Pour Over Lab ห้องแล็บที่จะพาไปดำดิ่งกับกาแฟ Specialty
Brand Story

Pour Over Lab ห้องแล็บที่จะพาไปดำดิ่งกับกาแฟ Specialty

Focus
  • Pour Over Lab ร้าน Special Coffee ที่เพิ่งเปิดทำการเมื่อราวต้นปี 2563 กับคอนเซ็ปต์ห้องแล็บวิทยาศาสตร์ ซึ่งอัดแน่นไปด้วยอุปกรณ์ทำกาแฟที่หลากหลายนอกเหนือจาก Espresso Machine ที่ ปาณิสรา เจ้าของร้านตั้งใจอยากให้คุณภาพกาแฟออกมาดีที่สุด
  • หากอยากสวมบทเป็นนักทดลองดูบ้าง นอกจากจุด Lab Yourself ที่ลูกค้าสามารถกดปุ่มดริปออโต้ด้วยเครื่อง Poursteady เองได้แล้ว หากอยากทดลองเบลนด์เมล็ดกาแฟเอง เป็นกลิ่นเฉพาะ รสเฉพาะของตัวเองก็ทำได้เช่นกัน

Pour Over Lab คือ ห้องแล็บกาแฟที่เพิ่งเปิดทำการเมื่อราวต้นปี ตัวร้าน ตั้งอยู่ชั้น 1 ภายในมัลติแบรนด์สโตร์อย่าง Cazh สยามดิสคัฟเวอรี แค่มองเห็นจากหน้าร้านก็ปิ๊งแล้วด้วยโทนสีขาวดูสะอาดตา โปร่งโล่งด้วยกระจกบานใหญ่ และอัดแน่นด้วยอุปกรณ์ทำกาแฟแบบจัดเต็ม ด้วยความตั้งใจของ ปาณิสรา เอี่ยมโหมด เจ้าของร้าน 

“ตอนที่เราคิดร้านนี้ขึ้นมาเราก็นึกกันว่าอะไรที่จะเอามาประยุกต์ใช้กับกาแฟได้ เราเลยคิดว่าการนำวิทยาศาสตร์เข้ามาประยุกต์ใช้กับกาแฟและเมนูต่าง ๆ น่าจะดี เพราะทุกเมนูมีการคิดค้น มีการวิจัยและการทดลอง เพื่อให้ได้เมนูทั้งหมดของร้านที่ทำออกมา คอนเซ็ปต์ของร้าน รวมถึงการตกแต่งเลยเป็นเหมือนห้องแล็บวิทยาศาสตร์”

Pour Over Lab

เมล็ดกาแฟของทางร้านมีให้เลือกหลากหลาย โดยส่วนใหญ่ที่มีจะเป็นเมล็ดกาแฟนำเข้าที่ทางร้านนำมาคั่วเอง ซึ่งสามารถเลือกได้ทั้งแบบ Single Origin จากฟาร์มเดียว หรือหากลูกค้าอยากลองเบลนด์เอง เป็นกลิ่นเฉพาะ รสเฉพาะของตัวเองก็ทำได้เช่นกัน ต้องการแบบไหนสามารถขอคำแนะนำจาก Coffee Professional หรือก็คือ บาริสต้า ได้เลย ซึ่งบาริสต้าทุกคนของที่นี่ต้องผ่านการเทรนด์เรื่องกาแฟ Specialty มาก่อนอย่างน้อย 6 เดือน เพื่อให้มีความเชี่ยวชาญและสามารถแนะนำลูกค้าได้

คอนเซ็ปต์ห้องแล็บของที่นี่ไม่ได้มาแค่ชื่อ แต่กระจายอยู่ในทุก ๆ ส่วนของร้าน ตั้งแต่ชุดของบาริสต้า อุปกรณ์ต่าง ๆ ไปจนถึงบรรจุภัณฑ์ใส่เมล็ดกาแฟ (200 กรัม) สำหรับซื้อกลับที่ออกแบบให้มีลักษณะคล้ายขวดสารเคมีสีชา ที่นอกจากจะเข้ากับคอนเซ็ปต์ร้านแล้วยังสามารถนำมารียูสสำหรับการซื้อครั้งต่อไปได้ แถมยังได้รับส่วนลดอีกต่างหาก

เรื่องอุปกรณ์ ถือเป็นจุดเด่นอย่างหนึ่งของ Pour Over Lab เลย “ร้านเราจะไม่มี Espresso Machine เพราะเราอยากให้คนกินกาแฟรู้ว่ากาแฟไม่ได้ทำจาก Espresso Machine อย่างเดียว เราสามารถสกัดกาแฟได้หลากหลายวิธี ซึ่งก็จะมีทั้งดริปเปอร์แบบต่าง ๆ Syphon, Chemex, Delter Press, French Press ที่เรามีให้ลูกค้าเลือกหลากหลาย เราสามารถแนะนำได้ว่าแต่ละตัวมีความแตกต่างกันอย่างไร เช่นดริปเปอร์ Origami (World Brewers Cup Champion 2019) ก็จะช่วยในเรื่องของความไบร์ท ถ้าเลือกเมล็ดกาแฟที่มีความหนัก ก็อาจจะแนะนำเป็นดริปเปอร์ตัวนี้ หรือ Tetsu Kasuya V60 (World Brewers Cup Champion 2016) ก็จะช่วยให้กาแฟมีความเข้มขึ้น มีบอดี้ที่หนักขึ้น”

Pour Over Lab

นอกจากความสนุกเสมือนได้ดูการทดลองจาก Coffee Professional ในการทำ Hand Drip แล้ว ลูกเล่นอีกอย่าง สำหรับคนที่อยากลงมือทดลองดูบ้างคือ Lab Yourself โดยหลังจากเลือกเมล็ดกาแฟและดริปเปอร์ได้แล้ว จะเป็นการให้เรากดปุ่มดริปเองด้วยเครื่อง Poursteady ซึ่งเป็นการดริปแบบออโตทำให้กาแฟที่ได้ออกมามีความเสถียรของกลิ่นและรสในแบบที่ต้องการ

แต่ที่เป็นไฮไลต์เลยคือเครื่อง One Dutch ที่ปาณิสราบอกกับเราว่าที่นี่เป็นเครื่องแรกในประเทศไทย

“One Dutch เป็นเครื่องทำ Cold Drip แบบออโตความพิเศษของเครื่องนี้จะย่นระยะเวลาในการทำ Cold Drip ให้เร็วขึ้น ซึ่งปกติจะใช้เวลาประมาน 2 วัน แต่เครื่องนี้จะใช้เวลาในการทำอยู่ที่ 8 ชั่วโมงก็จะได้ออกมา 1 ขวด เฉลี่ยอยู่ที่ขวดละประมาน 1 ลิตร ใน 1 ครั้งเราจะได้กาแฟทั้งหมด 8 ตัว ที่จะดึงมาเป็นกาแฟซิกเนเจอร์ของร้าน”

Pour Over Lab

ซิกเนเจอร์เมนูที่เราขอเทคะแนนใจให้เลยคือเมนูที่มีส่วนผสมของส้มยูซุอย่าง Orenji Dutch ที่หยิบกาแฟ Cold Drip มามิกซ์กับความหอมสดชื่นของส้มยูซุ เสิร์ฟมาในน้ำแข็งก้อนกลม ให้ความรู้สึกเฟรชซึ่ง Sphere Moon จะให้กลิ่นรสคล้ายกัน แต่จะต่างกันที่เนื้อสัมผัสของส้มยูซุที่นำไปปั่นก่อน

Pour Over Lab

ในช่วงนี้ Pour Over Lab เขามีเมนูพิเศษอย่าง Tiramisu Dutch ซึ่งเป็นเมนูที่ได้แรงบันดาลใจมาจากทีรามิสุสูตรดั้งเดิมจากอิตาลี แต่สำหรับใครที่ไม่ถนัดกาแฟ เมนู Non Coffee ของที่นี่ก็น่าสนใจไม่แพ้กัน เช่น ความละมุนของเมนูเฟรปเปอย่าง Brownie Snow ที่นำบราวนีโฮมเมดสูตรของทางร้านมาปั่นรวมกับนม หรือจะเป็น Seasoning Mocktail สีสดใสที่ได้แรงบันดาลใจมาจากสี่ฤดูกาล เช่นเมนู Summer ที่ภายนอกดูเป็นสายหวานด้วยสีชมพู แต่แอบแฝงความร้อนแรงเอาไว้ในรสชาติเหมือนฤดูร้อน 

กิมมิกมัดใจอีกอย่างคือในทุก ๆ เมนูเครื่องดื่มของ Pour Over Lab จะเสิร์ฟมาพร้อมกับน้ำเปล่าสีฟ้า ซึ่งสกัดจากอัญชัน สามารถยกดื่มได้ทันที เหตุผลมาจากงานวิจัยที่บอกว่าการมองสีฟ้าจะช่วยเพิ่มความรู้สึกปลอดโปร่ง สบายตา ทำให้เวลาเสิร์ฟสามารถช่วยให้ลูกค้ารู้สึกผ่อนคลายและรับรสของกาแฟได้ดีขึ้น

นอกจากเครื่องดื่มแล้ว อย่าลืมสั่งเค้ก Red Velvet และบราวนีโฮมเมดรสเข้มข้นมาลองด้วย แต่หากกินคู่กับกาแฟ ครัวซองต์อัลมอนด์หอม ๆ จะเข้ากันสุดเลย 

Fact File

  • Pour Over Lab ชั้น 1 ตั้งอยู่ภายในร้าน Cazh มัลติแบรนด์สโตร์ สยามดิสคัฟเวอรี Facebook : facebook.com/pouroverlab.th และ Instagram : @pouroverlab.th

Author

สุกฤตา โชติรัตน์
มนุษย์ผู้ค้นพบพลังงานพิเศษจากประโยคในหนังสือ อาหารจานโปรดและเพลงที่ฟัง อยากเลี้ยงแมวและตั้งใจว่าจะออกไปมองท้องฟ้าบ่อยๆ

Photographer

ชัชวาล จักษุวงค์
เคยเป็นนักรีวิว gadget มานานหลายปี ตอนนี้หันมาเอาดีด้านงานถ่ายภาพ ถนัดงานด้านการบันทึกภาพวิถีชีวิตผู้คนและสายการเดินทางท่องเที่ยว