Jamsan ผู้อยู่เบื้องหลังลายเส้นดาร์กๆ ใน It’s Okay to not be Okay
- Jamsan เป็นกราฟิกดีไซเนอร์และนักวาดภาพประกอบชาวเกาหลี สไตล์ของเขาคือการไม่มีขีดจำกัด เขาเคยมีงานวาดภาพประกอบมาแล้วในซีรีส์ Encounter เขาได้เข้าร่วมเป็นนักออกแบบแนวคิดสำหรับภาพประกอบของบริษัทระดับโลก
- Jamsan วาดภาพประกอบนิทานในซีรีส์ It’s Okay to not be Okay ซึ่งล่าสุดนิทานที่แสนหม่นเศร้าของเขาได้รับการตีพิมพ์และวางจำหน่ายแล้วในประเทศเกาหลี
“เทพนิยายไม่ได้เป็นเพียงแค่แฟนตาซี แต่เราสามารถพบเจอเรื่องราวเหล่านี้ได้ในความเป็นจริง” นี่ไม่ใช่ประโยคของโกมุนยอง ตัวละครนักเขียนนิทานสายดาร์กในซีรีส์จิตบำบัด It’s Okay to not be Okay แต่นี่คือคำพูดจริงของ Jamsan หรือ ซัมซัน นักวาดภาพประกอบ ผู้อยู่เบื้องหลังลายเส้นสุดดาร์กในนิทานที่สะท้อนปมในใจของโกมุนยองออกมาอย่างหมดเปลือก โดยเฉพาะเรื่อง เด็กชายผู้โตมากับฝันร้าย (Boys who grew up with nightmare) และ เด็กน้อยซอมบี้ (The Zombie Kid) ซึ่งนอกจากใช้โทนของภาพสีน้ำตาลเทาแสนหม่นหมองแล้ว บางฉากยังมีการตัดแขนตัดขาเลือดสาดโดยไม่มีการเซนเซอร์แต่อย่างใด
หลายคนอาจจะยังไม่รู้จักชื่อ Jamsan แต่ก่อนที่เขาจะได้ร่วมงานใน It’s Okay to not be Okay แฟนๆ ซีรีส์อาจจะเคยผ่านตางานของเขามาไม่น้อยเช่นเรื่องล่าสุด Encounter นอกจากนี้เขายังมีงานภาพประกอบโปสเตอร์คอนเสิร์ต และได้ร่วมเป็นนักออกแบบแนวคิดสำหรับภาพประกอบของบริษัทระดับโลก เช่น Nike, Samsung Galaxy, Graphic Noble และ Holica Holica
“ปีที่แล้วผมได้ทำงานกับผู้กำกับพัคชินอูผ่านเรื่อง Encounter ตอนนั้นผมได้ทำงานย่อเรื่องสั้นละครผ่านบทนำและบทส่งท้าย พอมาถึงซีรีส์ It’s Okay to not be Okay ผมได้อ่านเรื่องย่อของเด็กน้อยซอมบี้กับเด็กชายผู้โตมากับฝันร้าย ถึงจะเป็นนิทานที่มีกลิ่นอายของเทพนิยาย แต่ผมรู้สึกว่าไม่เหมาะสำหรับเด็ก แต่เหมาะสำหรับผู้ใหญ่ ผมจึงมุ่งเน้นไปที่การถ่ายทอดผลงานให้สื่อสารกับกลุ่มผู้ใหญ่ได้ โดยส่วนตัวแล้วผมอยากลองทำงานภาพในโทนสีที่ดูน่ากลัวหรือภาพของซอมบี้อะไรแบบนี้อยู่แล้ว”
Jamsan ให้สัมภาษณ์ถึงเบื้องหลังการทำงานที่เขาตั้งใจวาดให้หนังสือนิทานใน It’s Okay to not be Okay เป็นนิทานของผู้ใหญ่ที่สามารถใส่โลกความจริงอันโหดร้ายลงไปได้ ซึ่งโดยส่วนตัวแล้ว Jamsan เองก็มีความสนใจในเทพนิยายอยู่แล้ว
“ทุกวันนี้ผมสนใจในเทพนิยายที่โหดร้ายแฟนตาซีและเรื่องที่ไม่สมจริงมากเลย เรื่องราวเหล่านี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่แฟนตาซีแต่เราสามารถพบเจอเรื่องราวเหล่านี้ได้ในความเป็นจริง บางครั้งความเป็นจริงก็เกินกว่าที่เราจะจินตนาการไปถึงได้ บางครั้งมีความจริงที่น่าเศร้าใจมากมาย สิ่งเหล่านี้ก็สามารถถ่ายทอดออกมาเป็นภาพวาดแฟนตาซีได้ ตอนนี้ผมเริ่มสนใจงานในรูปแบบนี้มากขึ้น”
สำหรับนิทานจาก It’s Okay to not be Okay ที่สร้างกระแสนิทานสายดาร์ก และทำให้หลายคนหันมาสนใจเจ้าของลายเส้นหม่นๆ นี้ ได้แก่ เรื่องเด็กชายผู้โตมากับฝันร้าย (Boys who grew up with nightmare), เด็กน้อยซอมบี้ (The Zombie Kid) และเจ้าหมาในวันใบไม้ผลิ (Spring Dogs) ซึ่งทั้ง 3 เรื่องได้รับการตีพิมพ์จริง และวางจำหน่ายแล้วในประเทศเกาหลี
เด็กชายผู้โตมากับฝันร้าย (Boys who grew up with nightmare)
นิทานเล่มแรกที่ปรากฏในซีรีส์ ในนิทานเล่าถึงหนุ่มน้อยที่กลัวการนอนหลับ เพราะเขาไม่ต้องการที่จะเจอฝันร้ายซึ่งเป็นเรื่องราวในอดีตที่กลับมาหลอกหลอนเขาทุกคืน และทำให้หนุ่มน้อยต้องทรมานอย่างไม่สิ้นสุด หนุ่มน้อยไปร้องขอให้แม่มดช่วยลบความทรงจำเลวร้ายในอดีตให้หมด เพื่อที่เขาจะได้ไม่ฝันร้ายอีกต่อไปแลกกับการมอบทุกอย่างให้แม่มดโดยไม่มีเงื่อนไข
วันหนึ่งเมื่อแม่มดปรากฏตัวเพื่อที่จะเอาวิญญาณของเขาไป แลกเปลี่ยนกับการไม่ฝันร้าย ชายหนุ่มจึงร้องถามแม่มดว่า ทำไมเขายังไม่มีความสุข แม่มดตอบเขาว่า คนที่เก็บความทรงจำอันเลวร้ายทุกข์ทรมานเหล่านี้ไว้ในใจและยังมีชีวิตต่อไปต่างหากที่จะแข็งแกร่งและมีความสุขกับชีวิต แต่ถ้าไม่สามารถผ่านความทรงจำอันเลวร้ายไปได้ เธอก็ยังคงเป็นแค่เด็กน้อยที่ไม่รู้จักเติบโต
เด็กน้อยซอมบี้ (The Zombie Kid)
นิทานที่ทำให้หลายคนต้องน้ำตาคลอไปกับเรื่องราวของเด็กน้อยคนหนึ่งที่เกิดมาพร้อมกับความแตกต่างจากเด็กทั่วไป จนทำให้แม่ของเขาต้องขังเขาเอาไว้ในห้องใต้ดิน ไม่มีเพื่อน ไม่ได้รับการเหลียวแลจากครอบครัวเหมือนเด็กทั่วไป เด็กน้อยเป็นเหมือนซอมบี้ที่ต้องกินสิ่งมีชีวิต ทำให้แม่ต้องจับเป็ด ไก่ในหมู่บ้านมาให้ลูกเป็นอาหาร
จนวันหนึ่งเมื่อคนทั้งหมู่บ้านย้ายออกไป เมื่อไม่มีอาหารใดๆ ให้ลูกคนนี้กิน แม่จึงค่อยๆ ตัดแขน ตัดขาของตัวเอง ให้เด็กน้อยซอมบี้กินจนกระทั่งหลือแต่ตัว แม่จึงได้กอดเด็กชายไว้เป็นครั้งสุดท้าย และยอมให้เขากิน เด็กน้อยซอมบี้ได้พูดขึ้นเป็นครั้งแรกพร้อมน้ำตาที่ค่อยๆ ไหลรินว่า “แม่ช่างอบอุ่น”
เจ้าหมาในวันใบไม้ผลิ (Spring Dogs)
แม้ลายเส้นเรื่องนี้จะสดใสกว่าเล่มใดๆ และใส่สีสันของฤดูใบไม้ผลิอย่างเต็มที่ แต่เรื่องราวที่ปรากฏในนิทานกลับหม่นเศร้า เล่าถึงเจ้าหมาน้อยตัวหนึ่งที่ถูกผูกไว้ใต้ต้นไม้ใหญ่ ตอนกลางวันมันจะกระโดดโลดเต้นอย่างมีความสุข แต่ตอนกลางคืนมันกลับนอนร้องครางหงิงๆ ด้วยความเศร้าโดยที่มันไม่รู้ตัว เปรียบได้กับ มุนคังแท พระเอกของเรื่องที่แม้จะยิ้มรับทุกเรื่องในชีวิตอย่างสดใส แต่จิตใจเขากลับไม่เคยโกหก และมุนคังแทก็มักจะร้องไห้เสียงดังหงิงๆ ตอนนอนหลับไม่ต่างจากเจ้าหมาน้อยตัวนี้ ซึ่งแม้มันจะมีความสุข แต่มันได้ลืมวิธีการปลดเชือกล่ามคอที่ผูกเอาไว้ไปแล้ว
Fact File
- It’s Okay to Not Be Okay ซีรีส์เกาหลีที่ว่าด้วยการเยียวยาบาดแผลทางใจซึ่งไม่ได้เกิดขึ้นแค่กับคนไข้ในโรงพยาบาลจิตเวชที่พระเอกทำงานอยู่
- It’s Okay to Not Be Okay นำแสดงโดยคิมซูฮยอน, ซอเยจี และ โอจองเซ กำกับโดย พัคชินอู เขียนบทโดยโจยองผลงานสร้างโดย Studio Dragon ออกอากาศในเกาหลีใต้ทางช่อง TVN และประเทศไทยรับชมได้ทาง Netflix