สู้ COVID-19 ไปด้วยกัน กับ 14 เมนูภูมิคุ้มใจ สร้างได้ง่ายๆ ที่บ้าน
- สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับ 6 ภาคีเครือข่ายสุขภาวะทางปัญญาเสนอ เมนูสร้างภูมิคุ้มใจ 14 วันฉันทำได้ ผ่านเว็บไซต์และเฟสบุ๊กแฟนเพจ เพื่อเป็นแนวทางให้การใช้เวลาอยู่บ้านในช่วงการระบาด COVID-19 ให้เกิดการสร้างสรรค์ ฝึกสติ และอีคิว
- ภูมิคุ้มใจสามารถสร้างได้ผ่านกิจวัตรประจำวัน เช่น ล้างมือ แปรงฟัน อาบน้ำ โทรหาเพื่อนเก่า เขียนบันทึก เท่านี้สามารถทำให้การใช้ชีวิตอยู่บ้านเป็นการรีทรีตจิตใจ และชาร์จพลังงานให้พร้อมเพื่อสู้กับผลกระทบของ COVID-19 เราจะผ่านวิกฤตนี้ไปด้วยกัน
ในช่วงที่เราต้อง อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ เพื่อลดการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 หลายคนที่ใช้ชีวิตแอคทีฟนอกบ้านมาโดยตลอดอาจต้องปรับตัวอยู่ไม่น้อย และนอกจากร่างกายที่แข็งแรงแล้ว ในวิกฤต COVID-19 เช่นนี้ ใจก็ต้องการภูมิคุ้มกันที่แข็งแกร่งไม่ต่างกันด้วยเหตุที่ภูมิคุ้มใจเป็นเรื่องที่จำเป็นเร่งด่วน สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จึงร่วมกับ 6 ภาคีเครือข่ายสุขภาวะทางปัญญา นำเสนอโปรแกรม เมนูสร้างภูมิคุ้มใจ 14 วันฉันทำได้ ผ่านทาง www.happinessisthailand.com และ www.facebook.com/happinessisthailand
เมนูสร้างภูมิคุ้มใจ 14 วันฉันทำได้ จะนำเสนอกิจกรรมต่างๆ วันละ 1 เมนู ที่ชวนให้คนที่กำลังอยู่บ้านหรือคอนโดแคบๆ มาทำติดต่อกัน 14 วัน (เริ่มเมนูแรกวันที่ 28 มีนาคม 2563) โดยแต่ละเมนูของแต่ละวันจะครอบคลุม 4 หัวข้อคือ Readjust กิจวัตรประจำวันที่ต้องทำในแต่ละวัน เช่น ล้างมือ ล้างจาน อาบน้ำ กินอาหาร เป็นกิจกรรมสร้างสติและอีคิว ถัดมาคือ Reflect เสนอไอเดียให้หันกลับมาทบทวนตัวเองและชีวิตที่ผ่านมา Relate แนะแนวการดูแลความสัมพันธ์ของเรากับครอบครัวและคนรอบข้างอย่างมีคุณภาพ และ Retreat กิจกรรมเรียนรู้และพัฒนาตัวเองเช่น งานศิลปะ จัดดอกไม้อ่านหนังสือ และ โยคะ
Sarakadee Lite ขอหยิบยกตัวอย่างบางเมนูและบางกิจกรรมที่เราสามารถทำได้อย่างง่ายๆ และทำให้การใช้ชีวิตอยู่บ้านเป็นการรีทรีตจิตใจ ชาร์จพลังงานให้พร้อมเพื่อสู้กับผลกระทบของ COVID-19 ที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้แล้วเราจะผ่านวิกฤตนี้ไปด้วยกัน
Readjust: กิจกรรมท้าทายวันใหม่
เมื่อเริ่มเช้าวันใหม่ให้เลือกกิจวัตรประจำวันหรือภารกิจ 1 อย่าง ซึ่งปกติแล้วไม่เคยใส่ใจ หรือมักจะทำแบบผ่านๆ เช่น การอาบน้ำ และบอกกับตัวเองว่าครั้งนี้เราจะทำด้วย “คุณภาพใจแบบใหม่” โดยท้าทายตัวเองว่าตลอดวันนี้เราจะทำสิ่งนั้นอย่างใส่ใจทุกๆขั้นตอน ด้วยความรู้สึกสบายๆ ไม่รีบร้อน หลังจากนั้นให้สังเกตความรู้สึกของตัวเองขณะทำกิจกรรมนั้นแล้วจดบันทึกความรู้สึกและสิ่งที่ได้เรียนรู้ วิธีการนี้เพื่อให้เราเรียนรู้การอยู่กับปัจจุบันผ่านกิจกรรมที่มักมองข้าม มีสติและเห็นคุณค่าของการทำทีละอย่างด้วยความตั้งใจ
Reflect: Little Good Things
ก่อนนอนของทุกวันให้ฝึกมองเรื่องบวกที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน เริ่มจากหยิบสมุดและปากกาและให้เวลากับตัวเองคิดใคร่ครวญ ทบทวนย้อนคิดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนี้ มีอะไรบ้างที่เราทำแล้วดีต่อใจของตัวเองหรือดีต่อใจผู้อื่น เช่นทำให้รู้สึกผ่อนคลาย สนุกสนาน หรือซาบซึ้ง จากนั้นค่อยๆจดบันทึกสิ่งที่ทำแล้วเรารู้สึกดีนั้นลงในสมุดบันทึกอย่างน้อย 3 อย่างต่อวัน ลองเขียนเพิ่มด้วยว่าทำไมเราหรือเขาถึงรู้สึกดีจากการทำสิ่งเหล่านั้น นับเป็นการสร้างพลังบวกจากสิ่งเล็กๆรอบตัวและไม่หมกมุ่นกับความคิดติดลบจนเครียดเกินไป
Relate: ลองหวน Reconnect กับเพื่อนเก่า
อยู่บ้านคนเดียวบางทีก็น่าเบื่อ หรือ work from home บางทีก็สาหัสกว่าทำที่ทำงานเสียอีก ลอง take a break สักนิดด้วยการทบทวนถึงความทรงจำดีๆ ที่มีกับเพื่อนเก่าที่บางครั้งด้วยภาระการงานที่เร่งรีบในแต่ละวันทำให้เราละเลยการติดต่อกัน
ช่วงนี้ได้เวลา reconnect โดยลองนึกถึงความสุขในช่วงเวลาที่อยู่กับเพื่อนเก่า ลองเลือกเพื่อนเก่าที่เราคิดถึงมาสัก 3 คน แล้วเขียนลักษณะนิสัย บุคลิกประจำตัวของพวกเขาที่เราจำได้แม่นยำ เช่น เป็นคนตลก มีน้ำใจ
จากนั้นโทรศัพท์หรือไลน์ก็ได้ไปหา ชวนคุย ทบทวนความทรงจำระหว่างกัน เปิดบทสนทนาที่ถึงแสดงความห่วงใย ระหว่างคุยขอให้เราเป็นตัวของตัวเองตามธรรมชาติ ปล่อยให้ความทรงจำได้ทำงานและพูดคุยกับเพื่อนตามปกติ วิธีนี้นอกจากจะช่วยให้เราได้ผ่อนคลาย ยังช่วยให้เรารับฟังความรู้สึกของกันและกัน หรือช่วยกันแก้ไขปัญหาทำให้รู้ว่าเราไม่ได้อยู่เพียงลำพัง
Retreat: ความลับ 5 ข้อของความสุข
หนังสือ “ความลับห้าข้อ ที่คุณต้องค้นให้พบก่อนตาย” (The Five Secrets You Must Discover Before You Die) โดย ดร.จอห์น ไอโซ (John Izzo) แปลภาษาไทยโดย อรวรรณ อมรมย์ สำนักพิมพ์ Oh My God เป็นหนังสือที่จะช่วยตอบคำถามว่าอะไรคือความลับของการหาความสุขและดำเนินชีวิตอย่างมีปัญญา
หนังสือนี้ช่วยไขปริศนาความลับแห่งชีวิตที่เปี่ยมสุขด้วยการสัมภาษณ์ “ผู้ผ่านโลกมามาก” (อายุ 60-105 ปี) ซึ่งใครต่อใครต่างบอกว่า เป็นผู้ที่ได้ค้นพบความสุขและความหมายชีวิต โดยคัดเลือกจากผู้ได้รับการเสนอชื่อกว่า 15,000 คน จนเหลือเพียง 235 คน เพื่อค้นพบบทเรียนล้ำค่าจากประสบการณ์ชีวิตรวมกันแล้วกว่า 18,000 ปี
เมื่ออ่านจบ ลองนำเนื้อหาจากภายในหนังสือมาตั้งคำถามกับตัวเอง 5 ข้อ ฉันต้องการอะไรและรู้สึกอย่างไร ฉันกล้าทำสิ่งใหม่ ๆ แล้วไม่ต้องมาเสียดายภายหลังบ้างไหมฉันรักตัวเองและครอบครัวดีพอหรือยัง ฉันรู้สึกอย่างไร ณ ขณะนี้ และฉันมอบความรักและเมตตาให้กับใครได้อีกบ้าง
จากนั้นเขียนคำตอบทั้ง 5 ข้อลงบนกระดาษ แล้วอ่านทบทวนอีกครั้งด้วยการออกเสียง เราจะพบกับความลับ 5 ข้อที่ซ่อนอยู่ และนำความลับนั้นมาสร้างความสุขและความหมายให้ชีวิต และอย่าลืมหมั่นทบทวนตนเองอยู่เสมอ
Fact File