คุยกับ “ยอด ชินสุภัคกุล” ทำไม LINE MAN Wongnai อยากผลักดันข้าวไทยสู่ Soft Power
- จบไปแล้วอย่างคึกคักและเต็มไปด้วยกลิ่นหอมและความอร่อยของข้าวไทย สำหรับเทศกาลข้าว Thailand Rice Fest 2023 ที่รวบรวมสายพันธุ์ข้าวไทยจากหลากหลายท้องถิ่น ครบทุกภูมิภาค มาให้คนไทยได้ลิ้มรสและทำความรู้จัก
- ไม่ใช่ครั้งแรกที่ทาง LINE MAN Wongnai สนับสนุนวัตถุดิบไทย แต่ที่ผ่านมามีการจัดกิจกรรมเพื่อชูวัตถุดิบท้องถิ่นไทยให้ขึ้นมายืนอยู่แถวหน้าของวงการอาหาร ไม่ว่าจะเป็นปลาทะเลจากประมงพื้นบ้านที่เปิดขายใน LINE MAN MART หรือจะเป็น Wongnai Restaurant Week
“หากอาหารไทยคือ Soft Power ‘ข้าวไทย’ ก็คือดาวเด่นที่ควรจะได้รับการสร้างคุณค่าและมูลค่าที่มากขึ้น ข้าวไทยสะท้อนอัตลักษณ์ของแต่ละท้องถิ่น ข้าวแต่ละสายพันธุ์มีเรื่องราว มีความลึก มีรสชาติที่ควรจะชูขึ้นมาเป็นตัวเอกของอาหารไทย”
จบไปแล้วอย่างคึกคักและเต็มไปด้วยกลิ่นหอมและความอร่อยของข้าวไทย สำหรับเทศกาลข้าว Thailand Rice Fest 2023 ที่รวบรวมสายพันธุ์ข้าวไทยจากหลากหลายท้องถิ่น ครบทุกภูมิภาค มาให้คนไทยได้ลิ้มรสและทำความรู้จัก ไฮไลต์ของงานนอกจากจะเป็นการได้ลอง Rice Tasting ชิมข้าวพันธุ์ต่างๆ แล้ว งานนี้ยังเป็นการพบกันระหว่างเกษตรกรผู้ผลิตข้าวและผู้บริโภคแล้วก็ยังมี “โซนกินข้าว co-created by LINE MAN Wongnai” ที่นำข้าวไทยพันธุ์ท้องถิ่นหายากจากกลุ่มเกษตรกรทั่วประเทศมาจับคู่กับร้านอาหารดังร่วม 30 ร้าน สร้างสรรค์เมนูข้าวไทยจานพิเศษที่เสิร์ฟเฉพาะในงาน ซึ่งนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ทาง LINE MAN Wongnai สนับสนุนวัตถุดิบไทย แต่ที่ผ่านมามีการจัดกิจกรรมเพื่อชูวัตถุดิบท้องถิ่นไทยให้ขึ้นมายืนอยู่แถวหน้าของวงการอาหาร ไม่ว่าจะเป็นปลาทะเลจากประมงพื้นบ้านที่เปิดขายใน LINE MAN MART หรือจะเป็น Wongnai Restaurant Week ที่นำวัตถุดิบท้องถิ่นมารังสรรค์เป็นคอร์สอาหารมื้อพิเศษ
“ตั้งแต่เด็กจนโตเราได้เรียนรู้ว่า ข้าวคือเกษตรกรรมหลักของไทย เรากินข้าวกันเกือบทุกมื้อ เริ่มรู้จักว่าข้าวมีหลากหลายชนิด ข้าวไรซ์เบอร์รี่ ข้าวกล้อง จมูกข้าว ผลิตภัณฑ์แปรรูปจากข้าวเริ่มมีมากขึ้น รวมทั้งการมองข้าวในฐานะสินค้า GI หรือสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ ที่ทำให้ผลิตภัณฑ์ในแต่ละท้องถิ่น เฉพาะถิ่นมีคุณค่ามากขึ้น เช่นเดียวกับไวน์ กาแฟ น้ำมันมะกอกก็ใช่ ไวน์ที่นี่มีรสชาติแบบนี้ คาแรคเตอร์อย่างนี้ ข้าวก็เช่นกัน ข้าวสามารถทำให้เกิดมูลค่ามากขึ้นได้ทั้งต่อคนกินและผู้ผลิต ข้าวเป็นอะไรที่น่าสนใจเพราะแต่ละท้องถิ่นก็ปลูกข้าวแตกต่างสายพันธุ์กัน ผมเองคิดว่าถ้าให้ความรู้กับคนไทยและชาวต่างชาติเกี่ยวกับข้าวมากขึ้น เขาก็น่าจะได้เข้าใจในรสชาติ อัตลักษณ์ และคุณค่าของข้าวในแต่ละท้องถิ่นได้ไม่ต่างจากไวน์หรือกาแฟ คนไทยเรากินข้าวเกือบทุกมื้อ แต่เราอาจจะยังไม่รู้ว่าข้าวไทยมีคาแรคเตอร์ ความแตกต่างในแต่ละไร่ แต่ละท้องถิ่น ข้าวไทยมีเอกลักษณ์ GI (Geographical Indications) ที่ไม่ต่างจากกาแฟ หรือไวน์ อยากให้คนไทยได้ลองเปิดใจ และสนุกไปกับข้าวไทย”
ยอด ชินสุภัคกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร LINE MAN Wongnai ย้อนเล่าถึงความสำคัญของข้าวและนั่นจึงเป็นเหตุผลที่ LINE MAN Wongnai ขอทำหน้าที่ตัวกลางนำเกษตรกร ร้านอาหาร และผู้บริโภคข้าวมาเจอกัน
“เราในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนวัตถุดิบไทยมาตลอดคิดว่า ข้าว เป็นอะไรที่ค่อนข้างยั่งยืน ต่อให้กี่ปีข้างหน้า คนไทยเราก็ยังต้องกินข้าว ถ้าเราสามารถทำให้ข้าวไทยมีมูลค่าที่สูงขึ้น ร้านอาหารก็สามารถใช้ข้าวนี่แหละเป็นจุดขาย คุณภาพชีวิตของเกษตรกรไทยก็จะได้รับการพัฒนาให้ดีขึ้นไปทั้งระบบด้วยได้ สุดท้ายคนกินข้าวก็จะมีข้าวดีๆ หลากหลายสายพันธุ์ หลากหลายรสชาติให้ได้เลือก”
สำหรับงาน Thailand Rice Fest 2023 ครั้งแรกนี้ทาง LINE MAN Wongnai ชวนร้านอาหารดังมาร่วมสร้างสรรค์เมนูพิเศษจากข้าวสายพันธุ์พิเศษต่างๆ จัดเสิร์ฟเฉพาะงานนี้ ซึ่งแต่ละร้านต่างก็มีแฟนคลับข้าวไทยมาต่อคิวรออย่างล้นหลาม ไม่ว่าจะเป็น “ข้าวมันลืมไก่” จากเจ้าดังนิดข้าวมันไก่ ข้าวสังข์หยดหอยเป๋าฮื้อ ข้าวหมูกรอบชาชูที่ใช้ข้าวหอมหัวบอน ข้าวหน้ามหาสมุทรจากข้าวโสมมาลี ข้าวด้งหมูแดงเตาถ่านที่ชูความหนุบหนับของข้าวหอมเวสสันตะระ หรือข้าวแกงกะหรี่ญี่ปุ่นเจ้าดัง Aoringo ก็นำข้าวดอยบือกีมาใช้แทนข้าวญี่ปุ่น เมนูเกาหลี “คัลบีจิม” ข้าวเวสสันตะระ จากร้าน Sosinesso ข้าวหน้ามหาสมุทรอัดแน่นรสชาติท้องทะเล ซูชิข้าวยำน้ำบูดูที่นำข้าวกล้องสันป่าตองมาทำอาหารญี่ปุ่น แต่ละเมนูล้วนเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ในการกินข้าวไทยและมีขายที่ Thailand Rice Fest 2023 เท่านั้น
“งาน Thailand Rice Fest 2023 เป็นงานให้ความรู้ จุดประกายให้ผู้บริโภคได้มาพบกับเกษตรกรและรู้จักข้าวไทยในรูปแบบใหม่ๆ มีทั้งความอร่อย ความลึก ความน่าสนใจของข้าวที่เรากินทุกวัน ให้เกษตรกรได้คอนเนคกับผู้บริโภคโดยตรงโดยที่มี LINE MAN Wongnai เป็นสื่อกลางในการคอนเนคตรงนี้ ซึ่งเราดีใจที่ได้เป็นสื่อกลางในการคอนเนคระหว่างผู้บริโภคและเกษตรกร ให้คนไทยที่กินข้าวอยู่ทุกวันได้มองข้าวที่มากกว่าแค่คำว่า ‘ข้าว’ แต่เป็นความสนุก คุณค่าจากข้าว เรื่องราวของเกษตรกร ชุมชนผู้ผลิต อย่างที่กล่าวไปว่าข้าวเป็นสินค้าที่คนไทยส่วนใหญ่คุ้นเคยและมองว่าธรรมดา แต่ผมคิดว่าถ้าเราสามารถสร้างคุณค่าด้วยรสชาติ กลิ่น คาแรคเตอร์ที่แตกต่าง ข้าวก็จะสามารถเป็นอีกสินค้าที่ผู้บริโภคคนยอมจ่าย มีเรื่องราว กลายเป็นสินค้าที่มีคุณค่าและมูลค่าได้พร้อมกัน”
และเมื่อถามว่า LINE MAN Wongnai จะมีกิจกรรมสนุกๆ เกี่ยวกับข้าวเกิดขึ้นอีกไหมในปี 2567 ยอด ชินสุภัคกุล ตอบทันทีว่า “แน่นนอน” เพราะการสนับสนุนวัตถุดิบไทย โดยเฉพาะข้าวที่ทาง LINE MAN Wongnai มองว่าเป็นความยั่งยืนคือหนึ่งในภารกิจของ LINE MAN Wongnai ที่มากกว่าแค่ฟูดเดลิเวอร์รี