11 ข้อควรรู้ก่อนใช้ ฟ้าทะลายโจร ฮีไร่แผนไทย ยับยั้ง โควิด-19
- 25 กุมภาพันธ์ 2563 กระทรวงสาธารณสุขได้ทำการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (เอ็มโอยู) เพื่อวิจัยฟ้าทะลายโจรเพื่อใช้เป็นยารักษาโรคติดเชื้อ ไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19
- กระทรวงสาธารณสุข ได้ออกมาแถลงผลการศึกษาว่า ฟ้าทะลายโจรมีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อและยับยั้งการแบ่งตัวของไวรัส ซึ่งชัดเจนแล้วว่า ฟ้าทะลายโจรมีฤทธิ์ยับยั้งการเพิ่มจำนวนของไวรัสโควิด-19 ได้ แต่ไม่พบการป้องกันโควิด-19
ถือว่าเป็นข่าวดีที่เพิ่มพลังใจให้หลายๆ คนเป็นอย่างมาก เมื่อ กระทรวงสาธารณสุข ได้ออมาเผยผลการศึกษาประสิทธิผลของสารสกัด ฟ้าทะลายโจร และสารแอนโดรกราโฟไลด์ในฟ้าทะลายโจรในหลอดทดลอง พบว่า ฮีโร่ในตำรับแพทย์แผนไทยอย่าง ฟ้าทะลายโจร มีฤทธิ์ยับยั้งการเพิ่มจำนวนของไวรัสโควิด-19 ได้
หลังจากเมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2563 กระทรวงสาธารณสุขได้ทำการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (เอ็มโอยู) วิจัย ฟ้าทะลายโจร เพื่อใช้เป็นยารักษาโรคติดเชื้อ ไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ระหว่าง กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และองค์การเภสัชกรรม
19 เมษายน 2563 กระทรวงสาธารณสุข ได้ออกมาแถลงผลการศึกษาอย่างชัดเจนแล้วว่า ฟ้าทะลายโจรมีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อและยับยั้งการแบ่งตัวของไวรัส ซึ่งชัดเจนแล้วว่า ฟ้าทะลายโจรมีฤทธิ์ยับยั้งการเพิ่มจำนวนของไวรัสโควิด-19 ได้
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นกระทรวงสาธารณสุขได้ย้ำว่า ฟ้าทะลายโจรไม่มีฤทธิ์ในการป้องกันเซลล์จากการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ดังนั้น จึง ไม่แนะนำให้กินเพื่อการป้องกันโควิด-19 โดยที่ยังไม่มีอาการ แต่แนะนำให้กิน ฟ้าทะลายโจร ทันทีที่เริ่มมีอาการคล้ายอาการของโรคไข้หวัดใหญ่ (flu-like symptoms) เช่น มีไข้ ไอ เจ็บคอ อ่อนเพลีย ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ซึ่งอาจเกิดจากการติดเชื้อไวรัสที่ก่อโรคไข้หวัดใหญ่ หรือไวรัสก่อโรคทางเดินหายใจอื่นๆ พร้อมกันนั้นยังเตรียมนำสารสกัดฟ้าทะลายโจรไปใช้กับผู้ป่วยโรคโควิด- 19 ระดับความรุนแรงน้อย ในระหว่างเดือนเมษายน – กรกฎาคม 2563
ทั้งนี้ในกลางเดือน มกราคม 2564 กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ได้เปิดเผยความคืบหน้าของการใช้ฟ้าทะลายโจรร่วมรักษาผู้ป่วยโควิด-19 กว่า 80 ราย พบว่า ผู้ป่วยมีอาการดีขึ้นและหายกลับบ้านได้ พร้อมระบุว่า การใช้ฟ้าทะลายโจรรักษาผู้ป่วยโควิด-19 อยู่ระหว่างการศึกษาวิจัยทางคลินิกเพิ่มเติม เพื่อยืนยันประสิทธิผลในการรักษาผู้ป่วยโควิด-19
แพทย์หญิงอัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ให้รายละเอียดว่าที่ผ่านมา กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ได้ทำการศึกษานำร่องการใช้ฟ้าทะลายโจรในการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ร่วมกับโรงพยาบาลสมุทรปราการ จำนวน 6 ราย ซึ่งผลการศึกษาเบื้องต้นในผู้ป่วย ที่รับประทานสารสกัดฟ้าทะลายโจรที่มี สารแอนโดรกราโฟไลด์ (Andrographolide) ขนาด 180 มิลลิกรัมต่อวัน พบว่าผู้ป่วยทุกรายมีอาการดีขึ้นตั้งแต่วันที่ 3 ของการได้รับสารสกัดดังกล่าว โดยหากแยกรายละเอียดอาการ จะพบว่า อาการไอ เจ็บคอ มีเสมหะ น้ำมูก ปวดกล้ามเนื้อ และปวดศีรษะ ดีขึ้น ผู้ป่วยไม่มีอาการข้างเคียง ค่าการทำงานของตับและไตอยู่ในเกณฑ์ปกติ
พร้อมกันนั้นในเดือนเดียวกันยังได้จ่ายยาฟ้าทะลายโจรร่วมในการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ที่มีอาการรุนแรงน้อย ร่วมกับการรักษาทางแพทย์แผนปัจจุบันจำนวน 80 คน ใน 5 โรงพยาบาล พบว่าผู้ป่วยส่วนใหญ่มีอาการดีขึ้นตั้งแต่วันที่ 1 – 5 ตามลำดับ และไม่พบผลข้างเคียงที่รุนแรง โดยการใช้ฟ้าทะลายโจรในผู้ป่วยโควิด-19 จะใช้ 2 กรณี คือ ผู้ป่วยโควิด-19 ที่ไม่แสดงอาการจะใช้ฟ้าทะลายโจร ที่มีสารแอนโดรกราโฟไลด์ (Andrographolide) ขนาด 60 มิลลิกรัมต่อวัน นาน 5 วัน และกรณีที่ 2 คือ ผู้ป่วยโควิด-19 ที่แสดงอาการ เล็กน้อย จะใช้ฟ้าทะลายโจรที่มีสาร แอนโดรกราโฟไลด์ ขนาด 180 มิลลิกรัมต่อวัน นาน 5 วัน ซึ่งเป็นขนาดและระยะเวลาที่มีความปลอดภัยและไม่เป็นพิษต่อตับ
ฟ้าทะลายโจรใช้อย่างไรจึงจะปลอดภัย
- ไม่ควรกินยาฟ้าทะลายโจรเพื่อป้องกันโควิด-19 โดยที่ยังไม่มีอาการ
- เมื่อมีอาการคล้ายหวัด เช่น ไข้ ไอ เจ็บคอ อ่อนเพลีย ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ปวดหัว ควรกินยาฟ้าทะลายโจรทันที พร้อมแยกตัวเองออกมาจากคนอื่นๆ ที่อาศัยร่วมกันในบ้าน และป้องกันการแพร่กระจายเชื้อไปสู่คนอื่น
- ฟ้าทะลายโจรอาจใช้ร่วมกับยาพาราเซตามอลได้
- หากกินยาฟ้าทะลายโจรแล้วอาการไม่ดีขึ้นภายใน 2-3 วัน ควรรีบไปพบแพทย์
- ฟ้าทะลายโจรแบบแคปซูลยาผง กินครั้งละ 4 แคปซูล วันละ 4 ครั้ง หลังอาหารและก่อนนอน (แนะนำให้เช็คปริมาณยาต่อแคปซูลอีกครั้ง และกินครั้งละประมาณ 1,500 มิลลิกรัม)
- แคปซูลสารสกัดฟ้าทะลายโจรให้กิน ครั้งละ 1 หรือ 2 แคปซูล เพื่อให้ได้รับสารสำคัญแอนโดรกราโฟไลด์ประมาณ 18-20 มิลลิกรัม/ครั้ง กินวันละ 3 ครั้ง หลังอาหาร
- ห้ามใช้ยาฟ้าทะลายโจรในหญิงตั้งครรภ์และให้นมบุตร รวมทั้งผู้ป่วยที่มีอาการไข้เจ็บคอเนื่องจากการติดเชื้อแบคทีเรีย มีตุ่มหนองในคอ มีไข้สูง หนาวสั่น
- หากมีอาการแพ้ฟ้าทะลายโจร เช่น เกิดผื่น ลมพิษ หน้าบวม ริมฝีปากบวม หายใจลำบาก ให้หยุดใช้ยาทันทีและไม่ใช้อีก
- ควรระวังในผู้ที่ใช้ยาวาร์ฟาริน แอสไพริน โคลพิโดเกรล ยาลดความดันโลหิต เพราะอาจมีฤทธิ์เสริมกันได้
- ฟ้าทะลายโจรเป็นสมุนไพรรสขมจัด มีฤทธิ์เย็น ไม่ควรใช้ติดต่อกันเป็นเวลานาน เพราะอาจทำให้แขนขาชา หรืออ่อนแรง ร่างกายรู้สึกหนาวเย็นภายในเนื่องจากการเสียสมดุลธาตุ
- สอบถามรายละเอียดที่ กรมการแพทย์แผนไทย โทร. 02-149-5678 หรือ สายด่วนฟ้าทะลายโจร โทร. 065-504-5678 หรือ เว็บไซต์ www.dtam.moph.go.th