สีฝุ่นไทยโทน “กระยารงค์” แบรนด์ที่ช่างสีต้องอดทนทำและลูกค้าต้องตั้งใจรอ
- “เก่ง” นพพล นุชิตประสิทธิชัย เป็นหนึ่งในไม่กี่คนของช่างศิลปะไทยที่ผลิตสีฝุ่นธรรมชาติจาก Pigment ของหิน ดิน พืชและสัตว์เพื่อให้ได้เฉดสีแบบไทยโทนอย่างงานจิตรกรรมไทยโบราณ
- กระบวนการผลิตแต่ละสีของแบรนด์ “กระยารงค์” มีความซับซ้อน ใช้เวลาและความอดทนสูง อีกทั้งตัวแร่บางชนิดเองมีราคาแพงทำให้สีฝุ่นบางสีมีราคาสูงถึงเกือบ 20,000 บาทต่อกิโลกรัม
- เสน่ห์ของสีฝุ่นธรรมชาติคือความเสถียร คงทน และสีนวลตาไม่จัดจ้านเหมือนสีเคมีและแต่ละสีอยู่ร่วมกันได้อย่างกลมกลืม
สีฝุ่นไทยโทน ที่ทำโดยวัสดุจากธรรมชาติแบบโบราณนั้นหาไม่ง่ายในท้องตลาด…
แร่อะซูไรต์ (Azurite) แร่ซินนาบาร์ (Cinnabar) ดินแดง เปลือกหอยและใบแค คือตัวอย่างของวัสดุธรรมชาติที่ “เก่ง” นพพล นุชิตประสิทธิชัย นำมาผลิต สีฝุ่นไทยโทน แบบทำมือทุกกระบวนการเพื่อให้ได้เฉดสีแบบไทยโทนอย่างงานจิตรกรรมไทยโบราณซึ่งปัจจุบันมีน้อยคนที่จะทำเพราะใช้เวลานานและต้องมีความอดทนสูง และบางสีมีขั้นตอนที่ซับซ้อนยุ่งยาก
เก่งเริ่มทดลองทำสีฝุ่นจากวัสดุธรรมชาติตั้งแต่เรียนจิตรกรรมไทยที่วิทยาลัยเพาะช่างเมื่อ 10 ปีที่แล้วเนื่องจากไม่ต้องการใช้สีฝุ่นที่ผลิตจากสารเคมีที่มีขายในท้องตลาด เขาศึกษาค้นคว้า ลองผิดลองถูกเรื่อยมาจนได้เฉดสีแบบไทยโบราณตามที่ต้องการหลายเฉด ไม่ว่าจะเป็นสีครามฝรั่งจากแร่อะซูไรต์หรือแร่ลาพิสลาซูลี (Lapis Lazuli) สีแดงชาดจากแร่ซินนาบาร์ สีเขียวตังแช (ครามอมเหลือง) จากสนิมเขียวของทองแดง หรือสีขาวผ่องจากเปลือกหอย
เมื่อสีฝุ่นไทยโบราณจากธรรมชาติไม่มีขาย คำตอบคือทำใช้เอง
เริ่มจากทำใช้เองและเพื่อนศิลปินขอแบ่งใช้จึงเกิดการบอกต่อกันปากต่อปากว่าสีของเขามีคุณภาพดี ผลิตจากวัสดุธรรมชาติ 100% มีเนื้อเป็นประกายแวววาว มีความเสถียรและติดคงทน ความต้องการจากคนในแวดวงศิลปะไทยและ กลุ่มนักอนุรักษ์ งานศิลปะจึงมีมากขึ้นจนเมื่อ 2 ปีที่แล้วเก่งเริ่มทุ่มเทอย่างจริงจังในการผลิตสีฝุ่นจนเกิดเป็นแบรนด์ “กระยารงค์” ซึ่งลูกค้าเองก็ต้องอดทนรอเช่นกันเพราะกว่าจะได้แต่ละสีใช้เวลาแรมเดือนจนถึงเป็นปีก็มี เพราะเก่งไม่ได้ทำเป็นอุตสาหกรรม มีเพียงตัวเขาและผู้ช่วยอีกแค่ 2 คนที่ทำกันด้วยสองมือและใจรัก
“ตั้งแต่สมัยเรียนที่เรียนเพาะช่าง อาจารย์สอนให้ใช้ สีฝุ่น และเฉดสีฝุ่นแบบโบราณ แต่เราไม่มีสีฝุ่นตัวจริงแบบที่โบราณใช้ก็ต้องใช้สีฝุ่นของฝรั่งที่ผลิตจาก Pigment เคมีมาผสมกับตัวอื่นเพื่อเทียบสีให้ออกมาใกล้เคียงแบบงานจิตรกรรมไทยโบราณ เช่นสีแดงเราก็ใช้สีฝุ่นฝรั่งหรือสีโปสเตอร์มาผสมกับเสนเพื่อให้ได้สีคล้ายชาด หรือเอาสีขาวผสมกับสีเขียวและน้ำเงินให้ออกมาเป็นสีเขียวตังแช เลยคิดว่า เราน่าจะลองทำใช้เองก็ทดลองทำเรื่อยมาเพราะอยากรู้ อยากใช้และอยากทำให้เป็นของแท้” เก่ง อดีตอาจารย์สอนจิตรกรรมไทยที่วิทยาลัยในวังชาย กล่าวถึงจุดเริ่มต้นกว่าจะมาเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิตสีฝุ่นธรรมชาติ
เบื้องหลังสีฝุ่นคือหลักการเบื้องต้นของวิทยาศาสตร์
เก่งใช้พื้นที่บริเวณบ้านสวนของเขาย่านถนนพุทธมณฑลสาย 2 เป็นสตูดิโอชื่อว่า Nop-Art Studio บริเวณด้านนอกอาคารเราเห็นเปลือกหอยหลายตันตากแห้ง เพื่อให้คลายความเค็มก่อนจะนำไปล้างและไปบดให้เป็นสีฝุ่นสีขาว นอกจากนั้นยังมีดินและหินหลายก้อนรอการสกัดเอาแร่ธาตุให้สีและผ่านกระบวนการตำมือด้วยครกศิลาและบดด้วยถ้วยบดเซรามิกให้เนื้อเนียนละเอียด และถ่ายน้ำเป็นร้อยๆรอบเพื่อกรองเอาคราบฝุ่นและเศษผงอื่นๆออกให้หมด จากนั้นเกรอะให้เหลือเพียง Pigment แท้ของสีเท่านั้นก่อนจะนำไปตากแดดให้แห้ง
“คนที่จะนำ Pigment หรือรงควัตถุจากธรรมชาติมาทำสีไม่ว่าจะเป็นแร่ธาตุจากหิน ดิน พืชและสัตว์ ต้องมีความรู้ทั้งทางศิลปะและวิทยาศาสตร์ ต้องเข้าใจว่าแต่ละสีเกิดจากอะไร เราไม่มีเครื่องแยกธาตุแต่เราต้องศึกษาองค์ประกอบของแร่ธาตุ สังเกตและทดลองไปเรื่อย ๆ ศึกษาจากเอกสารโบราณทั้งของไทยเช่น จดหมายเหตุวัดโพธิ์ บทความต่างๆของกรมทรัพยากรธรณี และงานวิจัยจากต่างประเทศโดยเฉพาะของประเทศจีนและอินเดียซึ่งเป็นสองประเทศที่เก่งเรื่องการใช้ สีฝุ่น มาเป็นพันๆปี แต่ละสีมีกรรมวิธีที่แตกต่างกันกว่าจะได้มา มีเทคนิคการถ่ายน้ำถ่ายพิษ เทคนิคการบดต่างๆ” เก่งในวัย 29 ปีกล่าว
ทุกอย่างต้องใช้เวลาและความใจเย็น
หลายคนอาจจะตกใจเมื่อเห็นราคา สีฝุ่นไทยโทน เช่น สีครามที่ได้จากแร่อะซูไรต์หรือแร่ลาพิสลาซูลีราคา 15,000-18,000 บาทต่อกิโลกรัม ส่วนสีเขียวตังแชจากแร่มาลาไคต์ (Malachite) หรือจากสนิมทองแดงราคากิโลกรัมละ 7,000-8,000 บาท รวมไปถึงสีชาดที่ราคากิโลกรัมละ 8,000 บาท (ทุกสีแบ่งซื้อเป็นขีดได้)
“สีที่ทำนานที่สุดคือสีครามที่ได้จากแร่อะซูไรต์หรือแร่ลาพิชลาซูลี ตัวหินเองมีราคาแพงมากเพราะเป็นกึ่งอัญมณี หินอะซูไรต์มีสีน้ำเงินคือเป็นแร่ที่ติดกับแร่มาลาไคต์ฉะนั้นจะมีสีเขียวติดมาด้วยและดินสีเหลืองๆติดมาเต็มไปหมด เมื่อบดและเอาไปล้างเราก็จะเจอหิน แร่ธาตุอื่นหรือดินปะปนมา เราก็ต้องบดต้องล้างไปเรื่อยๆเป็นร้อยๆรอบจนกว่าจะได้สีครามตามต้องการ ซึ่งใช้เวลานานหลายเดือน”
ตัวแร่ซินนาบาร์เองที่นำมาสกัดเป็นสีแดงชาดราคาก็ตกหลายพันบาทต่อหนึ่งกิโลกรัม และถึงแม้กระบวนการทำไม่ยุ่งยากซับซ้อนเท่าสีอื่นเพราะไม่ใช่แร่ที่มีความแข็งมาก แต่เก่งอธิบายว่า “ต้องใช้เวลาบดนานมากช่างส่วนใหญ่จึงเลี่ยงที่จะไม่ทำ และมีเทคนิคการบดเฉพาะเพื่อให้ได้สีสด”
สีแดงชาดถือเป็นแม่สีของสีไทยและใช้มากในจิตรกรรมไทยประเพณีเพื่อสื่อถึงบรรยากาศของสวรรค์ สำนักช่างสิบหมู่ของกรมศิลปากรยังเคยสั่งสีชาดของเก่งไปใช้ในการบูรณะพระราชยานคานหามเมื่อครั้งเตรียมการในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เมื่อ พ.ศ. 2560
จากแม่สีหลักแตกเป็นสีใหม่ได้นับ 100 เฉด
แบรนด์ “กระยารงค์” มี สีฝุ่น ครบตามสีหลักเบญจรงค์คือขาว เหลือง ดำ แดง เขียว(คราม) ซึ่งสามารถนำไปผสมแตกย่อยได้อีกเป็นร้อยๆเฉด
นอกจากสีแดงชาดแล้ว ยังมีเฉดสีแดงอมน้ำตาลที่ได้จากดินแดงซึ่งมีแร่เฮมาไทต์ (Hematite) สีขาวได้จากทั้งดินขาว ปูนขาวหรือเปลือกหอยที่มาเกรอะน้ำจนจืด สีเหลืองสดได้จากยางของต้นรงทองและสีเหลืองดินจากดินในธรรมชาติ สีเขียวครามยังได้จากใบของต้นครามที่นำมาหมักกับน้ำปูนและต้มเพื่อให้ได้ Pigment ส่วนสีดำได้จากหมึกดำธรรมชาติของจีน
“เรายังมีสีเขียวใบแคที่ออกเป็นสีเขียวขี้ม้าเข้มได้มาจากการนำใบแคมาตำและบดให้ละเอียด ละลายน้ำและตากให้แห้งก็จะได้สีเขียวดำ แต่กว่าจะได้เฉดสีเขียวแบบใบแคก็ต้องผสมสีเหลืองที่ได้จากการต้มไม้แกแลหรือบางคนเรียกว่าเขซึ่งแก่นของมันให้สีเหลืองสดและคนนิยมนำไปย้อมผ้า เมื่อสีเขียวเข้มจากใบแคเจอสีเหลืองของแกแลก็จะได้สีเขียวตามที่ต้องการ ใบแค 4 กระสอบเมื่อนำมาบดแล้วได้สีฝุ่นไม่ถึงครึ่งกิโลกรัม”
เก่งอธิบายเพิ่มเติมว่าสีที่ทำง่ายสุดคือสีเขียวตังแชที่ได้จากสนิมเขียวของทองแดง แค่ต้องรอเวลาบางครั้งอาจนานเป็นปี โดยการนำเส้นทองแดงที่ซื้อมาจากร้านรับซื้อของเก่ามาใส่ในโหลแก้วและใส่กรดเกลือเพื่อให้กัดทองแดงจนเป็นผง จากนั้นจึงค่อยผ่านกระบวนการล้างน้ำ กรองน้ำหลายรอบจนใสสะอาดและหมดความเค็ม
“สีที่ขายดีที่สุดคือสีชาดและสีขาว สีที่ได้จากแร่ธาตุพวกนี้อยู่ได้เป็นพันๆปี”
เสน่ห์และความพิเศษของสีฝุ่นธรรมชาติ
เก่งเป็นหนึ่งในไม่กี่คนของช่างศิลปะไทยที่ยังผลิตสีฝุ่นจากวัสดุธรรมชาติ เขายังสนุกและตื่นเต้นที่ได้ลองทำเฉดต่างๆจากวัสดุที่หลากหลาย
“เสน่ห์ของสีฝุ่นที่ได้จากธรรมชาติมีความพิเศษตั้งแต่กระบวนการทำ การเขียน และผลสัมฤทธิ์ แต่ละสีมีลักษณะเฉพาะตัวและมีประกายระยิบระยับในตัวเนื้อสี ค่าสีมีความเสถียรคือเวลาผ่านไปเฉดสีไม่เปลี่ยนและยังมีความคงทนอยู่ได้เป็นพันปีถ้าเก็บรักษาดี ๆ นอกจากนี้เฉดสียังออกนวลไม่จัดจ้านเหมือนสีเคมี และเมื่อหลายสีอยู่รวมกันในหนึ่งภาพแต่ละสีไม่ดร็อปและอยู่ร่วมกันได้ดี” เก่งกล่าวทิ้งท้าย
Fact File
- ติดตามชมผลงานเพิ่มเติมได้ที่ facebook.com/nop-art-studio by นพพล นุชิตประสิทธิชัย
- ติดตามชมผลงานเพิ่มเติมได้ที่ https://bit.ly/2QgDxij