เปิดเบื้องหลังฝีเข็มต่อฝีเข็ม ปรับโรงงาน ชุดชั้นในวาโก้ สู่การผลิตหน้ากาก สู้โควิด-19
- บริษัท ไทยวาโก้ จำกัด (มหาชน) ขอร่วมสู้วิกฤต โควิด-19 ด้วยกันปรับเปลี่ยนโรงงานการผลิต ชุดชั้นในวาโก้ พร้อมแตกไลน์การผลิตหน้ากากผ้า แจกฟรีให้ภาครัฐและเอกชน โดยตั้งเป้าผลิตอย่างเร่งด่วน 200,000 ชิ้นภายในเดือนเมษายน 2563
- ปัจจุบันวาโก้ได้ผลิตหน้ากากผ้าออกมา 3 แบบคือ หน้ากากผ้าสเปเซอร์ หน้ากากผ้าฝ้ายผสมเส้นใยโพลีเอสเตอร์เพอร์มา และ หน้ากากผ้าฝ้ายผสมสแปนเด็กซ์ ทั้งหมดสามารถซักและนำกลับมาใช้ได้
แม้วิกฤต โควิด-19 จะทำให้ดีกรีความเครียดของทุกคนเพิ่มสูงขึ้น และยังไม่รู้ว่าจะคลี่คลายลงขึ้นเมื่อไร แต่สิ่งหนึ่งที่ทำให้หัวใจยังพอยิ้มได้คือข่าวการออกมาร่วมมือร่วมใจช่วยกันฝ่าวิกฤตของทุกฝ่าย ตั้งแต่ประชาชนคนตัวเล็กๆ ธุรกิจขนาดย่อม ไปจนถึงขนาดใหญ่ และหนึ่งในนั้นคือ การเรียกประชุมแบบฉุกเฉินเพื่อปรับการผลิต ชุดชั้นในวาโก้ สู่การเพิ่มไลน์ผลิต หน้ากากผ้า เพื่อเป็นอีกหนึ่งแรงในการร่วมสู้ โควิด-19
“เราไม่ได้มองว่าทำหน้ากากชิ้นเล็ก ขั้นตอนมันไม่ซับซ้อน หรือ ทำหน้ากากง่ายกว่าการทำชุดชั้นใน การทำหน้ากากของเราไม่ต่างจากการทำชุดชั้นใน ไม่ว่าจะเป็นฝีเข็มที่ใช้ 14-15 ฝีเข็มเหมือนการเย็บชุดชั้นใน ซ้อนตะเข็บอีก 13 ฝีเข็ม เพราะเราคิดถึงตอนที่คนเอาไปใช้เขาต้องซักนำกลับมาใช้ซ้ำ เย็บเสร็จแล้วจึงต้องตรวจคุณภาพชิ้นต่อชิ้น ถ้ามีด้ายรุ่ย ดึงดูแล้วสายขาด ไม่ผ่านก็คัดออก เหมือนเย็บชุดชั้นในตัวหนึ่งเลย”
เสียงจากพนักงานฝ่ายตัดเย็บลงรายละเอียดถึงการย้ำฝีเข็มเพื่อผลิต หน้ากากผ้า ซึ่งเป็นการปรับไลน์การผลิตอย่างเร่งด่วนของ บริษัท ไทยวาโก้ จำกัด (มหาชน) จาก ชุดชั้นในวาโก้ มาเพิ่มไลน์การผลิต หน้ากากผ้า เพื่อแจกฟรีให้กับหน่วยงานรัฐ เอกชน และประชาชนที่ขาดแคลนหน้ากาก เป็นอีกทางในการลดการกระจายเชื้อและป้องกันตัวเองจากโควิด-19
“หลังจากเกิดเหตุการณ์ โควิด-19 ซึ่งทำให้หน้ากากอนามัยขาดแคลน คุณบุญดี อํานวยสกุล ผู้บริหารไทยวาโก้ก็เรียกประชุมด่วนบอกว่า ไวรัสทำให้ประชาชนชนต้องมีเครื่องมือในการป้องกันตนเอง ผู้บริหารเลยคิดถึงหน้ากากผ้า ซึ่งใช้เพื่อปกป้องตัวเอง และลดการกระจายเชื้อได้ในระดับหนึ่ง โดยผู้บริหารให้โจทย์ฝ่ายผลิตคือ ให้ลองเช็คว่าในคลังของวาโก้มีผ้าอะไรบ้าง ชนิดไหนบ้างที่สามารถลดการกระจายของแบคทีเรียได้ หรือมีคุณสมบัติในการกรองฝุ่น ลดการกระจายเชื้อได้ในระดับหนึ่ง ซึ่งในตอนนั้นเรามีผ้าสเปเซอร์ซึ่งใช้ผลิต ชุดชั้นในวาโก้ อยู่แล้ว
“ทางฝ่ายผลิตเลยเช็คด้านฟิตติ้ง ตัดเย็บ ว่าหน้ากากควรจะออกแบบอย่างไร ใบหน้าแบบไหนใส่อย่างไรจึงจะเหมาะสม ทดสอบทั้งกับผู้หญิงและผู้ชาย ด้านขั้นตอนการตัดเย็บก็ต้องทำให้เร็วที่สุด เพราะเป็นความจำเป็นเร่งด่วน ทั้งภาครัฐ ประชาชนต่างก็ขาดแคลน ด้านเทคนิคเราจึงเลือกใช้เทคนิคที่สามารถผลิตได้รวดเร็วที่สุด ซึ่งเราใช้เทคนิคเดียวกับชุดชั้นใน ใช้เครื่องตัดอัตโนมัติ ใช้เครื่องปั๊มที่ใช้สำหรับทำชุดชั้นในอยู่แล้ว นอกจากจะรวดเร็ว หน้ากากแต่ละชิ้นจึงได้มาตรฐานเดียวกัน”
เมธา สุภากร กรรมการบริหาร ผู้อำนวยการสายเทคโนโลยีการผลิต บริษัท ไทยวาโก้ จำกัด (มหาชน) ย้อนเล่าถึงขั้นตอนการผลิต หน้ากาก ซึ่งเป็นการปรับตัวอย่างเร่งด่วน เริ่มจากผลิตหน้ากากผ้า Cotton และหน้ากากผ้าสปันบอนด์ (Spun Bond) แจกให้กับพนักงานและประชาชนทั่วไปรวม 30,000 ชิ้น
ส่วนปัจจุบันรูปแบบการผลิตหน้ากากผ้ามี 3 แบบ คือ หน้ากากผ้าสเปเซอร์ หน้ากากผ้าฝ้ายผสมเส้นใยโพลีเอสเตอร์เพอร์ และ หน้ากากผ้าฝ้ายผสมสแปนเด็กซ์ (Spandex) โดยตั้งเป้าการผลิตในเดือนเมษายนไว้ที่ 200,000 ชิ้น
สำหรับ หน้ากากผ้าสเปเซอร์ ผลิตจากเส้นใย Nylon 70% ขนาดเล็กระดับ Microfiber และมีส่วนผสมของ Spandex Melt 30% มีคุณสมบัติด้านความอ่อนนุ่ม ไม่รุ่ย ไม่รัน ยืดหยุ่นตัวดี กระชับเข้ากับรูปหน้าเมื่อสวมใส่ ผลิตโดยใช้เครื่องตัดอัตโนมัติและเย็บอีกชั้นเหมือนกับการผลิตชุดชั้นใน
ส่วน หน้ากากผ้าฝ้ายผสมเส้นใยโพลีเอสเตอร์เพอร์มา ผลิตจากเส้นใยฝ้าย Cotton 65% และ Polyester Perma 35% และส่วนผสมของ นาโนซิงค์ออกไซด์ มีคุณสมบัติช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียและเชื้อราถึง 99.9 % ใช้เทคนิคการเย็บประกบ 2 ชั้น แบบ 3D กระชับเข้าใบหน้า สามารถซักได้ถึง 150 ครั้ง ลดกลิ่นอันไม่พึงประสงค์และป้องกันแสง UV ได้มากกว่า 25%
แบบสุดท้ายคือ หน้ากากผ้าฝ้ายผสมสแปนเด็กซ์ เนื้อผ้าทำจากเส้นใยฝ้าย 95% ผสมเส้นใยยืดสแปนเด็กซ์ 5% เนื้อผ้ามีความอ่อนนุ่มซ้อนประกบ 2 ชั้นตัดเย็บและติดยางคล้องหูให้กระชับกับใบหน้า ทั้งนี้หน้ากากทั้ง 3 แบบสามารถซักและนำกลับมาใช้ได้ แต่ที่สำคัญสุดคือต้องซักและใส่อย่างถูกวิธีเพื่อลดการกระจายของเชื้อไวรัส
นอกจากขั้นตอนการตัดเย็บแล้วอีกขั้นตอนที่สำคัญก่อนจะถึงมือประชาชนคือ ขั้นตอนการตรวจสอบคุณภาพที่ละเอียดไม่แพ้การตัดเย็บชุดชั้นใน พนักงานฝ่ายตรวจสอบคุณภาพต้องดูทั้งฝีเข็มที่แน่น เนื้อผ้าที่ไม่รุ่ย การยืดหยุ่นของหน้ากาก และที่จะขาดไม่ได้คือ สุขภาพอนามัยของพนักงานฝ่ายผลิตทุกคนที่จะต้องตรวจวัดอุณหภูมิตั้งแต่ก่อนเข้าโรงงาน ด้านในโรงงานเองก็มีการใส่ถุงมือ หน้ากากอนามัย มีจุดแอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อ และต้องใส่หมวกคลุมผมอยู่ตลอดเวลา
“ดีใจที่ได้มาทำตรงนี้ ภูมิใจที่บริษัทปรับมาทำหน้ากาก เพราะแม้เราจะเป็นพนักงานคนหนึ่งแต่หนูก็รู้สึกว่าหนูได้ช่วยคนอื่นได้” ลัดดา พรถิระกุล พนักงานแผนกตัดเย็บชุดชั้นในกล่าว
สำหรับตอนนี้ทางวาโก้ยังไม่มีการตั้งจุดแจกหน้ากากผ้าอย่างเป็นทางการ แต่เน้นการแจกจ่ายให้กับหน่วยงานต่างๆ ที่ขอเข้ามาเพื่อนำไปแจกจ่ายให้กับประชาชนหรือส่วนต่างๆ ที่ขาดแคลนหน้ากากผ้าอีกทอดหนึ่ง ทั้งนี้สามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เพจ www.facebook.com/wacoal.th และคลิกชมภาพการผลิตหน้ากากผ้าเพิ่มเติมได้ที่ www.youtube.com/sarakadeelite