พัก อาศัย ใจกลางเยาวราชแล้วออกไปเก็บประสบการณ์ Local Experience
Brand Story

พัก อาศัย ใจกลางเยาวราชแล้วออกไปเก็บประสบการณ์ Local Experience

Focus
  • อาศัย (ASAI) แบรนด์โรงแรมน้องใหม่ในเครือดุสิตธานี เปิดตัวแห่งแรกในย่านเยาวราชเพื่อเจาะกลุ่มนักเดินทางมิลเลนเนียลที่สนใจการท่องเที่ยวแบบเข้าถึงวิถีชีวิตชุมชน
  • แชมป์-ศิรเดช โทณวณิก ทายาทรุ่น 3 ของดุสิตธานี เป็นแม่ทัพในการปลุกปั้นแบรนด์น้องใหม่ในตลาด Limited Service Lifestyle Hotel ที่ราคาจับต้องได้ด้วยมาตรฐานการโรงแรมแบบดุสิตธานี
  • การทำงานร่วมกับชุมชนเพื่อธุรกิจที่ยั่งยืนและสร้าง Local Experience ให้ผู้เข้าพักเป็นคอนเซ็ปต์หลักของแบรนด์

อาศัย (ASAI) แบรนด์โรงแรมน้องใหม่ในเครือโรงแรมดุสิตธานี เปิดตัวเมื่อกลางเดือนกันยายน พ.ศ. 2563 ในช่วงที่ธุรกิจการโรงแรมกำลังถูกท้าทายกับภาวะไร้นักท่องเที่ยวหลังวิกฤตโควิด-19 โดยปักธงแห่งแรกในย่านเยาวราช กรุงเทพฯ ในชื่อ โรงแรม อาศัย กรุงเทพฯ ไชน่าทาวน์ (ASAI Bangkok Chinatown) เพื่อเจาะกลุ่มนักเดินทางมิลเลนเนียลที่สนใจวิถีความเป็นอยู่ของชุมชนในแต่ละท้องถิ่นและที่พักสะดวกสบายในสไตล์มินิมัล

“ในอนาคตอย่างไรคนก็ต้องเดินทางนักท่องเที่ยวปัจจุบันไม่ได้โฟกัสที่ Facility หรือดาวของโรงแรมแต่สนใจ Local Experience และ Authenticity ที่เขาจะได้รับมากกว่า” แชมป์-ศิรเดช โทณวณิก ทายาทรุ่น 3 ของดุสิตธานีและกรรมการผู้จัดการบริษัทอาศัย โฮลดิ้งส์ จำกัด กล่าว

อาศัย จึงเป็นแบรนด์แรกของดุสิตอินเตอร์เนชั่นแนลที่ขยายฐานจาก Full Service Luxury Hotel มาจับตลาด Limited Service Lifestyle Hotel ขนาดกลาง และโรงแรม อาศัย กรุงเทพฯ ไชน่าทาวน์ (ASAI Bangkok Chinatown) ในย่านเยาวราชซึ่งรายล้อมไปด้วยความหลากหลายทางวัฒนธรรมและการผสมผสานระหว่างตึกเก่ากับวิถีชีวิตร่วมสมัยจึงตอบโจทย์การเปิดตัวแบรนด์ภายใต้คอนเซ็ปต์ Live Local ด้วยเงินลงทุนร่วม 1,000 ล้านบาท

อาศัย กรุงเทพฯ ไชน่าทาวน์
แชมป์-ศิรเดช โทณวณิก ผู้ปลุกปั้นแบรนด์อาศัย

อาศัยในเยาวราชที่ผสมผสานความเป็นไทย-จีน

โรงแรม อาศัย กรุงเทพฯ ไชน่าทาวน์ ซ่อนตัวอยู่บริเวณชั้น 4-8 ของอาคาร I’m Chinatown ห่างจากรถไฟฟ้าใต้ดินสถานีวัดมังกร เพียง 100 เมตร หากหันหน้าเข้าตัวอาคารทางเข้าโรงแรมจะอยู่ด้านขวาโดยมีจุดสะดุดตาบริเวณหน้าลิฟต์ชั้นล่างคือประติมากรรมรูปสิงโตจากวัสดุรีไซเคิลตามคอนเซ็ปต์ Waste to Worth ซึ่งเป็นฝีมือการสร้างสรรค์ของ Eric Tobua นักทำพร็อปและเครื่องหัวชื่อดังผู้อยู่เบื้องหลังการสร้างหน้ากากให้แก่รายการ The Mask Singer Thailand ประติมากรรมชิ้นนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากวัดจีนซึ่งมักจะมีรูปปั้นสัตว์ที่ทำจากหินตั้งอยู่หน้าประตูเพื่อทำหน้าที่ปกป้องคุ้มครอง

อาศัย กรุงเทพฯ ไชน่าทาวน์

เมื่อขึ้นลิฟต์สู่บริเวณชั้น 4 เป็นส่วนล็อบบี้และพื้นที่ใช้สอยส่วนกลางขนาด 440 ตารางเมตร การออกแบบตกแต่งเน้นความร่วมสมัยแบบไทย-จีน ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากสถาปัตยกรรม วัฒนธรรม สภาพแวดล้อม และการใช้ชีวิตของคนในชุมชนละแวกเยาวราชโดยสะท้อนให้เห็นตั้งแต่กระเบื้องปูพื้นลายครามรูปทรงแปดเหลี่ยมที่วาดด้วยมือโดยช่างฝีมือจากจังหวัดนครปฐม

บริเวณด้านหน้าเคาน์เตอร์รีเซ็ปชั่น โดดเด่นด้วยม้านั่งหินขัด Terrazzo พร้อมพนักทรงสูงที่เชื่อมต่อกับผนังเป็นรูปช่องเปิดแบบกลมซึ่งได้อิทธิพลมาจากสถาปัตยกรรมจีนที่เรียกว่า ประตูพระจันทร์ อันหมายถึงทางเปิดโล่งลักษณะวงกลมที่เชื่อมต่อจากผนังหรือกำแพงที่ล้อมรอบสวนแบบจีน ม้านั่งหินขัดได้แนวคิดมาจากม้านั่งจีนที่พบเห็นได้ตามอาคารห้องแถวคอนกรีตย่านเยาวราช ส่วนด้านหลังรีเซ็ปชั่นเป็นผนังหินขัดขนาดใหญ่ลวดลายกราฟิกพร้อมม้านั่งยาวที่ลูกค้าสามารถนั่งหรือวางกระเป๋าได้

อาศัย กรุงเทพฯ ไชน่าทาวน์
อาศัย กรุงเทพฯ ไชน่าทาวน์

“เราเป็น Lean Lobby คือมีสตาฟแค่ 1-2 คนประจำที่บริเวณรีเซ็ปชั่น เพราะเรามีบริการแบบ Self Check-in ที่ลูกค้าสามารถสแกนพาสปอร์ตหรือบัตรประชาชนเพื่อรับคีย์การ์ดห้องพักที่จองไว้ได้เลย หรือถ้ามาถึงก่อนเวลาเข้าห้องพักก็สามารถฝากกระเป๋าได้และยังมีห้องอาบน้ำให้บริการด้วย” แชมป์ บุตรชายคนโตของ ชนินทธ์ โทณวณิก รองประธานกรรมการและประธานคณะกรรมการบริหาร ดุสิต อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าว

Eat Work & Play

อาศัย กรุงเทพฯ ไชน่าทาวน์

พื้นที่ใช้สอยส่วนกลางออกแบบเป็นโอเพ่นสเปซตามคอนเซ็ปต์ Eat – Work – Play มีห้องให้นั่งทำงานหรือจัดประชุมย่อมๆได้ 2 ห้องซึ่งด้านหน้าตกแต่งด้วยผลงานอินสตอลเลชันโดย Ease Studio ในรูปแบบคล้ายม่านเชือกและประดับด้วยหลอดด้ายทำจากไม้และพันรอบด้วยด้ายโทนสีแดง-ขาวที่ได้แรงบันดาลใจจากหางโคมไฟจีน ถัดไปเป็น Lounge Area มีชุดโซฟาให้นั่งสบายมองเห็นวิว Courtyard รวมไปถึงบริเวณที่เรียกว่า Game & Working Space ซึ่งติดตั้งพูลและโต๊ะเก้าอี้บาร์ไม้ทรงสูงให้นั่งทำงานพร้อมปลั๊กไฟ

นอกจากนี้ยังมีตู้ขายอาหารและเครื่องดื่มแบบ Grab & Go และตู้กดน้ำดื่มฟรีเพราะในแต่ละห้องพักจะมีขวดน้ำสเตนเลสจัดเตรียมให้ลูกค้าตลอดการเข้าพักเนื่องจากทางโรงแรมมีนโยบายไม่ใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง บริเวณ Courtyard ครอบคลุมพื้นที่ขนาด 300 ตารางเมตรทำเป็นแปลงผักสวนครัวออร์แกนิกโดยมีโต๊ะและเก้าอี้ติดตั้งโดยรอบให้แขกได้นั่งพักผ่อนรับแสงธรรมชาติและชมพื้นที่สีเขียวอีกทั้งยังเป็นสถานที่สำหรับจัดเวิร์กชอปและอีเวนต์ได้ด้วย ส่วนร้านอาหารแบบ All-day Dining และบาร์รวบอยู่ในที่เดียวกันชื่อ JAM JAM Eatery & Bar ให้บริการอาหารแนวตะวันตกและฟิวชั่น

“บริเวณพื้นที่ส่วนกลางเปรียบเสมือนส่วนต่อขยายของห้องนั่งเล่นสำหรับแขก บางทีเราก็ไม่มายด์ที่จะพักในห้องขนาดเล็กเพราะเราไม่อยากอยู่ในห้องตลอดเวลา อยากเอาคอมพิวเตอร์มานั่งทำงานในบาร์หรือในคาเฟ่ที่มีบรรยากาศอบอุ่นเหมือนบ้าน ในส่วนร้านอาหารเราก็สำรวจว่าแถวนี้ยังไม่มีอาหารอะไรบ้างเพราะเราไม่อยากแข่งกับชุมชนรอบข้าง เยาวราชมีร้านอาหารจีนอร่อยเต็มไปหมด เราก็เลยนำเสนออาหารฝรั่งมีเบอร์เกอร์ พาสต้า และอาหารแบบฟิวชั่น”

ทางโรงแรมยังได้ร่วมมือกับ ลี-อายุ จือปา เจ้าของแบรนด์ Akha Ama ที่ดังไกลจนไปเปิดสาขาที่โตเกียว ให้คัดสรรเมล็ดอาราบิก้า 100% และคิดสูตรใหม่เฉพาะสำหรับแบรนด์ อาศัย เรียกว่า Living ASAI Blend นอกจากนี้ลีและทีมงานยังคิดค้นเมนูเครื่องดื่มกาแฟเย็นคือ บลูยีนส์ ลาเต้ (กาแฟผสมน้ำอัญชัน) และ อาข่าอาม่าซันเซต (กาแฟผสมน้ำสับปะรด)

“พักอาศัย” และ “พึ่งพาอาศัย”

การอยู่ร่วมกับชุมชนเพื่อธุรกิจที่ยั่งยืนเป็นคอนเซ็ปต์หลักของทางแบรนด์ ก่อนเปิดโรงแรมทางแชมป์และพนักงานจึงต้องลงพื้นที่สำรวจชุมชนโดยรอบนำทัวร์โดยสมชัย กวางทองพาณิชย์ นักประวัติศาสตร์ชุมชนและทายาทครอบครัวค้าเชือกย่านสำเพ็ง

“คำว่า ‘อาศัย’ จึงหมายถึง ‘พักอาศัย’ และ ‘พึ่งพาอาศัย’ เพราะเราต้องเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนและต้องอยู่ด้วยกันได้ ก่อนเปิดโรงแรมเรามีกิจกรรมที่เรียกว่า Asai Local Day โดยให้พนักงานทุกคนแบ่งเป็นทีม ทีมละ 6 คนแข่งขันกันเหมือนรายการ Amazing Race มีมิชชั่นคือค้นหาสถานที่หลายแห่งในเยาวราชโดยเรามีงบประมาณให้แต่ละทีมซึ่งเป็นหนึ่งในกิจกรรมสำรวจพื้นที่รอบๆและเป็นการสร้าง Team Building ไปในตัวด้วย

อาศัย

“เราต้องการให้พนักงานทุกคนเป็นแอมบาสเดอร์ของชุมชนย่านนี้ได้ แนะนำแขกที่มาพักได้ว่าแถวนี้มีอะไรดีบ้าง มีร้านอาหารจีนแคะเล็กๆร้านหนึ่งที่ทำฟองเต้าหู้ทอดอร่อยมากเป็น Hidden Gem มากๆที่ซ่อนตัวอยู่ในชุมชน นอกจากนี้ยังมีร้านขายเครื่องหนังและร้านขายเซรามิกที่น่าสนใจมากๆ ในเว็บไซต์ของโรงแรมเราจึงมีแผนที่พร้อมปักหมุดแนะนำสถานที่น่าสนใจโดยรอบโรงแรมเพราะนักท่องเที่ยวยุคนี้ต้องการ Local Experience จริงๆ และเร็วๆนี้เรามีแผนจะจัด Food Tour รอบเยาวราช”

ทางโรงแรมกำลังจัดเตรียมพื้นที่ส่วนหนึ่งบริเวณล็อบบี้สำหรับนำเสนอของดีของชุมชนโดยรอบที่ทางโรงแรมคัดสรรมาอย่างดีมาวางจำหน่าย

มาตรฐานแบบดุสิตในราคาจับต้องได้

แม้โรงแรมจะวางตัวเป็น Limited Service Lifestyle Hotel แต่แชมป์ยืนยันว่าการให้ความสำคัญกับการนอนหลับพักผ่อนสำหรับลูกค้าเป็นสิ่งที่ต้องคำนึงถึงมากที่สุด

อาศัย

“Sleep เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ห้องพักเป็น Thoughtful Essentials ที่ต้องออกแบบพื้นที่ใช้สอยที่พอดีแต่ไม่จุกจิก สะดวกสบายและสะอาด เตียงต้องนอนสบาย ฝักบัวอาบน้ำต้องดี ไดร์เป่าผมต้องมี Wi-Fi ก็จำเป็น ไฟอ่านหนังสือที่เหมาะสม ต้องใส่ใจทุกรายละเอียดเพราะเราขาย Experience การนอน การอาบน้ำ การแต่งตัวล้วนเป็น Experience ที่แขกจะได้รับ”

ห้องพักมีทั้งหมด 224 ห้อง ขนาดตั้งแต่ 17-26 ตารางเมตร และตกแต่งแบบมินิมัล มีมุมนั่งทำงาน ม้านั่งยาว ตู้แขวนเสื้อผ้าแบบเปิด และทุกห้องจะมีหมอนสามเหลี่ยมผ้าเดนิมจากฝีมือการถักทอของกลุ่มชาวบ้านโอทอปจากจังหวัดกาฬสินธุ์

อาศัย

ภาพถ่ายที่ประดับอยู่บนผนังของทุกห้องพักและบริเวณพื้นที่ใช้สอยส่วนกลางมาจากการมองผ่านเลนส์ของ 2 สาวเพื่อนซี้ ปั๊ก-ปาลิดา บุณยรังสฤษฏ์ และ เป็ด-ชญานี ชมแสงจันทร์ ที่รู้จักในนาม DogDuckPugPed โดยได้รับโจทย์ให้ใช้เวลา 1 วันตระเวนถ่ายรูปในย่านเยาวราช

สำหรับราคาห้องพักในช่วงเปิดตัวอยู่ที่ 1,500-1,800 บาทต่อคืน รวมอาหารเช้าแบบ À la carte จากวิกฤตโควิด-19 แชมป์กล่าวว่าทำให้เขาต้องเปลี่ยนวิธีการทำงานและวิธีคิด รวมถึงต้องปรับตัวให้ไวและคล่องแคล่วตลอดเวลา

อาศัย

 “เรา Predict Business ล่วงหน้าไม่ได้เลย นักท่องเที่ยว Domestic จองล่วงหน้า 1-2 วันเท่านั้นทำให้คาดเดา Occupancy ยาก จึงเป็นเรื่องท้าทายที่เราต้องบริหารจัดการ Resource และ Cost เราต้อง Lean ให้มากที่สุดและใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วย อัตราสตาฟของเราอยู่ที่ 0.36 คนต่อห้องและทุกคนต้อง Multi-Task เราต้องวัด KPI ทุก 3 เดือนจากปกติทุก 1 ปี ซึ่งผมคิดว่ายังช้าไปด้วยซ้ำเพราะทุกอย่างเปลี่ยนแปลงเร็วมาก” ผู้บริหารหนุ่มวัย 34 ปี กล่าวถึงโจทย์ที่ท้าทาย

ขยายปีกสู่ใจกลางกรุงเทพฯ และต่างแดน    

อาศัย

โรงแรมแห่งที่ 2 ของแบรนด์ อาศัย ปักหมุดในซอยสาทร 12 กรุงเทพฯ มีจำนวนห้องพัก 106 ห้อง และคาดว่าจะเปิดตัวได้กลางปีพ.ศ. 2564 ในส่วนของร้านอาหารได้จับมือกับ เชฟโบ-ดวงพร ทรงวิศวะ แห่งร้านโบ.ลาน และห้องพักตกแต่งด้วยภาพถ่ายจากฝีมือลั่นชัตเตอร์ของ พิชัย แก้ววิชิต หนุ่มวินมอเตอร์ไซค์ย่านราชเทวีที่ใช้เวลาว่างหลังรับจ้างตระเวนถ่ายรูปจนมีนิทรรศการภาพถ่ายของตัวเองมาแล้ว

“จริงๆแล้วเราจะปักที่สาทรเป็นที่แรกของแบรนด์ แต่เนื่องจากเราต้องสร้างอาคารใหม่หมดจึงใช้เวลาดำเนินการนาน แต่โชคดีที่เรามาได้โลเคชั่นที่เยาวราชซึ่งอาคารเสร็จหมดแล้วและเราเข้ามาตกแต่งเพิ่มเติมให้ตรงกับคอนเซ็ปต์และแนวทางที่วางไว้ โรงแรมที่เยาวราชช่วยสร้างความเข้าใจของแบรนด์ได้ดี

อาศัย

“ที่สาทรจะมีความ Compact กว่า และเป็น City Hotel ย่านนั้นมีร้านอาหารอิตาเลียนร้านหนึ่งอร่อยมากแต่คนเต็มตลอดเวลา เราจึงอยากจะสร้าง Connection กับเขาโดยขอที่นั่งสำรองพิเศษสำหรับแขกของอาศัยเพราะเราอยากให้แขกของเราได้สัมผัสประสบการณ์แบบ Hidden Gem ของที่นี่จริงๆ ในขณะที่ทางเราอาจสำรองที่จอดรถพิเศษสำหรับลูกค้าที่มากินอาหารที่ร้านเขา”

ปลายปี พ.ศ. 2564 จะเปิดอีกแห่งหนึ่งที่เมืองย่างกุ้ง ประเทศเมียนมา แต่เป็นการเข้าไปบริหารไม่ใช่การลงทุนโดยตรงของเครือดุสิตธานี สาขาต่างประเทศที่แบรนด์อาศัยลงทุนเองคือที่เมืองเกียวโต ประเทศญี่ปุ่นโดยจะตั้งอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟ JR และคาดว่าจะเปิดให้บริการในอีก 3 ปีข้างหน้า

Fact File

  • โรงแรมอาศัย กรุงเทพฯ ไชน่าทาวน์ ตั้งอยู่บริเวณชั้น 4-8 ของอาคาร I’m Chinatown ห่างจากรถไฟฟ้าใต้ดินสถานีวัดมังกร เพียง 100 เมตร
  • รายละเอียดเพิ่มเติมคลิก www.asaihotels.com

Author

เกษศิรินทร์ ผลธรรมปาลิต
Feature Editor ประจำ Sarakadee Lite อดีต บรรณาธิการข่าวไลฟ์สไตล์ Nation ผู้นิยมคลุกวงในแวดวงศิลปวัฒนธรรมจนได้ขุดเรื่องซีฟๆ มาเล่าสู่กันฟังเสมอ

Photographer

ชยพล ปาระชาติ
11 ปีกับช่างภาพประจำนิตยสารสาย interior ปัจจุบันเป็นช่างภาพฟรีแลนซ์ ที่ยังมุ่งมั่นอยากให้ทุกภาพออกมางดงามที่สุดในทุกครั้งที่กดชัตเตอร์