New Normal Dining ความไม่ปกติที่สร้างวัฒนธรรมใหม่ ให้วงการอาหาร
Arts & Culture

New Normal Dining ความไม่ปกติที่สร้างวัฒนธรรมใหม่ ให้วงการอาหาร

Focus
  • New Normal Dining ที่เกิดขึ้นในช่วงวิกฤติโควิด-19 ทำให้เกิดวัฒนธรรมการกินใหม่ๆ ขึ้น ไม่ว่าจะเป็นดินเนอร์แบบอินเตอร์แอคทีฟ เสมือนนั่งอยู่ในร้านกับเชฟจริงๆ การสั่งอาหารปรุงสดข้ามจังหวัด รวมทั้งอาหาร Halfcook เชฟเตรียมมาครึ่งหนึ่ง คนกินปรุงอีกครึ่งหนึ่ง
  • ประสบการณ์การกินยังเป็นอีกสิ่งสำคัญที่แต่ละร้านจะทิ้งไม่ได้ เพราะแม้ลูกค้าจะนั่งกินอยู่ในครัวที่บ้าน แต่พวกเขายินดีจ่ายเพื่อประสบการณ์การกินที่แตกต่าง สะท้อนคาแร็คเตอร์ของแต่ละร้านได้เสมือนนั่งอยู่ในร้านนั้นจริงๆ

อย่าเพิ่งเอียนกับ New Normal เพราะคำนี้กำลังจะกลายเป็นวิถีใหม่ที่จะต้องอยู่ร่วมกับเราไปอีกนาน เช่นเดียวกับวงการอาหารที่กำลังปรับตัวอีกระลอกกับคำว่า New Normal Dining ซึ่งใส่คำว่า New ที่แปลว่า ลองคิดมุมใหม่ ลองหาโอกาสใหม่ๆ กันไปหลายรอบต่อหลายรอบ ตั้งแต่ที่รัฐประกาศงดกินอาหารในร้านเพื่อลดการระบาดของโควิด-19 เมื่อช่วง 2 เดือนเศษที่ผ่านมา

อินเตอร์แอคทีฟดินเนอร์จาก Fruitfull

New Normal Dining ปกติใหม่ของวงการอาหารที่เกิดขึ้นในทันทีคือ การที่ร้านต่างๆ เร่งนำเมนูเด็ดใส่เข้าไปในระบบเดลิเวอร์รี่ส่งตรงถึงลูกค้าที่หน้าบ้าน แต่นั่นไม่สามารถใช้ได้กับทุกร้าน เพราะยังมีเชฟและร้านอาหารอีกไม่น้อยที่มีซิกเนเจอร์อยู่ที่เรื่องราวของอาหาร รวมทั้งการเดินทางของวัตถุดิบจากท้องถิ่นต่างๆ และมากกว่ารสชาติ ในทุกคำยังต้องหมายถึงประสบการณ์ด้านการกินที่ไม่สามารถบรรจุกล่องอาหารแบบธรรมดาลงไปได้

ชุดเบอร์เกอร์ทำเองที่บ้านฉบับง่ายจาก OCKEN

โจทย์ของ New Normal Dining สำหรับพวกเขาจึงต้องบวกนวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์ลงไป เพื่อทำให้คนกินได้รับประสบการณ์ที่เป็นลายเซ็นเฉพาะของเชฟแต่ละคน เรียกได้ว่าแม้จะอยู่บ้านก็ให้ความรู้สึกไม่ต่างจากการนั่งกินที่ร้านมากนัก

เมนูพร้อมปรุง Ready to cook 

อาหารพร้อมปรุงแบบ Ready to cook คือพัฒนาการแรกที่เราได้เห็นจากโจทย์ของ New Normal Dining ที่ตั้งไว้ เริ่มจาก โบ.ลาน ร้านอาหารระดับมิชลินสตาร์ 1 ดาว ซึ่งปรับตัวได้ไวมากจัดส่ง กล่องเสบียงโบ.ลาน (Bo.lan Grocer Box) แจกสูตรอาหารของทางร้านไปพร้อมกับ ผัก ผลไม้สด เนื้อสัตว์ ของแห้ง ของทะเล จากเกษตรกร ชาวประมงในท้องถิ่นต่างๆ โดยสูตรอาหารก็จะปรับไปตามวัตถุดิบที่เกษตรกรส่งมา

ทางเชฟ Bo และเชฟ Dylan เจ้าของร้านมองว่าไม่ใช่แค่ร้านอาหารที่ได้รับผลกระทบ แต่วิกฤตครั้งนี้ยังเป็นลูกโซ่ไปถึงเกษตรกรที่ไม่สามารถหยุดยั้งการเจริญเติบโตของพืช ผัก ผลไม้ ในฤดูกาลได้ การจัดวัตถุดิบพร้อมปรุงแนบสูตรที่ไม่เคยเปิดเผยมาก่อนของร้านโบ.ลาน จึงเป็นไอเดียที่หลายคนยอมจ่ายเพื่อให้เงินหมุนไปถึงเกษตรกรอีกที

สำรับจากใจ

นอกจาก save ต้นทางวัตถุดิบ แล้ว วิกฤตครั้งนี้เรายังได้เห็นคนสนใจทำอาหารที่บ้านกันมากขึ้น โปรเจ็กต์  #ปลุกความเป็นเชฟในตัวคุณ ของร้านอาหารไทย The Local by Oam Thong Thai Cuisine จึงเกิดขึ้นพร้อมสำรับอาหารไทยที่ชื่อ สำรับจากใจ เน้นเมนูกึ่งไปทางชาววัง เมนูโบราณ มีความยุ่งยากในการทำที่บ้านพอสมควร (หากคุณไม่ใช่แม่บ้านมือโปร)

ไฮไลต์ของสำรับนี้คือ แกงรัญจวน โดยทางร้านจะหั่น ซอย ตวงทุกอย่างมาให้พร้อม บางวัตถุดิบก็ย่างเตาไฟหอมๆ มาให้แล้วค่อยจัดใส่กล่องส่งถึงบ้าน ส่วนคนที่ทำงานอยู่บ้านก็ทำหน้าที่แค่ตั้งหม้อบนเตา เททุกอย่างลงไปตามขั้นตอนที่เชฟแนบมาแบบไม่ต้องปรุงเพิ่ม เป็นอันเสร็จ พร้อมกิน

Recipe in a box ของ 3 ร้านอาหารในเครือ The Commons

ไม่ใช่เพียงอาหารไทยเท่านั้นที่สามารถทำแบบ Ready to cook ได้ โปรเจ็กต์ Recipe in a box ของ 3 ร้านอาหารในเครือ The Commons (Ocken, Roast, Little Pea Cafe) ซึ่งเปิดขายอยู่ในเว็บไซต์ www.homespacemarket.com ก็ได้ข้ามขีดจำกัดของการทำอาหารยากๆ ให้ง่ายขึ้นมาทันที โดยเฉพาะเบอร์เกอร์ของ Ocken ซึ่งทางร้านบดเนื้อมาให้เสร็จสรรพ เปิดกล่องออกมาก็เพียงจัดการย่าง แนบกระทะกันตามสะดวก แป๊บเดียวก็ได้กินเบอร์เกอร์เนื้อชีสเยิ้มกันแล้ว

Interactive Dining ดินเนอร์นี้มีเชฟเป็นเพื่อน

เราเซอร์ไพรส์มากที่ทันทีหลังจากร้านอาหารต้องปิดหน้าร้าน และคนชอบกินก็ต้องนั่งกินอยู่ในบ้านอย่างเหงาๆ บริษัท สแครทช์ เฟิร์สท์ ผู้อยู่เบื้องหลังงานดนตรี วันเดอร์ฟรุ๊ต ก็กระโดดเข้ามาสร้างสีสันให้วัฒนธรรมอาหารผ่านแพลตฟอร์มใหม่ในชื่อ Fruitfull จัดเสิร์ฟคอร์สเมนูอาหารเย็นแบบอินเตอร์แอคทีฟประหนึ่งนั่งอยู่ที่ร้าน ระหว่างกินอาหารคุณจะได้ร่วมสนทนากับเชฟ เพื่อนร่วมร้านที่อยู่ในมุมต่างๆ ของกรุงเทพฯ ผ่านไลฟ์สตรีมมิ่งจาก zoom ซึ่งที่ผ่านมามีด้วยกัน 4 ดินเนอร์ ได้แก่ โบ.ลาน, สำรับสำหรับไทย, Gaa และปิดจ๊อบที่ร้านมิชลิน 2 ดาว La Cime จากโอซาก้าที่มาไลฟ์โชว์ทำเบนโตะเซ็ตล้ำๆ

เมนูจากสำรับสำหรับไทยที่ส่งใส่ตะกร้าสานและเรามาสานต่อการจัดจาน

ความสนุกของ Fruitfull เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ที่มีคนมาส่งอาหารให้ที่บ้าน แต่ละร้านจะจัดพร็อพมาเต็มมาก ทั้งผ้าปูโต๊ะ ตะกร้าสานมาเต็มจนทำให้คนกินต้องลุกขึ้นมาจัดโต๊ะอาหารที่บ้านชุดใหญ่ในทันที ด้านเมนูอาหารแม้จะเป็นร้านในไทย แต่มีการคิดร่วมกับเชฟรับเชิญที่อยู่ต่างประเทศ อย่างเช็ตที่ผู้เขียนซื้อมาเป็นอาหารไทยท้องถิ่นจากร้าน สำรับสำหรับไทย กรุงเทพฯ ที่ เชฟปริญญ์ ผลสุข ร่วมคิดกับเชฟ Cho Hee-Sook จากร้าน Hansikgonggan กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ เจ้าของรางวัล  Asia’s Best Female Chef ประจำปี 2020

และเพื่อให้มีความสนุกสมกับเป็นผู้จัดงานอีเวนต์เบอร์ใหญ่ เรื่องของบรรยากาศจึงเป็นอีกสิ่งที่จะขาดไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นการส่งตรงไลฟ์มิวสิก มีเจ-มณฑล มาเล่นกีตาร์เพราะๆ ให้ฟังอยู่หน้าจอ สลับกับความสนุกของดีเจที่เปิดเพลงส่งมาจากเกาหลีใต้ หรือการเล่าเรื่องอาหารแต่ละจานที่ส่งตรงมาจากในครัวของเชฟ รวมไปถึงการได้ทักทายเพื่อนที่กำลังนั่งกินอยู่บ้านใครบ้านมันแต่กลายเป็นว่าเราได้เจอเพื่อนที่กำลังคิดถึงมากๆ ซะอย่างนั้น

new normal dining
เบนโตะล้ำๆ จากโอซากาส่งตรงถึงกรุงเทพฯ

จากที่เคยมีคำถามตั้งแต่ตัดสินใจจองคอร์สว่า “เสมือนจริง” จะสามารถสร้างอารมณ์ร่วมของผู้คนที่ต้องอยู่คนเดียวหน้าจอคอมพิวเตอร์ได้ขนาดไหน กลายเป็นว่า ความเสมือนจริง ก็ทำให้เราสนุกได้จริงๆ เหมือนกัน

ไม่ว่าอยู่ไหนก็ช่วนรันวงการอาหารท้องถิ่นได้   

การ Lockdown สอนให้รู้ว่าเราสามารถสั่งซื้ออาหารจากจังหวัดไหนก็ได้ รวมไปถึงอาหารแช่แข็งจากร้าน Blackitch Artisan Kitchen เชียงใหม่ ที่ตอนนี้ เชฟแบล๊ก – ภาณุพล บุลสุวรรณสามารถคิดนวัตกรรมการแช่แข็งอาหารที่กึ่งสุก (Halfcook) ในซีรีส์ “อีสานการย่าง” อาหารอีสานสไตล์กับแกล้มผสมญี่ปุ่น ส่งไปได้ทั่วประเทศไทยอย่างไม่เสียรส แถมผู้รับก็สามารถนำเครื่องปรุง วัตถุดิบต่างๆ ที่เชฟเตรียมไว้มาประกอบกันเป็นเมนูได้อย่างง่ายมาก แค่มีไมโครเวฟก็สามารถทำได้

นอกจากนวัตกรรมอาหารแช่แข็ง เชฟแบล๊กยังมีโปรเจ็กต์ซอสสูตรเฉพาะจากเชฟต่างๆ

นอกจากอาหารแช่แข็งแล้ว เรายังได้ลองสั่งขนมปังโฮมเมดจากร้านที่เรารักและคิดถึงส่งจากเชียงใหม่ผ่านโปรเจ็กต์  Native Neighbors ซึ่งทางเพจจะรวบรวมขนมปังจากร้านดังเน้นความโฮมเมด เช่น ครัวซองค์ในตำนานจาก Nana Bakery ขนมปังฝรั่งเศสเหนียวนุ่มจาก Khagee  ขนมปัง Sourdough ที่หมักโดยยีสต์ธรรมชาติจาก Flour Flour Loaf และขนมปังฝอยทองจากเกษมสโตร์ ร้านเก่าแก่กว่า 50 ปี และแยมโฮมเมด Little Spoon เป็นต้น

new normal dining
ขนมปังจาก Native Neighbors

ดูเหมือนการส่ขนมปังจะง่าย แต่ความยากคือ ขนมปังของทุกร้านเป็นโฮมเมด บางร้านเป็นยีสต์ธรรมชาติที่ต้องเร่งส่งตรงถึงมือผู้รับ Native Neighbors จึงต้องประสานตารางการอบขนมปังจากทุกร้าน ไปรับขนมปังที่อบสดใหม่พร้อมกันในช่วงเช้า จากนั้นจัดใส่ถุงสุญญากาศและส่งด่วนจี๋มาถึงปลายทางกรุงเทพฯ ในวันถัดไป ซึ่งเมื่อเปิดกล่องออกมาก็พบว่าขนมปังยังสดใหม่มาก ไม่ว่าจะอยู่ส่วนไหนของประเทศก็สามารถรันอาหารท้องถิ่นต่างๆ ทั่วไทยได้จริงๆ  

new normal dining

New Normal Dining ยังไม่จบเพียงเท่านั้น ตราบใดที่ยังไม่มีการคิดค้นวัคซีนได้ ตราบใดที่ยังต้องมีการปรับเปลี่ยนสถานการณ์ เปลี่ยนวิถีใหม่เพื่อลดการระบาดของโรคแบบรายวัน ก็เชื่อว่าวงการอาหารจะต้องมีการปรับตัว สร้างนวัตกรรมใหม่ๆ ขึ้นเพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงอีกอย่างแน่นอน เพราะแม้ตอนนี้หลายร้านจะสามารถกลับมาเปิดในวิถีใหม่ได้ แต่ก็ต้องยอมรับว่าต้นทุนไม่ได้ลดลงกว่าเดิม หรืออาจจะมากกว่าเดิมด้วยซ้ำเพราะต้องสร้างสิ่งประดิษฐ์มารองรับวิถีการกินนอกบ้านแบบใหม่ แต่ในขณะเดียวกันกลับรับลูกค้าได้น้อยลงเพื่อรักษาระยะห่าง ซึ่งนั่นก็เป็นโจทย์ใหม่ของ New Normal Dining ที่หลายร้านกำลังคิดหนักอยู่ในตอนนี้


Author

ศรัณยู นกแก้ว
Online Editor ที่ผ่านทั้งงานหนังสือพิมพ์ พ็อกเก็ตบุ๊ค และนิตยสาร ปัจจุบันยังคงสมัครใจเป็นแรงงานด้านการผลิตคอนเทนต์