คุยกับ TangBadVoice เสียงคนรุ่นใหม่ในโปรเจกต์ “ไปให้สุดหยุดโชว์ช้าง”
- แคมเปญ “ให้ช้างกลับไปเป็นช้าง”คือโปรเจกต์ที่ทาง องค์กรพิทักษ์สัตว์โลก หรือ World Animal Protection ชวนทุกคนตระหนักถึงอีกด้านที่เราอาจมองไม่เห็นของการใช้ช้างเพื่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยวและความบันเทิง ซึ่ง 80 เปอร์เซ็นต์แฝงไว้ด้วยกระบวนการฝึกที่โหดร้าย
- แคมเปญนี้ชวน ตั้ง-ตะวันวาด หรือ TangBadVoice เป็นตัวแทนเสียงของคนรุ่นใหม่มาถ่ายทอดเพลง ไปให้สุดหยุดโชว์ช้าง (No Elephant Show)
- ความตั้งใจแรกของโปรเจกต์นี้คือการหยุดวงจรการทำร้ายช้างเพื่อความบันเทิง ผลักดันการท่องเที่ยวและปางช้างแบบยั่งยืน ไปจนถึงร่าง พ.ร.บ. ช้างไทยเพื่อให้ช้างได้รับการดูแลและคุ้มครองอย่างเหมาะสม
“ช้าง ช้าง ช้าง น้องเคยเห็นช้างหรือเปล่า ช้างมันตัวโตไม่เบา…”
เราเชื่อว่าไม่มากก็น้อย เมื่ออ่านประโยคข้างต้นแล้วต้องมีทำนองในหัวเกิดขึ้นตามไปด้วย ซึ่งถ้าพูดถึงภาพจำเกี่ยวกับช้างก็อาจจะเรียกได้ว่าคุ้นเคยมาตั้งแต่ยังเด็ก ในฐานะที่ช้างเป็นสัตว์ประจำชาติที่มักปรากฏในงานประเพณี เป็นสัญลักษณ์ที่เราพบเห็นตามสื่อต่างๆ แม้แต่สินค้าไลฟ์สไตล์ประจำบ้านอย่างกางเกงช้างที่แขกไปใครมาจะต้องสวมใส่ จนถึงธุรกิจการท่องเที่ยวที่มีความสามารถพิเศษของช้างอย่างการเต้นหรือโชว์วาดรูปกลายมาเป็นภาพดึงดูดนักท่องเที่ยวด้วยความตื่นตาตื่นใจ
แคมเปญ “ให้ช้างกลับไปเป็นช้าง” คือโปรเจกต์ที่ทาง องค์กรพิทักษ์สัตว์โลก หรือ World Animal Protection ชวนทุกคนตระหนักถึงอีกด้านที่เราอาจมองไม่เห็นของการใช้ช้างเพื่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยวและความบันเทิง ซึ่ง 80 เปอร์เซ็นต์แฝงไว้ด้วยกระบวนการฝึกที่โหดร้ายในการเปลี่ยนสัญชาตญาณสัตว์ป่าโดยธรรมชาติให้สามารถมีพฤติกรรมเลียนแบบมนุษย์สำหรับการแสดง และเพื่อส่งสารนี้ไปสู่วงกว้าง World Animal Protection เลยชวน ตั้ง-ตะวันวาด วนวิทย์ หรือ TangBadVoice ศิลปิน Hip-Hop ช่างภาพสตรีตและผู้กำกับภาพ มาเป็นตัวแทนคนรุ่นใหม่ในการสื่อสารผ่านเพลง ไปให้สุดหยุดโชว์ช้าง (No Elephant Show) ซึ่งปล่อยออกมาแล้วใน วันช้างโลก หรือเมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2566
“ไปให้สุดหยุดโชว์ช้าง” ได้แรงบันดาลใจมาจากเพลง “ช้าง” ที่เราคุ้นเคย มิวสิกวิดีโอตัดสลับวิดีโอการฝึกช้างด้วยความรุนแรงกับภาพจำลองสถานการณ์ตามเนื้อเพลงฉบับ ตั้ง-ตะวันวาด ที่มักแต่งท่อนแรปในรูปแบบบทสนทนาที่ผู้ฟังสามารถนึกภาพตามได้แบบละครวิทยุ ซึ่งเขาเล่าว่ามีวิธีการเขียนคล้ายกับการวางพล็อตแบบสคริปต์ภาพยนตร์
“เอ้ย เนี่ยเดี๋ยวเพื่อนพี่มาจากเมืองนอก
กะว่าจะพาไปดูโชว์ช้างสักหน่อย”
“โชว์ช้างเนี่ยนะพี่…
มันไม่ดีกับช้างนะพี่”
…
“เอ้า ก็ช้างเป็นสัตว์ประจำไทย”
“ก็ ใช่ไง แล้วทำไม สัตว์ที่เป็นสัญลักษณ์ ควรอนุรักษ์ของชาติไทย
ถึงควรโดนปลูกฝังด้วยความกลัว ให้ทำไร ที่มันไม่ปลอดภัย”
“ไปให้สุดหยุดโชว์ช้าง” มีตัวละครหลักคือ นายเอ กับ นายบี ที่มีแบ็กกราวนด์ต่างกัน นายเอคือคนที่รู้ว่าทำไมโชว์ช้างถึงไม่ดี ส่วนนายบีคือคนที่แค่อยากพาเพื่อนต่างชาติไปดูโชว์ช้างเพื่อที่จะมีช่วงเวลาดีๆ ด้วยกัน แต่เขาไม่รู้ว่าสิ่งนี้ไม่ดีอย่างไร บทสนทนาในการให้เหตุผลซัปพอร์ตความต้องการของสองตัวละครเลยเกิดขึ้นแบบในเนื้อเพลงและมิวสิกวิดีโอที่ได้ มารีญา พูลเลิศลาภ ทูตองค์การพิทักษ์สัตว์โลก มาร่วมแสดง โดยความตั้งใจแรกของโปรเจกต์นี้คือการหยุดวงจรการทำร้ายช้างเพื่อความบันเทิง ผลักดันการท่องเที่ยวและปางช้างแบบยั่งยืน ไปจนถึงร่าง พ.ร.บ. ช้างไทยเพื่อให้ช้างได้รับการดูแลและคุ้มครองอย่างเหมาะสม
แรงบันดาลใจของเพลง “ไปให้สุดหยุดโชว์ช้าง” เกิดจากการที่ตั้งกลับไปหาประสบการณ์ส่วนตัวรวมถึงรีเสิร์ชเกี่ยวกับการฝึกช้างด้วยตัวเอง โอกาสนี้ Sarakadee Lite เลยขอชวน ตั้ง-ตะวันวาด วนวิทย์ หรือ TangBadVoice มาพูดคุยถึงเบื้องหลังการทำงาน ความสนใจเรื่องสัตว์ และอัปเดตผลงานส่วนตัวของเขาไปในคราวเดียว
ก่อนหน้านี้ไม่ค่อยเห็นคุณคอลแลบกับองค์กรไหนเท่าไร ทำไมถึงสนใจร่วมงานกับ World Animal Protection
จริงๆ ผมยังยืนยันว่าการทำเพลงของผมยังเป็นสิ่งที่ผมทำเล่นๆ ผมยังคงเอาความสนุกมาเป็นที่ตั้ง แต่ลึกๆ ผมรู้สึกว่าถ้าเพลงของผมจะเป็นประโยชน์มันก็จะเป็นเรื่องดียิ่งขึ้นไป เป็นเพลงที่มีประโยชน์ต่อคนอื่นๆ อีกอย่างเรื่องสัตว์เป็นประเด็นที่ผมเองสนใจอยู่แล้ว ไม่ใช่แค่กับช้าง พอเขามาชวนเลยคิดว่าเป็นอะไรที่เหมาะเจาะกันพอดีครับ
ปกติคุณมักเขียนเพลงจากเรื่องราวในชีวิตประจำวันแล้วแรงบันดาลใจของเพลงนี้มาจากไหน
สำหรับเพลงนี้ก่อนเขียนจะเป็นขั้นตอนการรีเสิร์ช เพราะจริงๆ เรื่องช้างเป็นเรื่องที่ผมไม่ได้มีความรู้แน่น ผมเลยต้องรีเสิร์ชค่อนข้างเยอะก่อนการแต่งเพลง รวมถึงโทรหาแม่กับป๊าของผมว่าเราเคยมีประสบการณ์อะไรเกี่ยวกับช้างไหม ป๊ากับแม่ของผมก็เล่าให้ฟังว่าตอนเด็กๆ ตั้งแต่ผมยังไม่ค่อยรู้เรื่อง มีเพื่อนฝรั่งของเขามาแล้วบอกว่าอยากดูโชว์ช้าง แม่กับป๊าก็พาไป ซึ่งตอนนั้นเขาก็เห็นแล้วว่ามันค่อนข้างไม่เฮลทีกับช้าง ผมเลยได้ไอเดียคร่าวๆ จากตรงนั้นมาแต่งเป็นเพลง
วิธีการทำงานเพลงนี้ต่างจากการแต่งเพลงโดยปกติของคุณไหม
ต่างครับ ผมไม่ค่อยมีประสบการณ์โดยตรง แต่ก่อนหน้านี้ทุกอันเป็นประสบการณ์ตรงของผมหมดเลยเพลงนี้มีหลายๆ อย่างที่เราอยากนำเสนอข้อมูล เป็นข้อมูลของบุคคลที่ 3 ผมก็จะไปดูว่ามันมีสิ่งนี้เกิดขึ้นนะ เขาใช้วิธีแบบไหนในการฝึกช้าง บางคนมีการทำร้ายช้าง ปลูกฝังความกลัวให้กับช้างเพื่อให้ช้างทำสิ่งที่เขาต้องการประมาณนี้
นอกจากเรื่องหยุดโชว์ช้างที่เป็นประเด็นหลักของเพลงมีอะไรที่คุณอยากสื่อสารเกี่ยวกับช้างอีกไหม
เรื่องที่ผมแตะๆ ไว้ในเพลง แต่ไม่ได้พูดถึงเยอะมาก คือประเทศไทยเป็นประเทศที่เราหากินกับช้างเยอะ แต่เราไม่ได้ดูแลเขาแบบที่เราทำให้ทั้งโลกเห็น หรือเราพูดกันเยอะว่าเรารักช้าง เราใช้ช้างเป็นสัตว์ประจำชาติของเรา เพราะฉะนั้นเราควรดูแลเขาได้ดีกว่านี้
ส่วนตัวคุณเองคิดว่ามีแนวทางที่อยากจะช่วยเหลือช้างหรือแม้แต่สัตว์อื่นๆ อย่างไร
ถ้าเริ่มจากช้างก่อนแบบง่ายๆ ผมคิดว่าคือการหยุดไปดูโชว์ช้างที่เป็นการทารุณสัตว์ จริงๆ แล้ววิธีดูมันง่ายมากครับ ถ้าช้างทำอะไรพิสดารได้ในโชว์ แสดงว่าที่นั่นน่าจะมีการทารุณช้าง เช่น ช้างสวัสดี ยืนบนลูกบอลหรือทำอะไรอย่างพร้อมเพรียงกัน เพราะฉะนั้นสิ่งที่เราจะทำให้ช้างได้ง่ายที่สุด คือ หยุดไปดูโชว์ช้าง เพื่อตัดวงจร ถ้าเป็นสัตว์อื่นๆ ผมว่าก็น่าจะเป็นแต่ละเคสไปว่าสัตว์เหล่านั้นกำลังเจอปัญหาภาพใหญ่อะไรอยู่
เพลงนี้คุณแสดงในมิวสิกวิดีโอเองด้วยใช่ไหม ทำไมถึงยอมเล่นทั้งที่ก่อนหน้านี้คุณมักพูดว่าตัวเองไม่เหมาะกับการอยู่หน้ากล้องหรือบนเวที
ผมคิดว่าไหนๆ ก็จะทำเพื่อสิ่งมีชีวิตอื่นก็ทำสักหน่อยแล้วทางทีมผู้กำกับก็บอกว่า ถ้ามีตั้งอยู่ด้วยน่าจะช่วยให้เอ็มวีออกมาดีขึ้น แล้วสิ่งนี้เราก็ไม่ได้เอาความต้องการของเราเป็นตัวตั้งในโปรเจกต์นี้ เพราะถ้าเป็นโปรเจกต์อื่นๆ ผมก็ยังคิดว่าผมไม่ค่อยถนัดอยู่หน้ากล้องสักเท่าไรครับ
พูดถึงการทำเพลง คุณมักบอกว่าทำเพลงไม่เป็น แต่สิ่งที่ทำอยู่ไม่ได้เรียกว่าการทำเพลงเหรอ
มันเป็นการทำเพลงในเชิงเล่นสนุกมากกว่า เพราะว่าทฤษฎีผมยังแย่มากๆ จริงๆ แล้วผมก็ไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองเป็นศิลปิน ผมไม่ได้เป็น professional มากขนาดนั้นด้วยซ้ำ เพราะคำว่า professional ของผมเท่ากับการถ่ายหนังของผม หมายความว่าในวันที่ดีหรือแย่ผมก็จะสามารถไปถ่ายมันได้ ผมสามารถทำมันด้วยความรับผิดชอบที่สูงได้ อย่างเช่นงานประเภทบิวตีเราไม่ได้ถ่ายเก่งมาก แต่ถ้าต้องทำเราก็จะสามารถทำสิ่งนั้นออกมาให้ดีได้ แต่ถ้าเป็นเพลงผมทำแล้วเกิด blank ขึ้นมา ผมจะทำมันต่อไม่ได้เลย
คุณทำหลายอย่างแบบนี้ มีช่วงที่อยากถอยออกไปจากบางอย่างบ้างไหม
มีครับ แต่นอกจากงานถ่ายหนังผมพยายามทรีตทุกอย่างให้เป็นงานอดิเรกหมดเลย ตอนนี้ผมใช้ชีวิตเหมือนตัวละครในโฆษณาไทยประกันชีวิตที่บอกว่าจะไปปีนผา ปลูกปะการัง ผมกิจกรรมเยอะมากๆๆ ผมเลยพยายามทรีตทุกอย่างให้เป็นงานอดิเรก ยกเว้นถ่ายหนัง ที่เป็นการหาเงินและอาชีพ เพราะฉะนั้นต้องทำและต้องทำเท่านั้น ไม่มีข้อแม้ว่ารู้สึกไม่ดี ไม่อยากทำหรือทำไม่ได้ ต้องทำ แต่ที่เหลือหรือแม้แต่เรื่องเพลงเมื่อไรที่อยากหยุดต้องได้หยุดเลย ถ้าเมื่อไรไม่สนุกแล้ว ผมก็จะไม่ทำมันเลย
เพลง “เดี๋ยวจะทำตามความฝัน Ost. Fast & Feel Love” ที่คุณแต่งเข้าชิงรางวัลสุพรรณหงส์ด้วยใช่ไหม
ใช่ครับ ผมทำเพลงสนุกๆ ครับ พอเพลงได้เข้าชิงด้วยก็ภูมิใจนะครับ แต่จริงๆ แล้วผมอยากเข้าชิงสุพรรณหงส์ในสาขาถ่ายภาพยนตร์มากกว่า แต่ประสบการณ์ครั้งแรกของผมดันเป็นเพลงผมก็โอเค ได้ เพลงก่อนแล้วกัน (หัวเราะ)
ตั้งแต่ทำเพลงมามีเพลงไหนที่คุณรู้สึกสะใจที่ได้ทำหรือชอบมากไหม
มีครับ ชื่อเพลง “เหตุด่วน” เพราะว่ามันเป็นเรื่องที่พูดยาก ผมรู้สึกว่าเราควรอยู่ในโลกที่รู้สึกยังไงก็ควรพูดออกมาได้ มันเป็นความสะใจเชิงอิสระ เราควรอยู่ในโลกที่รู้สึกอย่างนี้แล้วผลเป็นอย่างไรก็รับผลของการกระทำแล้วกัน ซึ่งตรงนั้นผมก็ยินดีที่จะเทกความรับผิดชอบเต็มที่ที่ผมทำเพลงนั้นออกมา ผมแค่มีความต้องการอยากพูดเรื่องยศของตำรวจ แล้วผมรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องที่พูดได้ยากตอนนั้น พอได้พูดออกมาผ่านเพลงผมเลยรู้สึกว่าอิสระ
แต่นอกจากแรป เห็นว่าช่วงนี้คุณมีเพลงร้องออกมาด้วย
ใช่ครับ ล่าสุดเพิ่งปล่อยตัวเดโมเพลง “Please be mine” ออกมา เป็นเพลงรักเลี่ยนๆ ผมพยายามทำเป็น EP. ที่เป็นเพลงร้องแบบเพลงรักเลี่ยนๆ เลย แต่ว่าในขณะเดียวกันผมกำลังฝึกร้องเพลงไปด้วย เพราะผมร้องเพลงไม่เป็น ผมก็กำลังพยายามอยู่ครับ ซึ่งมันเป็นสิ่งที่ยากที่สุดที่ผมเคยทำมาในชีวิต
ฝั่งช่างภาพ เราสังเกตว่าคุณมักถ่ายภาพสัตว์ออกมาเยอะมีเหตุผลไหมว่าเพราะอะไร หรือภาพเหล่านั้นช่วยสื่อสารมุมมองอะไรของคุณในฐานะช่างภาพ
ผมถ่ายภาพสัตว์เยอะ เพราะผมรู้สึกว่ามันน่ารัก (หัวเราะ) ผมรู้สึกว่าสัตว์มีฟอร์มที่น่าสนใจด้วยครับเกือบทุกตัวเลยที่ผมถ่าย เช่นภาพห่านของผมที่เป็นภาพปกเพลง เปรตป่ะ ผมชอบถ่ายห่านมากๆ เพราะว่าโครงสร้างร่างกายของเขามีความเป็นเส้น สัตว์ประเภทอื่นอย่างเช่นหมาผมก็ชอบถ่าย เพราะเขาเหมือนรูปทรงสามเหลี่ยมเวลาถ่ายภาพ ถ้าหันข้างจะเป็นรูปทรงสามเหลี่ยม ถ้าหันหน้าตรงจะเป็นรูปทรงสี่เหลี่ยม ทำให้เวลาถ่ายภาพจัดองค์ประกอบสนุกมากเลย แต่อันนี้เป็นประเด็นรองนะครับ ผมชอบถ่ายภาพสัตว์เพราะมันน่ารัก
คุณต้องใกล้ชิดกับสัตว์เหล่านั้นด้วยใช่ไหม ตอนที่ถ่ายภาพหรือย้อนดูรูปถ่าย คุณได้เรียนรู้อะไรจากการอยู่ตรงนั้นบ้าง
ยุคที่ผมถ่ายภาพนิ่งเยอะ สิ่งที่เกิดคือผมเจอหมาหรือแมวตัวหนึ่งที่ผมรู้สึกว่ามันน่ารัก ผมก็จะเดินไปเล่นกับมัน ถ้ามันให้ผมเล่นผมก็จะเล่น แล้วพอยิ่งเล่น ผมก็จะยิ่งเห็นว่ามันน่ารักขึ้นเรื่อยๆ แล้วผมก็จะอยากถ่ายภาพมัน มันเลยทำให้ผมรู้สึกผูกพันกับสัตว์ด้วยมั้งครับ อีกอย่างบ้านผมเป็นบ้านที่เลี้ยงหมาเยอะ เกิดมาที่บ้านก็มีหมาอยู่แล้วจากที่พ่อแม่เก็บมาเลี้ยง แล้วพอเราใกล้ชิดกับสัตว์เยอะเราจะยิ่งมองว่าเขาเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีอารมณ์ใกล้เคียงกับเรา เราเลยเกิดความรู้สึกว่าเขาเป็นมากกว่าสัตว์เฉยๆ เราจะมองเห็นว่าเขามีอารมณ์ประมาณนี้ที่เราก็รู้สึกเหมือนกัน เขามีความต้องการประมาณนี้ที่เราก็ต้องการเหมือนกัน เพราะฉะนั้นเราก็ไม่ได้ต่างจากสัตว์มาก เราคือสัตว์ในอีกรูปแบบหนึ่งเท่านั้นเอง
แล้วคาพิบาราที่คุณชอบวาดมาจากไหน
วันหนึ่งผมไปไต้หวันกับหลิน (รินลดา พรสมบัติเสถียร) แฟนผม แล้วมีร้านชานมไข่มุกที่มีโลโกหน้าร้าน ตัวนั้นหน้าเหมือนผมสัดๆ (หัวเราะ) หลินก็บอกว่า ตั้ง โลโกร้านนี้หน้าเหมือนมึงมากๆ ผมก็บอกว่าไหนถ่ายรูปให้ดูหน่อย พอผมไปยืนข้างโลโกแล้วหลินถ่ายรูปมา ผมก็เฮ้ยเหมือนมาก จากนั้นผมก็คิดว่ามันคือสัตว์อะไร เลยไปรีเสิร์ชต่อว่าเป็นสัตว์ประเภทไหน ผมเลยเจอว่าคาพิบาราเป็นสัตว์ที่น่ารักมากเลย ด้วยอุณหภูมิของมันที่อุ่น สัตว์ตัวอื่นเลยชอบเอาตัวเข้ามาพิง เป็นเหมือนเก้าอี้ธรรมชาติและเป็นสัตว์ที่ไว้ใจสัตว์อื่นๆ ผมเลยเหมือนเจอ spirit animal ที่เป็นวิญญาIเรา กลายเป็นสิ่งที่เราชอบ
ก่อนคุณวาดคาพิบารา ปกติคุณวาดรูปอยู่แล้วหรือเปล่า
ไม่ครับ ผมชอบวาดเพราะเห็นว่าคาพิบารามันน่ารัก
คาพิบาราเลยกลายมาเป็นตัวแทน และอยู่บนปกเพลงของคุณด้วยใช่ไหม
ใช่ครับ ปกเพลงอัลบัมที่ 3 (TangBadAlbum) และมีเพลง “Call Center” ที่ lyrics video เป็นคาพิบาราคุยโทรศัพท์ด้วย
ตอนนี้ยังมีอะไรที่คุณอยากทำอีกไหม
อยากร้องเพลงได้ครับ มันยากมากเลย ยากมากๆ
งั้นเพลงร้องที่บอกว่าจะรวมเป็น EP. จะปล่อยออกมาตอนไหน
ใกล้แล้วครับ ภายใน 2 เดือนนี้ (ราวตุลาคม 2566)เพลงใหม่ผมอยากทำมิวสิกวิดีโอออกมาด้วยและอยากถ่ายให้ดีไปเลย
Fact File
● ฟังและชมมิวสิกวิดีโอเพลง “ไปให้สุดหยุดโชว์ช้าง” ได้ทาง : youtu.be/PxFuAqqk6PI
● แคมเปญให้ช้างกลับไปเป็นช้าง : noelephantshow.worldanimalprotection.or.th
● ปางช้างที่เป็นมิตรกับช้างและคำแนะนำสำหรับนักท่องเที่ยว : www.worldanimalprotection.or.th/elephant-friendly-guide
● ติดตาม TangBadVoice : www.instagram.com/tangtawanwad_