สังหารจอมทัพอัศวิน : ความลับในภาพวาดกับโศกนาฏกรรมของศิลปิน
- สังหารจอมทัพอัศวิน (Killing Commendatore) นวนิยายมหากาพย์เล่มล่าสุดของ ฮารูกิ มูราคามิ ฉบับภาษาไทยโดยสำนักพิมพ์กำมะหยี่ จุใจด้วยความหนาอยู่ราวๆ 1,000 หน้า
- ฮารูกิ มูราคามิ เป็นนักเขียนชาวญี่ปุ่นที่สร้างงานขายดีระดับโลกมาอย่างต่อเนื่องด้วยรูปแบบการเล่าเรื่องทิ้งปมปริศนาชวนติดตามบ้างก็มาในรูปแบบเรื่องเชิงสัจนิยมมหัศจรรย์ที่พาคนอ่านเข้าไปค้นหาคำตอบที่สุดแสนจะคาดเดา
ความเวิ้งว้างเดียวดาย ผู้ชายอกหัก บ่อน้ำ ความฝัน ดนตรีแจ๊ส ดนตรีคลาสสิก และแมว องค์ประกอบเหล่านี้คงคุ้นเคยกันดีสำหรับแฟนนวนิยายของ ฮารูกิ มูราคามิ นักเขียนชาวญี่ปุ่นที่สร้างงานขายดีระดับโลกมาอย่างต่อเนื่อง ด้วยรูปแบบการเล่าเรื่องทิ้งปมปริศนาชวนติดตามบ้างก็มาในรูปแบบเรื่องเชิงสัจนิยมมหัศจรรย์ที่ชวนคนอ่านค่อยๆ เดินตามไปค้นหาคำตอบที่สุดแสนจะคาดเดา ซึ่งแน่นอนว่าองค์ประกอบทั้งหมดที่ว่ามามีใน สังหารจอมทัพอัศวิน (Killing Commendatore) นวนิยายมหากาพย์เล่มล่าสุดของ ฮารูกิ มูราคามิ ที่ตีพิมพ์ฉบับภาษาญี่ปุ่นเมื่อ ค.ศ.2017 และตีพิมพ์ฉบับแปลไทยโดย สำนักพิมพ์กำมะหยี่ ทยอยส่งตรงถึงมือผู้อ่านในช่วงกักตัวอยู่บ้านท่ามกลางสถานการณ์ โควิด-19 อย่างพอดิบพอดี
4 ปีมาแล้วหลังจากที่ ชายไร้สีกับปีแสวงบุญ (Colorless TsukuruTazaki and His Years of Pilgrimage) วางแผง แฟนคลับต่างก็ตั้งตารอผลงานเล่มใหม่ของมูราคามิอย่างใจจดใจจ่อ และสำหรับสังหารจอมทัพอัศวิน ก็ไม่ทำให้ผิดหวังกับความจุใจราวๆ 1,000 หน้า พร้อมเอกลักษณ์ทางการเขียนไม่ว่าจะปมของตัวละครที่ซ่อนความขาดหายบางอย่างในชีวิต ความลับอันดำมืด ความเหนือจริง เรื่องเชิงสัจนิยมมหัศจรรย์ และการแต่งเรื่องที่ดำเนินไปอย่างน่าติดตามจนวางไม่ลง แม้จะเป็นพันหน้าก็อยากจะเปิดต่อรัวๆ
สังหารจอมทัพอัศวิน ว่าด้วยเรื่องของจิตรกรวาดภาพเหมือนที่มีปัญหากับภรรยาจนถึงขั้นหย่าร้าง และเป็นเหตุให้จิตรกรผู้นี้ต้องย้ายไปอยู่ในบ้านกลางภูเขาห่างไกลสังคม อันเป็นบ้านของพ่อของเพื่อนสนิทซึ่งเป็นศิลปินดังในญี่ปุ่นนาม อามาดะ แต่ด้วยความที่อามาดะป่วยด้วยโรคความจำเสื่อม ทำให้ต้องย้ายออกไปอยู่สถานพยาบาล บ้านหลังนั้นจึงเป็นอันว่างไม่มีใครอยู่อาศัย
เหตุการณ์เกิดขึ้นต่อเนื่องเมื่อจิตรกรพบว่าในบ้านหลังนั้นได้มีการซ่อนภาพสำคัญไว้เป็นภาพวาดที่ไม่มีใครเคยเห็นมาก่อนนั่นคือภาพ สังหารจอมทัพอัศวิน ภาพซึ่งเก็บงำความลับเรื่องราวชีวิตของอามาดะไว้ จิตรกรจึงออกตามหาที่มาเกี่ยวกับภาพจนได้พบกับเรื่องราวที่กำลังเปิดโปงความรู้สึกลึกข้างในของตนเอง
โศกนาฏกรรมของศิลปิน
จิตรกรวาดภาพเหมือน ตัวละครเอกซึ่งคนอ่านจะต้องติดตามตลอดทั้งเรื่องเป็นจิตรกรผู้ที่ใช้ชีวิตอยู่อย่างน่าผิดหวัง เขาไม่สามารถทำตามเจตนาของตนเองได้ ทั้งในส่วนของการวาดภาพเหมือนที่ทำให้เขาไม่สามารถวาดภาพในความคิดของตนเองได้ ซึ่งปมปัญหานี้ถูกเปิดไว้ตั้งแต่ต้นเรื่องการวาดใบหน้าให้เหมือนตัวจริงให้มากที่สุดเป็นงานที่เขาไม่ปรารถนา แต่ก็ต้องจำทนทำเนื่องจากภาระของครอบครัวและความมั่นคงทางการเงิน
“…ผมคิดว่าในใจแทบไม่เหลือแรงปรารถนาที่จะวาดภาพเพื่อตัวเอง…”
ดังนั้นหลังจากที่เขาต้องเลิกรากับภรรยา และย้ายไปอยู่ในความเวิ้งว้างกลางหุบเขา เขาจึงนึกขึ้นได้ว่าเวลานี้แหละคือเวลาที่เขาจะได้กลับมาอยู่กับตัวเอง เขาได้รับอิสรภาพทางความคิดสร้างสรรค์คืนมาแล้ว
“ผมมีสิทธิ์จะไม่กินอาหาร และปล่อยตัวเองตายก็ยังได้ ผมมีอิสรเสรีไร้พันธนาการ ทำทุกอย่างได้ตามปรารถนา…”
ภายในบ้านหลังใหม่ จิตรกรได้ทบทวนถึงประสบการณ์ส่วนตัวและฟื้นคืนตัวตนจากความทรงจำตั้งแต่สมัยเป็นนักเรียนมหาวิทยาลัยศิลปะ สมัยที่ยังวาดเชิงนามธรรม (Abstract) กระทั่งได้ละทิ้งความสามารถนี้เมื่อเรียนจบและมารับวาดภาพเหมือนอันเป็นจุดเริ่มต้นทำให้เขามาถึงจุดนี้ จุดที่เขารู้สึกว่าไม่สามารถสร้างสรรค์อะไรได้อีก เหมือนกับวิญญาณของเขาได้ถูกขโมยไป แต่การที่เขาย้ายเข้ามาในบ้านอามาดะทำให้เขาตัดขาดจากโลกภายนอก และหาหนทางในการสร้างตัวตนกลับคืน
จิตรกรคิดว่าที่เขาสูญเสียความสร้างสรรค์ไปเพราะการรับวาดภาพเหมือนเป็นงานแปลงสารจากสิ่งที่ตาเห็นออกมาให้คนอื่นได้เห็น แม้เขาจะได้ทำงานที่ชอบอย่างการวาดภาพ แต่ก็ไม่ได้วาดสิ่งที่เขาต้องการจะวาดจริงๆ แต่แล้วหลังจากย้ายเข้าไปอยู่ในบ้านหลังใหม่ได้สักพัก เขาก็ได้รับการจ้างวานจากเพื่อนบ้านที่เป็นเศรษฐีด้วยเงินที่ยากจะปฏิเสธให้วาดภาพเหมือนในสไตล์ที่เขาอยากจะวาดทำให้จิตรกรเริ่มใช้งานนี้รื้อฟื้นทักษะต่างๆ ที่เคยตกหล่นหายไปกับกาลเวลาให้กลับคืนมา
ระหว่างนั้นเขาได้พบเหตุการณ์มากมาย ทั้งการค้นพบบ่อน้ำปริศนา เสียงกระดิ่งลึกลับจนถึงการค้นพบมโนภาพ สิ่งกึ่งมีชีวิตที่เข้ามามีบทบาทในชีวิตใหม่ของเขา จะผีก็ไม่ใช่คนก็ไม่ใช่ ภาพหลอนก็ไม่เชิง ทว่าท้ายสุดกลับทำให้เขาสามารถวาดภาพเหมือนให้เศรษฐีในรูปแบบที่เขาไม่เคยวาดได้มาก่อน
แต่ขึ้นชื่อว่านิยายของมูราคามิ เรื่องจึงไม่ได้ตัดจบแบบนิยายพาฝัน เขาได้หย่อนเหตุการณ์ให้ตามต่อ พร้อมทิ้งคำถามใหญ่หลายคำถามให้คนอ่านได้ตั้งความสงสัยเพิ่มเติม เช่น เมื่อความสามารถในการสร้างสรรค์กลับคืนกลายเป็นว่าจิตรกรหวนคิดถึงภรรยาเก่าและอยากกลับไปอยู่ร่วมกันกับภรรยาเก่าอีกครั้ง
นั่นเท่ากับว่าเขาต้องละทิ้งความสามารถทางการสร้างสรรค์ไปอีกรอบ นี่เป็นหนึ่งในจุดย้อนแย้งที่นวนิยายเรื่องนี้ที่ชวนคิดและชวนพินิจความซับซ้อนในฐานะมนุษย์คนหนึ่ง ซึ่งบางครั้งเหตุผลก็อาจใช้ไม่ได้ในการตัดสินใจเสมอไป
ความลับที่ถูกซ่อนไว้ในรูปภาพ
ว่ากันว่าภาพวาดคือบันทึกชั้นเยี่ยมที่ไม่ได้บันทึกเพียงเหตุการณ์ ความนิยมในช่วงนั้นๆ แต่หลายครั้งที่ภาพวาดได้เก็บงำความลับที่ผู้วาดไม่อาจจะเปิดเผย เช่นเดียวกับภาพสังหารจอมทัพอัศวิน ที่เก็บความลับของอามาดะมาเนิ่นนานซึ่งเขาได้ถ่ายทอดออกมาโดยการวาดภาพที่บรรจุความเจ็บปวดของความลับนั้น ใช้องค์ประกอบต่างๆ จากเหตุการณ์จริงมาแปรเป็นภาพวาดและซ่อนเก็บไว้ห้องใต้หลังคาเพื่อรักษาความลับนี้ไม่ให้ใครได้รู้
ตัดมาที่จิตรกรวาดภาพเหมือน เขาเองก็มีความลับของตนเองเช่นกันและเขาก็ได้ตัดสินใจวาดภาพเพื่อเก็บความลับเรื่องนั้นไว้ทั้งจงใจวาดไม่เสร็จพร้อมกับห่อเก็บความลับของตนไปพร้อมกับความลับของอามาดะในห้องใต้หลังคาดังเช่นครั้งแรกที่เขาได้เจอภาพสังหารจอมทัพอัศวิน ทั้งนี้หากมองจากเหตุของอามาดะและจิตรกรผู้พบภาพคือ ในการจะมีความลับได้ต้องคายเรื่องราวออกมาก่อนแล้วจึงค่อยทำให้ลับ คนผู้นั้นต้องนึกถึงความลับเรื่องนั้นและถ่ายทอดเป็นภาพวาดผ่านจินตนาการแบบบิดเบือนเพื่อให้ตนเท่านั้นที่จะเข้าใจ ให้ความลับยังคงให้เป็นความลับต่อไป ความลับนี้จึงเป็นเรื่องของศิลปินกับงานศิลปะในฐานะเรื่องส่วนตัว
ในนวนิยายเรื่องนี้เต็มไปด้วยการเล่าและเผยให้เห็นว่าในมนุษย์คนหนึ่งเต็มไปด้วยเรื่องส่วนตัวมากมายที่บางครั้งก็อยากให้เป็นแค่ความลับ เช่นเดียวกับจิตรกรที่ซ่อนเรื่องความสัมพันธ์กับน้องสาวผู้ลาโลกไปแล้วแต่ไม่ยอมตายไปจากความทรงจำของเขา ความวิตกว่าภรรยาจะไปมีความสัมพันธ์กับชายอื่น ความผิดที่ตนก่อ หรือการได้พบกับสิ่งกึ่งมีชีวิตอย่าง มโนภาพที่สามารถเลือกให้ใครมองเห็นตนหรือไม่ก็ได้ กลายเป็นว่ามโนภาพกับจิตรกรตกอยู่ในความสัมพันธ์แบบส่วนตัวเช่นกันกับการที่จิตรกรลงมือวาดภาพส่วนตัวที่มีแต่จิตรกรเท่านั้นจะรู้ความหมาย
อีกคำถามที่นวนิยายเรื่องนี้ทิ้งไว้ให้ครุ่นคิด คือ หากวันหนึ่งชีวิตเราต้องต่อรองกับสิ่งแวดล้อมในแง่มุมต่าง ๆ เราจะรับมือกับมันอย่างไรแม้มนุษย์จะเป็นสัตว์สังคมแต่ความเป็นส่วนตัวล่ะจำเป็นขนาดไหน จินตนาการ ความปรารถนา และจิตวิญญาณอันเป็นตัวตนของเรามีค่าพอที่จะรักษาไหม หรือควรจะถูกเก็บไว้เป็นความลับส่วนตัวเฉกเช่นภาพ สังหารจอมทัพอัศวิน
Fact File
- สังหารจอมทัพอัศวิน (Killing Commendatore) ฮารูกิ มูราคามิ เขียน,พรพิรุณ กิจสมเจตน์ แปล
- สำนักพิมพ์กำมะหยี่ ราคา 1,010 บาท