พลังแห่งเสื้อผ้า โปรเจ็กต์จาก ยูนิโคล่ ที่ขอเปลี่ยนพลาสติกเป็นการอนุรักษ์
- เดือนมีนาคม 2564 ยูนิโคล่ เปิดตัวโดราเอมอนสีเขียว หรือ Doraemon Sustainability Mode โดเรมอนโหมดความยั่งยืน แบรนด์แอมบาสเดอร์คนใหม่ที่ออกมาตอกย้ำพันธกิจด้านความยั่งยืนของแบรนด์เสื้อผ้า
- พลังของเสื้อผ้า (The power of clothing) เคมเปญด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมของ ยูนิโคล่ ซึ่งล่าสุดทางยูนิโคล่ได้บริจาคเงินจำนวน 1 ล้านบาทที่ได้มาจากการจำหน่ายถุงกระดาษ เพื่อสนับสนุนกิจกรรมอนุรักษ์สัตว์ป่าและสิ่งแวดล้อมของมูลนิธิช่วยชีวิตสัตว์ป่าแห่งประเทศไทย
เมื่อราวเดือนมีนาคม 2564 ผู้คนในวงการแฟชั่นคงได้เห็นข่าวคราวการเปิดตัวโดราเอมอนสีเขียว หรือ Doraemon Sustainability Mode โดเรมอนโหมดความยั่งยืน แบรนด์แอมบาสเดอร์คนใหม่ที่ออกมาตอกย้ำพันธกิจด้านความยั่งยืนของแบรนด์เสื้อผ้า ยูนิโคล่ (UNIQLO) พร้อมชูจุดยืนของแบรนด์ด้วยการเปลี่ยนมุมมองของวงการแฟชั่นซึ่งมักถูกมองว่าเป็นตัวการอย่างหนึ่งของปัญหาขยะล้นและโลกร้อน เป็นการประกาศแคมเปญเปลี่ยนอนาคตด้วย พลังของเสื้อผ้า (The power of clothing) ซึ่งมีทั้งการเดินหน้าผลิตเสื้อผ้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และกิจกรรมด้านสิ่งแวดล้อมในแง่ต่างๆ เช่นกิจกรรมล่าสุดที่ ยูนิโคล่ ได้เปลี่ยนพลาสติกให้กลายเป็นแรงสนับสนุนกิจกรรมอนุรักษ์สัตว์ป่าและสิ่งแวดล้อมของมูลนิธิช่วยชีวิตสัตว์ป่าแห่งประเทศไทย (WARF)
“ยูนิโคล่ให้ความสำคัญกับพันธกิจด้านความยั่งยืนมาโดยตลอดตามพันธกิจ ‘ปลดล็อกพลังแห่งเสื้อผ้า’ โดยยูนิโคล่ตระหนักดีถึงปัญหาสิ่งแวดล้อม และต้องการเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างความเปลี่ยนแปลงในเชิงบวก ยูนิโคล่เองมีความุ่งมั่นในการลดการใช้พลาสติกใช้ครั้งเดียวทั้งการเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์สินค้ามาเป็นกระดาษ การยกเลิกการใช้ถุงพลาสติก และสนับสนุนให้ลูกค้าใช้ถุงผ้าหรือถุงกระดาษแทน เพื่อบรรลุเป้าหมายในการลดการใช้พลาสติกลงให้ได้ 85% หรือประมาณ 7,800 ตันทั่วโลกตามเป้าหมายของบริษัท รวมถึงการเป็นพันธมิตรกับมูลนิธิช่วยชีวิตสัตว์ป่าแห่งประเทศไทยเป็นอีกหนึ่งก้าวที่สำคัญในการตอกย้ำความมุ่งมั่นของยูนิโคล่ในการดำเนินโครงการด้านสิ่งแวดล้อม”
เขมจิรา เทศประทีป ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและประชาสัมพันธ์ บริษัท ยูนิโคล่ (ประเทศไทย) กล่าวถึงไอเดียปลดล็อกพลังแห่งเสื้อผ้า ซึ่งล่าสุดทางยูนิโคล่ได้บริจาคเงินจำนวน 1 ล้านบาทที่ได้มาจากการจำหน่ายถุงกระดาษ เพื่อสนับสนุนกิจกรรมอนุรักษ์สัตว์ป่าและสิ่งแวดล้อมของมูลนิธิช่วยชีวิตสัตว์ป่าแห่งประเทศไทย ซึ่งทางมูลนิธิจะนำไปใช้ในภารกิจช่วยชีวิตสัตว์ป่าและสัตว์ทะเลที่ได้รับผลกระทบจากการกระทำของมนุษย์ รวมทั้งต่อยอดงานวิจัยด้านสัตว์ป่าและระบบนิเวศเพื่อคืนสมดุลให้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืนต่อไป
สำหรับเงินบริจาค 1 ล้านบาทนั้น มาจากแคมเปญการลดการใช้พลาสติกใช้ครั้งเดียวทิ้งภายในร้านโดยทางยูนิโคล่ทั่วโลกตั้งเป้าจะลดการใช้พลาสติกลงให้ได้ 85% ด้วยการเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์สินค้าที่เป็นพลาสติกเป็นกระดาษ สนับสนุนให้ลูกค้าใช้ถุงผ้า Eco bag พร้อมทั้งนำเงินส่วนหนึ่งที่ได้จากการจำหน่ายถุงกระดาษในราคา 2 บาท ไปสนับสนุนการทำงานและกิจกรรมของมูลนิธิในด้านการอนุรักษ์สัตว์ป่าและสิ่งแวดล้อม
นอกจากการลดใช้พลาสติกที่หน้าร้านแล้ว ทางยูนิโคล่ยังมีแคมเปญลดขยะจากเสื้อผ้าด้วยโปรเจ็กต์RE.UNIQLO ชวนลูกค้ามาร่วมบริจาคเสื้อผ้าของยูนิโคล่ส่งต่อให้กับผู้ที่ยังต้องการ เพื่อให้เกิดการนำกลับมาใช้ซ้ำ โดยตั้งแต่ พ.ศ. 2554 ยูนิโคล่ได้ร่วมส่งต่อเสื้อผ้ากว่า 41 ล้านชิ้น ในกว่า 75 ประเทศทั่วโลก (ข้อมูล ณ วันที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2563)
ในส่วนของไลน์การผลิตก็มีการเริ่ม Recycle (การนำกลับมาผลิตใหม่) รีไซเคิลเสื้อผ้าตัวเก่าเริ่มจากเสื้อแจ็คเก็ตรีไซเคิลดาวน์ขนเป็ด ในปีพ.ศ. 2563 ควบคู่ไปกับการ Reduce (การลด) เน้นกระบวนการผลิตเสื้อผ้าที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม คัดสรรวัตถุดิบที่ยั่งยืน รวมถึงการนำทรัพยากรกลับมาใช้ซ้ำและผลิตใหม่
และเพื่อให้ครบถ้วนทั้งอุตสาหกรรมแฟชั่น ทางแบรนด์ยังมีผลิตภัณฑ์ที่เป็นนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม เช่น เสื้อโปโล DRY-EX มีโพลีเอสเตอร์รีไซเคิลที่ผลิตจากขวดพลาสติก PET เป็นส่วนประกอบ 32% ฟลีซขนนุ่ม Fluffy Yarn Fleece แจ็คเก็ตผ้าพลีซผลิตเส้นใยทำจากโพลีเอสเตอร์รีไซเคิลที่ผลิตจากขวดพลาสติก PET เป็นส่วนประกอบ 30% และที่ได้รับการกล่าวถึงอย่างมากคือ BlueCycle Jeans กางเกงยีนส์ที่ผลิตด้วยกระบวนการเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมาก ทั้งการลดปริมาณการใช้น้ำ และลดภาระให้กับพนักงานโดยใช้เทคโนโลยีจากศูนย์นวัตกรรมยีนส์ในลอสแอนเจลิส ซึ่งร่วมกันคิดค้นพัฒนามาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2561 และเริ่มผลิตพร้อมวางจำหน่ายตั้งแต่ปี พ.ศ. 2563 ที่ผ่านมา
และล่าสุดที่กำลังจะเปิดตัวคือUNIQLO+ ชุดกีฬาที่ยูนิโคล่ร่วมสร้างสรรค์กับนักกีฬาทีมโอลิมปิกส์ของสวีเดนซึ่งนอกจากคุณสมบัติด้านการระบายอากาศ ซึมซับความชื้นได้ดี มีน้ำหนักเบา แห้งเร็ว และยืดหยุ่นดี UNIQLO+ยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมด้วยขั้นตอนการผลิตจากเส้นใยทำจากโพลีเอสเตอร์รีไซเคิลที่ผลิตจากขวดพลาสติก และเส้นใยโพลีเอสเตอร์ที่ได้จากวัตถุดิบชีวมวลซึ่งจะวางจำหน่ายที่ประเทศไทยเฉพาะสาขาเซ็นทรัลเวิลด์และออนไลน์สโตร์ในวันที่ 7 มิถุนายน 2564 นี้
ภาพ : ธนพัฒน์ พยัคฆาภรณ์ และ ยูนิโคล่ ประเทศไทย
Fact File
ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงการเพื่อความยั่งยืนของยูนิโคล่ ประเทศไทย ได้ที่เว็บไซต์ https://www.uniqlo.com/th/sustainability/