Motley Party Studio สตูดิโออาร์ตทอยครบวงจร จากจินตนาการสู่โมเดลและผลงานจริงที่จับต้องได้
Brand Story

Motley Party Studio สตูดิโออาร์ตทอยครบวงจร จากจินตนาการสู่โมเดลและผลงานจริงที่จับต้องได้

Focus
  • Motley Party Studio เป็นสตูดิโออาร์ตทอยโดยศิลปินรุ่นใหม่ที่ให้บริการครบวงจรตั้งแต่การถ่ายทอดจินตนาการสู่ภาพ การสร้างไฟล์ 3 มิติ การปั้นโมเดล การพิมพ์ไปจนถึงการลงสีและได้ผลิตภัณฑ์ต้นแบบที่จับต้องได้
  • สตูดิโอต้องการเป็นจุดเชื่อมของทั้งครีเอเตอร์สายอาร์ตทอย สายศิลปะ สายทดลองหรือสายสะสม และแสดงให้เห็นว่าการทำอาร์ตทอยสักชิ้นไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป
  • สตูดิโอมีคาแรคเตอร์อาร์ตทอยของตัวเองออกมาเช่นกัน คือคาแรคเตอร์กุมาร Kuman และเด็กชายตาเดียว Shankyou7

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าของเล่นกึ่งของสะสมอย่างอาร์ตทอยนั้นกลายเป็นกระแสนิยมและเติบโตอย่างรวดเร็ว เป็นอีกหนึ่งป๊อปคัลเจอร์ที่เรียกได้ว่าลองจุ่มกล่องเดียวนั้นไม่มีจริง เพราะเผลอแป๊บเดียวบนโต๊ะทำงานอาจเต็มไปด้วยฟิกเกอร์ตัวโปรดหรือกระเป๋าใบเดียวก็ประดับประดาไปด้วยตุ๊กตาตัวจิ๋วนับสิบตัว

แต่หากคุณมีไอเดียอยากทำอาร์ตทอยเป็นของตัวเองและยังไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นอย่างไรดี กลุ่มศิลปินรุ่นใหม่อย่าง Motley Party Studio อาจเป็นจุดเริ่มต้นแรกให้คุณได้ด้วยบริการครบวงจรตั้งแต่การถ่ายทอดจินตนาการสู่ภาพ การสร้างไฟล์ 3 มิติ การปั้นโมเดล 3 มิติ การเรนเดอร์ 3 มิติ การพิมพ์ต้นแบบ ไปจนถึงการลงสีและได้ผลิตภัณฑ์ต้นแบบที่จับต้องได้ รวมถึงการออกแบบแพคเกจจิ้งและพื้นที่วางจำหน่าย

Motley Party Studio

“Motley Party Studio คือคนที่ชอบในสิ่งเดียวกัน”  ภูมิ-ภาคภูมิ พราหมณ์โสภี กล่าวถึงการรวมกลุ่มที่เขาเรียกว่า “กลุ่มทำของเล่น” ซึ่งประกอบด้วยเพื่อนอีกสามคนคือ เจมส์-กฤษณะ ชันแสง กาย-ณัฐวุฒิ สินอนันต์เลิศ และ แช้ง-ธนพล อินฤทธิ์ ภายใต้การดูแลของ 333 Gallery Group 

“ทีมของเราเป็นทีมที่ทำกราฟิกดีไซน์และเป็นพนักงานภายในของ 333 Gallery แต่คุณประสงค์ (ประสงค์ คชพันธ์ ผู้บริหาร 333 Gallery) มีความเห็นว่าเมื่อเราสามารถผลิตชิ้นงานให้ศิลปินได้ ทำไมเราไม่มาเป็นศิลปินกันเองดู เราเลยเริ่มสร้างผลงานขึ้นมาจากจุดๆ นั้น และด้วยความที่พวกเราบางคนเป็นคนที่ชอบของเล่น บางคนเก็บสะสม บางคนเจอรถบังคับจิ๋วแล้วอยากแกะชิ้นส่วนออกมาเล่นดู เราเลยลองอยากนำความรู้สึกในวัยเด็กเหล่านั้น กลับมาทำเป็นผลงานในตอนที่เป็นผู้ใหญ่แล้ว” เจมส์เล่าให้ฟังถึงจุดเริ่มต้นของกลุ่มเพื่อนที่มีความชอบเหมือนกันและจบจากสถาบันเดียวกันคือ คณะดิจิทัลมีเดีย มหาวิทยาลัยศรีปทุม

Motley Party Studio

สตูดิโอก่อตั้งขึ้นเมื่อต้นปีพ.ศ.2567 แต่พวกเขาไม่ใช่น้องใหม่ในวงการเสียทีเดียวเพราะมีประสบการณ์ในสนามจริงจากการทำงานร่วมกับศิลปินและ 333 Gallery กันมาก่อน เช่น ผลงาน “Dream Space Prototype of Land Field” ของ แทน โฆษิตพิพัฒน์ ที่เพิ่งจัดแสดงไปล่าสุดในนิทรรศการ Further Than Sight (2024) โดยเป็นภาพแผนที่แสนละเอียดและซับซ้อนขนาดใหญ่กว่าหนึ่งเมตร ซึ่งสามารถวางได้ทั้งแนวราบและแบบภาพแขวนผนัง นับเป็นอีกหนึ่งผลงานที่ท้าทายสำหรับสตูดิโอในการมีส่วนร่วมสร้างสรรค์ให้เกิดขึ้นจริง

“Dream Space Prototype of Land Field” ของ แทน โฆษิตพิพัฒน์ ที่ทางสตูดิโอมีส่วนร่วมสร้างสรรค์

Motley Party Studio ต้องการเป็นจุดเชื่อมไม่ว่าจะเป็นครีเอเตอร์สายอาร์ตทอย สายศิลปะ สายทดลองหรือสายสะสมก็ตาม และแสดงให้เห็นว่าการทำอาร์ตทอยสักชิ้นอาจไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป

“ผมรู้สึกว่าความท้าทายของวงการอาร์ตทอยส่วนใหญ่เป็นเรื่องของต้นทุนการผลิต สมมติเด็กเพิ่งจบใหม่อยากจะมีผลงานเป็นของตัวเองและอยากทำตัวอาร์ตทอยขึ้นมา ต้นทุนจะค่อนข้างสูง โดยส่วนใหญ่ในสตูดิโอต่างๆ เขาจะรับทำในปริมาณที่เยอะ ซึ่งจะทำได้ในราคาที่ถูกลง แต่หากเราไม่ต้องการผลิตจำนวนที่เยอะขนาดนั้น การจะผลิตแค่หนึ่งตัว ต้นทุนจะสูงครับ” กายกล่าวถึงความท้าทายของวงการอาร์ตทอยไทยและทางสตูดิโอพยายามอุด pain point ตรงนั้น

Motley Party Studio

“ปัจจุบันในการสร้างสรรค์งานอาร์ตทอย บางทีเราไปหาดูฮาวทู ส่วนมากเขาจะสอนแค่การปั้นโมเดลครับ แต่กระบวนการหลังจากนั้นในประเทศไทยจะยังไม่ค่อยมีสอนสักเท่าไร ผมคิดว่าสิ่งนี้เป็นความท้าทายของศิลปินหน้าใหม่ด้วยในการเริ่มต้นทำอาร์ตทอย การที่มีตัวแทนอย่าง Motley หรือสตูดิโออื่นๆ ทำให้สามารถเห็นได้ว่าการทำของเล่นหรือชิ้นงานศิลปะ สามารถทำได้และสร้างงานสร้างอาชีพได้จริงๆ สิ่งนี้เป็นหลักประกันให้เขาสามารถที่จะรู้สึกได้ว่าเราพร้อมที่จะสนับสนุนให้วงการนี้สามารถเติบโตต่อไปได้” เจมส์กล่าวเสริมถึงสิ่งที่พวกเขากำลังทำอยู่

Motley Party Studio

ในการทำงานนั้น ภูมิ รับหน้าที่หลักในการปั้นโมเดล 3D ให้ออกมาใกล้เคียงกับความต้องการของลูกค้า หลังจากนั้น กาย ซึ่งเป็นกราฟิกดีไซเนอร์และดิจิทัลซัพพอร์ตประจำทีมจะมารับไม้ต่อในการเตรียมไฟล์และจัดวางองค์ประกอบเพิ่มเติมเพื่อให้โมเดลนั้นสามารถพิมพ์สามมิติออกมาได้อย่างสมบูรณ์ มีดีเทลที่ครบถ้วน ด้าน แช้ง รับหน้าที่ขัดแต่งและนำโมเดลออกจากเครื่องพิมพ์มาทำความสะอาดขัดให้เนียนกริบและเก็บรายละเอียดให้พร้อมสำหรับการลงสี ขณะที่ เจมส์ ดูแลในส่วนของสื่อออนไลน์ นำไฟล์โมเดล 3D มาดัดแปลงต่อสำหรับสื่อออนไลน์เป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบกล่องบรรจุภัณฑ์ การทำโพสต์สำหรับสื่อหรือครีเอตโมเดล AR ที่ผู้ใช้สามารถส่องผ่านกล้องแล้วมองเห็นคาแรคเตอร์อยู่ในกล้องได้ ประกอบกับทาง 333 Gallery เองก็มีพื้นที่สำหรับวางจำหน่ายอยู่ด้านหน้าแกลเลอรีอีกด้วย เรียกได้ว่าให้บริการแบบครบวงจรเลยทีเดียว

นอกจากร่วมสร้างสรรค์อาร์ตทอยหรือชิ้นงานศิลปะตามความต้องการของลูกค้า สตูดิโอมีคาแรคเตอร์อาร์ตทอยของตัวเองออกมาเช่นกัน เริ่มจาก Kuman คาแรคเตอร์ที่ภูมิได้นำจากประสบการณ์ในวัยเด็กมาสร้างสรรค์เป็นผลงาน 

“ผมรู้สึกว่า กุมาร เป็นเด็กจอมซนที่อยู่คู่กับคนไทยมานานมากแล้ว ตอนผมยังเด็กที่บ้านผมก็เลี้ยงกุมารด้วย ผมเองก็ไม่เคยเจอนะ แต่พ่อผมก็จะบอกตลอดว่าไปไหนมาไหนให้บอกพี่กุมาร เผื่อว่าเขาจะช่วยคุ้มครองเรา ผมเลยรู้สึกว่าถ้าพี่เขามีตัวตนจริงๆ ก็อยากให้อยู่กับผมตลอด ผมเลยสร้างออกมาเป็น Kuman ตัวนี้ครับ เพื่อที่ผมจะได้มาเล่นสนุกกับเขาได้ด้วย เหมือนว่าเราสามารถเล่นกับเขาได้จริงๆ” ภูมิเล่าถึงแรงบันดาลใจ 

คาแรคเตอร์ Kuman

ขณะที่มือตัดแต่งอย่างแช้งก็ได้สื่อสารถึงความรู้สึกของวัยเด็กที่มักจะถูกผู้ใหญ่บอกให้เชื่อฟังว่าสิ่งไหนถูกหรือผิดเพียงเท่านั้น ออกมาเป็นคาแรคเตอร์เด็กชายตาเดียว Shankyou7 ซึ่งล่าสุดทั้งสองคาแรคเตอร์ก็ได้ไปโชว์ตัวในนิทรรศการกลุ่ม Fresh Perspective A New Art Wave ประเทศสิงคโปร์ เมื่อพฤศจิกายน 2566 นอกจากนี้พวกเขายังได้นำผลงานบางส่วนมาจัดแสดงในเทศกาลอาร์ตทอย “Thai Art Toy Fest : สยามเด็กเล่น” ที่จัดขึ้นระหว่าง วันที่ 24-25 สิงหาคม 2567 ที่ ICON Art & Culture Space ของ ICONSIAM

“นอกจากวงการอาร์ตทอยไทยแล้วก็จะเป็นเรื่องของวงการศิลปินไทยเลย เราอยากให้การแสดงศิลปะสามารถเข้าถึงได้ทุกคน มีรสชาติที่แปลกใหม่และมีครีเอทีฟที่แตกแขนงได้มากขึ้น หากเป็นงานที่เราสามารถจับต้องได้ หรือมีบางอย่างที่เชื่อมโยงกับมันก็จะสามารถทำให้เราสามารถเข้าถึงงานได้สนุกขึ้นและเห็นคุณค่าของผลงานได้มากขึ้นครับ” เจมส์ปิดท้ายถึงความตั้งใจของ Motley

Fact File 

● ติดตาม Motley Party Studio ได้ทาง Facebook และ Instagram


Author

สุกฤตา โชติรัตน์
มนุษย์ผู้ค้นพบพลังงานพิเศษจากประโยคในหนังสือ อาหารจานโปรดและเพลงที่ฟัง อยากเลี้ยงแมวและตั้งใจว่าจะออกไปมองท้องฟ้าบ่อยๆ

Photographer

วิจิตต์ แซ่เฮ้ง
เป็นคนกรุงเทพฯ เกิดที่ฝั่งธนฯ เรียนชั้นมัธยมศึกษาที่โรงเรียนไตรมิตรวิทยาลัย ต่อระดับปริญญาตรีสาขาเทคโนโลยีทางการศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ มศว ประสานมิตร เมื่อเรียนจบใหม่ ๆ ทำงานเป็นผู้ช่วยดีเจคลื่นกรีนเวฟพักหนึ่ง ก่อนมาเป็นนักเขียนและช่างภาพที่กองบรรณาธิการนิตยสาร ผู้หญิงวันนี้ จากนั้นย้ายมาเป็นช่างภาพสำนักพิมพ์สารคดีปี 2539 โดยถ่ายภาพในหนังสือชุด “เพื่อความเข้าใจในแผ่นดิน” ต่อมาถ่ายภาพลงนิตยสาร สารคดี มีผลงานเช่นเรื่อง หมอเทีย ปอเนาะ เป่าแก้ว กะหล่ำปลี โรคหัวใจ โทรเลข ยางพารา ฯลฯ