รอยไหมแห่งอาณาจักรจามปา ที่ซ่อนอยู่ใจกลางสยาม ณ บ้านครัว
- บ้านครัว ชื่อนี้คือชุมชนมุสลิมเชื้อสายจามที่อพยพมาจากอาณาจักรจามปา และได้เข้าร่วมรบในสมัยสงครามเก้าทัพในนาม กองอาสาจาม จนได้รับพระราชทานที่ดินจากรัชกาลที่ 1 เพื่อตั้งครัวเรือนบริเวณป่าไผ่ทุ่งพญาไท
- ชาวมุสลิมจามขึ้นชื่อและมีความสามารถในการทอผ้าไหม โดยเดิมทีทอใช้กันภายในครัวเรือนเป็นหลัก และต่อมาก็ได้ทอลวดลายพิเศษเพื่อถวายแก่ราชสำนักสยาม
- เจมส์ เอช. ดับเบิลยู. ทอมป์สัน อดีตเจ้าหน้าที่ซีไอเอ ผู้ที่ต่อมากลายเป็นคนบุกเบิกอุตสาหกรรมผ้าไหมไทย เข้ามาทำงานร่วมกับชุมชน บ้านครัว และให้ชุมชนบ้านครัวเป็นแหล่งผลิตผ้าไหมของแบรนด์
สยาม และย่านปทุมวันยังมี Hidden Place ซ่อนอยู่อีกมากมาย และหนึ่งในนั้นก็คือชุมชน ผ้าไหม บ้านครัว ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของแบรนด์ผ้าไหม จิม ทอมป์สัน ส่วนปัจจุบันที่ยังเหลือโรงทอผ้าไหมอยู่หนึ่งโรง และโรงย้อมสีเส้นไหมริมคลองแสนแสบอีกหนึ่งแห่ง กลายเป็นแหล่งทำ ผ้าไหม แห่งเดียวในใจกลางกรุงเทพฯ ที่ยังคงหลงเหลืออยู่
บ้านครัว ชื่อนี้คือชุมชนมุสลิมเชื้อสายจามที่อพยพมาจากอาณาจักรจามปา (แต่เดิมตั้งอยู่ในดินแดนของประเทศเวียดนามและกัมพูชา) และได้เข้าร่วมรบในสมัยสงครามเก้าทัพในนาม กองอาสาจาม จนได้รับพระราชทานที่ดินจากรัชกาลที่ 1 เพื่อตั้งครัวเรือนบริเวณป่าไผ่ทุ่งพญาไท (ปทุมวัน-ราชเทวี) ริมคลองแสนแสบ
ชาวมุสลิมจามขึ้นชื่อและมีความสามารถในการทอผ้าไหม โดยเดิมทีทอใช้กันภายในครัวเรือนเป็นหลัก และต่อมาก็ได้ทอลวดลายพิเศษเพื่อถวายแก่ราชสำนักสยาม จุดเปลี่ยนของชุมชน บ้านครัว และวงการผ้าไหมไทยเกิดขึ้นหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อ เจมส์ เอช. ดับเบิลยู. ทอมป์สัน อดีตเจ้าหน้าที่ซีไอเอ ผู้ที่ต่อมากลายเป็นคนบุกเบิกอุตสาหกรรมผ้าไหมไทยให้โด่งดังไปทั่วโลกภายใต้แบรนด์ จิม ทอมป์สัน จนได้รับฉายาว่า “ราชาผ้าไหมไทย” เข้ามาทำงานร่วมกับชุมชนบ้านครัว และให้ชุมชนบ้านครัวเป็นแหล่งผลิตผ้าไหมของแบรนด์
นายห้างจิมของชาวบ้านครัว ได้เพิ่มเทคนิคการย้อมไหมด้วยสีเคมีให้มีเฉดสีสดใสและหลากหลายมากขึ้นจากสีธรรมชาติ จากนั้นจึงตีตรานำไหมไทยเข้าสู่ตลาดสิ่งทอระดับโลก จิม ทอมป์สันยังสร้างบ้านเรือนไทยฝั่งตรงข้ามกับชุมชนเพื่อสะดวกต่อการทำงานและปัจจุบันกลายมาเป็น พิพิธภัณฑ์บ้านจิม ทอมป์สัน
แต่เมื่อ จิม ทอมป์สัน หายสาบสูญอย่างลึกลับที่ประเทศมาเลเซียเมื่อ พ.ศ.2510 พร้อมกับทางแบรนด์ จิม ทอมป์สัน ก็ได้จัดตั้งบริษัทอุตสาหกรรมไหมไทยโดยได้ขยายฐานการผลิตไปที่จังหวัดนครราชสีมา การทอผ้าในชุมชนบ้านครัวที่เคยทำกันแทบทุกครัวเรือนก็เริ่มกลายเป็นเพียงภาพจำในอดีต
ปัจจุบันเหลือโรงทอเพียงแห่งเดียวคือบ้านของ นิพนธ์ มนูทัศน์ ที่ยังสืบทอดภูมิปัญญาการทอผ้าของแขกจามและถือเป็นจุดตั้งต้นของ ผ้าไหม จิม ทอมป์สัน ส่วนโรงย้อมเส้นไหมเพียงหนึ่งเดียวเป็นของ มนัสนันท์ เบญจรงค์จินดา หรือ ลุงอู๊ด ซึ่งไม่ได้สืบเชื้อสายมาจากจาม แต่ได้มีโอกาสเข้ามาฝึกหัดย้อมเส้นไหมในชุมชนบ้านครัวตั้งแต่อายุเพียง 13 ปี
โรงทอของนิพนธ์ ยังคงเปิดบ้านให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชมอยู่ตลอด ป้ายสีแดงที่แขวนเหนือประตูทางเข้าว่า Welcome to Old Jim Thompson Factory (Since 1947) บ่งบอกประวัติศาสตร์ของชุมชนและความภาคภูมิใจในมรดกภูมิปัญญาของบรรพบุรุษที่นิพนธ์ในวัย 72 ปี พยายามสืบทอดและต่อยอดไม่ให้สูญหาย
ภายในบ้านยังมีกี่ทอมือ 6 หลัง และมีช่างทอ 3 คน ที่สร้างสรรค์ผ้าไหมผืนงามลวดลายเอกลักษณ์ของชุมชนเช่น ลายเกล็ดเต่า ลายสายฝน ลายหางกระรอก และลายลูกฟูก จนได้รับเครื่องหมายรับรองผลิตภัณฑ์ตรานกยูงพระราชทาน และ OTOP 5 ดาวของเขตราชเทวี
“สมัยที่ทำผ้าไหมให้คุณจิม ที่บ้านมีกี่ทอผ้าถึง 50 หลังเรียกว่าเป็นแหล่งใหญ่ของการผลิตให้จิม ทอมป์สัน ออร์เดอร์เยอะมากๆ กว่าจะหมดออร์เดอร์ที่ค้างสต็อกก็ร่วม 10 ปีหลังจากที่คุณจิมหายตัวไป บ้านเราเป็นบ้านสุดท้ายในชุมชนที่ส่งผ้าให้แบรนด์จิม ทอมป์สัน” นิพนธ์ กล่าว
อีกหนึ่งความภาคภูมิใจของนิพนธ์คือการสร้างสรรค์ผ้าไหมเหลืองสิรินธรที่ใช้ไหมรังเหลืองโดยไม่ผ่านการฟอกและย้อมสี แค่แช่น้ำด่างตามแบบโบราณ ทำให้ได้ไหมที่แข็งแรงและเมื่อทอเส้นไหมไม่แตกออกและมีความโปร่ง
ในส่วนของโรงย้อมเส้นไหมนั้นปัจจุบันก็มีกำลังการผลิตที่ลดลง ถ้าวันไหนโชคดีก็อาจจะได้เห็นขบวนการย้อม และการตากไหม ซึ่งยังทำอยู่ใต้ถุนบ้าน เห็นแล้วก็ให้นึกถึงอดีตของชุมชน บ้านครัว ที่มีการตากเส้นไหมตลอดริมคลองแสนแสบ และยังไม่ทันจะข้ามฝั่งคลองก็จะได้ยินเสียงกี่ทอผ้าดังกระทบกันก้องไปทั่วชุมชน
Fact File
- ผู้สนใจสามารถเข้าชมการทอผ้าไหมแบบดั้งเดิมของชุมชนบ้านครัวที่บ้านของนิพนธ์ มนูทัศน์ ได้ในวันจันทร์-เสาร์ เวลา 8.00-17.00 น.
- นัดหมายล่วงหน้าหากต้องการให้นิพนธ์นำชม โทร. 08-1243-9089