ยื่นใบลาไปสมัครเรียน โรงเรียนนักเดินป่า เรียนรู้ทักษะเดินป่าแบบใส่ใจสิ่งแวดล้อม
- หลักสูตรของโรงเรียนนักเดินป่าเริ่มต้นตั้งแต่ภาคทฤษฎีที่ผู้ร่วมกิจกรรมต้องได้รับใบ Certificate จากการเรียนรู้ข้อปฏิบัติและการเตรียมตัวที่ถูกต้องในระบบออนไลน์มาก่อนจึงจะเริ่มเข้าสู่การเดินป่าจริงได้
- ประสบการณ์ระหว่างเส้นทาง 2 วัน 1 คืน ที่เจ้าหน้าที่จะคอยสื่อความหมายถึงความสำคัญของผืนป่า สิ่งมีชีวิตและแหล่งกำเนิดต้นน้ำลำธารไปตลอดเส้นทาง ผสานกับกิจกรรมที่ช่วยให้นักเดินป่าเชื่อมโยงกับธรรมชาติได้มากขึ้น
“ไม่ได้พิชิต ไม่ได้เช็คอิน แต่เราจะเที่ยวป่าแบบสร้างวัฒนธรรมเดินป่าดี ๆ ที่ทุกคนสามารถเรียนรู้ได้”
ไม่แปลกหากจะเห็นพนักงานออฟฟิศยุคนี้สะพายเป้เดินป่าไปที่ทำงานในวันศุกร์ เพราะหลังเลิกงานวันนั้นคือการออกเดินทางไปยังผืนป่าแห่งใดแห่งหนึ่ง พร้อมด้วยเพื่อนเดินทางใหม่ๆ ที่ไม่จำเป็นต้องรู้จักกัน แต่ชื่นชอบในเสน่ห์ของผืนป่าเช่นกัน และเมื่อนักเดินป่ารุ่นใหม่ๆ เกิดขึ้นเป็นจำนวนมากก็จำเป็นที่จะต้องมี โรงเรียนนักเดินป่า ให้ทั้งนักเดินป่ามือเก่าและมือใหม่ได้เรียนรู้การใช้อุปกรณ์เดินป่าอย่างปลอดภัย รวมทั้งการเดินป่าที่ไม่ทำรายสิ่งแวดล้อม และระบบนิเวศที่กำลังเหยียบย่ำ
ทริปนี้เราเลยสมัครไปทดลองเรียนในโรงเรียนนักเดินป่าสักครั้ง เป็นคอร์ส 3 วัน 2 คืน ที่ อุทยานแห่งชาติน้ำพอง จังหวัดขอนแก่นในเส้นทางศึกษาธรรมชาติผาสวรรค์ ซึ่งเป็นเส้นทางเดินป่าระดับ Beginner แต่ขอบอกเลยว่าต่อให้เดินป่ามาแล้วหลายสิบแห่ง การได้เข้าโรงเรียนเดินป่าสักครั้งก็ทำให้เข้าใจการอยู่ร่วมกับผืนป่าได้ดียิ่งขึ้น แนะนำว่าใครที่เป็นสายเดินป่าควรลองได้เรียนสักครั้ง
โรงเรียนนักเดินป่า จะเปิดคอร์สอบรบตลอดทั้งปีและเปลี่ยนเส้นทางเดินป่าไปตามแต่ละคอร์ส สำหรับเส้นทางศึกษาธรรมชาติผาสวรรค์ เป็นเส้นทางระดับต้นระยะทางประมาณ 9.2 กิโลเมตร มีลักษณะป่าเป็นป่าดิบแล้ง ป่าเบญจพรรณ และป่าทุ่งหญ้า จุดเด่นทางธรณีของที่นี่คือเป็นเขาหินทราย และมีแหล่งประวัติศาสตร์ปรากฏร่องรอยของภาพเขียนสีโบราณ โดยจุดประสงค์ของห้องเรียนก็เพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับเส้นทาง การใช้ชีวิตในธรรมชาติโดยให้มีผลกระทบน้อยที่สุด และการเตรียมตัวเพื่อไปเดินป่าที่จะทำให้เรารู้จัดอุปกรณ์และสิ่งของจำเป็นในการเดินป่ารวมถึงการใช้งานที่ถูกต้อง
กิจกรรมวันแรกจะเป็นการอบรมความรู้พื้นฐาน วันที่สองตื่นมาวอร์มร่างกาย สอนการยกเป้หลังขึ้นสะพานแบบถูกวิธี และเตรียมออกการเดินป่าที่นักเรียนทุกคนต้องพึ่งพาตนเองโดยไม่มีลูกหาบ จุดนี้ทำให้นักเดินป่าได้ฝึกการวางแผนเลือกสิ่งของให้เหมาะกับแต่ละเส้นทาง และเมื่อเดินทางเข้าป่าก็จะมีการแบ่งฐานเรียนรู้ เช่น การเปิดผัสสะเพื่อสัมผัสธรรมชาติ ได้รับรู้ถึงเสียงต่างๆ ในสิ่งแวดล้อม กลิ่นของดิน หิน ต้นไม้ รวมทั้งความเงียบของผืนป่า ระหว่างทางก็เรียนรู้เพิ่มเติมเรื่องพันธุ์ไม้ ธรณีศึกษา เทคนิคการหาแหล่งน้ำในป่าสำหรับใช้ในเส้นทางที่เราไม่สามารถแบกน้ำดื่มจำนวนมากเข้าป่าได้ ในฐานนี้จะสอนเรื่องการดูแหล่งน้ำว่าปลอดภัยสำหรับการนำมาใช้ดื่มหรือไม่ วิธีการตักน้ำ การต้มนำ ไปจนถึงสอนการใช้งานเครื่องกรอกน้ำแบบพกพา
ในส่วนของจุดที่ตั้งแคมป์พักแรมกลางป่า ในจุดนี้จะสอนเรื่องการเลือกพื้นที่กางเต็นท์ เทคนิคผูกเปล สอนการใช้เงื่อนแบบต่างๆ ในการผูกรัดกางทาร์ป หรือทำราวแขวน และการขุดหลุมสำหรับขับถ่าย รวมไปถึงการจัดการขยะในบริเวณพื้นที่พักแรม หลังจากเตรียมที่นอนของค่ำคืนนี้แล้วก็ต่อไปที่ “ผาสวรรค์” จุดชมพระอาทิตย์ตกเหนือทะเลสาบเขื่อนอุบลรัตน์ พร้อมฟังเรื่องราวของผืนบริเวณนี้จากเจ้าหน้าที่ป่าไม้อาวุโสที่มาส่งต่อความรักและหวงแหนในผืนป่าซึ่งเป็นหัวใจของโรงเรียนนักเดินป่าที่ไม่ได้ต้องการผลิตผู้พิชิตป่า แต่ต้องการส่งต่อวัฒนธรรมการเดินป่าที่สร้างความรัก ความหวงแหนในธรรมชาติยิ่งขึ้น
สิ่งที่ต้องเตรียมตัว
- สัมภาระ ของใช้ส่วนตัว ซึ่งต้องแบกเองทั้งหมดไม่มีลูกหาบ
- เต็นท์ หรือ เปล เครื่องนอน อาหาร และอุปกรณ์ประกอบอาหาร ซึ่งต้องเตรียมไปเอง
- ต้องใช้ห้องน้ำในป่าธรรมชาติ โดยการขุดหลุมและฝังกลบให้เรียบร้อย
- ต้องนําขยะทุกชิ้นออกมาจากจุดพักแรมและเส้นทางเดินป่า
- ควรสวมใส่เสื้อผ้าที่รัดกุม ยาป้องกันแมลงควรใช้แบบทา เพราะส่งกระทบกับสิ่งแวดล้อมน้อยกว่าแบบอื่น
Fact File
สำหรับผู้ที่สนใจสมัครโรงเรียนนักเดินป่า ติดตามได้ที่ FB : โรงเรียนนักเดินป่า Outdoor Education