครั้งแรกในเมืองไทย
  • นิทรรศการเป็นออริจินัลโชว์ที่สร้างสรรค์โดยทีมงานไทย Mad Motion Studio ก่อตั้งโดย แคทรีน อมตวิวัฒน์
  • เรื่อง เจ้าชายน้อย เป็นวรรณกรรมเชิงปรัชญาโดยนักบินและนักเขียนชาวฝรั่งเศส อองตวน เดอ แซงเตกซูเปรี ที่ครองใจนักอ่านทั่วโลกมากว่า 80 ปี

เจ้าชายน้อย (Le Petit Prince) จากปลายปากกาของนักบินและนักเขียนชาวฝรั่งเศส อองตวน เดอ แซงเตกซูเปรี (Antoine de Saint-Exupéry) เป็นหนังสือเล่มขนาดย่อมแต่สร้างอิมแพคและแรงบันดาลใจให้กับนักอ่านทั่วโลก และหนึ่งในนั้นคือ แคทรีน อมตวิวัฒน์ ผู้ร่วมก่อตั้งและหัวหน้าฝ่ายสร้างสรรค์ของ Mad Motion Studio ที่ได้นำคาแรคเตอร์ของเด็กหนุ่มผมสีทองจากดาวเคราะห์น้อย B612 ซึ่งเป็นตัวแทนของความบริสุทธิ์ในวัยเด็กมาโลดแล่นออกจากตัวหนังสือและเดินทางในรูปแบบดิจิทัลอิมเมอร์ซีฟกับนิทรรศการ The Little Prince Universe –  An Immersive Journey ณ Attraction Hall ชั้น 6 ไอคอนสยาม ตั้งแต่วันที่ 24 มกราคม-11 พฤษภาคม 2568

The Little Prince Universe

“ในปี 2568 เรื่องเจ้าชายน้อยก็มีอายุ 81 ปีแล้วนับตั้งแต่ตีพิมพ์ครั้งแรก ภาพประกอบสวยและเนื้อหายูนิเวอร์แซล แต่เราอยากสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ในการเล่าเรื่องเจ้าชายน้อย อยากให้คนมาชมได้รับแรงบันดาลใจบางอย่างในการใช้ชีวิต หรือได้กลับไปอ่านหนังสืออีกสักรอบ และโชว์นี้เป็นออริจินัลโชว์ที่คนไทยสร้าง เราฟอร์มทีมเฉพาะกิจทั้งโปรดักชั่น กราฟฟิค และคอนเทนต์ขึ้นมาเพื่องานนี้โดยเฉพาะ เราซื้อแต่ลิขสิทธิ์ชื่อ Le Petit Prince จาก Medialink ผู้ถือ Brand Licensing เรื่องนี้ แต่อยากให้ภูมิใจว่าการออกแบบโชว์ทั้งหมดเป็นทีมไทยทำ” แคทรีนกล่าวอย่างภาคภูมิใจ

แคทรีนเป็นผู้บริหารบริษัทเอเจนซี่ด้านการตลาดซึ่งเป็นอาชีพหลักของเธอ แต่การก่อตั้ง Mad Motion Studio ร่วมกับสามีเป็นโปรเจกต์ส่วนตัวที่เธอทุ่มสุดตัวเพื่อสร้างนิทรรศการสำหรับเจ้าชายน้อยโดยเฉพาะ

“เรียกได้ว่าทำเพื่อสนองความต้องการส่วนตัวและใช้เงินเก็บที่มีไปเยอะมากจนคนรอบข้างก็มีทักท้วงบ้าง มันก็เกินงบไปมาก แต่ว่าอยากทำแล้วก็ต้องไปให้สุด” เธอกล่าวอย่างอารมณ์ดี “เมื่ออายุขนาดนี้เราอยากสร้างอิมแพ็คดีๆ เพื่อสังคม เนื้อเรื่องนี้เป็นแมสเสจที่ดีต่อโลก ต่อเด็ก ต่อสังคมและเราอยากแชร์ความประทับใจนี้ให้กับคนอื่นๆ แต่เป็นการเล่าเรื่องในรูปแบบที่เข้ากับความชอบและความสนใจของคนสมัยนี้ และเชื่อว่าคนน่าจะรัก เจ้าชายน้อย มากขึ้น”

The Little Prince Universe
แคทรีน อมตวิวัฒน์ ผู้ร่วมก่อตั้ง Mad Motion Studio

The Little Prince Universe –  An Immersive Journey เป็นนิทรรศการเจ้าชายน้อยแบบดิจิทัลอิมเมอร์ซีฟเต็มรูปแบบครั้งแรกในเมืองไทย พื้นที่กว่า 2,000 ตารางเมตรของ Attraction Hall ได้จำลองการเดินทางของเจ้าชายน้อยตามบทในหนังสือที่เขาเดินทางออกจากดาวของตัวเอง และพบเจอผู้ใหญ่ในดวงดาวอื่นๆ ที่เขามีความเห็นว่า “พวกผู้ใหญ่นี่แปลกพิลึกจริงๆด้วย” ก่อนมายังโลกและพบเจอกับนักบินที่เครื่องบินเสียจนต้องร่อนลงในทะเลทรายซาฮาร่า จนถึงตอนสุดท้ายที่เจ้าชายน้อยบอกว่าถึงเวลากลับบ้านของเขาแล้วและหายไปในทะเลทรายโดยไม่พบร่างของเขาอีกเลย

The Little Prince Universe

“เจ้าชายน้อยเป็นหนังสือที่อ่านตั้งแต่เด็ก แล้วก็อ่านตอนเป็นวัยรุ่น แล้วก็มาอ่านตอนโต ทุกครั้งที่อ่านจะมีความประทับใจแตกต่างกัน เป็นเรื่องที่เรียบง่ายแต่แฝงความหมายลึกซึ้ง มีมิติที่ฟีลกู๊ดมากๆ จึงเป็นที่มาว่าเราอยากทำอะไรส่งต่อความฟีลกู๊ดให้สังคมบ้าง เราก็คุยกับทีมว่าจะดีไซน์ประสบการณ์การชมอย่างไรดีและเห็นพ้องกันว่าควรจะชูการดำเนินเรื่องตามพาร์ทของหนังสือเพราะเป็นเรื่องที่คนรักเยอะ นิทรรศการเปรียบได้กับ trailer ของหนังสือทำให้คนอื่นๆรู้จัก เจ้าชายน้อย มากขึ้นและอยากหยิบหนังสือขึ้นมาอ่าน นี่ก็ถือว่าตอบโจทย์เราแล้ว”

แคทรีนใช้เวลาร่วมปีในการศึกษาและดูงานนิทรรศการอิมเมอร์ซีฟต่างๆ ในประเทศและต่างประเทศเพื่อหาเทคนิคและเทคโนโลยีที่ลงตัวกับเนื้อเรื่องและประสบการณ์ที่ต้องการนำเสนอ รวมถึงการดีไซน์มูดแอนด์โทนและการเลือกเพลงต่างๆ ให้เข้ากับมู้ดแต่ละโซนจัดแสดง

The Little Prince Universe

เริ่มต้นจากทางเข้านิทรรศการที่ได้แรงบันดาลใจมาจาก window display ของร้าน The Little Prince ในกรุงปารีสที่เธอเคยไปเยือนและผสมผสานกับการใช้แสงเลเซอร์ให้เหมือนเดินเข้าไปในร้านหนังสือเพื่อพบกับการเดินทางของเจ้าชายน้อย

The Little Prince Universe
The Little Prince Universe

โซนแรกเรียกว่า Story Book Theatre” เป็นแอนิเมชั่นแนะนำเรื่องเจ้าชายน้อยฉบับย่อสำหรับคนอ่านที่อาจจะลืมเลือนไปแล้วหรือคนที่อยากเริ่มทำความรู้จักเด็กหนุ่มผมสีทอง บนผนังมีรูปวาด “งูเหลือม” และเมื่อกดปุ่มด้านล่างจะเห็นแสงเป็นรูป “ช้างที่อยู่ในท้องงูเหลือม” นี่เป็นรูปที่เป็นจุดเริ่มต้นในเรื่องเจ้าชายน้อยที่ย้อนเล่าเรื่องวัยเด็กของนักบินที่เขาวาดรูปนี้และเอาไปให้ผู้ใหญ่หลายคนดูว่าน่ากลัวหรือเปล่า แต่กลับได้ยินคำตอบที่ดับฝันและจินตนาการของเด็กวัย 6 ขวบว่า “ทำไมต้องกลัวหมวกด้วยล่ะ” นอกจากนั้นพวกผู้ใหญ่ยังแนะนำนักบินในวัยเด็กให้หันไปสนใจวิชาภูมิศาสตร์ ประวัติศาสตร์และการคำนวณดีกว่า ทำให้เขาสูญเสียความมั่นใจที่อยากเป็นจิตรกรและหันไปเรียนขับเครื่องบินแทน

The Little Prince Universe

ถัดมาเป็นโซน Meet The Little Prince” ที่จำลองการพบกันครั้งแรกของเจ้าชายน้อยกับนักบินที่ทะเลทรายซาฮาร่า เด็กหนุ่มที่ไม่เหมือนเด็กน้อยที่หลงทางอยู่กลางทะเลทรายอันไกลโพ้นและทักทายนักบินด้วยประโยคแรกที่แปลกประหลาดว่า “คุณครับ ช่วยวาดรูปแกะให้ผมสักตัวได้ไหมครับ”

The Little Prince Universe

จากนั้นพาไปรู้จักกับ ดาวเคราะห์น้อย B612 ของเจ้าชายน้อยในโซน Asteroid B612” ที่จากการพูดคุยทำให้นักบินได้รู้ว่าดาวนั้นมีขนาดไม่ได้ใหญ่ไปกว่าบ้านหลังหนึ่ง ขยับแค่ 2-3 ก้าวก็ดูพระอาทิตย์ตกได้ ทำให้วันหนึ่ง เจ้าชายน้อย สามารถดูพระอาทิตย์ตกได้ถึง 44 ครั้ง บนดาวมีภูเขา 3 ลูกที่สูงแค่เข่าและดอกกุหลาบหนึ่งดอกที่เขาเฝ้าทะนุถนอมอย่างดี

The Little Prince Universe

ก่อนเดินทางมาถึงโลก เจ้าชายน้อยได้เดินทางไปดาวต่างๆ 6 ดวงและพบเจอกับคนหลากหลายซึ่งมีพฤติกรรมแปลกประหลาด ผู้คนที่เขาพบเจอได้นำมารวมอยู่ในโซน Travel The Planets” ตั้งแต่ พระราชาที่คิดว่าตัวเองมีอำนาจสูงสุด คนหลงตัวเองที่อยู่คนเดียว นักดื่มที่ดื่มเหล้าเพื่ออยากลืมเรื่องน่าอายว่าตัวเองดื่มเหล้า นักธุรกิจที่ยุ่งกับการนับจำนวนดวงดาวและคิดว่าตัวเองเป็นเจ้าของ คนจุดโคมไฟที่ทำหน้าที่ของตัวเองวนไปมาโดยไม่สนใจอย่างอื่น นักภูมิศาสตร์ที่ไม่รู้จักภูมิประเทศของดาวตัวเอง

“ในห้องนี้เราจัดแสดงประติมากรรมฟิกเกอร์ของผู้คนที่เจ้าชายพบเจอโดยการสร้างสรรค์ของคุณ Arnaud Nazare-Aga ศิลปินชาวฝรั่งเศสที่พำนักอยู่ในเมืองไทยและเปิดแกลลอรีในซอยสวนพูล กรุงเทพฯ พร้อมกับมีคาเฟ่เจ้าชายน้อยตั้งอยู่ในพื้นที่ของแกลลอรี เขาทำประติมากรรมเรื่องเจ้าชายน้อยอยู่แล้วและทางเราได้เรียนเชิญให้นำคอลเลคชันมาจัดแสดงซึ่งนับว่าลงตัวมากๆกับการเล่าเรื่องในพาร์ทนี้”

โซนไฮไลต์และมีพื้นที่มากที่สุดคือ Hello Earth” ที่เล่าเรื่องดาวเคราะห์ดวงที่ 7 ที่เจ้าชายน้อยมาเยือนคือ โลก ดาวที่มีพระราชาถึง 111 องค์ มีนักภูมิศาสตร์เจ็ดพันคน นักธุรกิจเก้าแสนคน คนขี้เมาเจ็ดล้านห้าแสนคน คนหลงตัวเองสามร้อยสิบเอ็ดล้านคน รวมแล้วมีผู้ใหญ่มากถึงสองพันล้านคน และเทียบได้ว่าต้องใช้กองทัพคนจุดโคมไฟกว่าสี่แสนคนเพื่อจุดไฟให้ครบทั้ง 6 ทวีป

“ในห้องนี้ตกแต่งด้วยต้นไม้ขนาดความสูง 7 เมตร ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากต้นเบาบับที่ขึ้นอยู่บนดาวของเจ้าน้อยและเป็นที่รู้จักในชื่อ “ต้นไม้แห่งชีวิต” หรือ tree of life เนื่องจากมีขนาดใหญ่และมีอายุยืนยาว เรายังเล่นกับแสงเป็นสีรุ้งเพื่อสื่อถึงความหลากหลายของโลกมนุษย์ มีก้อนเมฆสีขาวใช้ระบบคิเนติกให้ขยับขึ้นลงได้ มีจออิมเมอร์ซีฟตรงโพรงต้นไม้ที่เมื่อผู้ชมกล่าวว่า “Hello” หรือ “Hi” สุนัขจิ้งจอกที่เป็นคาแรคเตอร์สำคัญในเรื่องก็จะออกมาทักทาย และยังมีไม้กระดกให้คนเล่นได้จริง ห้องนี้จึงเป็นห้องที่ให้คนมาเล่นและพักผ่อนได้”

สุนัขจิ้งจอกที่เจ้าชายน้อยพบบนโลกก่อนมาเจอนักบินทำให้เจ้าชายน้อยได้ค้นพบคุณค่าของความสัมพันธ์ และเรียนรู้ว่าการสร้างความผูกพันนั้นเป็นสิ่งที่ต้องใช้เวลาและความใส่ใจ ดังที่สุนัขจิ้งจอกกล่าวว่า “พวกมนุษย์ไม่มีเวลาทำความรู้จักสิ่งใดๆ ทั้งนั้น พวกเขาซื้อของสำเร็จรูปต่างๆ จากพ่อค้า แต่ในเมื่อไม่มีพ่อค้าขายเพื่อนสำเร็จรูป พวกมนุษย์ก็เลยไม่มีเพื่อนสักที”

อีกหนึ่งไฮไลต์คือ Walk with the Roses – An Infinity Room” เป็นห้องกระจกที่ตกแต่งด้วยกุหลาบประดิษฐ์กว่า 30,000 ดอก เล่าตอนที่เจ้าชายน้อยไปเจอสวนหนึ่งที่เต็มไปด้วยกุหลาบ 5,000 ดอกบนโลก และทำให้เขาเสียใจในตอนแรกว่าดอกกุหลาบบนดาวของเขาไม่ใช่ดอกเดียวในจักรวาลอย่างที่เธอกล่าวอ้าง แต่สุนัขจิ้งจอกกลับให้ข้อคิดและกลายเป็นวรรคทองของเรื่องที่นักอ่านรู้จักกันดีว่า “เรามองเห็นแจ่มแจ้งด้วยหัวใจเท่านั้น สิ่งสำคัญไม่อาจเห็นได้ด้วยตา” ด้วยเพราะเธอเป็นกุหลาบเพียงดอกเดียวที่เจ้าชายน้อยรดน้ำให้ ทำครอบแก้วกำบังลมให้ ยอมฆ่าหนอนที่จะมากัดกิน ฟังเธอบ่นหรือคุยโอ้อวด ดังนั้น “เวลาที่เธอเสียไปกับดอกกุหลาบของเธอทำให้ดอกกุหลาบนั้นมีคุณค่ามากยิ่งขึ้น”

“The Farewell and Star Gazing Hall” เป็นบทสุดท้ายของเรื่องเจ้าชายน้อยซึ่งหลังจากนักบินซ่อมเครื่องบินของเขาเสร็จก็เป็นเวลาเดียวกับที่เจ้าชายน้อยต้องกลับไปยังดวงดาวของเขาเช่นกัน

“ในห้องนี้ตกแต่งเป็นรูปท้องฟ้าและมีงาน installation art ของทีมศิลปินไทยที่สื่อถึงการส่งเจ้าชายน้อยกลับดาวและเส้นสายบนพื้นเป็นสัญลักษณ์แทนงู และเป็นการกล่าวลาของเจ้าชายน้อยที่บอกว่าต่อไปเมื่อเรามองดูดาวบนท้องฟ้าในเวลากลางคืน เขาจะอยู่บนดาวดวงหนึ่งในนั้น”

ก่อนที่เจ้าชายน้อยจะกลับดวงดาว เขาได้พบกับงูตัวหนึ่งและถามว่า “พิษของคุณร้ายแรงใช่ไหม แน่ใจนะว่าจะไม่ทำให้ผมทรมานเป็นเวลานาน” หลังจากนั้นเมื่อบอกลากับนักบิน เจ้าชายน้อยค่อยๆล้มลงและในเช้าวันรุ่งขึ้นนักบินก็ไม่พบร่างเขาอีกเลย การจากไปของ เจ้าชายน้อย อีกนัยหนึ่งจึงเหมือนกับความตายของวัยเด็กอันบริสุทธิ์ที่ถูกกลืนหายไปในสังคมวัตถุนิยม

“เราก็ไม่อยากให้จบเศร้า เลยเป็นที่มาของโซน The Little Prince Playroom มีกิจกรรมอินเทอร์แอคทีฟที่ให้ผู้ชมปาลูกบอลไปที่จอดิจิทัลเพื่อช่วยกำจัดต้นเบาบับที่ชอบขึ้นบนดาวของเจ้าชายน้อย และชวนเจ้าชายน้อยขยับท่าทางตามการเคลื่อนไหวของผู้เล่น นอกจากนี้ยังมีมุม Hello Bangkok ที่เรานำรถตุ๊กตุ๊กจริงมาถอดเครื่องและตกแต่งเป็นธีมเจ้าชายน้อยพร้อมกับมีแบ็คดรอปเป็นสถานที่ไอโคนิกของกรุงเทพฯ เช่น วัดอรุณฯ และ เสาชิงช้า ให้ได้มาถ่ายรูปเล่นกัน และมี The Love Wall เป็นบอร์ดอะคริลิคให้ผู้ชมได้ฝากข้อความต่างๆถึงเจ้าชายน้อยและตัวเองในวัยเด็ก”

ด้านหน้านิทรรศการยังมีโซนจำหน่ายสินค้าลิมิเต็ด เช่น เสื้อผ้าลายเจ้าชายน้อยจาก Mc Jeans และ หนังสือ มุมระบายสีกับร้านเครื่องเขียนสมใจและรับมินิแคนวาสฟรีกลับบ้านได้เลย ป๊อปอัพคาเฟ่จาก Bearhouse และไอศกรีม Guss Damn Good กับ 4 รสชาติใหม่บรรจุภัณฑ์ลายเจ้าชายน้อย และอีกจุดไฮไลต์คือการเขียนโปสการ์ดถึงตัวเองในวัยเด็กและหย่อนตู้จดหมายส่งได้เลยโดยไม่มีค่าใช้จ่าย

“เราพบว่าคนรักเจ้าชายน้อยเยอะมาก พอเราเริ่มทำโปรเจกต์นี้มีคนติดต่อมาเยอะมากว่าจะทำอะไรด้วยกันได้ไหม เมื่อเราเปิดขายบัตรพรีเซลก็ขายได้หลายพันใบและมีชาวต่างชาติเช่น เกาหลี และ จีน ติดต่อมาว่าจะบินมาเพื่อดูโชว์นี้โดยเฉพาะ ทำให้เรามั่นใจว่าเราเลือกสตอรี่ไลน์ได้ถูกต้องแล้ว เราทำโชว์เองทุกอย่างและมีความฝันว่าจะมีคนสนใจนำไปจัดแสดงที่ต่างประเทศ ตอนนี้ก็เริ่มมีติดต่อมา 2-3 ประเทศ ฝากรอเชียร์ด้วยว่าจบที่นี่เราจะไปประเทศไหนต่อ” แคทรีนกล่าวปิดท้ายด้วยรอยยิ้ม

หมายเหตุ: อ้างอิงสำนวนแปลภาษาไทยเรื่อง เจ้าชายน้อย โดย แพรณัฐ  จัดพิมพ์โดย สำนักพิมพ์ อ่าน๑๐๑

Fact File

  • นิทรรศการ The Little Prince Universe –  An Immersive Journey จัดแสดงที่ Attraction Hall ชั้น 6 ไอคอนสยาม ตั้งแต่วันที่ 24 มกราคม-11 พฤษภาคม 2568
  • บัตรราคาเริ่มต้นที่ 590 บาท จองบัตรได้แล้ววันนี้ที่ Ticketmelon
  • ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Mad Motion – The Little Prince Universe

Author

เกษศิรินทร์ ผลธรรมปาลิต
Feature Editor ประจำ Sarakadee Lite อดีต บรรณาธิการข่าวไลฟ์สไตล์ Nation ผู้นิยมคลุกวงในแวดวงศิลปวัฒนธรรมจนได้ขุดเรื่องซีฟๆ มาเล่าสู่กันฟังเสมอ

Photographer

ชัชวาล จักษุวงค์
เคยเป็นนักรีวิว gadget มานานหลายปี ตอนนี้หันมาเอาดีด้านงานถ่ายภาพ ถนัดงานด้านการบันทึกภาพวิถีชีวิตผู้คนและสายการเดินทางท่องเที่ยว