กทม. เคาะ ต่อสัญญาหอศิลปกรุงเทพฯ 10 ปี ปลุกวิญญาณพื้นที่ศิลปะเมือง
Arts & Culture

กทม. เคาะ ต่อสัญญาหอศิลปกรุงเทพฯ 10 ปี ปลุกวิญญาณพื้นที่ศิลปะเมือง

Focus
  • กรุงเทพมหานครมีมติ ต่อสัญญาหอศิลปกรุงเทพฯ ให้มูลนิธิฯ เป็นผู้บริหารพื้นที่ หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร หรือ หอศิลปกรุงเทพฯ ต่ออีก 10 ปี
  • ก่อนหน้านี้ กทม.ได้ขีดเส้นตาย สิงหาคม 2564 ในการตัดสินใจว่าจะให้มูลนิธิหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร บริหารจัดการ หอศิลปกรุงเทพฯ ต่อหรือไม่

ถือเป็นสัญญาณดีหลังกรุงเทพมหานครและตัวแทนคณะกรรมการ มูลนิธิหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร หารือร่วมกันและมีมติ ต่อสัญญาหอศิลปกรุงเทพฯ ให้มูลนิธิฯ เป็นผู้บริหารพื้นที่ หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร หรือ หอศิลปกรุงเทพฯ ต่ออีก 10 ปี พร้อมทั้งจะมีการร่างข้อตกลงใหม่เกี่ยวกับงบอุดหนุนของหน่วยงานรัฐเพื่อให้เป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น

ลักขณา คุณาวิชยานนท์ กรรมการบริหาร และ ปฏิบัติการผู้อำนวยการหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร หรือ BACC กล่าวว่าเมื่อวันอังคารที่ 23 มีนาคม 2564  คณะกรรมการมูลนิธิหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ได้เข้าพบ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) และตัวแทนกทม.ที่เกี่ยวข้องโดยมีการหารือในประเด็นการต่อสัญญาของมูลนิธิในการดูแลหอศิลป์ที่จะหมดลงในเดือนสิงหาคม 2564

ต่อสัญญาหอศิลปกรุงเทพฯ

การหารือเป็นไปด้วยดีถึงบทบาทของมูลนิธิฯ ในการบริหารจัดการหอศิลป์ซึ่งที่ประชุมมีมติ ต่อสัญญาโดยให้มูลนิธิบริหารจัดการหอศิลป์เหมือนเดิมต่อไปอีก 10 ปีแต่ก่อนจะถึงกำหนดต่อสัญญาในเดือนสิงหาคมนี้ ทางมูลนิธิจะมีการสรรหาคณะกรรมการชุดใหม่เพื่อแทนชุดเดิมที่จะหมดวาระในวันที่ 30 พฤษภาคม 2564 เพื่อให้การทำงานมีความต่อเนื่อง

หลังจากได้คณะกรรมการมูลนิธิชุดใหม่จะมีการยกร่างข้อตกลงร่วมกับกทม. โดยในร่างจะต้องมีการทำงานร่วมกันระหว่างกทม.และคณะกรรมการมูลนิธิชุดใหม่เพื่อหารือถึงประเด็นที่ติดขัดที่ผ่านมาเช่นเรื่องงบประมาณอุดหนุนที่ทางสภากทม.ทักท้วงมาและถ้าจะให้เดินหน้าต่อไปได้อีก 10 ปี ตามสัญญาจะต้องปรับแก้ข้อบังคับส่วนไหนบ้าง

ต่อสัญญาหอศิลปกรุงเทพฯ

“ตอนนี้เป็นเรื่องที่จะต้องทำควบคู่กันในการสรรหาคณะกรรมการชุดใหม่ และหารือร่วมกันในเรื่องสัญญาใหม่ซึ่งท่านผู้ว่าฯให้แนวทางว่าไม่จำเป็นจะต้องรอให้หมดสัญญาในเดือนสิงหาคมนี้ตอนนี้ชัดเจนแล้วว่ากทม.จะต่อสัญญาแน่นอนโดยตอนนี้ได้เริ่มกระบวนการแต่งตั้งคณะกรรมการสรรหาคณะกรรมการมูลนิธิชุดใหม่ ซึ่งจะต้องให้เสร็จสิ้นก่อนคณะกรรมการชุดเก่าหมดวาระเพื่อให้มูลนิธิดำเนินการได้อย่างต่อเนื่อง” ลักขณากล่าว

สำหรับประเด็นเรื่องเงินอุดหนุนจากกทม.ที่จะมีการพิจารณางบในปี พ.ศ.2565 จะมีการแต่งตั้งคณะกรรมการเงินอุดหนุนสำหรับหน่วยงานที่ไม่ได้อยู่ในกทม. โดยจะมีการหารือกันอีกครั้งขณะนี้ทางหอศิลป์ได้กลับมาทำข้อมูลใหม่เกี่ยวกับงบประมาณอุดหนุน เพราะที่ผ่านยังมีความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนระหว่างกันในการขอเงินอุดหนุน เนื่องจากมีการแก้ไขข้อตกลงไปเมื่อปีที่แล้วว่าถ้าหากหอศิลป์ขาดแคลนทุนทรัพย์สามารถขอทุนอุดหนุนจากกทม.ได้

ต่อสัญญาหอศิลปกรุงเทพฯ

ส่วนงบประมาณในปี2564 ที่มีการพิจารณาผ่านไปแล้วโดยมีการอนุมัติเงินอุดหนุนเพียงค่าน้ำค่าไฟทางกทม. ได้แสดงความเห็นใจและพร้อมช่วยเหลือในกิจกรรมระดมทุนต่างๆ

“อยากขอขอบคุณทุกคนที่เป็นห่วงหอศิลป์สิ่งที่พวกเราทำมาทำให้ทุกคนเห็นว่าหอศิลป์มีประโยชน์ต่อคนในสังคม แม้จะไม่สมบูรณ์ 100 เปอร์เซ็นต์แต่เราก็ต้องปรับปรุงโดยเสียงสะท้อนก็เป็นสิ่งที่เราต้องกลับมาแก้ไขตอนนี้อยากให้มั่นใจได้ว่าการสื่อสารระหว่างหอศิลป์กับทางกทม. กลับมาอยู่ในความเข้าใจกันซึ่งกทม.ก็เข้าใจถึงบทบาทในการสนับสนุนนับจากนี้ถือเป็นสัญญาณที่ดีจึงอยากให้มั่นใจได้ว่ามูลนิธิยังได้ดำเนินงานต่อบนเงื่อนไขที่จะไม่แสวงหาผลกำไร” ลักขณา กล่าวทิ้งท้ายถึงอนาคตของหอศิลปกรุงเทพฯ            


Author

นายแว่นสีชา
เริ่มต้นจาก โครงการค่ายนักเขียนสารคดี สะท้อนปัญหาสังคม ครั้งที่ 2 ก่อนฝึกฝนจับประเด็น ก้มหน้าอยู่หลังแป้นพิมพ์มากว่า 10 ปี ชอบเดินทางคุยเรื่อยเปื่อยกับชาวบ้าน แต่บางครั้งขังตัวเอง ให้อยู่กับการทดลองอะไรใหม่ๆ