Staycation ในบรรยากาศศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัยที่ The Salaya Leisure Park
- The Salaya Leisure Park แหล่งท่องเที่ยวใกล้กรุงเทพฯ ที่รวบรวมไว้ทั้งโรงแรม ร้านอาหาร สปา เวิร์กช็อป ฟิตเนส ไนต์ไลฟ์ ไปจนถึง Wash Up Car Care ตามคอนเซปต์ Happiness 360° ที่ตั้งใจให้ตอบโจทย์คนทุกเพศทุกวัย
- วาริมันตราไทยโซน ถือเป็นอีกจุดที่น่าสนใจกับการเป็นแหล่งเรียนรู้เชิงศิลปวัฒนธรรมขนาดย่อม ทั้งเปิดทำการแสดง คาบาเรต์ และ Cave Show ที่สนุกชวนติดตาม
เพราะชีวิตคือการเดินทาง ไม่ได้เที่ยวไกล ขอเปลี่ยนบรรยากาศไปพักผ่อนใกล้ ๆ ก็ยังดี The Salaya Leisure Park หากตั้งต้นจากกรุงเทพฯ นั่งรถเพียง 1 ชั่วโมงก็ไปถึง แบบที่ใครกำลังมองหาสถานที่ Staycation อยู่ ที่นี่ก็อาจเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจ
เล่าก่อนว่า The Salaya Leisure Park เขามากับคอนเซ็ปต์ Happiness 360° ที่ตั้งใจอยากให้เป็นสถานที่ที่เหมาะกับทุกเพศทุกวัย สามารถพักผ่อนอยู่ที่นี่ได้ตั้งแต่เช้าจดค่ำ หรือจะพักค้างคืนก็มีส่วนของโรงแรมที่เปิดรอต้อนรับพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐานที่ครบครัน The Salaya Leisure Park จึงมาพร้อมกับประสบการณ์ที่หลากหลายตั้งแต่ร้านอาหารหลายสัญชาติ ห้องประชุมสัมมนา โซนกีฬา สปา ไนต์ไลฟ์ พื้นที่จัดงานเลี้ยง ห้องซ้อมดนตรี Wedding Studio การแสดงโชว์ เวิร์กชอปไปจนถึง Wash Up Car Care ก็ยังมีเปิดให้บริการที่นี่ด้วย
จุดที่น่าสนใจเป็นพิเศษท่ามกลางภายนอกที่ดูเป็นคอมมูนิตีมอลล์ หากได้เดินเข้าไปสำรวจจะพบ วาริมันตราไทยโซน แหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมขนาดย่อมอยู่ด้านใน แต่ก่อนอื่น เราขอแวะเล่าที่มาเล็ก ๆ ของชื่อ วาริมันตรา สักหน่อย เพราะชื่อนี้ให้ความหมายถึง มนต์เสน่ห์แห่งสายน้ำ ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากคลองมหาสวัสดิ์ คลองที่มีประวัติยาวนานมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 4 ซึ่งในสมัยนั้นได้มีการสร้างศาลาขึ้นมาตามคลอง เพื่อเป็นที่พักและทำกิจกรรมต่าง ๆ เช่น ศาลาตำรายา โดยปัจจุบันคลองมหาสวัสดิ์ได้ตัดผ่าน The Salaya Leisure Park ด้วย จึงใช้ชื่อ วาริมันตรา ในการเปรียบเปรยว่าอยากให้ที่นี่เป็นเสมือนแม่น้ำที่จะพาทุกคนมาเรียนรู้อย่างหลากหลายและไร้ขีดจำกัดไปด้วยกัน
จุดแรกของวาริมันตราไทยโซนคือ ส่วนศิลปะนคร (Art City) ซึ่งเปิดให้ทุกคนที่สมัครใจรักในงานคราฟต์มาร่วมทำเวิร์กชอปได้ทุก ๆ วันอังคารถึงวันอาทิตย์ ตั้งแต่ 10.00-18.00 น. โดยจะมีระยะเวลาต่อรอบราวหนึ่งชั่วโมง ที่เราสามารถเลือกทำตามความสนใจตั้งแต่ การวาดหน้ากากโขน ทำลูกชุบไทยโทน ปั้นเบเกอรีดินหอม หรือการทำผ้ามัดย้อม ซึ่งที่นี่พยายามใช้สีที่มีส่วนผสมของสารเคมีน้อยที่สุด อย่างเฉดสีไทยโทนที่สกัดจากวัสดุธรรมชาติ เช่น สีเสน (ส้ม) จากเปลือกหัวหอม สีมอคราม (ฟ้า) จากต้นครามและปูนขาว สีชาด (แดง) จากไม้ฟางหรือสีน้ำตาลจากเปลือกมังคุด ซึ่งวิทยากรบอกเกร็ดเล็ก ๆ มาว่าหากนำสีที่สกัดได้มาผสมเข้ากับเกลือ สารส้มหรือโคลน จะทำให้สีมีความติดทนมากยิ่งขึ้น
อีกหนึ่งเวิร์กชอปที่น่าสนใจไม่แพ้กันคือในส่วน ศาลายา (Salaya) เป็นการปรุงกลิ่นที่เราสามารถเลือกทำได้ไม่ว่าจะเป็นน้ำหอมหรือ Diffuser กิจกรรมนี้เรียกว่าได้เรียนรู้กันตั้งแต่ภาคทฤษฎีหรือการกำหนดสูตรผสมกลิ่นกันเลยทีเดียว ทั้งหมดทั้งมวลนอกจากความเพลิดเพลิน ยังได้ของที่มีชิ้นเดียวบนโลกติดไม้ติดมือกลับบ้านไปด้วย
สำหรับใครที่ชื่นชอบศิลปะโขน ห้องหนุมานนคร (Thai Tone Museum) เป็นอีกจุดที่อยากชวนให้แวะเข้าไป ภายในนอกจากจะจัดแสดงหน้ากากโขนของตัวแสดงต่าง ๆ แล้ว ยังมีตู้จัดแสดงวิธีการทำหัวโขนไว้ให้ดูขั้นตอนต่าง ๆ เป็นลำดับ ซึ่งหากใครสนใจอยากได้กลับไปเป็นของที่ระลึก แต่กลัวทำเวิร์กชอปไม่ไหว ห้องนี้มีหน้ากากโขนขนาดเล็กจำหน่ายอยู่ด้วยเช่นกัน
ความว้าวที่สองคือการแสดงโชว์ ไม่ว่าจะเป็นการแสดงคาบาเรต์ Theatre Show: Abnormal Episode ที่แม้จะเป็นโรงละครขนาดเล็ก แต่กลับสนุกและสะกดคนดูได้อยู่หมัด โดยเขาจะมีรอบการแสดงทุก ๆ วันเสาร์ ตั้งแต่เวลา 17.00-18.00 น. โดยทีมนักแสดงที่สังกัดประจำอยู่ที่ The Salaya Leisure Park โดยเฉพาะ
ทางฝั่ง Cave Show จะเป็นการแสดงแบบไทยประยุกต์ ในตอน หนุมานจับนาง 4 ภาค โดยทีมนักแสดงชุดเดียวกัน ซึ่งนอกจากตัวโชว์ที่มากับจังหวะสนุก ๆ ชวนติดตามอยู่แล้ว การรับส่งระหว่างนักแสดงกับคนดูยิ่งทำให้โชว์สนุกขึ้นไปอีกขั้น ซึ่งในส่วนของ Cave Show จะเปิดการแสดงวันละ 3 รอบคือรอบ 11.00 น. 13.00 น. และ 14.00 น.
อิ่มตาอิ่มใจแล้ว ความอิ่มท้องก็สำคัญ แต่เรื่องอาหารการกินไม่ต้องห่วงว่าจะยุ่งยาก เพราะที่นี่มีให้เลือกตั้งแต่สไตล์อเมริกัน ติ่มซำฮ่องกง อาหารเกาหลี และอาหารไทย แต่ที่เราขอขีดเส้นไฮไลต์ไว้เลยคือ ครัวนครปฐม ซึ่งเสิร์ฟอาหารไทยพื้นบ้านหากินยาก แถมให้รสจัดจ้านถูกปากคนไทยเอามาก ๆ โดยเฉพาะ น้ำพริกนครบาล สูตรของเชฟที่มีต้นตำรับมาจากสูตรของเจ้าพระยาภูธราภัย โดยน้ำพริกนครบาลจะมีส่วนผสมที่แตกต่างไปจากน้ำพริกอื่น ๆ นั่นคือความเผ็ดที่มาจากส่วนผสมของพริกแห้งบางช้าง พริกจินดาไทย และมีความเปรี้ยวที่ได้จากตะลิงปลิง มะม่วงเปรี้ยวและมะอึกซอย เมนูนี้เข้ากันมากกับผักสดและข้าวสวยร้อน ๆ อ้อ… มาถึงนครปฐมทั้งทีอย่าลืมสั่งเมนูจากส้มโออย่าง สีดาลุยไฟ หรือ แกงคั่วส้มโอหอยแมลงภู่ กันด้วย เป็นอีกหนึ่งเมนู Recommended ของที่นี่เลย
ฝั่งของหวานเมนูหากินยากอย่าง ส้มฉุน ได้ใจไปครองด้วยความคล้ายกับผลไม้ลอยแก้ว แต่ความพิเศษอยู่ที่ส่วนผสมอย่างส้มซ่าซึ่งเขาแนะนำให้คนก่อนกินเพื่อให้กลิ่นของส้มซ่าชัดขึ้น แถมยังเพิ่มกลิ่นของหอมเจียวและขิงที่โรยหน้าเข้ามาด้วย เป็นเมนูคลายร้อนที่มาปิดท้ายมื้ออาหารแบบไทย ๆ ได้เหมาะทีเดียว แต่บอกก่อนว่าครัวนครปฐมเหมาะสำหรับการเป็นอาหารมื้อกลางวันที่สุด เพราะเขาเปิดในช่วง 10.00-18.00 น. เท่านั้น แต่แอบแว่วมาว่าเขากำลังจะมี Exclusive Dinner ในถ้ำ Cave Show ด้วย ต้องรอติดตามกัน
เผ็ดร้อนแบบอาหารไทยไปแล้ว เราขอข้ามฝั่งมาที่ Rosemary House เอาใจสายขนมหวานแบบซอฟต์ ๆ บ้าง ท่ามกลางการตกแต่งแบบ Glass House ที่ยิ่งใครอยากลองหลุดเข้าไปอยู่ในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 19 ของอังกฤษ ที่นี่เขามีบริการเช่าชุดวินเทจเพื่อช่วยสร้างบรรยากาศให้แก่การจิบชาแบบผู้ดีอังกฤษเสียด้วย ใครเป็นสายถ่ายภาพต้องจัดเต็มสักหน่อย เพราะจะเข้ากันมากกับชุดน้ำชาซึ่งเขาเลือกใช้เป็นของ Antique จริง ๆ
แต่นอกจากบรรยากาศที่ดีแล้ว ชุด Afternoon Tea ก็จัดว่าดีงาม เพราะมีชาให้เลือกหลากหลายทั้งชานำเข้า ชาจีนและชาไทย แต่ที่เป็นซิกเนเจอร์ของที่นี่คือ ชาลายา ซึ่งเขาเลือกใช้ชานำเข้าจากสวีเดนมาเบลนด์เข้ากับดอกไม้ ยิ่งจิบคู่กับเซตขนมหวานสไตล์ไทยฟิวชันอย่าง เค้กลอดช่อง เค้กบัวลอยคอมโบไข่เค็มหรือข้าวเหนียวมูนท็อปด้วยอาลัวสดแม้หน้าตาภายนอกจะดูอินเตอร์ แต่ด้านรสชาติเหมือนได้กินขนมไทยจริง ๆ เลย
ต้องบอกก่อนว่าข้างต้นเราหยิบเพียงส่วนหนึ่งมาเป็นไฮไลต์เท่านั้น เพราะอย่างที่บอกว่า The Salaya Leisure Park เขามากับคอนเซ็ปต์ Happiness 360° ที่ตั้งใจมอบหลากหลายประสบการณ์ ที่นี่จึงเป็นอีกหนึ่งคอมมูนิตีที่ค่อนข้างตอบโจทย์ทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะมาแบบ Day Trip, Seminar Trip หรือมารีแลกซ์ระหว่างวันเพื่อเติมชีวิตชีวาก็ตอบโจทย์สมกับคอนเซ็ปต์ Happiness 360° จริง ๆ
Fact File
- The Salaya Leisure Park ต.ศาลายา จ.นครปฐม เปิดทำการวันอังคาร-วันอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 10.00-24.00 น.
- Facebook : THE SALAYA
- Instagram : the.salaya
- เว็บไซต์ : www.thesalaya.com