CF-Hotels โปรแกรมตรวจสุขภาพ “คาร์บอนฟุตพรินต์” ประจำโรงแรม ใช้ฟรี ใช้ง่าย เหมือนมีที่ปรึกษาด้านสิ่งแวดล้อม
- CF-Hotels คล้ายกับการเข้าโปรแกรมตรวจสุขภาพ มีช่องให้กรอกและตรวจวัดเป็นรายการๆ ซึ่งผู้ประกอบการโรงแรมทั่วไปสามารถทำความเข้าใจได้เองและลงมือทำได้เอง
- เพียงกรอกหน่วยไฟฟ้าที่ใช้ ปริมาณน้ำเสีย และ สิ่งปฏิกูลที่ปล่อย รวมถึง ปริมาณคาร์บอน และตัวการอื่นๆ ซึ่งเมื่อกรอกข้อมูลต่างๆ ลงไประบบจะทำการประมวลคำนวณออกมาว่า โรงแรมนั้นๆ ได้สร้าง CF หรือ คาร์บอนฟุตพรินต์ เท่าไร
“หากย้อนกลับไปสัก 20-30 ปีก่อน การรับมือกับการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศ หรือ climate action ยังรู้สึกว่าเป็นเรื่องไกลตัวสำหรับคนทั่วไป คนส่วนหนึ่งมักคิดว่าเรื่องการรักษาสิ่งแวดล้อมเป็นหน้าที่ของภาครัฐและภาคเอกชน แต่ในปัจจุบันที่มีอากาศร้อนมากกว่า 40 องศา บางประเทศสูงมากกว่า 50 องศา และยังคงทำสถิติ New High เพิ่มขึ้นทุกปีทำให้เราทุกคนเริ่มตื่นตัวและรู้สึกถึงผลกระทบมันใกล้ตัวและรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่มีใครรู้ว่าโลกจะอดทนกับพฤติกรรมของมนุษย์ได้นานแค่ไหน เราจึงเหมือนอาศัยอยู่กับระเบิดเวลาที่กำลังนับถอยหลังลงไปเรื่อยๆ”
เมื่อพิสูจน์แล้วว่าปัญหาโลกร้อนใกล้ตัวเรากว่าที่คิด ทุกภาคส่วนทั้งรัฐ เอกชน และประชาชนทั่วไปต่างก็ไม่รีรอที่จะมีส่วนในการลดและชะลอความรุนแรงของการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศ เช่นเดียวกับฟากฝั่งของการท่องเที่ยวซึ่งข้อมูลจาก World Travel & Tourism Council (WTTC) ค.ศ. 2019 ระบุว่าอุตสาหกรรมท่องเที่ยวทั่วโลกมีส่วนปล่อยก๊าซเรือนกระจกคิดเป็นสัดส่วน 8% ของปริมาณก๊าซเรือนกระจกทั้งหมด หรือประมาณ 4,500 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า แบ่งเป็นการเดินทาง 75% การบริการท่องเที่ยวและที่พัก 21% จากกิจกรรมการท่องเที่ยวอื่นๆ 4% และนั่นจึงเป็นที่มาของภารกิจเร่งด่วนของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ในการ ปรับแนวทางการดำเนินธุรกิจและการปรับพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และส่งเสริมให้เกิดการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบมากขึ้น ผ่านหลากหลายแคมเปญ และล่าสุดกับการจับมือกับหน่วยวิจัยเพื่อการจัดการพลังงานและเศรษฐนิเวศ สถาบันวิจัยพหุศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ พัฒนาแพลตฟอร์ม CF-Hotels ปลดล็อกภาคธุรกิจโรงแรมไม่ว่าจะขนาดเล็กหรือใหญ่ให้สามารถมีส่วนร่วมในการลดก๊าซเรือนกระจก และลด คาร์บอนฟุตพรินต์ (Carbon Footprint : CF) ที่หมายถึงปริมาณการปล่อยและดูดกลับก๊าซเรือนกระจก พร้อมชูจุดเด่นที่นอกจากจะใช้งานได้ฟรีผ่าน cf-hotels.com แล้ว ยังใช้งานสะดวก เหมือนมีผู้เชี่ยวชาญด้านสิ่งแวดล้อมเป็นที่ปรึกษา
ตรวจสุขภาพสิ่งแวดล้อมในโรงแรมด้วย CF-Hotels
“CF-Hotels คล้ายกับการเข้าโปรแกรมตรวจสุขภาพ มีช่องให้กรอกและตรวจวัดเป็นรายการๆ ซึ่งผู้ประกอบการโรงแรมทั่วไปสามารถทำความเข้าใจได้เองและลงมือทำได้เอง โดยวัดจาก หน่วยไฟฟ้าที่ใช้ ปริมาณน้ำเสีย และ สิ่งปฏิกูลที่ปล่อย รวมถึง ปริมาณคาร์บอน และตัวการอื่นๆ ซึ่งเมื่อกรอกข้อมูลต่างๆ ลงไประบบจะทำการประมวลคำนวณออกมาว่า โรงแรมนั้นๆ ได้สร้าง CF หรือ คาร์บอนฟุตพรินต์ เท่าไร เมื่อเทียบกับตัวเลขของโรงแรมอื่นก็จะเห็นได้ชัด ยิ่งหากเทียบกับกิจการขนาดเดียวกันก็จะสามารถรู้ได้เลยว่าโรงแรมตนเองปล่อยคาร์บอนมากน้อยแค่ไหน”
รศ. ดร. เศรษฐ์ สัมภัตตะกุล อาจารย์ประจำคณะวิศวกรรมศาสตร์ผู้เชี่ยวชาญในเรื่องคาร์บอนฟุตพรินต์ เทคโนโลยีสะอาด รวมทั้งการวางแผนและการจัดการพลังงานและสิ่งแวดล้อม และเป็นหัวหน้าทีมในการพัฒนาแพลตฟอร์ม CF-Hotels นี้กล่าวถึงฟังก์ชันการใช้งานเบื้องต้นพร้อมอธิบายถึงการใช้งานแพลตฟอร์ม CF-Hotels ที่ไม่ต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญ แต่คล้ายกับการทำบัญชีรับจ่าย สามารถเลือกได้ว่าจะตรวจวัดคาร์บอนฟุตพรินต์ เป็นรายเดือนหรือรายปี พร้อมย้ำถึงความง่ายของการใช้งานว่า “ถ้าได้ทดลองทำครั้งแรกแล้ว ครั้งต่อไปก็จะไม่ยุ่งยากเลย”
ด้าน ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวถึงการพัฒนาแพลตฟอร์ม CF-Hotels ว่า “ฐานข้อมูลบัญชีรายการสิ่งแวดล้อมถือเป็นเรื่องที่ใหม่สำหรับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยโดยมีจุดมุ่งหมายคือ การสร้างความน่าเชื่อถือและแสดงถึงความจริงใจในการดำเนินธุรกิจโรงแรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อให้ข้อมูลในแพลตฟอร์ม CF-Hotels สะท้อนการดำเนินธุรกิจได้ตรงตามความเป็นจริงมากที่สุด ลดการฟอกเขียว (Greenwashing) จากการทำกิจกรรมด้านสิ่งแวดล้อม และเจาะกลุ่มไปที่โรงแรมที่เน้นในเรื่อง Climate Action”
CF-Hotels ใช้ฟรี ใช้ง่าย ต่อยอดท่องเที่ยวสายกรีน
ในด้านประโยชน์ของเครื่องมือวัดคาร์บอนฟุตพรินต์ที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับโรงแรมโดยฝีมือคนไทยนี้ ดร. เศรษฐ์เสริมว่าแม้ที่ผ่านมามีแพลตฟอร์มที่ใช้เช็กค่าคาร์บอนฟุตพรินต์อยู่พอสมควร แต่เครื่องมือที่ออกแบบมาสำหรับงานด้านโรงแรมโดยเฉพาะแทบไม่มี หรืออาจจะมีบ้างที่ในเครือโรงแรมใหญ่ที่มีบริษัทหรือผู้เชี่ยวชาญด้านสิ่งแวดล้อมเข้ามาจัดการ
“ข้อดีของ CF-Hotels คือผู้ประกอบการไทยสามารถมีของฟรีใช้งาน ในขณะที่ของต่างประเทศต้องเสียเงิน ซึ่งถือว่าทางภาครัฐอย่าง ททท. ได้นำร่องให้ โดยผลที่ CF-Hotels ประมวลออกมาสามารถใช้ย้อนหลังได้ 1 ปี และเก็บไว้เป็นข้อมูลต่อไปได้ สามารถนำไปต่อยอดในการออกใบประกาศติดไว้ในโรงแรมเพื่อเป็นการยืนยันว่าทางโรงแรมมีมาตรการจริงจังในปัญหาสิ่งแวดล้อม ทั้งยังเอาตัวเลขที่ประมวลได้ไปใช้เป็นข้อมูลฐานอย่างเป็นทางการที่เรียกว่า official baseline data ประยุกต์ต่อยอดในงานด้านสิ่งแวดล้อมได้ เช่น ใช้ในการขอใบรับรองคาร์บอนฟุตพรินต์องค์กร CFO (Carbon Footprint Organization) จากองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก นำไปใช้ต่อยอดในการประมูลการจัดการงานประชุมตามโครงการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐสีเขียว รวมถึงไปต่อยอดในการขอ ISO ในระดับนานาชาติได้อีกด้วย”
ข้อดีอีกประการของ CF-Hotels คือ โรงแรมไซซ์เล็ก กลาง ใหญ่ สามารถใช้ CF-Hotels ได้ทุกระดับผ่านการขึ้นทะเบียนประกอบธุรกิจถูกต้องตามกฎหมาย และทางทีมวิจัยย้ำว่าไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องความลับในทางธุรกิจ เพราะผลที่แสดงในระบบจะเป็นแค่ตัวเลขที่ประมวลสรุปผลขั้นท้ายสุด เจ้าของโรงแรมที่เป็นคู่แข่งขันจะไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลรายละเอียดที่กรอกเบื้องต้นได้ และมีระบบรักษาความลับของแต่ละโรงแรมรองรับ
ด้านผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยกล่าวเสริมถึงสิทธิประโยชน์ของโรงแรมที่เป็นสมาชิก CF-Hotels ว่านอกจากการมีฐานข้อมูลบัญชีรายการสิ่งแวดล้อมเป็นของตัวเองทันทีที่สมัครแล้ว แต่ละโรงแรมยังสามารถนำรายงานผลไปสอบทานเพื่อขอยื่นรับรองมาตรฐานสิ่งแวดล้อมสากลอื่นๆ อย่างมาตรฐานสิ่งแวดล้อมระดับสากล เช่น The Global Sustainable Tourism Council (GSTC) หรือ Travelife เป็นต้น
“ทาง ททท. เองมีการดำเนินงานด้านสิทธิประโยชน์ให้แก่ผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการ CF-Hotels ไม่ว่าจะเป็นการมอบส่วนลดค่าสมัครให้แก่ผู้ประกอบการในการเข้าร่วมงานส่งเสริมการขายทางการท่องเที่ยวที่ ททท. เป็นผู้จัด หรือเข้าร่วม อาทิ งาน Thailand Travel Mart Plus (TTM+) 2024, งาน World Travel Market ณ กรุงลอนดอน โอกาสในการที่ผู้ประกอบการจะได้รับการคัดเลือกให้เป็นหนึ่งในสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวในกิจกรรม Agent/Media Fam Trip ที่ ททท. จัด เพื่อเพิ่มโอกาสในการเสนอขายให้แก่เอเจนต์ที่สนใจด้านสิ่งแวดล้อม อีกทั้งยังมีโอกาสเข้าร่วมเป็นหนึ่งในโรงแรมที่ Tourism Cares องค์กรที่มุ่งสร้างความยั่งยืนต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยวจากสหรัฐอเมริกานำเสนอบน Meaningful Travel Platform ซึ่งปัจจุบันมีโรงแรมสมาชิก CF-Hotels ได้รับการบรรจุแล้ว 5 โรงแรมจากโรงแรม Tourism Cares ทั้งหมด 9 โรงแรมในประเทศไทย ซึ่งจะเป็นการสร้างโอกาสของโรงแรมในการเข้าถึงกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมในตลาดอเมริกาเพิ่มขึ้น”
“ลดคาร์บอนฟุตพรินต์” แนวคิดใหม่ของการท่องเที่ยวระดับโลก
ทั้งนี้ในกระแสโลก ความพยายามการลดคาร์บอนฟุตพรินต์อาจไม่ใช่เรื่องใหม่ในภาคธุรกิจโรงแรมและท่องเที่ยว ในแอปพลิเคชันจองโรงแรมระดับโลกก็มีการให้ดาวด้านสิ่งแวดล้อม ในภาคการบินก็มีให้แลกไมล์สะสมเพื่อการปลูกป่า และลดการใช้พลาสติกแบบครั้งเดียวทิ้ง ประเทศไทยเองก็มีโครงการใบไม้เขียวของสมาคมโรงแรมไทย ซึ่งความตื่นตัวนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะทางด้านผู้ประกอบการ แต่เกิดกับผู้บริโภคด้วย และที่ผ่านมาก็มีลูกค้าโรงแรมที่ใส่ใจเลือกใช้บริการโรงแรมที่มีสำนึกด้านสิ่งแวดล้อมมากขึ้นทุกทีโดยมีใบรับรองกิจการ “จริยธรรมสีเขียว” เป็นแม่เหล็กดึงดูด
แน่นอนว่ากระแสการท่องเที่ยวสีเขียวกำลังจะกลายเป็นแนวโน้มใหม่และหลักของโลก ด้วยความตระหนักจากภาคธุรกิจที่เห็นถึงประโยชน์ที่จะกลับมา บางโรงแรมถึงกับมีแต้มหรือหน่วยเงินคริปโตที่จ่ายกลับให้แก่ลูกค้าที่ร่วมกันช่วยลดกิจกรรมที่มีส่วนต่อการสร้างมลภาวะและการปล่อยคาร์บอนในรูปแบบต่างๆ ด้วย โดยอาจจะนำมาใช้กลับผ่านคูปองส่วนลด ได้พักฟรี หรือโปรโมชันอื่นๆ อย่างในกรุงเทพฯ เองก็เริ่มมีให้เห็นบ้างแล้ว ดังนั้นการลดคาร์บอนฟุตพรินต์จึงไม่ใช่แค่เรื่องไกลตัวของผู้ประกอบการอีกต่อไป เช่นเดียวกับที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยกล่าวย้ำในเรื่องนี้มาตลอด
“ปัจจุบันนักท่องเที่ยวให้ความสำคัญในเรื่องสิ่งแวดล้อมมากขึ้นทำให้มีผลต่อการตัดสินใจอย่างแน่นอนและจะยิ่งมีความสำคัญมากขึ้นในอนาคต อ้างอิงข้อมูลจาก WTTC และ Trip.com Group ระบุว่า ร้อยละ 69 ของนักท่องเที่ยวทั่วโลกมองหาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนที่ลดคาร์บอนฟุตพรินต์ นอกจากนี้บทวิเคราะห์ของ TAT Review ระบุว่านักท่องเที่ยวไทย Gen Z ให้ความสำคัญกับการท่องเที่ยวที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม รวมถึงต้องการสนับสนุนบริษัทที่มีการดำเนินธุรกิจเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างจริงใจ (Buying=Voting) เนื่องจากนักท่องเที่ยวกลุ่ม Gen Z และลูกหลานของกลุ่ม Gen Z เหล่านี้เป็นกลุ่มที่จะต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศที่รุนแรงมากขึ้นจึงให้ความสำคัญในเรื่องสิ่งแวดล้อม เพิ่มมิติในเรื่องนี้เข้ามาเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจเลือกใช้บริการโรงแรมและที่พักต่างๆ นอกเหนือจากเรื่องราคาและคุณภาพ”
หนึ่งในตัวอย่างของโรงแรมสมาชิก CF-Hotels ที่มีการปรับกลยุทธ์การตลาดเพื่อให้สอดรับกับการเปลี่ยนแปลงทางพฤติกรรมของผู้บริโภคที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้นก็เช่น “โรงแรม The Motifs Eco Hotel” โรงแรมขนาดเล็กใจกลางจังหวัดจันทบุรี ที่ชูคอนเซปต์ “โรงแรมที่หายใจร่วมกับธรรมชาติและชุมชน” ตัวโรงแรมเน้นการออกแบบสถาปัตยกรรมที่ใช้ประโยชน์สูงสุดจากสายฝน แสง เงา และสายลม ลดการใช้พลังงานภายในอาคารและสามารถให้นักท่องเที่ยวเข้าถึงสิ่ง Eco Living ส่วนการตกแต่งภายในเน้นการใช้อัตลักษณ์ท้องถิ่น พร้อมใช้วัตถุดิบจากท้องถิ่นตามฤดูกาลในการทำอาหาร ที่สำคัญคือมีการจ้างงานคนในชุมชน
“ตัวอย่างของ The Motifs Eco Hotel ไม่ใช่แค่การออกแบบโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม แต่ยังนำเรื่องราวของสิ่งแวดล้อมโดยเฉพาะการลดคาร์บอนฟุตพรินต์มาเป็นส่วนหนึ่งของไลฟ์สไตล์ของผู้เข้าพักได้จริง สร้างทั้งความประทับใจ และสร้างมูลค่าทางจิตใจให้แก่ผู้เข้าพักได้มากกว่าการนอนค้างคืนแค่ 1 คืน” ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยกล่าวถึงความตั้งใจและปลายทางของการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมที่ไม่ใช่แค่ตัวโรงแรมหรือผู้ประกอบการที่ได้รับ แต่ยังต้องนำเรื่องราวของสิ่งแวดล้อมมาสามารถสร้างความประทับใจแก่ผู้เข้าพักหรือมาใช้บริการได้อีกด้วย
ปลายทาง CF-Hotels ที่ไม่จำกัดแค่โรงแรม
“ขณะนี้มีโรงแรมกว่า 100 แห่งที่สมัครร่วมโครงการใช้เครื่องมือ CF-Hotels นี้ แน่นอนว่าทางผู้ออกแบบเองก็คาดหวังที่จะปรับขยายไปยังธุรกิจอื่นๆ ในภาคท่องเที่ยวและบริการที่เกี่ยวข้องและมีลักษณะรายการของข้อมูลใกล้เคียงกัน อย่างร้านอาหาร สปา ศูนย์ประชุม จุดท่องเที่ยว ฯลฯ คำติชมที่เราได้รับกลับมาจะเป็นข้อมูลนำไปปรับปรุงพัฒนาต่อ ซึ่งจะเกิดประโยชน์ในอนาคตอย่างมหาศาลในการทำธุรกิจยุคใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อหน่วยงานใหม่อย่างกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อมมีนโยบายและมาตรการใหม่คลอดออกมา อย่างเรื่องภาษีคาร์บอนที่หลายภาคธุรกิจต้องเตรียมพร้อมสำหรับภาระนี้ในอนาคต” ดร. เศรษฐ์กล่าวถึงเป้าหมายต่อไปของ CF-Hotels เครื่องมือที่เปรียบเสมือนผู้ช่วยด้านสิ่งแวดล้อมให้ทุกโรงแรมสามารถมีส่วนร่วมในการลดคาร์บอนฟุตพรินต์ได้จริง
ด้านผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยกล่าวย้ำถึงความสำคัญของการยกระดับโรงแรมทุกขนาดในการมีส่วนร่วมในการลดคาร์บอนฟุตพรินต์ว่า “จากประสบการณ์การทำงานของ ททท. ร่วมกับพันธมิตร tour operate สายการบิน และ influencer พบว่ากลุ่มนักท่องเที่ยวยุโรปให้ความสำคัญกับการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนควบคู่ไปกับคุณภาพของประสบการณ์ระหว่างการพำนักในประเทศไทย ซึ่งสอดคล้องกับผลการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วโลกต่อประเด็นด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของ Meta ร่วมกับโครงการ Yale Program on Climate Change Communication ของมหาวิทยาลัยเยล จากผู้ใช้ Facebook มากกว่า 100,000 บัญชี เกือบ 200 ประเทศทั่วโลก ที่ระบุว่าคนยุโรปมีความกังวลเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศเป็นอย่างมาก และมองว่าการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเป็นภัยคุกคามในการใช้ชีวิตในอนาคตรวมถึงเป็นอันตรายต่อคนรุ่นต่อไปด้วย”
ทั้งนี้จากการประชุมประเทศภาคี (Conference of the Parties) ครั้งที่ 26 หรือการประชุม COP26 ประเทศไทยได้กำหนดเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกขั้นต่ำที่ร้อยละ 20 จากกรณีปกติ และกำหนดเป้าหมายขั้นสูงที่ร้อยละ 25 จากกรณีปกติ ภายในปี 2573 ซึ่งการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยเองได้พัฒนาเป้าหมายการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (Sustainable Tourism Goals : STGs) ที่สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน Sustainable Development Goals (SDGs) ขององค์การสหประชาชาติ โดยนำมาปรับให้เข้ากับบริบทการท่องเที่ยวของไทยเพื่อสะท้อนบทบาทของภาคการท่องเที่ยวไทย กระตุ้นให้ผู้ประกอบการโรงแรมเข้าใช้แพลตฟอร์ม CF-Hotels และตั้งเป้าหมายในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างน้อยปีละ 5% นอกจากนี้ยังมีการประสานงานกับสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และองค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศของเยอรมนี (GIZ) เพื่อจัดทำโครงการกองทุน Thai Climate Initiative (ThaiCI) มอบเงินสนับสนุนการลงทุนการใช้นวัตกรรมการลดก๊าซเรือนกระจกให้แก่โรงแรมใน CF-Hotels ที่ต้องการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากกิจกรรมภายในโรงแรมโดยมีเป้าหมายที่โรงแรมจะต้องลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ 10% ในระหว่างที่เข้าร่วมโครงการกองทุน ThaiCI
“โลกที่เราอาศัยอยู่ทุกวันนี้มีขีดจำกัดในการรองรับการเปลี่ยนแปลงจากการกระทำของมนุษย์ ไม่มีใครรู้ว่าโลกจะอดทนกับพฤติกรรมของมนุษย์ได้นานแค่ไหน เราจึงเหมือนอาศัยอยู่กับระเบิดเวลาที่กำลังนับถอยหลังลงไปเรื่อยๆ ดังนั้นจึงอยากขอเชิญชวนนักท่องเที่ยวปรับวิธีการท่องเที่ยวโดยลดการใช้ทรัพยากรฟุ่มเฟือยเป็นการท่องเที่ยวเพื่อการสร้างโลกที่ดีกว่าเดิม และส่งเสริมหรืออุดหนุนโรงแรมที่มีตราสัญลักษณ์ CF-Hotels รวมทั้งขอเชิญชวนสถานประกอบการโรงแรมร่วมกันสร้างความไว้วางใจให้แก่นักท่องเที่ยวด้วยการเปลี่ยนแปลงวิธีการดำเนินธุรกิจและการจัดเก็บข้อมูลการใช้ทรัพยากรผ่านแพลตฟอร์ม CF-Hotels เพื่อสร้างความยั่งยืนอย่างแท้จริงให้แก่โลกใบนี้ เราสามารถสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีกว่าเดิมได้ด้วยการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการบริโภคและใช้ทรัพยากรตั้งแต่วินาทีนี้ กับ CF-Hotels” ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวทิ้งท้าย
Fact File
ผู้ประกอบการโรงแรมที่สนใจร่วมลดคาร์บอนฟุตพรินต์ สามารถดาวน์โหลดเพื่อศึกษาและสมัครใช้งาน CF-Hotels ได้ที่ www.cf-hotels.com