LUPIN ก่อการปล้นเพื่อความยุติธรรม กับจริยธรรมของอาชญากร
- LUPIN ปรากฏการณ์ซีรีส์ที่ได้รับความนิยมและมีผู้ชมตั้งตารอคอยไม่น้อยสำหรับปีนี้ของ Netflix
- ซีรีส์ LUPIN ชุดนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากวรรณกรรมโจรกรรมระดับคลาสสิกชุด อาร์แซน ลูแปง ของ มอริส เลอบล็อง แต่ไม่ได้แปลว่าผู้ชมจะได้เห็นการดำเนินเรื่อง หรือตัวละครที่ถอดมาตามฉบับวรรรณกรรม
LUPIN ปรากฏการณ์ซีรีส์ที่ได้รับความนิยมและมีผู้ชมทั่วโลกตั้งตารอคอยไม่น้อยทางแพลตฟอร์ม Netflix ซึ่งจากภาค 1 มาถึงภาค 2 นั้นค่อย ๆ ต่อจิกซอว์ให้เห็นภาพกว้างในมุมต่าง ๆ ที่หลบซ่อนอยู่ของ อัสซาน จ็อป (Assane Diop) บุรุษผู้ล้มเหลวในหลายด้านทั้งชีวิตรักเรื่อยมาถึงเหตุการณ์ที่เป็นปมเรื่องใหญ่ เมื่อพ่อของเขาถูกใส่ร้ายว่าเป็นหัวขโมยสร้อยเพชรของมหาเศรษฐีมากอิทธิพล อูแบร์ เพลเลกรินี (Hubert Pellegrini) โดยอิทธิพลทรงอำนาจของเพลเลกรินีนั้นมากถึงขนาดที่ว่าสามารถต่อสายตรงถึงคนมีอำนาจระดับสูงของรัฐบาลตำรวจผู้บังคับบัญชา นั่นทำให้พ่อของอัสซานต้องกลายเป็นแพะรับบาปไปจนตาย ด้วยความแค้นอัสซานจึงกลับมาโดยมุ่งเปิดเผยความจริงของเพลเลกรินีเพื่อทวงคืนความยุติธรรมที่เพลเลกรินีเคยปล้นไปจากครอบครัวเขา
หลายคนอาจกำลังตั้งข้อสงสัยว่าลูแปงเวอร์ชันซีรีส์นี้เกี่ยวข้องกับตัวละครในวรรณกรรมโจรกรรมระดับตำนาน อาร์แซน ลูแปง (Arsene Lupin) ของ มอริส เลอบล็อง (Maurice Leblanc) หรือไม่ คำตอบคือซีรีส์ไม่ได้สร้างตามวรรณกรรมโดยตรง แต่วรรณกรรมชุดอาร์แซนลูแปงของเลอบล็องเป็นแรงบันดาลใจในการกระทำระหว่างการบุกแก้แค้นของอัสซาน ส่วนชื่อตัวละครเอกอย่างอัสซานก็ไม่ใช่ลูแปงคนเดียวกับในหนังสือต้นฉบับแต่สามารถเรียกได้ว่าเขาคือผู้เลียนแบบ (Copycat) ตัวละครลูแปงในหนังสือนั่นเอง
ความน่าสนใจของซีรีส์ชุดนี้คือการถอดรื้อองค์ประกอบของงานวรรณกรรมลูแปงที่ต้นฉบับประกอบขึ้นทั้งแบบนวนิยายและเรื่องสั้น โดยนำมาคัดเลือกจุดเด่นและนำมาประกอบใหม่ให้ล้อไปกับยุคปัจจุบันเช่น กลการหลอกล่อสร้างสถานการณ์แบบลูแปงที่อัสซานนำมาใช้ตลอดเรื่องไม่ว่าจะเป็นการใช้จังหวะชุลมุนเพื่อหลบหนีการปลอมตัวการจัดการสถานการณ์โดยใช้คนอื่นเป็นหมากเดินเกมองค์ประกอบที่แฟนหนังสือของเลอบล็องเคยได้อ่านทั้งหมดที่กล่าวมานี้จะสามารถเห็นได้ในซีรีส์ ทั้งยังสามารถสนุกสนานไปกับการได้เห็นกลอุปนิสัยความกล้าหาญกล้าได้กล้าเสียแบบฉบับลูแปงในวรรณกรรมสู่ร่างคัดลอกอย่างอัสซานอย่างเต็มอรรถรส
ซีรีส์ชุดนี้แม้มีโครงเรื่องที่ไม่ซับซ้อนแต่มีความโดดเด่นด้วยการเล่าเรื่องที่ระทึกและสามารถทำได้อย่างต่อเนื่องทั้ง 2 ภาคเสมือนภาพยนตร์ที่มีความยาวต่อเนื่องสถานการณ์ประกบกันสนิทชนิดที่ทำให้ผู้ชมสายหนังแนวความระทึกอาจไม่อยากปิดไฟนอนเอาง่าย ๆ และด้วยการสร้างสถานการณ์ระทึกประกอบกับการตัดต่อและเสียงดนตรีที่มีความละเอียดทางการออกแบบเช่น การตัดต่อเล่าสลับเวลาหลายเหตุการณ์หลายเวลาเพื่อให้คนดูไม่อยากพลาดฉากใดฉากหนึ่งจนไม่อยากลุกหรือหันหนีจากจอประกอบด้วยเสียงดนตรีที่มีมิติทั้งการใช้จังหวะเสียงในฉากและการใช้ดนตรีที่มีกลิ่นอายของเครื่องดนตรีคลาสสิกที่ให้บรรยากาศชวนให้คิดถึงยุคสมัยในต้นฉบับวรรณกรรม
ถึงเนื้อเรื่องจะเป็นซีรีส์ล้างแค้นผสมกลการปล้นแบบล้ำ ๆ โชว์ความตื่นเต้นของเทคนิคที่ผู้ชมคาดไม่ถึงแต่เนื้อหาที่มีอยู่ก็น่าสนใจไม่น้อยเพราะผู้ชมจะได้เห็นตั้งแต่แรกว่าการเริ่มต้นเป็นอาชญากรของอัสซานครั้งนี้เกิดขึ้นเพราะเขาต้องการทวงความเป็นธรรมที่ระบบสังคมไม่สามารถให้เขาได้ ตำรวจผู้บังคับบัญชาและคนของรัฐที่เกี่ยวข้องกับระบบยุติธรรมไม่สามารถนำความจริงว่าพ่อเขาเป็นแพะออกมาให้ผู้คนเห็น ซ้ำยังพาพ่อของเขาเข้าสู่กระบวนการพิพากษาที่ดูเหมือนจะบริสุทธิ์ยุติธรรมแต่ไม่สามารถได้ความยุติธรรมตอบกลับมา นั่นจึงทำให้อัสซานต้องปล้นและสร้างกลเกมเพื่อพิสูจน์ความผิดของเพลเลกรินี พลิกบทบาทจากเหยื่อมาเป็นอาชญากรสมองเพชรแบบลูแปง
ในเรื่องของที่มาของการก่ออาชญากรรมนี้ซีรีส์ชวนมองด้วยเจตนาที่อยากได้รับความยุติธรรมที่คนมีอำนาจปล้นความถูกต้องไป หากพินิจส่วนนี้อัสซานที่แน่นอนว่าเขาก่ออาชญากรรมมากมายตลอดเรื่องแต่หากถามถึงประเด็นทางจริยธรรมอัสซานที่ผิดกฎหมายด้วยเจตนาแบบนี้สมควรได้รับโทษทางกฎหมายหรือไม่ คนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากระบบแล้วไม่มีทางเลือกจนต้องพิสูจน์งัดความจริงขึ้นมาด้วยราคาที่ต้องจ่ายของการงัดนั้นคือการผิดกฎหมาย การผิดแบบนี้ในฐานะอาชญากรถือว่าเขาเป็นคนเลวหรือคนที่ต้องรับผิดตามกฎหมายหรือไม่หากเจตนาของกฎหมายคือการควบคุมระเบียบและพยายามมอบความยุติธรรมแก่สังคม ซึ่งนี่เป็นคำถามที่น่าสนใจไม่น้อย เพราะในซีรีส์เกาหลีที่จบไปอย่าง Taxi Driver ก็ทิ้งคำถามไว้ว่าเมื่ออัยการและระบบกฎหมายไม่สามารถทำหน้าที่นี้ได้ ใครล่ะจะเป็นคนทำ
สำหรับคำถามข้างต้นนี้เราจะเห็นจากซีรีส์ว่าตลอดทั้งเรื่องอัสซานที่ต้องสู้รบกับตัวละคร นักฆ่า ตำรวจ และศัตรูมากมายที่เพลเลกรินีตั้งใจส่งมากำจัดเขาแต่อัสซานตั้งใจอย่างยิ่งที่จะไม่ต่อสู้จนถึงชีวิตแก่ทุกคนรวมทั้งเขาเลือกใช้การกระทำที่หลีกเลี่ยงการสูญเสียให้มากที่สุดอย่างการปล้นเพื่อแฉและงัดหลักฐานมาเอาผิดเพลเลกรินีที่มีคนมากอำนาจของรัฐหนุนหลังอยู่การต่อสู้ของคนธรรมดากับมหาเศรษฐีมากอิทธิพลครั้งนี้จึงชวนกระตุ้นสำนึกของการวิเคราะห์ว่าจริยธรรมของกฎหมายในสถานการณ์อยุติธรรมที่เกิดขึ้นทั้งเรื่องนี้ ผู้ชมจะมีความคิดเห็นอย่างไรแล้วการผิดกฎหมายกับการผิดจริยธรรมนั้นสอดคล้องกันหรือไม่ และหากกฎหมายพยายามจะเป็นแกนกลางของความยุติธรรมทางสังคมแล้วกฎหมายควรสร้างฐานทางจริยธรรมด้วยความยุติธรรมที่เท่าเทียมใช้มาตรฐานเดียวกันกับทุกคนใช่หรือไม่ และหากกฎหมายมีความยุติธรรมเช่นนั้นอัสซานก็ไม่จำเป็นต้องบุกปล้นเพื่องัดสำแดงความจริงถ้าเขาไม่ถูกอำนาจของเพลเลกรินีขโมยความถูกต้องและใส่ความพ่อของเขาอัสซานก็ไม่ต้องเป็นมหาโจร
ดังนั้นการเป็นโจรที่ไม่ใช่เรื่องของปากท้องแต่เป็นโจรทางกฎหมายของอัสซานจึงเป็นจุดสำคัญและน่าสนใจอย่างยิ่งของซีรีส์ชุดนี้ ผู้ชมจะให้ความสำคัญกับเจตนาของอัสซานหรือไม่อย่างไร ซึ่งทั้งหมดนี้ความซับซ้อนที่ถูกซ่อนผู้ชมสามารถคิดต่อได้จากกลเกมโจรกรรมของอัสซานในฐานะจอมโจร “ลูแปง”
Fact File
- สามารถเข้าชม LUPIN ทั้ง2 ภาคได้แล้ววันนี้ที่ NETFLIX
- LUPIN นำแสดงโดย โอมาร์ ซี, แอร์เว ปิแอร์, นิโคล การ์เซีย, โคลทิลด์ เอส์ม, ลูดิวีน ซาญนิเยร์, อองตวน กุย, ชีรีน บูเทลลา, โซเฟียน เกร์ราบ ผลิตโดย จอร์จ เคย์ ร่วมกับ ฟรังซัวส์ อูซาน กำกับโดย ลูโดวิค แบร์นาร์ด (ในตอนที่ 6 และ 7) และ อูโก้ เชแลง (ในตอนที่ 8, 9 และ10)