ฮีลใจกับ 4 โรงแรม Tourism Cares การันตีความยั่งยืนระดับสากล เปลี่ยนเรื่องสิ่งแวดล้อมเป็นความสนุกของวันพักผ่อน
- ประเทศไทยมีโรงแรมที่ได้รับการรับรองมาตรฐานจาก Tourism Cares ทั้งหมด 9 โรงแรม ประกอบด้วยสมาชิกโครงการ CF-Hotels จำนวน 5 โรงแรม ซึ่งใช้แพลตฟอร์ม CF-Hotels เพื่อวางแผนลดคาร์บอนฟุตพรินต์อย่างยั่งยืน
- Tourism Cares องค์กรจากสหรัฐอเมริกาที่มุ่งมั่นส่งเสริมความยั่งยืนในอุตสาหกรรมการเดินทางและท่องเที่ยว ให้ร่วมเป็นเครือข่ายพันธมิตรทางการท่องเที่ยวที่มีกว่า 160 แห่งทั่วโลก
เรื่องสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนเป็นเรื่องที่ใกล้ตัว ทำได้ทันที และไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่คิด แม้แต่การเช็กอินพักผ่อนในโรงแรม รีสอร์ต ก็สามารถดูแลและใส่ใจสิ่งแวดล้อมได้พร้อมกัน เช่นเดียวกับ 4 โรงแรมสมาชิก CF-Hotels ที่เราคัดเลือกมาป้ายยาคนที่กำลังมองหาที่พักสำหรับทริปต่อไป ความพิเศษของทั้ง 4 โรงแรมไม่ใช่เพียงเรื่องความผ่อนคลาย ดีไซน์ หรือการบริการ ทว่าทั้ง 4 โรงแรมยังยืนหนึ่งเรื่องความใส่ใจสิ่งแวดล้อม โดยได้รับการรับรองจาก Tourism Cares องค์กรจากสหรัฐอเมริกาที่มุ่งมั่นส่งเสริมความยั่งยืนในอุตสาหกรรมการเดินทางและท่องเที่ยว ให้ร่วมเป็นเครือข่ายพันธมิตรทางการท่องเที่ยวที่มีกว่า 160 แห่งทั่วโลก ซึ่งประกอบด้วยหลากหลายประเภทธุรกิจ อาทิ โรงแรมที่พัก ร้านอาหาร ศูนย์การเรียนรู้หรือพิพิธภัณฑ์ ธุรกิจนำเที่ยว ที่การันตีได้ว่าดำเนินธุรกิจอย่างเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
ปัจจุบันประเทศไทยมีโรงแรมที่ได้รับการรับรองมาตรฐานจาก Tourism Cares ทั้งหมด 9 โรงแรม ประกอบด้วยสมาชิกโครงการ CF-Hotels จำนวน 5 โรงแรม ซึ่งใช้แพลตฟอร์ม CF-Hotels เพื่อวางแผนลดคาร์บอนฟุตพรินต์อย่างยั่งยืน นับเป็นการเพิ่มโอกาสให้แก่ผู้ประกอบการไทยในการนำเสนอสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนของประเทศไทยสู่ตลาดต่างชาติ โดยเครือข่ายพันธมิตรที่ดำเนินธุรกิจอย่างเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมที่ผ่านการรับรองจาก Tourism Cares จะได้นำเสนอใน Meaningful Travel Map เพื่อให้ธุรกิจนำเที่ยวและนักท่องเที่ยวสายกรีนที่ให้ความสำคัญเรื่องสิ่งแวดล้อมจากทั่วโลกสามารถค้นหารายชื่อสถานที่ท่องเที่ยวหรือสถานบริการทางการท่องเที่ยวที่ดำเนินธุรกิจบนพื้นฐานความยั่งยืนผ่านช่องทาง www.tourismcares.org
ทั้ง 4 โรงแรมที่คัดเลือกมายังมีการนำองค์ความรู้ด้านสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนมาผสมผสานกับไลฟ์สไตล์ของนักเดินทาง…แค่ออกไปท่องเที่ยวก็สามารถช่วยดูแลโลกและสิ่งแวดล้อมได้เช่นกัน ส่วนจะมีโรงแรมไหนบ้างนั้น ปักหมุด เก็บกระเป๋า และออกเดินทางได้เลย
“PRY1” สนามเด็กเล่นกลางผืนป่า แม้แต่ผู้ใหญ่ต้องหลงรัก
ไม่ต้องรู้สึกเหนื่อยล้าก็สามารถเข้าป่าได้ แต่ผืนป่าที่เราจะชวนไปครั้งนี้คือ ที่พักท่ามกลางบรรยากาศเขียวครึ้ม ใกล้อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ฝั่งจังหวัดปราจีนบุรีที่ชื่อ PRY1 หรือ ไพรวัน กับพื้นที่กว่า 100 ไร่ ที่ตั้งต้นจากงานรีโนเวตรีสอร์ต เขาใหญ่แกรนด์วิว เดิมซึ่งเปิดบริการมาตั้งแต่ปี 2538 ให้มีความโมเดิร์นและเป็นหนึ่งเดียวกับพื้นที่สีเขียวมากยิ่งขึ้น พร้อมรักษาต้นไม้ใหญ่ดั้งเดิมในพื้นที่ แทนการเปลี่ยนพื้นที่สีเขียวให้รองรับสิ่งก่อสร้างใหม่
ตัวอาคารเน้นเส้นสายรูปทรงเรขาคณิตแทรกตัวอยู่ในทิวแถวไม้กลืนไปกับธรรมชาติ ที่นี่นอกจากจะเหมาะกับสายกรีนที่ชอบความร่มรื่นของต้นไม้ รวมทั้งนักท่องเที่ยวกลุ่มครอบครัวที่ต้องการหาพื้นที่เอาต์ดอร์ให้เด็กๆ แล้ว PRY1 ยังรองรับนักเดินทางสายคาร์บอนฟรี ทั้งนักปั่น นักวิ่ง และนักไตรกีฬา เพราะที่นี่มีทั้งลู่วิ่งที่ขนานกับแนวต้นไม้ มีจุดจอดจักรยาน เลนจักรยานเชื่อมจากนอกอาคารไปถึงห้องพักได้ทันที รวมทั้งสระว่ายน้ำกลางแจ้งขนาดใหญ่ 50 เมตร และที่หลายโรงแรมอาจจะไม่มีคือ “ห้องสมุด” ซึ่งตั้งอยู่ในอ้อมกอดธรรมชาติ ออกแบบให้ลมและแสงแดดธรรมชาติหมุนเวียน เหมาะสำหรับหยิบหนังสือเล่มโปรดมาพักผ่อนเป็นที่สุด
Sustainable Design : Carbon Free คือเป้าหมายปลายทางของโรงแรม ที่นี่จึงออกแบบทั้งอาคาร กิจกรรม และระบบการจัดการโรงแรมให้ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนให้มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็น ห้องอาหาร VAYA Kitchen ที่ลดคาร์บอนจากการขนส่งวัตถุดิบระยะไกล โดยใช้ผลผลิตจากสวนเกษตรอินทรีย์ภายในโรงแรม และสนับสนุนวัตถุดิบตามฤดูกาลจากชุมชนใกล้เคียง
ไฮไลต์ประจำปี คือ หน่อไม้ไผ่ตง พืชท้องถิ่นในตำบลเนินหอมที่จะมีให้ได้กินเฉพาะช่วงต้นฤดูฝน ทั้งยังจัดกิจกรรมพาลูกค้าออกตามหาหน่อไม้ในชุมชน ต่อด้วยการลดใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง (single – use plastic) และหันมาใช้ขวดแก้วแทนขวดพลาสติก พร้อมสนับสนุนพลังงานสะอาด ติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ผลิตไฟฟ้าใช้ภายในโรงแรม และมีจุด EV charger บริการสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า ในส่วนขยะหลังบ้านมีการใช้เทคโนโลยีชีวภาพย่อยขยะเศษอาหารเป็นปุ๋ยสำหรับสวนผัก สามารถลดปริมาณขยะเศษอาหารได้ถึง 80-90% ภายในเวลา 24 ชั่วโมง และสิ่งที่ทำมาอย่างต่อเนื่อง คือการปลูกต้นไม้ขยายพื้นที่สีเขียวในโรงแรม
Don’t Miss : แค้มปิง วิ่ง ปั่นจักรยาน ว่ายน้ำ กิจกรรมเอาต์ดอร์เหล่านี้กระจายอยู่ในมุมต่างๆ ของโรงแรม มากกว่านั้น คือกิจกรรมงานศิลปะและงานคราฟต์ในห้องสมุดกลางป่า Bulbul in the Woods เช่น ทำสีธรรมชาติจากดอกไม้ตามฤดูกาล ทำตุ๊กตาจากลูกสนที่หล่นในพื้นที่ พร้อมมีหนังสือให้อ่านฟรีสำหรับเด็กและผู้ใหญ่ในหมวดสัตว์ป่า ธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม และที่อยากให้ทุกคนได้ทดลองใช้คือ สมุดบันทึกการศึกษาธรรมชาติ Nature Playground ส่งเสริมให้รู้จักและรักษ์ธรรมชาติ สำหรับคนที่มีโปรแกรมออกไปเดินป่าในเส้นทางศึกษาธรรมชาติอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่
Location : ถนนปราจีนบุรี-เขาใหญ่ อำเภอเมือง จังหวัดปราจีนบุรี
“Away Chiang Mai Thapae” วีแกนรีทรีต คืนสมดุลสุขภาพและสิ่งแวดล้อม
Vegan Retreat คือคำสั้นๆ ที่ Away Chiang Mai Thapae ใช้นิยามตัวเอง ที่นี่เป็นโรงแรมบูติกขนาดย่อมที่ชูสถานะการเป็น “วีแกน รีทรีต รีสอร์ต” หรือที่พักสำหรับชาววีแกนโดยเฉพาะ ตัวโรงแรมตั้งอยู่บนถนนท่าแพ กลางเมืองเชียงใหม่ ทำเลแหล่งประวัติศาสตร์ศิลปวัฒนธรรมเก่าแก่ของล้านนา แวดล้อมด้วยวัดวาอารามและชุมชนหัตถกรรมท้องถิ่น ตัวโรงแรมใส่ดีไซน์ไทยโมเดิร์นกลิ่นอายโคโลเนียล เน้นโทนสีขาวและสีน้ำเงินให้ความรู้สึกสงบผ่อนคลาย และด้วยการเป็นโรงแรมวีแกน 100% ที่นี่จึงไม่ให้บริการอาหารจากวัตถุดิบที่ได้จากสัตว์ ไข่ และนม และดำเนินแนวทางธุรกิจที่เติบโตอย่างยั่งยืนด้วยหลักปรัชญาของการไม่เบียดเบียนสัตว์ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม คืนสมดุลให้ชีวิตด้วยการดูแลสุขภาพที่เริ่มต้นจากภายใน
Sustainable Design : แม้เป็นโรงแรมที่ตั้งอยู่กลางเมือง แต่ที่นี่ก็พยายามใส่ต้นไม้เพิ่มพื้นที่สีเขียวตามมุมระเบียงต่างๆ พร้อมกันนั้นก็จัดตั้ง Green Team อย่างจริงจังเพื่อส่งเสริมให้พนักงานแต่ละแผนกได้มีส่วนร่วมในการจัดการและเสนอนโยบายเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งทางโรงแรมย้ำว่าจะต้องเติบโตไปพร้อมกับการรักษามาตรฐานการบริการ เริ่มต้นหยอดเมล็ดพันธุ์ด้านความยั่งยืนจากหลังบ้านด้วยการฝึกอบรมพนักงานในเรื่องสิ่งแวดล้อมอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงการจัดซื้อจัดจ้างที่ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เช่น สนับสนุนสินค้าท้องถิ่นเพื่อสร้างรายได้ต่อชุมชนและลดการขนส่ง
ในส่วนของลูกค้าที่เข้ามาพักก็มีป้ายรณรงค์เรื่องการใช้น้ำ ลดใช้พลาสติก จัดตั้งกล่องรับบริจาคหลอดพลาสติกในโรงแรมเพื่อนำไปบริจาคให้หน่วยงาน Green Road และนำหลอดพลาสติกไปเป็นวัสดุปูพื้นถนนต่อไป และที่จะขาดไม่ได้ คือบริการจักรยานให้ลูกค้าได้ซอกแซกเมืองเชียงใหม่แบบคาร์บอนฟรี
Don’t Miss : สายวีแกนห้ามพลาด ห้องอาหาร Moreganic Vegan Restaurant ร้านอาหารวีแกนที่ได้รับการรับรองจากเครือข่าย Veggie Hotels ในระดับสากล มีทั้งวีแกนอาหารไทย อาหารเหนือ และอาหารอิตาลีให้ได้ลิ้มรส ซึ่งอาหารวีแกนนี้นอกจากจะเป็นอีกแนวทางในการดูแลสุขภาพแล้ว ยังช่วยลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมโดยเฉพาะลดการปล่อยคาร์บอนจากการทำปศุสัตว์ได้อีกทางหนึ่งด้วย ไม่เพียงเท่านั้นทางห้องอาหารยังออกแบบเมนูเครื่องดื่มที่ชูคอนเซปต์ “The Water of Life” ให้น้ำสร้างสมดุลชีวิตทั้งกาย ใจ และธรรมชาติ ด้วยเครื่องดื่มเมนูพิเศษจากผักผลไม้ตามฤดูกาลปลอดสารเคมี
Location : ถนนท่าแพซอย 5 อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
“The Legacy River Kwai” แคมป์ปิ้งริมน้ำแคววิถีใหม่ ใส่ใจความยั่งยืน
“เราเป็นพื้นที่แห่งการเรียนรู้ พยายามทำให้เห็นว่าที่นี่มีวิถีชีวิต มีองค์ประกอบต่างๆ ที่เหมาะกับคนที่รักธรรมชาติ ไม่เบียดเบียนสิ่งแวดล้อมมากเกินไป ผมว่าการท่องเที่ยวที่ต้องแคร์เรื่องสิ่งแวดล้อมตอนนี้มันเป็นเทรนด์ใหญ่ที่กำลังได้รับความนิยมมาก บวกกับสภาพอากาศแปรปรวนที่ทุกคนสัมผัสได้ชัด การท่องเที่ยวที่เกี่ยวเนื่องกับสิ่งแวดล้อมจึงเป็นตลาดใหม่ที่สำคัญ ส่วนของ The Legacy River Kwai เองเรามีการบริการในรูปแบบความยั่งยืนให้ลูกค้าสัมผัสได้ ตรงนี้เป็นจุดแข็งที่เราผลักดัน”
วัลลภ พิชญ์พงศา ผู้บริหาร The Legacy River Kwai บอกเล่าถึงคอนเซปต์ของรีสอร์ตริมแม่น้ำแควที่มีต้นไม้ใหญ่ ฟาร์มไก่ ฟาร์มแกะ สวนผัก ลานแค้มปิง และกิจกรรมเอาต์ดอร์ใกล้ชิดธรรมชาติเป็นจุดขาย มากกว่านั้นคือพื้นที่อนุรักษ์ช้าง โดยมูลนิธิช้างสมบูรณ์เลกาซี ซึ่งทั้งหมดที่ว่ามาตั้งอยู่ในพื้นที่ร่วม 300 ไร่ มีต้นไม้กว่า 4,600 ต้น พร้อมแนวคิดการดูแลสุขภาพอิงธรรมชาติ ความยั่งยืน และการรักษาสภาพแวดล้อมของโรงแรมให้คงความเป็นธรรมชาติมากที่สุด ด้านอาคารที่พักมีให้เลือกทั้งบ้านสไตล์ล็อกเคบิน (log cabin) หรือบ้านท่อนซุง ตกแต่งด้วยปีกไม้ โอบล้อมด้วยไม้ยืนต้นสูงใหญ่ ให้ความรู้สึกเหมือนได้อยู่ในอ้อมกอดธรรมชาติ บางห้องเป็นห้องพัดลม แต่ด้วยต้นไม้ใหญ่ที่ปกคลุมกลับทำให้บรรยากาศเย็นสบาย ไม่เพียงเท่านั้นที่นี่ยังมีลานแค้มปิงเป็นไฮไลต์และพื้นที่เรียนรู้เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมกระจายอยู่ในโซนต่างๆ ของโรงแรม
Sustainable Design : ที่นี่มีนโยบายด้านความยั่งยืนและสิ่งแวดล้อมมาตั้งแต่เริ่มก่อตั้งราวปี 2557 ทั้งยังได้เข้าร่วมเครือข่าย Green Leaf Hotel ที่เน้นด้านการประหยัดพลังงาน และปัจจุบันทางรีสอร์ตก็ปรับตัวสู่แนวทางธุรกิจยั่งยืน และเศรษฐกิจหมุนเวียนอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นการทำแปลงปลูกผักจากเศษใบไม้ที่นำผลผลิตมาใช้ในรีสอร์ต การเลี้ยงไก่ไข่แบบฟาร์มเปิด ตั้งศูนย์เรียนรู้เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม ไปจนถึงการทำงานร่วมกับชุมชนและส่งเสริมผลผลิตจากชุมชนเพื่อกระจายรายได้สู่ท้องถิ่น
Don’t Miss : นอกจากพายซัปบอร์ด ล่องแพเปียก ปั่นจักรยานที่ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนแล้ว ที่นี่ยังมีไฮไลต์เป็นโปรแกรม Farm Tour ชมกระบวนการจัดการเศรษฐกิจหมุนเวียนที่ Circular Economy Learning Center กับ 4 สถานี ได้แก่ สถานีแม่ไก่ใจดี สถานีปลูกผัก สถานีใบไม้ และสถานีปุ๋ยหมักจากเศษอาหาร พร้อมลงมือเวิร์กช็อป เตรียมอาหารเลี้ยงไก่จากขยะอาหารที่เหลือในครัว ทำปุ๋ยหมักจากขี้ไก่เพื่อหมุนเวียนใช้ในสวนผัก การเปลี่ยนเศษใบไม้ เศษหญ้าเป็นแปลงผัก เป็นต้น และสำหรับลูกค้าที่มาเป็นหมู่คณะทางรีสอร์ตจะจัด “ตลาดนัดชุมชน” กิจกรรมพิเศษที่ชวนชาวชุมชนใกล้เคียงให้นำผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น ของกิน ของใช้ต่างๆ มาจำหน่าย
Location : อำเภอด่านมะขามเตี้ย จังหวัดกาญจนบุรี
“Cross Chiang Mai River Side” ความหรูหราที่กลมกลืนกับสิ่งแวดล้อมและชุมชน
Cross Chiang Mai River Side โรงแรมบูติกลักชัวรีที่ยึดคอนเซปต์ Luxury by Design โดยความหรูหรา (Luxury) ไม่ได้มาจาก Facility หรือการบริการเพียงเท่านั้น แต่ยังหมายถึงการออกแบบซึ่งกลมกลืนกับสิ่งแวดล้อมในชุมชนและพื้นที่ซึ่งตั้งอยู่ริมแม่น้ำปิง ใจกลางเมืองเชียงใหม่ ห้องพักของที่นี่ให้ความเป็นส่วนตัวด้วยจำนวนเพียง 29 ห้อง ตั้งอยู่บนพื้นที่ 3 ไร่ ที่ออกแบบให้มีพื้นที่สีเขียวกลางแจ้งเป็นสัดส่วนมากถึง 70% ทั้งยังคงพื้นที่ธรรมชาติที่มีอยู่เดิมไว้ทั้งหมด รวมถึงต้นมะขามอายุราว 120 ปี ที่ยังคงแผ่ร่มเงาเป็นหัวใจสีเขียวของที่นี่
Sustainable Design : ที่นี่มีแผนกดูแลเรื่องสิ่งแวดล้อม หรือ Green Team ที่ทำงานร่วมกันในทุกแผนก เช่น ทีมช่าง ดูแลอุปกรณ์ไฟฟ้า วางแผนการใช้น้ำที่ช่วยประหยัดทรัพยากรและพลังงาน ทีมห้องอาหารทำหน้าที่จัดการอาหารเหลือ ไม่ให้ต้องเหลือทิ้งเป็นขยะ เช่น แปลงเศษอาหารเป็นน้ำหมักและปุ๋ยชีวภาพดูแลต้นไม้ ส่วนอาหารคุณภาพดีที่เหลือแต่ละวันจะถูกส่งต่อไปยังชุมชนวัดฟ้าฮ่าม เป็นต้น ในด้านการก่อสร้างอาคารนั้นออกแบบตามทิศทางของลมและแสงธรรมชาติ ผลลัพธ์คือการลดใช้พลังงานไฟฟ้าทั้งในอาคารห้องพักและพื้นที่ส่วนกลางที่สามารถทำได้จริง
ห้องพักของที่นี่หันหน้ารับลมเย็นริมแม่น้ำปิง ส่วนห้องอาหารเป็นอาคารกระจกใสมองเห็นวิวธรรมชาติแบบ 360 องศา ทั้งยังรับแสงธรรมชาติได้ตลอดวัน พร้อมกันนั้นก็ได้มีการติดตั้งโซลาร์เซลล์ราว 50% ของพื้นที่ส่วนกลาง และกำลังจะขยายมาสู่ห้องพัก รวมทั้งมีแคมเปญเชิญชวนลูกค้าให้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการดูแลสิ่งแวดล้อมแบบที่เบลนด์ไปกับไลฟ์สไตล์และวันพักผ่อนได้ง่ายๆ เช่น เก็บแต้มจากการลดการซักผ้าปูที่นอนและผ้าเช็ดตัว และนำแต้มไปแลกเครื่องดื่มหรือส่วนลดราคาสินค้าบริการในโรงแรม แจกกระบอกน้ำเก็บความเย็นให้บริการลูกค้าและตั้งจุดบริการเติมน้ำฟรีที่ห้องอาหารได้ตลอดเวลา รวมทั้งมีจักรยานให้บริการ พร้อมเส้นทางท่องเที่ยวชุมชน ใกล้เคียงอย่างชุมชนวัดฟ้าฮ่าม รวมทั้งปักหมุดร้านค้าชุมชนที่อยู่ใกล้โรงแรม
Don’t Miss: ไฮไลต์กิจกรรมที่ได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดีทั้งจากชุมชนและนักท่องเที่ยว คือ กิจกรรมพายเรือคายักในแม่น้ำปิง ณ จุดลงเรือที่วัดฟ้าฮ่าม โดยความร่วมมือกับชาวชุมชนฟ้าฮ่าม ที่เป็นนักพายเรือคายักระดับทีมชาติของไทย ซึ่งมากกว่าการพายเรือชมความสวยงามของเมืองเชียงใหม่ ทางโรงแรมยังได้สอดแทรกกิจกรรมพายเรือคายักเก็บขยะริมแม่น้ำปิงร่วมกับชุมชนลงไปด้วย
Location : ถนนเจริญราษฎร์ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
“CF-Hotels” ตัวช่วยของโรงแรมที่อยากเริ่มต้นดูแลสิ่งแวดล้อม
สำหรับโรงแรม รีสอร์ต ไม่ว่าจะขนาดใหญ่ กลาง หรือเล็ก ที่ต้องการเข้าร่วมเป็นหนึ่งในการดูแลสิ่งแวดล้อม CF-Hotels คืออีกเครื่องมือหนึ่งที่ช่วยคำนวณก๊าซเรือนกระจก ใช้ง่าย ใช้ฟรี! เหมือนมีที่ปรึกษาด้านสิ่งแวดล้อมนั่งประจำการอยู่ที่โรงแรม วิธีการเข้าร่วมนั้นง่ายมาก เพียงสมัครลงทะเบียนและเข้าร่วมที่ www.cf-hotels.com จากนั้นในแต่ละเดือนก็กรอกข้อมูล เช่น หน่วยไฟฟ้าที่ใช้ ปริมาณน้ำเสีย และสิ่งปฏิกูลที่ปล่อย และตัวการอื่นๆ ซึ่งเมื่อกรอกข้อมูลต่างๆ ลงไประบบจะทำการประมวลแล้วคำนวณออกมาว่าโรงแรมนั้นๆ ได้สร้าง CF หรือ คาร์บอนฟุตพรินต์ เท่าไร พร้อมคำแนะนำและการอบรมเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม และรับสิทธิพิเศษในการส่งเสริมตลาดจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ที่มีโปรแกรมพิเศษให้แก่โรงแรม หรือรีสอร์ตที่ดำเนินธุรกิจแบบเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมโดยเฉพาะ