![Golden Boy ประติมากรรมสำริดอายุ 1,000 ปี ที่สมบูรณ์ที่สุดจากสมัยเมืองพระนคร](https://www.sarakadeelite.com/wp-content/uploads/2024/05/Golden-boy-open2.jpg)
Golden Boy ประติมากรรมสำริดอายุ 1,000 ปี ที่สมบูรณ์ที่สุดจากสมัยเมืองพระนคร
- ประติมากรรมสำริด Golden Boy ถูกขายจากประเทศไทยให้พ่อค้าวัตถุโบราณชาวต่างชาติราคา 1 ล้านบาท ในปี พ.ศ. 2518 และต่อมาได้มีการบริจาคให้กับ พิพิธภัณฑ์ศิลปะเมโทรโพลิทัน ประเทศสหรัฐอเมริกา หรือ The MET
- พิพิธภัณฑ์ศิลปะเมโทรโพลิทันพบว่าโบราณวัตถุดังกล่าว ถูกลักลอบนำออกนอกราชอาณาจักรไทยโดยผิดกฎหมาย จึงได้ถอดโบราณวัตถุ Golden Boy รวมทั้ง ประติมากรรมสตรีนั่งชันเข่า ออกจากบัญชีของพิพิธภัณฑ์และส่งคืนกลับประเทศไทยในวันที่ 20 พฤษภาคม 2567
กล่าวกันว่าหากพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ ประเทศฝรั่งเศส มีโมนาลิซ่าเป็นงานชิ้นเอก พิพิธภัณฑ์ศิลปะเมโทรโพลิทัน ประเทศสหรัฐอเมริกา หรือ The MET ก็มี Golden Boy เป็นไฮไลต์ที่ต้องเข้าชม เพราะนอกจากความงามของประติมากรรมสำริดขนาดใหญ่ที่สมบูรณ์ และการตกแต่งด้วยการกะไหล่ทองซึ่งยังคงอยู่แม้ผ่านเวลามานับพันปีแล้ว “Golden Boy” ยังเป็นจิ๊กซอว์สำคัญทางประวัติศาสตร์ที่จะเชื่อมโยงและอาจจะตอบคำถามถึงความรุ่งเรืองทางเทคโนโลยีในอดีตที่สั่งสมอยู่ในแหล่งอารยธรรมในฝั่งอีสานใต้ได้ชัดเจนขึ้นอีกด้วย
![Golden Boy](https://www.sarakadeelite.com/wp-content/uploads/2024/05/Golden-boy2.jpg)
“Golden Boy” พระศิวะแห่ง The MET
Golden Boy ชื่อนี้คือประติมากรรมสำริดชิ้นเอกรูปบุนุษยืน ศิลปะลพบุรี ที่เคยจัดแสดงอยู่ที่ The MET ถือเป็นประติมากรรมสำริดชิ้นที่สมบูรณ์ที่สุดที่หลงเหลือมาจากสมัยเมืองพระนคร ซึ่งตามข้อมูลของ The MET ได้ระบุว่าประติมากรรมชิ้นนี้เป็น พระศิวะ สมัยเมืองพระนครแบบบาปวน พุทธศตวรรษที่ 16 หรือประมาณ 1,000 ปีมาแล้ว สร้างด้วยเทคนิคสำริดกะไหล่ทอง ประดับตกแต่งด้วยการฝังเงินโดยใช้เทคนิคการเจาะผิววัตถุให้เป็นร่องเพื่อฝังโลหะหรืออัญมณีมีค่า ความสูง 1 (รวมเดือย) 128.9 เซนติเมตร
![Golden Boy](https://www.sarakadeelite.com/wp-content/uploads/2024/05/Golden-boy5.jpg)
แม้ทาง The MET จะตีความว่าประติมากรรมชิ้นนี้คือ “พระศิวะ” แต่ท่าทางของพระหัตถ์ทั้งสองนั้นแตกต่างจากประติมากรรมพระศิวะที่มักจะมีสัญลักษณ์ต่างๆ ประกฎ เช่น พระเนตรที่สามบนพระนลาฎ ซึ่งนั่นก็อาจจะมีความเป็นไปได้ว่าประติมากรรมองค์นี้อาจสื่อถึงบุคคลในสถานะเทพ หรืออาจถูกสร้างเพื่อเป็นรูปเคารพของกษัตริย์ หรือรูปเคารพในศาสนสถานประจำราชวงศ์ก็เป็นได้ โดยในเบื้องต้นหลังจากที่ประเทศไทยได้รับมอบประติมากรรมจาก The MET คืนสู่ประเทศไทย ทางสำนักพิพิธภัณฑ์ก็จะตั้งทีมในการศึกษาวิจัยและเก็บข้อมูลอย่างละเอียดต่อไป
![Golden Boy](https://www.sarakadeelite.com/wp-content/uploads/2024/05/Golden-boy6.jpg)
ทั้งนี้ John Guy ภัณฑารักษ์ แผนกศิลปะเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พิพิธภัณฑ์ศิลปะเมโทรโพลิทัน ประเทศสหรัฐอเมริกา ระบุว่า ประติมากรรมสำริดกะไหล่ทองชิ้นนี้ ถือเป็นหนึ่งในประติมากรรมทางศาสนาประเภทรูปเคารพที่สำคัญในแผ่นดินใหญ่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่มีสภาพการเก็บรักษาเกือบสมบูรณ์ แต่เป็นเรื่องที่น่าเสียดายที่ไม่มีจารึกใดๆ ที่จะปรากฏเป็นเบาะแสในการตรวจสอบแหล่งกำเนิดได้เลย ทว่าสิ่งที่ชัดเจนคือ ประติมากรรมชิ้นนี้ทำหน้าที่เป็นรูปเคารพทางศาสนาที่สำคัญในเทวสถานในช่วงพุทธศตวรรษที่ 16-17
![](https://www.sarakadeelite.com/wp-content/uploads/2024/05/Golden-boy3.jpg)
John Guy ยังกล่าวเสริมว่า รูปหล่อสำริดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดซึ่งเป็นของวัฒนธรรมเขมรในสมัยเมืองพระนครของกัมพูชาอยู่ในจุดสูงสุดถูกค้นพบที่ปราสาทแม่บุญตะวันตก ในสระน้ำที่คนขุดขึ้น ณ เมืองพระนคร เป็นรูปนารายณ์บรรทมสินธุ์ มีขนาดความยาว 3 เมตร แต่สำริดรูปพระศิวะGolden Boy องค์นี้โดดเด่นกว่าทั้งในแง่ของคุณภาพของประติมากรรม และความประณีต มีการตกแต่งรอยผูกที่ชายผ้าด้านหน้าและปมผ้าด้านหลังสะท้อนเรือนร่างที่สวมใส่อยู่ พร้อมเครื่องประดับ พาหุรัด กำไลข้อมือ กำไลข้อเท้า กรองคอ และ มงกุฎ เป็นส่วนสำคัญที่แสดงให้เห็นถึงความศักดิ์สิทธิ์ และเฉพาะส่วนพระเนตรของพระศิวะล้อมด้วยเงิน และพระเนตรดำอาจเคยมีหินคริสตัลฝังอยู่ รวมทั้งหนวดและเคราก็มีร่องรอยการประดับตกแต่งด้วยการฝังวัตถุเช่นเดียวกัน
![Golden Boy](https://www.sarakadeelite.com/wp-content/uploads/2024/05/Golden-boy9.jpg)
นอกจากนี้ นิตยา กนกมงคล ผู้อำนวยการสำนักพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ได้ตั้งข้อสังเกตไว้ การวางเท้าของ Golden Boy นั้นมีความพิเศษตรงที่สองเท้าเหลื่อมกัน นั่นอาจบ่งบอกถึงการเคลื่อนไหว หรือหมายถึงเทพที่กำลังเคลื่อนไหว ก็มีความเป็นไปได้เช่นกัน
![](https://www.sarakadeelite.com/wp-content/uploads/2024/05/Golden-boy7.jpg)
ประติมากรรมรูปสตรีชันเข่าคือใคร
ประติมากรรมอีกชิ้นที่ทาง The MET ส่งมอบกลับไทยพร้อมกันในวันที่ 20 พฤษภาคม 2567 คือ ประติมากรรมรูปสตรีนั่งชันเข่าพนมมือ เป็นศิลปะเขมรในประเทศไทยสมัยเมืองพระนครแบบบาปวน สร้างราวปลายพุทธศตวรรษที่ 16 ถึงต้นพุทธศตวรรษที่ 17 หรือเทียบอายุประมาณ 1,000 ปีมาแล้ว สร้างด้วยเทคนิคสำริด ประดับตกแต่งด้วยการฝังเงิน มีร่องรอยกะไหล่ทอง ประดับด้วยเพชรพลอย บริวเวณดวงตาและคิ้วมีร่องรอยการฝังด้วยวัตถุที่น่าจะเป็นแก้วสีดำ
![](https://www.sarakadeelite.com/wp-content/uploads/2024/05/Golden-boy4.jpg)
ในส่วนใบหน้านั้นค่อนข้างเหลี่ยม คิ้วโก่ง ตามองตรง ทรงผมหวีรวบไม่สวมกระบังหน้า เอวคอด รูปร่างสมส่วน ในส่วนการแต่งกายนั้น ผ้าถุงด้านหน้าค่อนข้างเว้า ขมวดเป็นปมและมีชายขมวดหนึ่งชาย ชายผ้าด้านล่างคลี่ออกเป็นหางปลา เป็นรูปแบบของประติมากรรมสำริดที่นิยมในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทยเมื่อ 1,000 ปีที่แล้ว
ทาง The MET ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าประติมากรรมชิ้นนี้ชัดเจนว่าเป็นสตรีในราชสำนัก เพราะมีกิริยาท่าทางการสักการะตามธรรมเนียม ได้แก่ ท่านั่งโดยพับขาข้างหนึ่งไว้ข้างใต้ (เท้ามองเห็นได้จากด้านหลัง) มีลักษณะเป็นธรรมชาติ และปฏิบัติตามมารยาทในการนั่งต่อหน้าพระราชวงศ์หรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ยังคงพบเห็นอยู่ในปัจจุบันในประเทศไทย
Fact File
ประติมากรรมสำริดทั้ง 2 ชิ้นจะจัดแสดงให้ประชาชนได้เข้าชม ณ ห้องลพบุรี พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร กรุงเทพฯ ตั้งแต่ 22 พฤษภาคม 2567 เป็นต้นไป และที่พิเศษคือจะมีการจัดแสดงร่วมกับประติมากรรมสำริดรูปบุรุษจากปราสาทสระกำแพงใหญ่ที่เรียกได้ว่าเป็น “ฝาแฝด” กับGolden Boy
![](/wp-content/uploads/2019/12/logo-greyscale-1.png)