The Life Garden Boutique Farmstay ฟาร์มสเตย์อุ่นหัวใจ ที่ชวนไปรู้จักสมุนไพรไทยให้มากขึ้น

หากพูดถึงที่พักในแบบฟาร์มสเตย์ หลายคนอาจจะนึกถึงภาพห้องพักเรียบง่ายไม่เน้นดีไซน์ กับกิจกรรมกึ่งโฮมสเตย์ให้ได้เรียนรู้เรื่องราวของชาวเกษตรกรในฟาร์มตามฐานกิจกรรมต่างๆ แต่นั่นไม่ใช่สำหรับ The Life Garden Boutique Farmstay ห้องพักแบบวิลลาในกลุ่มสีเอิร์ธโทนขนาด 10 หลังที่ใส่ใจเรื่องดีไซน์ในการออกแบบ พร้อมหยิบกลิ่นอายของฟาร์มสมุนไพรไทยนำมาปรับมุมมองใหม่ ให้กลายเป็นส่วนหนึ่งของไลฟ์สไตล์และความผ่อนคลายในวันพักผ่อนที่จังหวัด เพชรบุรี

The LifeGarden Boutique Farmstay ตั้งอยู่ระหว่างความเป็นเมืองและสถานตากอากาศ มีลมเย็นริมชายทุ่งเพชรบุรีพัดผ่าน บรรยากาศเขียวสบายตาด้วยสวนสมุนไพรขนาดย่อมที่เป็นเหมือนฉากบังตารักษาความเป็นส่วนตัวของวิลลาแต่ละหลัง ที่สำคัญตั้งอยู่ไม่ไกลนักจากแหล่งท่องเที่ยวในตัวเมืองเพชรบุรี และก็ไม่ไกลมากเช่นกันหากจะขับรถต่อไปปิกนิกที่ริมชายทะเลหาดเจ้าสำราญ ดังนั้นหากถามว่ามาเที่ยวตัวเมืองเพชรบุรีเช็กอินเข้าพักที่ไหนดี ฟาร์มสเตย์กลางสวนสมุนไพรแห่งนี้จึงเป็นอีกทางเลือกสำหรับคนที่ไม่ต้องการห้องแคบๆ ฉบับ City Hotel แต่ก็ไม่ได้ไกลมากหากจะวางแผนทริปเที่ยวเส้นทางสายวัฒนธรรมในตัวเมือง

Story Behind

 “เราอยากให้ที่นี่เป็นสวนแห่งชีวิต”   

น็อต-สุรเดช แจ่มจันทร์ หนึ่งในผู้ก่อตั้งร่วมกับ ต้อง-สิริญชา คูวินิชกุล เล่าถึงความหมายของ The Life Garden Boutique Farmstay ซึ่งคำว่า “ชีวิต” ไม่ได้หมายถึงศาสตร์สมุนไพรไทยที่อิงอยู่กับธาตุต่างๆ ซึ่งก่อให้เกิดพลังชีวิตที่ทั้งคู่นำมาเป็นคีย์หลักของการออกแบบฟาร์มสเตย์แห่งนี้เท่านั้น แต่ “ชีวิต” คำนี้ยังหมายถึงเรื่องราวของทั้งคู่ที่ค่อยๆ ประกอบสร้างมาพร้อมกับฟาร์มสเตย์ จากชีวิตของพนักงานบริษัทธรรมดา ต่อเมื่อโอกาสมาถึง ได้มาต่อยอดที่ดินที่คุณพ่อ “ธีระ คูวินิชกุล” ได้ซื้อไว้สำหรับบั้นปลายชีวิต จากเดิมที่มีเพียงบ้านไม้หนึ่งหลังกับสวนผักปลอดสารเคมีของคุณพ่อ ก็ขยายมาสู่วิลลาที่มีสวนสมุนไพรไทยสารพัดชนิด โดยมีสระว่ายน้ำสีขาวเป็นโอเอซิสอยู่ตรงกลาง ซึ่งทั้งหมดใช้เวลาค่อยๆ ประกอบสร้างห้องพักพร้อมกับการเรียนรู้เรื่องสมุนไพรอย่างจริงจังราว 2 ปี

“เราทั้งสองคนไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพร ก็เลยลงเรียนให้รู้จริงๆ ไปเลย และพอเข้าใจก็ทำให้รู้ว่าการจะให้คนเข้าถึงสมุนไพรไม่จำเป็นว่าจะต้องเปิดเป็นศูนย์เรียนรู้เชิงเกษตรเท่านั้น มีคนอีกมากที่อยากจะรู้เรื่องสมุนไพรไทย แต่ก็ไม่ได้อยากจะมาเข้าห้องเรียน โจทย์ของเราจึงเป็นการปรับเรื่องสมุนไพรให้เข้าถึงคนทั่วไปได้ง่ายขึ้น”

เมื่อตกตะกอนแล้วว่าเรื่องสมุนไพรไทยสามารถทำให้เข้าใจง่าย และทำให้กลายเป็นส่วนหนึ่งของไลฟ์สไตล์ได้ ที่พักในแบบฟาร์มสเตย์กลางสวนสมุนไพรไทยแห่งนี้จึงเกิดขึ้น อย่าแปลกใจที่เราจะได้เห็นดอกสีขาวของหญ้าหนวดแมวเป็นไม้ดอกหลักคอยต้อนรับนักเดินทาง อีกมุมอาจจะเป็นตรีชวา กะเพรา โหระพา ตะไคร้ ฟ้าทะลายโจร กระเจี๊ยบ ฯลฯ เรียกได้ว่าแทบทุกต้นที่ปลูกไว้เป็นเหมือนต้นไม้ประดับฟาร์มแห่งนี้ล้วนกินเป็นอาหารและกินเป็นยาได้ทั้งสิ้น ส่วนถ้าใครอยากรู้จักสมุนไพรต้นไหนเป็นพิเศษก็สามารถสอบถามพนักงานได้ทุกคน

Design

ที่นี่คลุมบรรยากาศด้วยโทนอุ่นๆ ของสีขาวครีม และสีน้ำตาลอุ่นของเฟอร์นิเจอร์ไม้ และตอกไม้ไผ่ที่นำมาเป็นหลังคา ตัดด้วยสีเขียวของพืชสมุนไพรในฟาร์มที่ส่วนใหญ่เป็นไม้ใบมากกว่าไม้ดอก ส่วนห้องพักนั้นเน้นตกแต่งด้วยความเรียบง่าย แต่ลงรายละเอียดถึงฟังก์ชันการใช้งาน อย่าง Suite Villa ก็ให้พื้นที่ของส่วนห้องน้ำที่กว้างขึ้น ใส่อ่างอาบน้ำขนาดใหญ่ลงไป ติดกระจกใสให้ได้แช่น้ำท่ามกลางสวนสมุนไพรส่วนตัว หรืออย่างห้องนอนก็เพิ่มมุมนั่งเล่นริมกระจกให้ได้ชมวิวสวนสมุนไพรที่เป็นพื้นที่ส่วนตัวของวิลลาแต่ละหลัง

ด้วยความตั้งใจที่เน้นบรรยากาศของสวนสมุนไพร ที่นี่จึงค่อนข้างให้รายละเอียดกับการออกแบบพื้นที่สวน โดยวิลลาทุกหลังถูกสร้างเป็นลักษณะของตัว U โอบล้อมสวนสมุนไพรที่ไร่ละดับความสูงต่ำ แม้สมุนไพรเหล่านี้ไม่สูงมาก ทว่าสามารถสร้างความเป็นส่วนตัวให้ผู้เข้าพักได้อย่างดี กลางสวนคือสระว่ายน้ำสีขาวที่ไม่ใหญ่มาก แต่ก็เหมาะสำหรับนั่งชิลรับลมเย็นของชายทุ่งที่มาพร้อมเสียงนกร้องเข้ารัง

Experience

เมื่อขึ้นชื่อว่าเป็นบูติกฟาร์มสเตย์ แน่นอนว่าลูกค้าที่เข้าพักย่อมคาดหวังกับประสบการณ์และบริการที่ได้รับฉบับ “บูติก” ซึ่งเริ่มตั้งแต่ก้าวเท้าเข้าไปในห้องพัก แขกทุกคนจะได้รับตะกร้าต้อนรับสุดน่ารัก พร้อมประสบการณ์ที่จะได้รับตลอดการเช็กอิน ไม่ว่าจะเป็น แผนที่เที่ยว เพชรบุรี ในมุมใหม่ๆ น้ำเลม่อนจากสวนเลม่อนในอำเภอชะอำ ชุดอุปกรณ์กาแฟดริป ที่คัดเมล็ดกาแฟดริปจากโรงคั่วท้องถิ่นในจังหวัดเพชรบุรีและให้ลูกค้าได้ดริปเองในห้อง

อีกสิ่งที่น่ารักคืออาหารเช้าแบบ Breakfast in Bed ที่มีให้เลือกทั้งชุดข้าวยำจากสมุนไพรปลอดสารพิษในสวน และชุดข้าวแช่ ซิกเนเจอร์ของ เพชรบุรี ที่แอบเซอร์ไพรส์ด้วยของอร่อยที่แม้แต่คนในท้องถิ่นเองยังหากินยากอย่าง ขนมลูกตาลแกงบวด (หรือ แกงบวดลูกตาล) มากกว่านั้นคือศิลปะในท้องถิ่นที่ทางรีสอร์ตพยายามแสวงหามานำเสนอให้กับลูกค้าอยู่ตลอด เช่น พวงมโหตร (เครื่องตกแต่งงานบุญงานประเพณี) จากกลุ่มลูกหว้า

และเฟสต่อไปที่กำลังจะเกิดขึ้นคือ คาเฟ่ที่จัดเสิร์ฟประสบการณ์ฉบับเพชรบุรี รวมทั้งการขยายพื้นที่ฟาร์มด้านหลังรีสอร์ตให้ลูกค้าได้เห็นทุกกระบวนการของการทำเกษตรอินทรีย์ตั้งแต่การเตรียมดิน ทำปุ๋ย น้ำหมัก การเลี้ยงสัตว์ เรียกว่าขยายรูปแบบของฟาร์มให้เต็มพื้นที่ประสบการณ์มากยิ่งขึ้น

Fact File

ที่ตั้ง : ตำบลหาดเจ้าสำราญ อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบุรี

ติดต่อ : โทร. 088-994-2563 www.facebook.com/thelifegarden.th