สภากาชาดไทย x LINE MAN Wongnai เสริมทัพ Rider ใช้ความไวหนุนการจัดส่งยาในระบบ Home Isolation

ช่วงครึ่งปีที่ผ่านมาประเทศไทยปรับระบบการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ไปสู่ระบบ โฮมไอโซเลชัน (Home Isolation) ให้ผู้ป่วยกลุ่มสีเขียวที่มีอาการไม่หนักมากรักษาตัวอยู่ในที่พักอาศัยไม่ว่าจะเป็นบ้านหรือคอนโดมิเนียม พร้อมการรักษาอย่างต่อเนื่องผ่านระบบการแพทย์ออนไลน์ Telemedicine ซึ่งนอกจากบุคลากรทางการแพทย์แล้ว จิ๊กซอว์สำคัญที่จะทำให้ผู้ป่วยที่รักษาตัวอยู่บ้านได้รับการรักษาอย่างทันท่วงทีคือ “ตัวกลาง” ที่ทำงานประสานระหว่างหน่วยงานด้านสาธารณสุขกับผู้ป่วย และนั่นจึงเป็นที่มาของภารกิจเร่งด่วน สภากาชาดไทย x LINE MAN Wongnai ที่ทาง LINE MAN Wongnai จัดส่งทั้งทีมประสานงานและ Rider เฉพาะกิจเข้าไปช่วยจัดส่งยา เวชภัณฑ์ รวมทั้งอาหารแห้งให้ถึงมือผู้ป่วยโควิด-19 ที่รักษาตัวอยู่ในระบบ Home Isolation อย่างทันท่วงที

“ที่ผ่านมาเราพบปัญหาหนึ่งว่า ทีมสาธารณสุขมีบุคลากร มีแพทย์ มียา มีเครือข่ายที่ทำข้อมูลผู้ป่วย แต่ขาดระบบโลจิสติกส์ที่อยู่ตรงกลางทำหน้าที่ในการส่งยา ส่งอาหาร ส่งเวชภัณฑ์ซึ่งในแต่ละวันโดยเฉพาะในช่วงเริ่มต้นทำ Home Isolation ปริมาณการส่งยาและเวชภัณฑ์ในแต่ละวันค่อนข้างเยอะ เจ้าหน้าที่ทางฝั่งสาธารณสุขก็มีไม่เพียงพอ แค่ทำข้อมูลติดตามอาการผู้ป่วยก็ล้นมือแล้ว

“ดังนั้นจุดเชื่อมต่อระหว่างทีมสาธารณสุขกับผู้ป่วยยังเป็นส่วนที่ขาดอยู่ ทางกาชาดจึงติดต่อมาทางไลน์แมนว่าเราสามารถช่วยเหลือตรงนี้ได้ไหม คนอาจจะมองว่าไลน์แมนเป็นฟู้ดดีลิเวอรี แต่จริงๆ แล้วไลน์แมนเราส่งทุกอย่าง เรามีส่วนที่เป็นแมสเซนเจอร์ด้วย เราจึงนำระบบที่มีอยู่มาใช้ สิ่งที่เราทำเพิ่มคือการสนับสนุนค่าส่งให้แก่ทางกาชาด รวมทั้งการพัฒนาระบบหลังบ้านแจ้งเตือนให้ไรเดอร์รู้ก่อนรับงานว่า งานนี้จะเป็นการส่งของให้ผู้ป่วยโควิด-19 เพื่อที่ไรเดอร์จะได้มีการปฏิบัติตัวตามมาตรการที่เรามีการเตรียมไว้ เช่น งดการสัมผัส มีการนัดแนะจุดที่ส่งของ มีการเว้นระยะห่างตามแนวทางที่แพทย์กำหนด เป็นต้น”

อิสริยะ ไพรีพ่ายฤทธิ์ ผู้อำนวยการ ฝ่ายนโยบายสาธารณะและรัฐกิจ สัมพันธ์ LINE MAN Wongnai ย้อนเล่าถึงที่มาของภารกิจเร่งด่วน สภากาชาดไทย x LINE MAN ซึ่งทางไลน์แมนไม่ได้สนับสนุนเพียงโค้ดส่งฟรีให้แก่ทางกาชาดโดยที่ผ่านมา 1เดือนได้สนับสนุนเป็นจำนวน 300,000 บาท แต่ทางไลน์แมนยังจัดทีมงานลงไปนั่งประจำที่สภากาชาดไทย เพื่อลดภาระของเจ้าหน้าที่สาธารณสุข เพราะหลังจากที่เจ้าหน้าที่สาธารณสุขทำการการบรรจุ “กล่องพ้นภัยโควิด” ซึ่งเป็นชุดยาและเวชภัณฑ์ที่ผู้ป่วยต้องใช้ตลอดการรักษาตัวแล้ว อีกขั้นตอนสำคัญที่จะขาดไม่ได้คือการเช็กข้อมูลผู้ป่วยอย่างละเอียดก่อนทำการจัดส่ง เพราะผู้ป่วยบางคนอาจจะมีการย้ายสถานที่รักษาตัว หรือมีอาการที่เปลี่ยนจากคนไข้สีเขียวเป็นสีเหลืองที่ต้องได้รับการรักษาในโรงพยาบาลโดยด่วน ซึ่งหากไม่ทำการอัปเดตข้อมูลแบบวันต่อวันก็อาจจะเกิดความล่าช้า หรือผิดพลาดในการส่งและทำให้ผู้ป่วยได้รับยาล่าช้าออกไป

นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมจึงต้องมีเจ้าหน้าที่ของทางไลน์แมนลงไปนั่งทำงานร่วมกับทางสภากาชาดไทยทุกวัน รีเช็กยาที่แตกต่างกันไปในคนไข้แต่ละคนก่อนบรรจุใส่ถุง รีเช็กที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ และแจ้ง Rider อีกขั้นอย่างละเอียดและคอยช่วยเหลือประสานงานจนกว่าผู้ป่วยจะได้รับชุดยา เวชภัณฑ์ และอาหารอย่างเรียบร้อย ที่สำคัญการจัดส่งทั้งหมดต้องเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ไม่มีความผิดพลาด ไม่มีการตียากลับและเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่ ด้วยเหตุผลเพียงข้อเดียวสั้นๆ คือ “ผู้ป่วยจะรอไม่ได้”