เปิด Central: The Original Store แบบชั้นต่อชั้น ร้านค้ารูปแบบใหม่ที่เชื่อมประวัติศาสตร์แบรนด์กับไลฟ์สไตล์

อาคาร 5 ชั้นอายุร่วมร้อยปีบริเวณปากซอยเจริญกรุง38 กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นจุดกำเนิดร้านค้าปลีกแห่งแรกของกลุ่มเซ็นทรัล เครือธุรกิจค้าปลีกเบอร์ต้นของประเทศไทย ได้มีการรีโนเวตครั้งใหญ่เพื่อปรับให้เป็น เซ็นทรัล: ดิ ออริจินัล สโตร์ ( Central: The Original Store ) ที่แตกต่างกับทุกสาขาของเซ็นทรัลอย่างสิ้นเชิง

ที่นี่จะลบภาพจำห้างสรรพสินค้าแบบเดิม ๆ โดยออกแบบพื้นที่ให้เชื่อมโยงประวัติศาสตร์ของย่านเก่าเจริญกรุงกับความเป็นมาของแบรนด์เซ็นทรัลภายใต้บริบทร่วมสมัย ภายในอาคารซึ่งใช้เวลาในการรีโนเวตร่วม 3 ปีจึงประกอบไปด้วยร้านหนังสือจำหน่ายนิตยสารและหนังสือวินเทจ ห้องสมุดและศูนย์บริการค้นคว้าข้อมูลดิจิทัลเกี่ยวกับธุรกิจค้าปลีก พื้นที่จัดนิทรรศการและกิจกรรม คาเฟ่ บาร์แจ๊ส และร้านอาหารที่นำเสนออาหารไทยยุค 50s โดยเชฟชื่อดัง เดวิด ทอมป์สัน

“เราอยากจะย้อนรำลึกถึงจุดเริ่มต้นของเซ็นทรัลและเชื่อมโยงกับคนรุ่นใหม่ได้โดยคงสปิริตและกลิ่นอายของอดีตพร้อมกับสร้างประสบการณ์ใหม่บนพื้นที่ย่านเจริญกรุงซึ่งเป็น Creative District” เต้-บรม พิจารณ์จิตร ทายาทรุ่นที่ 4 กล่าวถึงคอนเซ็ปต์ของโปรเจกต์นี้ภายหลังจากที่เขาประสบความสำเร็จในการปลุกปั้นเซ็นทรัล เอ็มบาสซี, Co-living Space Open House และร้านค้ามัลติแบรนด์ Siwilai

อาคารอันเป็นที่ตั้งของ Central: The Original Store ถือเป็นทรัพย์สินแรกที่เตียง และบุตรชายคนโต สัมฤทธิ์ จิราธิวัฒน์ ผู้ก่อตั้งกลุ่มเซ็นทรัลได้ซื้อไว้เมื่อพ.ศ.2493 หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เพื่อจำหน่ายหนังสือนำเข้าและนิตยสารเก่าจากอเมริกาก่อนจะขยับขยายไปสู่การนำเข้าสินค้าอุปโภคบริโภคจากต่างประเทศมาจำหน่ายและเปิดห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลสาขาแรกที่ย่านวังบูรพาเมื่อ พ.ศ.2499

จากจุดเริ่มต้นของพื้นที่ที่เป็นร้านจำหน่ายหนังสือและนิตยสารจากต่างประเทศในยุค 50s บริเวณชั้น 1 ของเซ็นทรัล: ดิ ออริจินัล สโตร์ จึงดีไซน์ให้เชื่อมโยงกับประวัติศาสตร์โดยจำหน่ายนิตยสารวินเทจและหนังสือไลฟ์สไตล์เกี่ยวกับยุค 1950-1970 เช่นนิตยสาร Life, Esquire, Look, GQ, Vogue และ Gentry พร้อมกับจัดแสดงข้าวของในอดีตของห้างเซ็นทรัลในตู้กระจก อาทิ บิลเงินสด, ถุงชอปปิง และของใช้ที่เป็นของสมนาคุณแก่ลูกค้า นอกจากนี้ยังจำหน่ายสินค้าที่ระลึก เช่น สมุดจด ดินสอ เสื้อยืด หมวกและกระเป๋าผ้า ซึ่งออกแบบโดยอิงกับลวดลายที่ปรากฏบนข้าวของเครื่องใช้ในอดีตของห้าง

“เจริญกรุง หรือ New Road เป็นย่านที่เกิดสิ่งแรกในไทยหลายอย่างเพราะเป็นจุดศูนย์รวมวัฒนธรรมของตะวันออกและตะวันตก บาร์แจ๊ส ร้านขายกล้อง ร้านอาหารญี่ปุ่นล้วนเปิดครั้งแรกบนถนนเส้นประวัติศาสตร์นี้” เต้กล่าว

ลานคอร์ตยาร์ดของอาคารชั้นล่างนอกจากจะเป็นพื้นที่นั่งชิลของ Siwilai Café ในช่วงเวลากลางวันแล้ว เมื่อตกกลางคืนจะเปลี่ยนโหมดเป็น Siwilai Sound Club โดยจะมีนักดนตรีบรรเลงเพลงแจ๊สจากเปียโนที่ตั้งโดดเด่นตรงกลางด้วยระบบเสียงที่ทำขึ้นมาโดยเฉพาะจากแบรนด์ OJAS และหากขึ้นบันไดด้านข้างที่ออกแบบโดยซ่อนโครงสร้างของบันไดเสมือนเป็นพื้นที่ลับจะเป็นส่วนที่เรียกว่า ออดิโอไฟล์ บาร์ (Audiophile Bar) ซึ่งโดดเด่นด้วยคอลเล็กชันแผ่นเสียงไวนิลนับพัน ๆ แผ่นที่โชว์อยู่ด้านหลังของเคาน์เตอร์บาร์และพร้อมจะนำมาเปิดเพื่อเสริมสร้างบรรยากาศให้แก่บาร์

บริเวณชั้น 2 เป็นพื้นที่ที่เรียกว่า เดอะ โคโลฟอน รีเทล ไลบรารี่ (The Kolophon Retail Library) มุ่งเน้นการต่อยอดธุรกิจค้าปลีกในด้านต่างๆโดยเป็นทั้งห้องสมุดขนาดย่อมและศูนย์บริการค้นคว้าข้อมูลดิจิทัล นอกจากจะมีหนังสือหลายหมวดไม่ว่าจะเป็นเรื่องการลงทุน การจัดการบัญชี การบริหารธุรกิจ ไปจนถึงงานดีไซน์ แฟชั่น และอาหาร ที่นี่ยังให้บริการระบบสืบค้นโดยเชื่อมโยงกับฐานข้อมูลที่เชื่อถือได้อย่างสำนักพิมพ์ Bloomsbury, Nikkei Asia และ Deal Street Asia ที่ทางห้องสมุดเป็นสมาชิก

ผู้ที่สนใจสามารถใช้บริการอ่านหนังสือได้ในราคา 100 บาทต่อวัน หรือหากต้องการสืบค้นคลังข้อมูลสากล (Archival Databases) เสียค่าใช้จ่าย 300 บาทต่อการสืบค้น 90 นาที นอกจากนี้ยังมีสมาชิกรายปีในอัตราเริ่มต้นที่ปีละ 1,500 บาท

“เรายังมีบริการ Research by Project ที่มีทีมงานรีเสิร์ชข้อมูลเชิงลึกตามความต้องการของแต่ละบุคคล เช่นคุณอยากจะเปิดร้านอาหารญี่ปุ่นแนวโอกินาวา เราก็จะหาข้อมูลให้ทั้งจากหนังสือและฐานข้อมูลดิจิทัลที่จำเป็นต้องรู้ในการเริ่มธุรกิจของคุณ ในโลกปัจจุบันที่ข้อมูลมีอยู่มากมายแต่เชื่อถือไม่ได้ก็เยอะ ข้อมูลที่เราจัดหามาให้เชื่อถือได้แน่นอน” เชน สุวิกะปกรณ์กุล เจ้าของสำนักพิมพ์ Serindia Publications และผู้รับผิดชอบการบริหารร้านหนังสือและห้องสมุดให้เซ็นทรัล: ดิ ออริจินัล สโตร์ กล่าว

ประวัติศาสตร์การก่อร่างสร้างแบรนด์เซ็นทรัลยังถูกถ่ายทอดผ่านรูปแบบนิทรรศการขนาดย่อมบนพื้นที่บริเวณชั้น 3 ที่เรียกว่าเซ็นทรัล สเปซ ส่วนบริเวณชั้น 4 เปิดเป็นพื้นที่สำหรับจัดอีเวนต์

ชั้นบนสุดของอาคารเป็นที่ตั้งของร้านอาหารชื่อ อักษร (Aksorn) โดยเชฟเดวิด ทอมป์สัน (David Thompson) ที่เสิร์ฟอาหารไทยแบบดั้งเดิมตามตำราอาหารไทยโบราณที่ตีพิมพ์ในช่วงระหว่างทศวรรษที่ 50-70 จากคอลเล็กชันสะสมของเชฟเอง

“ในช่วงแรกนี้เราจะนำเสนออาหารไทยตามสูตรโบราณ13 อย่างที่บันทึกไว้ในหนังสือชื่อ ‘หนังสือกับข้าวสอนลูกหลาน กับ ผลไม้ ของว่าง และขนม’ โดยท่านผู้หญิงกลีบ มหิธร (พิมพ์เป็นอนุสรณ์ในการพระราชทานเพลิงศพของท่านผู้หญิงกลีบ มหิธร เมื่อเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2504) ซึ่งมีเมนูที่หากินไม่ได้แล้วอย่าง หมูจ้างที่คล้ายๆพะโล้แห้ง และห่อหมกหมูใส่ถั่วลิสง ทุกๆ 2 เดือนเราก็จะเปลี่ยนเมนูโดยใช้หนังสือเล่มอื่นๆ” เชฟเดวิดกล่าว

เชฟเดวิดชาวออสเตรเลียเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการนำอาหารไทยสู่เวทีโลกจากการเปิดร้าน Nahm ร้านอาหารไทยแบบไฟน์ไดน์นิงที่กรุงลอนดอนเมื่อ พ.ศ.2544 และนับเป็นร้านอาหารไทยร้านแรกที่ได้รับดาวมิชลิน 1 ดวง หลังจากเปิดให้บริการเพียง 6 เดือนเท่านั้น แต่ปัจจุบันเชฟเดวิดได้โบกมือลาจากธุรกิจร้านอาหารที่เขาก่อตั้งแล้ว

ร้านอักษรเปิดบริการอาหารมื้อค่ำในรูปแบบคอร์สเมนูราคา 2,800 บาท++ ต่อคน โดยเสิร์ฟอาหารไทยโบราณ อาทิ หมูจ้าง กุ้งแนม แกงเนื้อกับถั่วลิสง ปลาบู่ต้มกระชาย ไก่ผัดต้นหอม สาเกเชื่อม และข้าวเม่าบด

ในส่วนของตัวอาคาร สถาปนิกชาวเบลเยียม วินเซนต์ แวน ดอยเซน (Vincent Van Duysen) ได้ตีความเรื่องราวความเป็นมาและประวัติศาสตร์ของห้างเซ็นทรัลในรูปแบบดีไซน์ที่ร่วมสมัยบนโครงสร้างของตัวอาคารเก่าดั้งเดิม ตัวอาคารหลักปูด้วยกระเบื้องดินเผาทำมือแบบดั้งเดิมจากจังหวัดลำปางเช่นเดียวกับงานปูกระเบื้องพื้นผิวด้านหน้าของห้างเซ็นทรัลชิดลมในยุคแรก แผงกระจกใสจากพื้นจดเพดานบริเวณด้านหน้าที่อยู่ติดถนนชวนให้นึกถึงการจัดหน้าต่างแสดงสินค้า (Window Display) ซึ่งเซ็นทรัลเป็นผู้นำยุคแรกๆ 

ภาพ : เซ็นทรัล: ดิ ออริจินัล สโตร์

Fact File

• เซ็นทรัล: ดิ ออริจินัล สโตร์ ตั้งอยู่บริเวณปากซอยเจริญกรุง 38 กรุงเทพฯ 
• เปิดบริการ วันอังคาร-อาทิตย์ เวลา 10.00-18.00 น. ยกเว้น Siwilai Sound Club เปิดบริการเวลา 18.00-01.00 น. และร้านอาหารอักษร เปิดบริการเวลา 18.00-22.00 น.
• รายละเอียดเพิ่มเติม คลิก www.centraltheoriginalstore.com