Arteasia คาเฟ่ในตึกเก่าทรงวาด ดีไซน์ขนมหวาน เพื่อสื่อสารวัฒนธรรมไทย
- Arteasia คาเฟ่ขนมหวานที่โดดเด่นด้วยสององค์ประกอบ คือ สถาปัตยกรรม และวัฒนธรรมย่านทรงวาด ซึ่งถูกสื่อสารผ่านขนมและเครื่องดื่ม เช่นเซ็ตเมนูซัมเมอร์อินทรงวาด
- ทางร้านเน้นการออกแบบขนมไทยให้โมเดิร์นเข้าถึงง่าย หน้าตาดี และอร่อย เช่น ทาร์ตขนมไทย ขนมเทียนสไตล์โมจิ และทาร์ตส้มฉุน
ทรงวาด คือย่านเก่าที่เนื้อหอมไม่เป็นรองตลาดน้อยหรือเจริญกรุง สองข้างถนนเลียบเจ้าพระยาแห่งนี้โดดเด่นด้วยตึกเก่าลูกผสมไทย จีน ยุโรป แขก และเมื่อเดินผ่าน ตึกผลไม้ มาหยุดตรงกลางระหว่างร้านก๋วยเตี๋ยวและแกลเลอรีสีน้ำเงิน Play Art House จะพบคาเฟ่ลับ Arteasia Desserts & Cafe (อาร์เตเชีย) เปิดบริการขนมหวานที่ตั้งใจออกแบบมาเพื่อสื่อสารวัฒนธรรมไทยโดยเฉพาะ โดยมี อาร์ต-อรองค์ ประสานพานิช เป็นผู้ก่อตั้ง Arteasia Desserts & Cafe ซึ่งเธอบอกกับเราว่า ที่นี่คือคาเฟ่แห่งแรกในชีวิต
จากเดิมที่ อรองค์ ทำงานด้านที่ปรึกษาด้านการศึกษาต่อต่างประเทศ เจ้าของสถาบัน Learning Ministry Education Specialist เหตุผลหนึ่งที่เธอเลือก ทรงวาด และตึกนี้มาจากความหลงใหลในเสน่ห์ตึกเก่าโดยเฉพาะเมื่อความประทับใจแรกคือการได้เห็น “กระจกสีเปล่งแสง” จากแสงยามบ่ายลอดผ่านกระจกสีบนซุ้มหน้าต่าง จุดประกายไอเดียการออกแบบ ร้านที่รวมสององค์ประกอบ นั่นคือ สถาปัตยกรรมตึกเก่า และ วัฒนธรรมย่านทรงวาด เริ่มต้นจากการเป็นบาร์เครื่องดื่มก่อนเปลี่ยนคอนเซปต์มาเป็นคาเฟ่ขนมหวาน ซึ่งเธอให้เหตุผลว่า
“จริงๆ เรื่องวัฒนธรรม มันควรสื่อสารตอนกลางวันจะเห็นชัดกว่า สิ่งที่เราเป็นทั้งหมดคนน่าจะเห็นในตอนกลางวันมากกว่า ก็เลยปรับมาเป็นคาเฟ่”
สื่อสารวัฒนธรรมผ่านทาร์ตขนมไทย
ในร้านมีเมนูขนมหวานหลากหลาย แต่ไฮไลต์เด่นคือ ทาร์ตขนมไทย ดัดแปลงจากทาร์ตผลไม้ ขนมฝรั่งที่คนคุ้นเคย มาผสมผสานกับขนมไทย ทำให้ร้านนี้กลายเป็นคาเฟ่ “ทาร์ตบาร์” แห่งแรกในย่านนี้ ซึ่งอรองค์ให้เหตุผลการเลือกทำทาร์ตขนมไทยว่าได้แรงบันดาลใจมาจากคุณสมบัติเด่นของทาร์ต ที่กินง่าย น่ารัก และรสชาติดัดแปลงได้หลากหลาย เนื้อในมีความเฉพาะตัวไม่ซ้ำกันในแต่ละเมนู เปรียบทาร์ตเป็นเหมือนภาชนะใส่ความสร้างสรรค์ของเราลงไป เป็นภาชนะที่เราสื่อสารเรื่องวัฒนธรรมได้ด้วย
“เราอยากจะใส่ความเป็นไทย วัฒนธรรมของย่าน ทรงวาด ซึ่งไม่ได้มีแค่ไทยอย่างเดียว แต่มีความเป็นมุสลิมและความเป็นจีนด้วย เราก็เลยไม่อยากถูกจำกัดด้วยรูปแบบว่าจะเป็นแค่เค้ก หรือมัฟฟิน หรือพาย แต่ทำทาร์ตแล้วใส่อะไรลงไปได้เยอะกว่า และทาร์ตเป็นได้ทั้งอาหารคาวและหวาน”
สำหรับเมนูทาร์ตและขนมต่างๆ ที่ Arteasia มีให้เลือกทั้งเมนูซิกเนเจอร์ประจำคาเฟ่และเมนูตามฤดูกาลที่จะหมุนเวียนเปลี่ยนไปตามวัตถุดิบเด่นๆ ของแต่ละซีซัน เน้นการปรับขนมไทยให้มีความโมเดิร์นและเข้าถึงง่ายสำหรับยุคสมัยปัจจุบันยิ่งขึ้น เช่น ขนมเทียน ทางร้านปรับส่วนของแป้งให้เทกซ์เจอร์ออกมาใกล้เคียงกับขนมโมจิ ส่วน เมนูส้มฉุน ของว่างโบราณหากินยากก็นำเสนอในรูปแบบทาร์ต อีกไฮไลต์คือ สโคนมะม่วง เป็นการดัดแปลงขนมฝรั่งยอดฮิตในวัฒนธรรมดื่มชาบ่ายของอังกฤษอย่าง “สโคน” (Scone) มาผสมกับผลไม้ฤดูร้อนอย่างมะม่วงและกะทิ โดยในส่วนของทาร์ตได้นำหลากหลายเมนูขนมไทยมาปรับโฉม เช่น ทาร์ตกล้วยบวชชี ทาร์ตข้าวเหนียวมะม่วง ทาร์ตมะม่วงพริกเกลือ ทาร์ตสาคูแห้วอัญชัน เป็นต้น
สำหรับเมนูที่ปรับตามฤดูกาล เช่น ฤดูร้อนที่ผ่านมาจัดเสิร์ฟ ซัมเมอร์อินทรงวาด ได้แรงบันดาลใจจากมัสยิดหลวงโกชาอิศสีเหลืองโคโลเนียลที่อยู่หลังร้านมาผสมผสานกับรวมผลไม้หน้าร้อนของไทย ทั้งยังดึงวัฒนธรรมอาหารมุสลิมมาจับเป็นเซ็ต อย่างมะตะบะไก่ โรตีชาชัก ตบท้ายด้วยทาร์ตผลไม้ อย่างทาร์ตข้าวเหนียวเปียกลำไย ทาร์ตผลไม้รวมฤดูร้อน และจบด้วยทาร์ตลิ้นจี่ให้รสหวานสดชื่นสมกับฤดูร้อนของไทย
ออกแบบประสบการณ์การกินขนมไทยแบบ “เซ็ตขนมหวาน”
นอกจากออกแบบหน้าตาขนมหวานให้ดูแปลกใหม่แล้ว Arteasia Desserts & Cafe ยังออกแบบประสบการณ์การกินขนมในเมนูเซ็ตขนมหวานที่ได้ไอเดียมาจากเซ็ตขนมน้ำชาของยุโรป อย่าง เมนูเซ็ตทาร์ต มีทาร์ต 5 ชิ้น พร้อมคำแนะนำว่าควรจะกินทาร์ตรสไหนก่อนหลัง
“การกินตามลำดับเป็นประสบการณ์ของรสชาติ เราอยากให้ชาวต่างชาติมาทานขนมไทยในรูปแบบที่ใหม่ สนุก และโมเดิร์น ขณะเดียวกันก็อยากให้เด็กไทยได้มาเอนจอยความเป็นไทย ที่ยังมีความชิก ถ่ายรูปแล้วสวยอยู่”
นอกจากขนมแล้ว ในเมนูเครื่องดื่มก็ยังคงเน้นเส้นเรื่องเกี่ยวกับทรงวาด ทั้งการใช้วัตถุดิบท้องถิ่น และอิงประวัติศาสตร์ของพื้นที่ทรงวาด เช่น ชาพีช ที่นำชาดำไปเบลนด์กับพีชและเก๊กฮวยที่มีขายอยู่มากทั่ว ทรงวาด ส่วน โคโคนัท ป๊อปคอร์น ก็เป็นน้ำมะพร้าวท็อปด้วยครีมกะทิเข้มข้นและป๊อปคอร์น และ Mango Dream เป็นรสชาติข้าวเหนียวมะม่วงทอปปิงด้วยข้าวเหนียวตัดรสเข้ากันมาก
เบื้องหลังแปลงตึกเก่าอายุ 100 ปีเป็นคาเฟ่ชิก
ด้านประวัติศาสตร์ตึกเก่าที่เป็นที่ตั้งของ Aerteasia นั้นเดิมเป็นออฟฟิศเก่าของบริษัทขายส่งสินค้า ซึ่งทางคาเฟ่ยังคงอนุรักษ์โครงสร้างเดิมไว้พร้อมปรับโครงสร้างและการตกแต่งภายในให้ร่วมสมัยเป็นไทยประยุกต์มากขึ้น เช่นเดียวกับโลโก้ร้านที่มีลวดลายดัดแปลงจากลายไทยประยุกต์ รวมไปถึงโคมไฟ โต๊ะ เก้าอี้ที่จัดวางก็มีกลิ่นอายไทยในงานดีไซน์แทบทุกมุม
“การเอาเหล็กเอาเหลี่ยม เอามาตัดกับของเดิมที่เป็นไม้และตึกเก่า เพื่อให้มันดูโมเดิร์นขึ้น”
ใครมาทอดน่องทรงวาดปักหมุดไว้ได้เลย อินกับประวัติศาสตร์ย่านแล้วก็อย่าลืมมาต่อเนื่องกับประวัติศาสตร์ที่ส่งผ่านขนมหวานที่สนุกไม่แพ้กัน
Fact File
- Arteasia Desserts & Cafe ถนนทรงวาด กรุงเทพฯ
- เปิดบริการ อังคาร-ศุกร์ เวลา 10.00-17.00 น., เสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-19.00 น.
- www.facebook.com/Arteasia.Bangkok