“ชุดชั้นใน” ของบริจาคที่หลายคนมองข้าม แต่จำเป็นมากสำหรับผู้หญิงที่ขาดแคลน
- โครงการ Wacoal We Care ดำเนินการมากว่า 50 ปี โดย บริษัท ไทยวาโก้ จำกัด (มหาชน) นำผลิตภัณฑ์ชุดชั้นในและผลิตภัณฑ์ใหม่จากวาโก้ไปบริจาคแก่ทัณฑสถานหญิง และชุมชนที่ขาดแคลน
- ล่าสุดต้นปี พ.ศ. 2564 บริษัท ไทยวาโก้ จำกัด (มหาชน) ร่วมกับ ชุมชนพูนสุข นำชุดชั้นในใหม่และผลิตภัณฑ์สำหรับเด็กไปมอบให้กับหมู่บ้านริมตะเข็บชายแดนไทย-เมียนมา นับรวมได้10 หมู่บ้าน อาทิ หมู่บ้านป่าเด็ง อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี, หมู่บ้านเบอลูโค่ อ.ท่าสองยาง จ.ตาก, หมู่บ้านห้วยมะโหนก อ.ท่าสองยาง จ.ตาก, หมู่บ้านซาแย้ อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี เป็นต้น
ชุดชั้นใน อาภรณ์ชนิดนี้คือสิ่งที่ผู้หญิงทั่วโลกไม่ว่าจะช่วงวัยไหนต่างคุ้นเคย รู้จักเป็นอย่างดี และสามารถซื้อหาได้ง่ายจนไม่เคยมองว่านี่คือหนึ่งในสิ่งจำเป็น ทว่ายังมีผู้หญิงอีกจำนวนหนึ่งตามตะเข็บชายแดนที่ไม่สามารถเข้าถึงได้แม้แต่ชุดชั้นในในสรีระที่เหมาะสมกับตนเอง เช่น หมู่บ้านซาแย้ หรือ หมู่บ้านปาเกอะญอ ตำบลป่าเด็ง อำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี
“จากแก่งกระจานถ้าขับรถเร็วก็จะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ถ้าช้าหน่อยก็ชั่วโมงครึ่ง จริงๆ ซาแย้เราอยู่ห่างจากบ้านป่าเด็งแค่ 8 กิโลเมตร แต่ต้องข้ามห้วยสามห้วย ฤดูฝนก็ลำบากมาก มีหินถล่ม ดินถล่มลงมาบ้าง เสี่ยงมาก รถยนต์จะใช้ไม่ได้ตอนฤดูฝนต้องอ้อมเขาไป คนที่น่าสงสารที่สุดคือเด็กนักเรียนที่ต้องไปเช้ากลับเย็น เรียนที่ป่าเด็งก็จะลำบาก ส่วนถ้าจะออกไปตลาดป่าเด็งเพื่อซื้อของใช้ก็จะออกไปซื้อของที่จำเป็นเท่านั้น”
ธิดารัตน์ ปัญญาศานติ ชาวบ้านซาแย้ เล่าถึงความยากลำบากในการเดินทางออกจากหมู่บ้านแนวตะเข็บชายแดนไทย-เมียนมาซึ่งตั้งลึกเข้ามาในผืนป่า แม้จะห่างจากตัวบ้านป่าเด็งมาราว 8 กิโลเมตร แต่ก็ใช่ว่าจะเดินทางเข้าออกไปได้ง่ายโดยเฉพาะฤดูฝน ที่ผ่านมามีอาสาสมัครมาร่วมบริจาคสิ่งของโดยเฉพาะข้าวสารให้หมู่บ้านซาแย้อยู่หลายครั้ง แต่นี่เป็นครั้งแรกที่มีการนำชุดชั้นในไปแจกให้ผู้หญิงตั้งแต่ช่วงวัยเฟิสต์บรา วัยรุ่น ไปจนถึงผู้สูงวัย โดยความร่วมมือระหว่าง บริษัท ไทยวาโก้ จำกัด (มหาชน) และ ชุมชนพูนสุข ซึ่งธิดารัตน์บอกว่านี่อาจจะเป็นการบริจาคเพียงชุดที่สวมใส่ด้านในไม่มีใครเห็น แต่ที่ผ่านมาผู้หญิงในหมู่บ้านซาแย้หลายคนแทบจะไม่ได้มีสิทธิ์เลือกชุดชั้นในที่เหมาะกับสรีระของตัวเองเลยด้วยซ้ำ
“พูดถึงเสื้อใน เราซื้อกันที่ตลาดนัดป่าเด็ง บางคนออกไปเลือกเองตามที่เราต้องการได้ แต่คนที่ไปเองไม่ได้ก็น่าสงสารคือเขาไม่ได้เลือกเองต้องฝากคนอื่นซื้อ อย่างบางคนไม่มีก็ไม่ใส่” ธิดารัตน์กล่าวเสริม
สำหรับการเดินทางที่ดูเหมือนจะใกล้จากกรุงเทพฯ มาจังหวัดเพชรบุรี สู่หมู่บ้านริมตะเข็บชายแดนอย่างซาแย้ในครั้งนี้เป็นกิจกรรมย่อยๆ ใน โครงการ Wacoal We Care โดยที่ผ่านมามากว่า 50 ปี ทางไทยวาโก้ได้นำผลิตภัณฑ์ชุดชั้นในและผลิตภัณฑ์ใหม่จากวาโก้ไปบริจาคแก่ทัณฑสถานหญิง และชุมชนที่ขาดแคลน แต่นี่เป็นครั้งแรกสำหรับหมู่บ้านริมตะเข็บชายแดนไทย-เมียนมา นับรวมได้ 10 หมู่บ้าน อาทิ หมู่บ้านป่าเด็ง อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี, หมู่บ้านเบอลูโค่ อ.ท่าสองยาง จ.ตาก, หมู่บ้านห้วยมะโหนก อ.ท่าสองยาง จ.ตาก, หมู่บ้านพระพร อ.ท่าสองยาง จ.ตาก และหมู่บ้านซาแย้ อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี เป็นต้น
“ครั้งนี้เป็นครั้งที่เราร่วมมือกันภาคชุมชนในเรื่องของการบริจาคชุดชั้นในให้ผู้หญิง และเสื้อผ้าสำหรับเด็กให้ชุมชนชายแดนไทย-เมียนมา ทางเรามีการทำสำรวจและเลือกมา 10 หมู่บ้าน มีจำนวนผู้หญิงกว่า 900 คน และเด็กอีกกว่า 600 คน ที่ต้องการสิ่งเหล่านี้ จากนั้นเราก็เลือกผลิตภัณฑ์เสื้อชั้นในวาโก้สำหรับเด็กหญิงและสตรีจำนวน 2,838 ชิ้น รวมทั้งชุดเด็กเล็ก 1,659 ชิ้นรวมมูลค่า 750,000 บาท ถามว่าทำไมต้องบริจาคุดชั้นใน ชุดชั้นในไม่เหมือนเครื่องนุ่งห่มทั่วไป เพราะมันอยู่ด้านในไม่มีใครเห็น แต่มันเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้หญิง สร้างความมั่นใจในเรื่องของการใช้ชีวิตประจำวัน เรียกว่าเข้ามาซัปพอร์ตการใช้ชีวิตประจำวันของผู้หญิงก็ว่าได้”
อินทิรา นาคสกุล ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท ไทยวาโก้ จำกัด (มหาชน) เล่าถึงหัวใจของ Wacoal We Careซึ่งนอกจากจะเลือกผลิตภัณฑ์ใหม่นำไปบริจาคแล้วก็ยังใส่ใจรายละเอียดไปถึงการวัดขนาดสรีระของผู้หญิงและเด็กแต่ละคนด้วย
“ไม่เคยมีใครบริจาคชุดชั้นในมาก่อน ถ้าเทียบกับข้าวสารอาหาร ชุดชั้นใน 1 ชิ้นมีราคาสูงกว่า ที่ผ่านมาจึงไม่มีคนบริจาค ในนามของชุมชนพูนสุขที่เข้ามาทำงานร่วมกับวาโก้ในครั้งนี้ เราไม่ได้อยากแค่นำมาแจก เขาจะใส่ได้หรือไม่ได้ก็จบ ดังนั้นเราจึงทำการวัดสรีระของผู้หญิงทุกคนก่อนที่เราจะนำชุดชั้นในมาแจก เราต้องการให้ทุกคนได้ใส่จริงๆ ไม่ใช่ให้ไปแล้วไม่ตรงไซซ์ก็ไม่มีประโยชน์ เราระบุไซซ์ทั้งนักเรียนหญิง เด็กหญิง ชุดเด็ก ชุดชั้นในผู้ใหญ่ ทางวาโก้ก็จะเตรียมไซซ์ตามที่แจ้งไป และตอนนี้ก็กระจายไปในจุดอื่นๆ แล้ว ผู้หญิงที่ได้รับเขาก็ดีใจนะ บางคนไม่มีชุดชั้นในใส่ก็คือไม่ใส่เลยอีกสิ่งที่สำคัญที่เราประสานกับทางวาโก้คือชุดเด็ก สำหรับผู้ใหญ่ถ้าไม่มีเสื้อในก็ใส่เสื้อทับออกจากบ้านมาแต่เด็กๆ ถ้าไม่มีเสื้อก็ไม่ได้ใส่เสื้อออกจากบ้านมาเลย และเสื้อคุณภาพดีใส่ได้นานก็มีได้ยากเช่นกัน”
อุมาพร ตั้งเจริญบำรุงสุข หนึ่งในผู้ทำงานของชุมชนพูนสุขเล่าถึงความจำเป็นของการบริจาคชุดชั้นในที่ไม่ใช่ชุดชั้นในมือสอง แต่เป็นชุดชั้นในใหม่คุณภาพดีที่เลือกแล้วว่าเหมาะกับสรีระของผู้หญิงแต่ละคนที่ต่างกันออกไป
นอกจากหมู่บ้านริมตะเข็บชายแดนแล้ว ตลอดปีนี้โครงการ Wacoal We Care ยังเดินหน้านำชุดชั้นในไปมอบให้ผู้หญิงที่ขาดแคลนอีกหลายแห่ง สามารถติดตามความเคลื่อนไหวได้ที่ www.wacoal.co.th